Tuesday, April 6, 2010

จี้รมว.สธ.ทบทวนบริหารงบสุขภาพไร้สถานะ

จี้รมว.สธ.ทบทวนบริหารงบสุขภาพไร้สถานะ



คมชัดลึก :ชมรมแพทย์ชนบทยื่นจม.เปิดผนึกถึงรมว.สธ. ให้ทบทวนการบริหารงบกองทุนสุขภาพคนไร้สถานะ แนะต้องบริหารให้ซับซ้อนน้อยที่สุด เสนอสธ.ส่งงบผู้ป่วยนอกและงบส่งเสริมสุขภาพตรงให้รพ. ส่วนงบผู้ป่วยในและโรคค่าใช้จ่ายสูงให้ทำMOUซื้อประกันสุขภาพจากสปสช. และเพิ่มการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนให้มากขึ้น ในรูปแบบกรรมการ เพราะเป็นเวทีให้แสดงความคิดเห็น ชี้มติครม.ผิดความคาดหมายของภาคีที่อยากให้สปสช.ดูแล แต่เมื่อครม.มอบสธ.ก็ควรบริหารให้มีประสิทธิภาพที่สุด






(6เม.ย.) นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ รองประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ชมรมได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงรมว.สธ. เรื่องขอให้ทบทวนกรอบการบริหารจัดการกองทุนให้บริการด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ซึ่งกองทุนดังกล่าวนับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทย ตรงนี้ต้องขอชื่นชมที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสธ.สามารถผลักดันจนสำเร็จเป็นมติคณะรัฐมนตรีได้ อย่างไรก็ตาม ชมรมแพทย์ชนบทพบว่ายังมีความไม่ชัดเจนบางประการ ซึ่งชมรมแพทย์ชนบทมีความเห็นว่า งบประมาณดังกล่าวเป็นไปเพื่อการให้หลักประกันสุขภาพแก่ประชากร 475,409  คน ตามมติครม.ไม่สามารถนำไปชดเชยหนี้สินของรพ.ที่เกิดขึ้นในอดีตได้ เนื่องจากมติครม.มอบให้กระทรวงสธ.เป็นผู้บริหารจัดการกองทุน  ซึ่งผิดความคาดหมายของภาคีหลายฝ่ายที่หวังจะให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบหลักประกันสุขภาพที่บริหารจัดการโดยสปสช. อย่างไรก็ตาม เมื่อกระทรวงสธ.เป็นผู้บริหารก็ควรที่จะยิ่งต้องดำเนินการให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่า โดยวางให้ระบบมีความซับซ้อนน้อยที่สุด และตอบข้อสงสัยในระบบการบริหารจัดการได้อย่างกระจ่างแจ้ง
 รองประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวต่อว่า ดังนั้น ชมรมแพทย์ชนบทขอเสนอ ระบบการบริหารจัดการกองทุนฯที่มีความซับซ้อนน้อยที่สุด ดังนี้
 1.ประเด็นในการลงทะเบียนผู้มีสิทธิ  เนื่องจาก สปสช.เป็นหน่วยงานเดียวที่สามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูลของกรมการปกครอง ดังนั้นจึงสามารถให้ทาง สปสช.ดำเนินการในฐานข้อมูลให้บุคคลดังกล่าวใช้สิทธิได้ทุกคนในทันที โดยรพ.สามารถเช็คสิทธิทาง website ได้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไปและสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทอง
 2.งบประมาณส่วนของผู้ป่วยนอกและการส่งเสริมป้องกันนั้น  สามารถจัดสรรตรงให้กับทางรพ.ที่เป็นสถานบริการหลักได้โดยตรง  ในลักษณะเดียวกับระบบของ สปสช.ที่จัดสรรตรงไปที่รพ.และให้พื้นที่เป็นผู้บริหารจัดการภายในกันเอง  รวมทั้งการจัดสรรภายใน และการตามจ่ายเมื่อมีการส่งต่อเป็นผู้ป่วยนอก  ทำให้ส่วนกลางไม่ต้องวางระบบขึ้นมาบริหารจัดการใดๆเพิ่มเติม
 3.งบประมาณในส่วนของผู้ป่วยในและงบค่าใช้จ่ายสูงนั้น  ขอให้ทางกระทรวงสาธารณสุขทำ MOU กับ สปสช.เพื่อการซื้อบริการจาก สปสช.  กระทรวงสธ.ไม่ควรรับมาบริหารจัดการเอง เพราะจำนวนงบประมาณที่มีน้อยเช่นนี้ หากใช้วิธีการเบิกจ่ายแบบใครเบิกก่อนได้ก่อน อาจเกิดปัญหางบหมดก่อนปลายปีงบประมาณได้ 
 4.งบบริหารจัดการนั้น  ขอให้ทางกระทรวงกันไว้ไม่เกิน 1% เช่นเดียวกับงบบริหารจัดการของ สปสช.  ไม่ควรกันไว้สูงถึง 3% ดังที่มีข่าวออกมา เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาว่า นำงบประมาณเพื่อการรักษาพยาบาลคนด้อยโอกาสมาใช้เกินจำเป็น
 5.การสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการกองทุนฯ ปัจจุบันคณะกรรมการมีตัวแทนจากกลุ่มคนที่รอพิสูจน์สถานะบุคคลเพียง 1 คนเท่านั้น  ดังนั้นจึงควรเพิ่มกรรมการในส่วนของเครือข่ายภาคประชาชน  ให้คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมหรือนักวิชาการเข้ามาเป็นกรรมการ ในสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 เพื่อเป็นกลไกในการทำให้ความเห็นต่างๆที่อยู่นอกระบบมาอยู่ในกรอบการพูดคุยในรูปของคณะกรรมการ 
 “ชมรมแพทย์ชนบทเห็นว่า ระบบบริหารจัดการที่ดี คือระบบบริหารจัดการที่ไม่ซับซ้อนและไม่ซ้ำซ้อน  แม้เรื่องดังกล่าวจะเป็นประเด็นทางเทคนิค  แต่มีผลอย่างยิ่งในการตั้งต้นการวางระบบบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพของคนที่รอการพิสูจน์สถานะบุคคลให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด  ทางชมรมแพทย์ชนบทจึงหวังว่า เสียงสะท้อนนี้จะมีส่วนให้มีการทบทวนระบบบริหารจัดการ กองทุนให้บริการด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ของกระทรวงสาธารณสุข ให้สมตามเจตนารมณ์ของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ได้ให้ความสำคัญการแก้ปัญหานี้เป็นลำดับต้นๆ” นายแพทย์สุภัทรกล่าว








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"จุรินทร์"เร่งยกสถานีอนามัย9.7พันแห่งเป็น รพ.สต.ตำบลคุ้มครองผู้บริโภคในหมู่บ้านคงต้องช่วยเหลือกันเองแล้ว หมัดไทยพาเหรดชิง
จองแชมป์คิงส์คัพภานุพงศ์ชี้แก๊งบึ้มป่วนเมือง-ปริมณฑลมี2กลุ่มใหญ่ กำปั้นคิงส์คัพเจ๋ง
เข้าตัดเชือก14คน

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive