Monday, December 31, 2012

เปิดตัวเซเลบหน้าใส ประชันแฟชั่น Bottega Veneta

เปิดตัวเซเลบหน้าใส ประชันแฟชั่น Bottega Veneta
ดาราเกิดขึ้นใหม่เยอะก็จริง แต่อีก 1 วงการที่มีคลื่นลูกใหม่มาเฉิดฉายตามงานอีเวนต์ไม่แพ้กันก็คือบรรดาหนุ่มสาวเซเลบริตี้ ทายาทมหาเศรษฐี ลูกหลานตระกูลดัง ที่ต่างตบเท้าเข้าวงการกันเพียบ อย่างที่งานเปิดตัวคอลเลกชั่นแบรนด์สุดไฮโซ Bottega Veneta มีหรือที่คนดังเหล่านี้จะพลาดไม่มาร่วมงานทั้งสาวเล็ก สาวใหญ่ ที่มาร่วมงานครั้งนี้ นอกจากจะพาหน้าตาสวยเป๊ะมาให้ช่างภาพแชะรูปไปเป็นที่ระลึกแล้ว เรื่องการแต่งตัวก็เด็ดไม่แพ้กัน เช่น สุทธิภัค จิราธิวัฒน์, ธาพิดา นรพัลลภ, กรกนก ยงสกุล, โสรัส อมาตยกุล, นาขวัญ รายนานนท์, ชุติมณฑน์ สกุลไทย, ฐิติคุณ อยู่วิทยา ฯลฯคงบอกไม่ได้ว่าใครสวยกว่ากัน เพราะงานนี้มีแต่ระดับแฟชั่นนิสต้าที่ฉายแววดัง กินกันไม่ลงจริงๆ 

ปีมะเส็ง งูพ่นไฟ ผ่าดวง 2556...! หมอดูไฮโซ ทศพร ศรีตุลา!

ปีมะเส็ง งูพ่นไฟ ผ่าดวง 2556...! หมอดูไฮโซ ทศพร ศรีตุลา!
ปีนี้เป็นปีงูพิษ...หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา เจ้าของฉายาหมอดูไฮโซ จอมเก็บสถิติบอกกับไทยรัฐออนไลน์ถึงภาพรวมในปี 2556 แบบนั้น เป็นปีที่มีความรุนแรงเพิ่มกำลัง 2 อยากรู้ว่าแรงอย่างไรลองไปอ่านกันดู... ราศีเมษ ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่ 14 เมษายน – 14 พฤษภาคม การงาน ด้วยอิทธิพลของดวงดาวจะส่งผลให้ปี 2556 เป็นปีที่ค่อนข้างแรงกว่าทุกปี โดยเฉพาะในเรื่องของการงาน ปี 2556 เป็นปีที่จะมีการเปลี่ยนปรับโยกย้าย ทั้งพนักงาน ลูกจ้าง รับราชการมีเกณฑ์ดวงที่เหน็ดเหนื่อยมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่จะเป็นความเหนื่อยที่คุ้มค่า ขอให้อดทนและตั้งใจทำงานกันต่อไป บางคนอาจจะได้เริ่มต้นบุกเบิกกับงานใหม่ๆ ที่มีความท้าทายมากขึ้น หรือจะมีเหตุให้ต้องเดินทางมากขึ้น เหล่านี้จะมีผลกระทบต่อสุขภาพและเวลาพักผ่อนเป็นอย่างมาก แต่ดวงในการติดต่อเจรจายังอยู่ในจังหวะที่ดี การติดต่อกับลูกค้าในที่ไกลๆ ต่างประเทศ ต่างจังหวัดจะทำให้เกิดข่าวดี ซึ่งการค้าขาย การเป็นนายหน้าตัวแทน จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จก้าวหน้าเป็นพิเศษ แต่ดวงในการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีนั้นค่อนข้างจะแรงอย่างมาก อิทธิพลของดาวราหูจะส่งผลต่อราศีเมษตลอดทั้งปี การทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงต้องระวัง! แม้กระทั่งการถูกชักชวนให้ทำธุรกิจที่คลุมเครือเป็นสีเทา อาจจะได้ไม่คุ้มเสีย โอกาสผิดพลาดจะเกิดขึ้นได้ง่าย ขอให้ระวังให้มากเป็นพิเศษการเงิน เกณฑ์ดวงบ่งบอกถึงความมั่งคั่งร่ำรวย จะมีโอกาสทางการเงินที่ดี แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือนิสัยการใช้เงินของตัวเอง อาจจะมีความเป็นตัวเองสูง บวกกับดวงดาวจะส่งผลให้เกิดกล้าได้กล้าเสีย กลับกลายเป็นผลเสียตามมา บางคนอาจจะมีหนี้สินเกิดขึ้นเพิ่มเติม แต่ดวงดาวดีๆ ยังส่งเสริมให้เกิดความแคล้วคลาด ต่อให้จะติดขัดเงินทองมากแค่ไหน ก็จะได้รับความช่วยเหลือเกื้อหนุนที่ดีจากคนรอบข้าง ทั้งผู้ใหญ่ เพื่อนฝูงจะเป็นตัวช่วยที่ดี ปีนี้ต้องเตือนถึงการฝากคนอื่นให้ทำธุรกรรมการเงินแทนจะทำให้เกิดปัญหา เพราะเรื่องเงินทองไม่เข้าใครออกใคร หรือแม้แต่การลงทุนที่มีความเสี่ยงทั้งหลาย อาจทำให้เสียเงินหมดตัวหรือกลายเป็นหนี้เป็นสินตามมา  ความรัก จังหวะดวงดาวความรักส่งผลดีกับคนโสด ปี 2556 มีเกณฑ์จะได้พบกับคนที่ถูกใจ ความสัมพันธ์จากการเป็นเพื่อนจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปได้ด้วยดี แต่ระวังจะต้องสับรางกันไม่ทัน เพราะมีเกณฑ์ที่จะมีหลายคนเข้ามาให้เลือกพร้อมๆ กันจนวุ่นวาย สำหรับคนที่ชอบต่างชาติต่างภาษา หรือมีสเปกชอบคนที่มีอายุแก่กว่า อ่อนกว่า จะสมหวังแน่นอน ส่วนคนที่มีคู่มีแฟนอยู่แล้ว ปัญหาเรื่องของการแบ่งเวลาจะเป็นปัญหาสำคัญ เพราะทั้งหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวต่างจะเกิดความวุ่นวายจนแทบไม่มีเวลา บางคู่เกิดเป็นปัญหาไม่เข้าใจกันจนกลายเป็นความหึงหวงตามมา บวกกับดวงเรื่องมือที่ 3 ที่ค่อนข้างแรง จะยิ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ถึงจุดสั่นคลอน และปีนี้ยังมีเกณฑ์ดวงที่จะได้พบกับสังคมใหม่ๆ คนใหม่ๆ ระวังจะหวั่นไหวจนกลายเป็นปัญหาบั่นทอนจิตใจ คงต้องคิดถึงแฟนตัวจริงของคุณให้มากๆสุขภาพ เป็นสิ่งที่ต้องดูแลให้มากเป็นพิเศษ ปีนี้งานจะหนักและเหนื่อยมากขึ้นแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน บางช่วงอาจจะเจ็บป่วยด้วยอาการที่หาสาเหตุไม่เจอหรือโรคเกี่ยวกับระบบประสาท สมอง ระบบย่อยอาหารจะเป็นปัญหา สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว ต้องไม่ละเลยในการดูแลตัวเอง บางคนดวงแรงอาจจะถึงขั้นต้องนอนพักฟื้นรักษาตัวกันนานหลายวัน  ราศีพฤษภ ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่  15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน การงาน มีเกณฑ์ของการเปลี่ยนแปลงให้พบกับการทำงานใหม่ๆ สภาพแวดล้อมใหม่ๆ แต่เชื่อว่าในปี 2556 นี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม อย่างน้อยก็จะได้เป็นที่ไว้วางใจของผู้ใหญ่เจ้านายให้ได้ดูแลรับผิดชอบงานสำคัญๆ บางคนอาจจะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งในปีนี้ด้วย แต่บางช่วงบางจังหวะก็จะมีความวุ่นวายบ้างเป็นปกติ   ปัญหาความติดขัดในการทำงานที่เคยมีจะลดลงไปเยอะ ขอให้ทำใจว่า...การเริ่มต้นใหม่จะมาควบคู่กับปัญหาและการปรับตัวเสมอ สำหรับคนที่มีงานประจำและอยากจะมีรายได้พิเศษเสริมเพิ่มเติม ปีนี้สามารถเริ่มต้นขยับขยายธุรกิจหรือมองหาลู่ทางอื่นๆ ได้ ซึ่งจังหวะดวงจะส่งผลดีตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่คนที่กำลังมองหาช่องทางเปิดร้าน ทำธุรกิจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จเช่นกัน มีคนช่วยเหลือสนับสนุนที่ดี บวกกับพื้นฐานดวงชะตาของราศีพฤษภ จะเป็นราศีที่หยิบจับอะไรก็สามารถสร้างงานสร้างรายได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ขอให้ตั้งสติในเวลาที่ต้องเจอกับอุปสรรคปัญหาแล้วค่อยๆ แก้ไขกันต่อไป สำหรับคนที่กำลังจะหาที่เรียนต่อในระดับต่างๆ จะมีโอกาสที่ดีเข้ามา หรือถ้าเรียนจบแล้ว ก็จะมีโอกาสได้งานที่ดีและเกิดความสำเร็จตามมาเช่นกันการเงิน เกณฑ์ดวงจะทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น ปีนี้จะมีเงินใช้จ่ายหรือลงทุนได้ไม่ลำบาก แต่สิ่งที่น่าห่วง คือการใช้จ่ายด้วยความประมาท บวกกับดวงการงานจะเปลี่ยนแปลงให้ได้เจอกับสังคมใหม่ๆ ยิ่งทำให้เกิดรายจ่ายที่มากขึ้นเป็นเท่าตัว  จึงต้องระวังโอกาสเป็นหนี้สินตามมาได้อีก บางคนจะมีโอกาสได้ซื้อรถใหม่ บ้านใหม่กันในปีนี้ด้วย  แต่ต้องให้อยู่ในกำลังของตัวเองจะดีที่สุด แต่สำหรับบางคนอาจจะมีบุคลิกเป็นคนใจดี จ่ายไม่อั้น จะเป็นเหตุให้เกิดปัญหาหนี้สินตามมาเช่นกัน โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอาจจะเป็นต้นเหตุแห่งความวุ่นวายทางการเงินได้ สำหรับดวงในการเจรจาติดต่อจะส่งผลในทางบวก เหมาะกับการทวงถามหนี้สินเก่าๆ หรือการเจรจาขอกู้ยืม อีกทั้งดวงโชคลาภยังมีเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งปี ถึงแม้ว่าจะเป็นโชคเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม แต่ก็ทำให้มีเงินใช้ไปหลายวัน แต่สิ่งที่สำคัญคือ การเก็บออมเพื่อวันข้างหน้าเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งความรัก ดวงดาวส่งเสริมให้ความรักของคนโสดเบ่งบาน ปีนี้จะมีโอกาสได้สละโสดสูงมาก มีเกณฑ์ได้สานสัมพันธ์กับคนที่ถูกใจไปในทิศทางที่ดี สำหรับคนที่มีคู่มีแฟนแล้ว แต่อาจจะพบเจอแต่ความทุกข์ความเศร้ามาตลอด ปีนี้จะมีเหตุให้ต้องเลิกรากันไปในที่สุด แต่ขอให้อดทน เพราะเชื่อว่าจะมีโอกาสที่ดีเข้ามาแทนที่ ได้เจอคนดีเข้ามาเยียวยาหัวใจได้ไม่ยาก และทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น และในปีนี้ 2556 ยังเป็นปีที่เหมาะกับงานมงคล คู่ที่อยากจะขยับขยายครอบครัวหมั้นหมายแต่งงานกัน สามารถพูดคุยดูฤกษ์ยามกันได้ตั้งแต่ต้นๆ ปี เพราะดวงดาวกำลังส่งเสริมให้ความรักเติบโตไปอีกขั้น รวมถึงคนที่อยากจะมีลูกด้วย ปีนี้มีเกณฑ์ที่จะมีลูกสืบสกุลสมใจสุขภาพ ต้องระวังปัญหาเรื่องของน้ำหนักตัว คนที่มีน้ำหนักตัวเยอะเป็นทุนเดิม ยิ่งต้องเตือนให้ดูแลสุขภาพร่างกายให้มากขึ้น เพราะนอกจากน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นแล้ว อาจเกิดเป็นอาการทางระบบทางเดินหายใจ กล่องเสียง ลำคอ หรืออาการภูมิแพ้ตามมาให้เป็นปัญหาให้ต้องดูแลรักษากันต่อไป ราศีเมถุน ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่ 15 มิถุนายน – 16 กรกฎาคม การงาน อิทธิพลของดวงดาวส่งผลให้การทำงานเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เรียกว่าจะมีการเปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ บางงานจะถูกเลื่อน ยกเลิก บางงานจะมีปัญหาให้ต้องแก้ไขอยู่ตลอดเวลา แต่สักประมาณเมษายนไปแล้ว ดวงจะพลิกจากร้ายเป็นดี ดวงดาวแห่งความสำเร็จก้าวหน้ายังรออยู่อีกหลายอย่าง ปีนี้ดวงในการเจรจาต่อรองจะทำให้เกิดข่าวดี โดยเฉพาะงานด้านการขาย การสอน แม้แต่การสื่อสาร ศิลปะ ดนตรี จะเป็นสาขาอาชีพที่จะมีโอกาสก้าวหน้ามากเป็นพิเศษ ที่สำคัญปี 2556 นี้ เป็นปีที่จะได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนที่ดีจากผู้ใหญ่เจ้านายเป็นอย่างดี และยังได้รับมอบหมายให้ได้ดูแลงานใหม่ๆ ที่สำคัญๆ ซึ่งจะนำพาไปสู่การโปรโมตเลื่อนขั้นที่ดีต่อไป   สำหรับคนที่อยากจะย้ายงานไปในที่ใหม่ๆ สามารถมองหาลู่ทางได้ในช่วงกลางๆ ปี เพราะดวงดาวฟ้าเปิดมากขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสที่ดีเข้ามาอย่างลงตัว ได้งานที่ถนัดและเหมาะสมกับตัวเอง บางคนเบื่อการเป็นพนักงานลูกจ้าง แต่อยากจะขยับขยายทำธุรกิจของตัวเองหรือจะทำควบคู่กันไปกับงานประจำก็ได้ จังหวะในปี 2556 นี้จะส่งเสริมและเปิดโอกาสให้มีลู่ทางเติบโตไปอีกได้เรื่อยๆ ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่มจะเป็นสิ่งที่เหมาะกับดวงเป็นอย่างมาก ดังนั้นในช่วงปีนี้อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ เสียไป ก่อนหน้านี้ดวงชะตาเล่นตลกให้ต้องเจอกับอุปสรรคปัญหาและบั่นทอนให้ความตั้งใจดีๆ เสียไป จึงอยากจะให้กำลังใจและขอให้ราศีเมถุนตั้งใจต่อสู้กันต่อไป เพราะโอกาสดีๆ ในการทำงานกำลังจะเกิดขึ้นการเงิน เกณฑ์ดวงบ่งบอกถึงนิสัยการใช้เงินแบบฟุ้งเฟ้อ ราศีเมถุนเป็นราศีที่ไม่มีวินัยในการใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าห่วงมากในปีนี้ เพราะดวงจะต้องหมุนเงินตลอดทั้งปี โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดมีสูงมาก ทั้งดวงดาวรายจ่ายจะเกิดขึ้นจากการออกงานสังคม เสื้อผ้า หน้า ผม จะเป็นเหตุให้เสียเงินกับความสวยงามอยู่เรื่อยๆ อีกอย่างคือรายจ่ายในการลงทุน มีเกณฑ์ที่จะเสียเงินก้อนใหญ่ บางคนอาจถึงขั้นถูกหลอกถูกโกงได้เช่นกัน คงต้องรอบคอบกับการใช้จ่ายลงทุนให้มากขึ้น รวมถึงดวงในเรื่องของลูกน้องบริวาร อาจจะนำความเดือดร้อนมาให้ต้องเคลียร์ บางคนถูกลูกน้องบริวารหักหลังคดโกง คงต้องดูแลกิจการงานอย่างใกล้ชิด แต่ข้อดีของการใช้จ่าย คือ เป็นคนที่ใจกว้างกับครอบครัวโดยเฉพาะกับพ่อแม่และผู้มีพระคุณ ส่งผลถึงเรื่องของความกตัญญูที่พร้อมจะทุ่มเทช่วยเหลือ ปีนี้รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากน้ำพักน้ำแรงทั้งสิ้น เชื่อว่าความขยันตั้งใจในการทำงานจะสร้างรายได้ที่ดีตามมาอีกแน่นอนความรัก ดวงชะตามีแนวโน้มที่จะมีการเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆ ปีนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับความรัก บางคนเคยถูกหลอก ถูกกระทำให้ช้ำใจในปีที่ผ่านมา แต่พอเข้าสู่ปี 2556 จะมีเกณฑ์ของความสุขสมหวังมากขึ้น บางคู่มีเกณฑ์ต้องเลิกรากันไป แต่บางคู่ไม่ถึงขั้นต้องเลิกรากัน แต่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ให้กลับมารักกันหวานชื่นเหมือนเดิม บางช่วงเวลาจะเกิดอาการเบื่อหน่ายกันได้ง่าย หรือเผลอปันใจให้คนอื่น ยังไงก็ขอให้ยับยั้งชั่งใจตัวเองจะดีที่สุด ส่วนคนโสดจะมีโอกาสที่ดีในการได้เริ่มต้นได้พบเจอคนที่ถูกใจจากการแนะนำของเพื่อนฝูง ใครที่คบหาดูใจกันมานานและอยากจะพูดคุยไปถึงขั้นหมั้นหมายแต่งงาน สามารถเริ่มต้นพูดคุยหาฤกษ์กันได้ในปีนี้ รวมถึงการมีบุตรเป็นสิ่งที่โดดเด่นมาก ถ้าไม่พร้อมในการมี ต้องระวัง! การวางแผนครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น โอกาสพลาดพลั้งมีสูงมาก สุขภาพ เกณฑ์ดวงอยู่ในจังหวะที่ดี อาการเจ็บป่วยจะได้รับการรักษาที่ดีขึ้นตามลำดับ บางช่วงต้องระวังโรคภัยที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ โรคปอด หลอดลม ภูมิแพ้ รวมถึงการทำงานหนักจนร่างกายอ่อนแอ แม้แต่ในเรื่องอุบัติเหตุและการเดินทาง มีโอกาสจะเกิดขึ้น ดังนั้นการใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทสำคัญที่สุด ราศีกรกฎ ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่  17 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม การงาน เกณฑ์ดวงอยู่ในจุดที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นๆ ปี มีโอกาสได้ปรับเปลี่ยนโยกย้ายที่ดีขึ้น แต่ความพลิกผันในดวงชะตาสามารถเกิดขึ้นได้ บางช่วงจะได้รับผลผกระทบจากดวงดาวทำให้โอกาสดีๆ ในการทำงานลดลงไป อีกทั้งมิตรจะกลายเป็นศัตรู ความช่วยเหลือต่างๆ จะลดน้อยลงไปในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2556 คงต้องเข้มแข็งและต่อสู้กันไปให้ได้ เชื่อว่าถ้าเรารู้ทันดวงชะตา เราก็จะแก้ไขได้ทันท่วงที สำหรับดวงของการค้าขายทำธุรกิจในปีนี้จะมีความคึกคักมากเป็นพิเศษ ยิ่งต้นๆ ปีจะเป็นช่วงที่เฟื่องฟูและยังได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนที่ดี แต่สิ่งที่น่าห่วง คือ ความขัดแย้งแตกแยก ยิ่งถ้าใครทำธุรกิจ มีหุ้นส่วนหลายๆ คน ยิ่งต้องระวัง! เป็นพิเศษ บางคนอาจจะถึงขั้นถูกหลอกถูกโกง ลูกน้องบริวารต่างทรยศหักหลัง เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ แนะนำให้ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงโต๊ะทำงาน หรือตกแต่งปรับเปลี่ยนร้านใหม่ เพื่อช่วยลดความแรงของดวงได้ และสำหรับคนที่อยากจะเรียนต่อ ศึกษาต่อในปีนี้ มีเกณฑ์ที่จะต้องเหนื่อยมากขึ้นเป็นสองเท่า ขอให้อดทน และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด รับรองว่าความสำเร็จจะเป็นของเราแน่นอนการเงิน ถือว่ามีเกณฑ์ที่ดีขึ้น ดวงในการเจรจาติดต่อจะทำให้เกิดข่าวดี การขออนุมัติสินเชื่อ เครดิตวงเงินทั้งหลายจะได้รับการอนุมัติแบบไร้ปัญหาติดขัดใดๆ บอกได้เลยว่าปี 2556 นี้ เป็นปีที่การเงินรุ่งเรือง มีเกณฑ์จะสามารถหมุนเงินได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น แต่รายจ่ายหนักๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องในครอบครัว บางคนอาจจะเสียเงินดูแลรักษาสุขภาพของญาติผู้ใหญ่ ปีนี้เกณฑ์ดวงอยู่ในเกณฑ์ไม่ดี หรือบางคนจะต้องเสียเงินปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รวมถึงกับการดูแลสุขภาพตัวเองด้วยความรัก กระเเสดวงคึกคักต้อนรับปีใหม่ เพราะความรักจะเป็นสิ่งที่ทำให้ราศีกรกฎมีความสุขมากขึ้น ซึ่งในช่วงต้นปีจะเป็นโอกาสของคนโสดที่จะได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ๆ ถ้าอยากจะสละโสดต้องรีบกันในช่วงต้นๆ ปี ถ้าหลังจากนั้นไปแล้วโอกาสดีๆ จะลดลงไป สำหรับคนที่อยากจะขยับขยายครอบครัวโดยการแต่งงานหมั้นหมาย ในปีนี้จะเป็นปีที่เหมาะสมอย่างมาก ดวงดาวหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีการเริ่มต้นที่ดี แต่ถ้าใครเคยมีความรักที่ทุกข์ทรมานใจมาก่อนหน้านี้ ดวงความรักในปี 2556 จะมีทางออกที่ดีรออยู่ หรือมีหนทางให้ต้องแยกย้ายกันไป ถึงแม้จะต้องอยู่คนเดียวก็อาจจะมีความสุขมากกว่ามีแฟนแล้วทุกข์ใจก็ได้ ขอให้รอจังหวะดีๆ ไปสักระยะ รับรองว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นกับความรักของคุณในไม่ช้าสุขภาพ ต้องเตือนให้ดูแลระบบการย่อยอาหาร กระเพาะ ลำไส้ รวมถึงอาการไข้หวัด ภูมิแพ้ สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องดูแลให้มากเป็นพิเศษ แม้กระทั่งในเรื่องของภูมิต้านทานในร่างกาย การทำงานจนร่างกายอ่อนแอจนเป็นเหตุให้เจ็บป่วยจะเกิดขึ้น บวกกับปีนี้ดวงอุบัติเหตุค่อนข้างจะแรง! ขอให้ระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ ราศีสิงห์ ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่ 17 สิงหาคม – 16 กันยายน การงาน ดวงชะตาการทำงานในปี 2556 จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ดีบ้างไม่ดีบ้าง บางทีอาจจะทำให้เกิดความท้อแท้หมดกำลังใจ แต่ขอให้อดทน ดวงดาวตั้งแต่ช่วงต้นปีอาจจะยังไม่ค่อยลงตัว ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในการทำงานตามมา ปัญหาที่ต้องระวังอย่างแรกๆ คือเพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้า จะเป็นสาเหตุให้เกิดความขัดแย้ง ส่งผลให้การเจรจาติดต่อมีปัญหาความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ บางคนดวงแรงถึงขั้นกลายเป็นคดีความฟ้องร้องกันตามมา โดยเฉพาะเรื่องของเอกสาร บัญชี เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความรอบคอบในการตรวจสอบให้มาก ในช่วงต้นปีไม่ควรออกหน้ามากเกินไป และไม่ควรตัดสินใจคนเดียวเป็นเด็ดขาด เพราะความผิดพลาดพร้อมจะเกิดขึ้นตลอดเวลา ถ้าเป็นในเรื่องของตำแหน่งหน้าที่จะมีโอกาสขยับขยายดีขึ้น แต่อดทนรอประมาณครึ่งปีหลัง เกณฑ์ดวงการทำงานจะโดดเด่นมากและเป็นที่น่าจับตามมอง และในปี 2556 นี้ มีเกณฑ์จะได้ลงทุนร่วมหุ้น แต่ต้องทำแบบพอดีๆ ไม่เกินกำลังของตัวเองจะดีที่สุด ค่อยๆ ขยับขยายกันไปจะดีกว่า เป็นการส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จก้าวหน้าไปทีละขั้น โดยไม่ต้องเจ็บตัวมากนักการเงิน มีเกณฑ์รายได้ปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เป็นปีที่จะมีความมั่งคั่งร่ำรวย มีเกณฑ์ของเงินทองเข้ามาตลอดทั้งปี การติดต่อขอความช่วยเหลือทางการเงินจะได้รับการช่วยเหลือที่ดี ถ้าจะกู้ยืมติดต่อธนาคารจะราบรื่นและได้รับการอนุมัติ ปัญหาการเงินที่เคยติดขัดจะน้อยลงไป จังหวะของรายได้จะมาจากการทำงานเป็นส่วนใหญ่ ส่วนรายได้ที่มาจากการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงนั้นจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก ถ้าคิดอยากจะเสี่ยงคงต้องระวังให้มาก อาจจะหมดเนื้อหมดตัวได้ในช่วงต้นๆ ปี ที่สำคัญดวงในการเจรจาต่อรองในเรื่องของเงินๆ ทองๆ จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดข่าวดี สามารถจัดการเคลียร์ปัญหาหนี้สินเก่าๆ ได้สบายๆ ในปีนี้ด้วย ความรัก จังหวะความรักยังแปรปรวนไม่ลงตัว จึงต้องขอเตือนคนที่มีคู่มีแฟนให้ระวังอุปสรรคปัญหาในช่วงต้นปี 2556 เกณฑ์ดวงจะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย มีเหตุให้ทะเลาะมีปากเสียงกันได้เรื่อยๆ แต่ประมาณกลางปีทุกอย่างจะลงตัวมากขึ้น ดวงดาวจะทำให้เกิดความรักความเข้าใจกันมากขึ้นด้วย สำหรับคู่ที่กำลังมองหาหนทางสร้างครอบครัวร่วมกัน จะมีโอกาสได้ขยับขยายครอบครัว มีโอกาสจะได้แต่งงานหมั้นหมาย หรือสร้างเรือนหอร่วมกัน แม้แต่คู่รักที่มีการทำงาน การทำธุรกิจร่วมกันจะยิ่งส่งผลดี เกิดเป็นความมั่นคงทางความสัมพันธ์และเกิดเป็นความมั่งคั่งทางเงินทองตามมาอีกด้วย ที่สำคัญดวงในการมีลูกจะแรงและโดดเด่นมาก ถ้าปีนี้ยังไม่พร้อม...คงต้องระวังผิดพลาด อาจจะมีลูกได้โดยไม่ตั้งใจ จังหวะความรักของคนโสด จะเริ่มมีข่าวดีในช่วงกลางปีไปแล้ว โอกาสได้เจอคนที่ถูกใจจะเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนจะเป็นคนที่มีความแตกต่างกันพอสมควร อาจจะเป็นคนต่างชาติต่างภาษา คนละวัฒนธรรม หรือมีอายุต่างกัน แต่ที่แน่ๆ คือจะเป็นคนที่อยู่ในแวดวงใกล้เคียงกันหรืออาจจะไปเจอกันระหว่างการเดินทาง เป็นโอกาสที่ดีในการได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ต่อไปสุขภาพ ทั้งดวงสุขภาพและอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากในปี 2556 นี้ เพราะจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งสองอย่าง ปีนี้มีเกณฑ์เจ็บป่วยได้ง่ายมาก โรคแปลกๆ โรคที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ดวงอุบัติเหตุก็พร้อมจะเกิดขึ้น ดังนั้นการดูแลตัวเองและใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทสำคัญที่สุด หรือทำบุญให้มากขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาให้เรื่องร้ายๆ แรงๆ กลายเป็นดี โดยเฉพาะในเรื่องของยวดยานพาหนะ อาจจะมีการชำรุดเสียหาย ถ้ารู้ว่ามีสิ่งใดที่ต้องแก้ไขซ่อมแซม ต้องรีบจัดการด่วน! เพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรือสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ราศีกันย์ ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่ 17 กันยายน – 17 ตุลาคม การงาน จังหวะปี 2556 จะเริ่มมีความสำเร็จก้าวหน้าในการทำงานมากขึ้นเป็นเท่าตัว คนที่เป็นพนักงาน ลูกจ้าง จะมีเกณฑ์ดวงที่ดี ทั้งการพูดคุยกับลูกค้าหรือผู้ใหญ่เจ้านายจะทำให้เกิดข่าวดี อาจจะได้รับการโปรโมตเลื่อนขั้นตามมา ในปีนี้ดวงในการเปลี่ยนแปลงมีผลให้มีการโยกย้ายเกิดขึ้น บางคนอาจได้เปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่ทำงานกันเลย ซึ่งข่าวดีเหล่านี้มีเกณฑ์จะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีไปจนกระทั่งกลางปี และถ้ายิ่งมีโอกาสเดินทางเข้ามา จะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมดวงชะตาอย่างมาก สำหรับคนที่มีการลงทุนทำธุรกิจ จังหวะดวงดาวส่งผลให้เกิดความลงตัวมากขึ้น มีเกณฑ์ที่จะได้ยอดสั่งซื้อที่ดี มีลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศจะส่งผลดีมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจใหม่ในปีนี้ ดวงดาวก็ยังคงจะส่งเสริมให้ได้ทำเลที่ตั้งที่ดี ได้หุ้นส่วนมาช่วยให้ประสบความสำเร็จ อีกทั้งปัญหาความติดขัดที่เคยมีจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่สำหรับบางช่วงบางจังหวะในปี 2556 ก็จะเกิดสะดุดผิดพลาดและเกิดความวุ่นวาย ขอให้เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยสติและเรียนรู้ปรับตัวกันไป รับรองว่าปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งปีที่จะมีข่าวดีเกิดขึ้นหลายอย่าง การเงิน ต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ เพราะปี 2556 นี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของดวงการเงิน โดยเฉพาะคนที่มีรายได้ที่ไม่แน่นอน จะมีโอกาสที่จะถูกหลอกถูกโกง ควรจะดูแลเอกสารสัญญาให้มากเป็นพิเศษ คนที่ทำงานประจำ เป็นพนักงานลูกจ้าง มีเกณฑ์ดวงที่มีความมั่นคงในตำแหน่งที่ดีขึ้น มีรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้น แต่บางทีการจับจ่ายใช้สอยจะมีเข้ามามากขึ้นกว่าเดิม ถ้าจะซื้อของชิ้นใหญ่ บ้าน รถ ที่ดิน ต้องขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ โดยรวมแล้วเป็นปีที่การเงินดี มีเครดิตที่ดี แต่ระวังการใช้จ่ายเกินความจำเป็นจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง จังหวะดวงดาวนั้นแทบจะแรงตลอดทั้งปี และยังรวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือการเงินกับผู้อื่นอีกด้วย แนะนำการทำบุญอย่างสม่ำเสมอจะเป็นสิ่งที่ช่วยแก้เคล็ดในการต้องเสียเงิน เสียทรัพย์ในช่วงปีนี้ให้เบาบางลงความรัก ดวงดาวร้ายๆ ได้ผ่านพ้นดวงชะตาของราศีกันย์ไปแล้ว ปี 2556 นี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แต่อาจจะทำให้บางคนเข็ดขยาดกับความรัก โดยเฉพาะคนโสด แต่เชื่อว่าสิ่งใหม่ที่กำลังจะเข้ามาจะทำให้เกิดความความสุขได้มากขึ้น เพราะปีนี้ดวงคนโสดมาแรง ถ้าพร้อมที่จะมีคู่ มีคนรัก จะมีโอกาสที่ดีเข้ามาให้เลือก แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นคนไกล มาจากที่ไกลๆ หรือบางคนมีโอกาสที่จะได้สานต่อความสัมพันธ์กับพ่อม่าย แม่ม่าย ถ้าคุยกันและเกิดความเข้าใจที่ดีต่อกันก็ไม่มีอะไรเสียหาย ส่วนคนที่คบหากันมาสักระยะแล้ว อยากจะขยับขยายครอบครัว หาฤกษ์ยามในการแต่งงานหมั้นหมาย สามารถเริ่มพูดคุยกันได้ตั้งแต่ปีนี้เลย เพราะจังหวะดวงดาวจะส่งเสริมให้เกิดข่าวดี เผลอๆอาจจะได้แต่งงานหมั้นหมายตั้งแต่ต้นปีเลยก็ได้ หรือแม้กระทั่งใครที่อยากจะให้แฟนมาช่วยทำงาน ทำธุรกิจร่วมกันจะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันเป็นอย่างดี เป็นการเพิ่มเติมความสุขในความรักให้มากขึ้นสุขภาพ มีเกณฑ์ดวงที่ดี คนที่เจ็บป่วยจะมีโอกาสได้รับการรักษาและมีอาการดีขึ้นตามลำดับ สิ่งที่ต้องระวังในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ คือ โรคเกี่ยวกับการย่อยอาหาร ลำไส้ กระเพาะ ต้องดูแลอาหารการกินให้มากเป็นพิเศษ แต่จังหวะในเรื่องของอุบัติเหตุต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ ปีนี้จะมีเกณฑ์ได้เดินทางบ่อย หรือมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมใหม่ๆหลายอย่าง ทางที่ดีต้องตรวจสอบยวดยานพาหนะให้พร้อมใช้อยู่เสมอ ที่สำคัญในเวลาที่เกิดอาการง่วงและเมา...ต้องไม่ขับ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ราศีตุลย์ ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่  18 ตุลาคม – 16 พฤศจิกายน การงาน ปี 2556 นี้ต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เพราะด้วยอิทธิพลของทั้งดาวราหูและดาวเสาร์จะมีผลกระทบต่อการทำงานเป็นอย่างมาก เกณฑ์ดวงบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแบบสายฟ้าแลบ อาจจะมีการเปลี่ยนงานใหม่  ที่ทำงานใหม่ หรือบางคนจะมีการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ แต่สิ่งที่ต้องเตือนกัน คือ ปัญหาอุปสรรคจะเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ความยากลำบากในการทำงานจะเกิดขึ้น บางคนจะเกิดความขัดแย้งกับผู้ใหญ่ ผู้บังคับบัญชา หรือเจอกับบรรยากาศที่อึดอัดใจ เผลอๆ จะมีปัญหาไม่กินเส้นกับเพื่อนร่วมงานอีกด้วย ซึ่งความขัดแย้งนี้อาจจะกลายเป็นปัญหาคดีความตามมาได้อีกด้วย ดังนั้นปี 2556 นี้ต้องใช้ความอดทนในการทำงานเป็นสองเท่า บวกกับต้องมีความรอบคอบในเอกสารต่างๆ ให้มากขึ้นด้วย จังหวะดวงจะแรงตั้งแต่ต้นๆ ปี แต่พอเข้าประมาณช่วงกลางปีทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และยังมีเกณฑ์ลงทุนร่วมหุ้นเกิดขึ้นด้วย อาจจะมีคนมาชักชวนเริ่มต้น ซึ่งในปีนี้สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะถ้าประมาทเกินไปอาจจะถูกโกงถูกเอาเปรียบได้ ธุรกิจที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศจะส่งผลดี เกณฑ์ดวงความสำเร็จก้าวหน้าในปีนี้มีโอกาสสำเร็จสมหวัง ขอให้ดำเนินชีวิตด้วยความอดทนและตั้งใจกับการทำงานต่อไป รับรองว่าความสำเร็จไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนการเงิน มีเกณฑ์เสียเงินเข้ามาตลอดทั้งปี ต้องระวังการเป็นหนี้สินเพิ่มเติม ปีนี้ต้องหลีกเลี่ยงการปล่อยกู้ การเซ็นค้ำประกันให้คนอื่น เพราะอาจจะเป็นปัญหาให้เกิดความเดือดร้อนตามมาภายหลัง งานเข้าไม่รู้ตัว! อีกทั้งรายจ่ายที่ต้องระวัง คือ รายจ่ายในครอบครัวบวกกับรายจ่ายจรที่จะมีเข้ามามากขึ้น แต่ถ้ามีการวางแผนจัดการระบบเงินทองดีๆ โอกาสที่จะมีเงินเก็บเหลือเก็บเหลือออมจะมีมากขึ้น ถึงแม้ว่าปีนี้จะมีรายจ่ายเกิดขึ้นเยอะมาก แต่เชื่อว่าดวงโชคลาภยังพอมีเข้ามาส่งเสริมให้เกิดเป็นรายได้ที่ดีตามมาอย่างต่อเนื่องความรัก ดวงความรักจะมีเรื่องให้ลุ้น มีเรื่องให้ตื่นเต้นมากขึ้น ดังนั้นคนโสดต้องระวังการตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เพราะคนโสดจะมีเกณฑ์ที่จะได้สละโสดสูงมาก ถ้าใจร้อนวู่วามก็อาจจะทำให้เจอกับคนที่ไม่ดีมีตำหนิได้ ไม่มีความจริงใจ  และต้องขอเตือนในเรื่องของของศีลธรรมด้วย จะคบใครคงต้องพิจารณาให้ดี การแอบคบกันในแบบที่ไม่เปิดเผยกับคนที่มีเจ้าของแล้วจะเป็นสิ่งที่ทำให้มีปัญหาอื่นๆ เสื่อมเสีย ในเรื่องของลักษณะคนที่จะเข้ามาดูเหมือนจะมีความแตกต่างกัน ทั้งคนต่างชาติ ต่างภาษาหรือมีอายุห่างกันพอสมควร ขอให้อดใจรอประมาณกลางปี รับรองว่าจะสมหวังได้ดั่งใจ แต่สำหรับบางคนที่มีคู่มีแฟนแล้ว อาจจะไม่ค่อยแฮปปี้กับความรักในปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2556 นี้จะมีทางออกให้กับความรักได้พบทางสว่างมากขึ้น สำหรับคนที่พร้อมในการแต่งงานหมั้นหมาย จะมีโอกาสที่ดีพูดคุยกันและหาฤกษ์ยามกันในเร็วๆ นี้ แต่สำหรับคนที่อยู่กินกันมานานแล้ว ขอเตือนให้ระวังปัญหาความวุ่นวายในบ้าน บวกกับการแบ่งเวลาจะบั่นทอนความสัมพันธ์และอาจจะกลายเป็นความหึงหวง ถ้ายิ่งได้พบปะสังคมใหม่ๆ มากขึ้นจะยิ่งเป็นเหตุให้เกิดปัญหาชู้สาวเข้ามากระทบจิตใจกันได้ง่ายๆ ดังนั้นปี 2556 นี้ ต้องคิดถึงแฟนตัวจริงให้มากๆ ไม่เช่นนั้นความสัมพันธ์ที่ดีอาจจะย่ำแย่ลงได้ง่ายดายสุขภาพ จังหวะดวงแรงจริงๆ มีเกณฑ์จะเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง บางโรคอาจจะหาสาเหตุไม่ได้ ถ้ามีโรคประจำตัวก็อาจจะกำเริบกลับมาอีกได้ ปีนี้คงต้องดูแลในการพักผ่อนอาหารการกินให้มากเป็นพิเศษ อีกทั้งในการเดินทางไปไหนมาไหนด้วย มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ แนะนำการทำบุญเยอะๆ บวกกับใช้ชีวิตอย่างมีสติให้มากขึ้น จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ราศีพิจิก ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่  17 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคมการงาน ปี 2556 นี้ดวงดาวส่งเสริมให้ดวงการงานดีขึ้น ทำให้เกิดความสำเร็จก้าวหน้าที่ชัดเจน ดวงดาวแห่งอุปสรรคปัญหาศัตรูได้ย้ายของไปจากดวงแล้ว กระแสดวงจะส่งเสริมให้เกิดสิ่งดีๆ ตั้งแต่ช่วงต้นปี จะมีโอกาสในการได้ปรับเปลี่ยนเลื่อนตำแหน่ง มีความมั่นคงทางหน้าที่การงานมากขึ้น ที่สำคัญ คือ ความวุ่นวายในการทำงานจะลดน้อยลงไป คนที่เคยถูกกลั่นแกล้งหรือมีเพื่อนร่วมงานหมั่นไส้จะได้รับการปกป้องช่วยเหลือ บางคนมีคดีความฟ้องร้องเกิดขึ้นในปีที่ผ่าน จะได้รับความยุติธรรมจนได้ชัยชนะ ในช่วงครึ่งปีแรกยังได้รับความช่วยเหลือที่ดี ทั้งแบบที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยก็ตาม ถ้าปี 2556 นี้อยากจะมีผลงานเป็นที่สนใจของเจ้านาย คงต้องเร่งมือแสดงฝีมือ หรือเข้าไปเจรจาพูดคุย จะมีโอกาสได้รับข่าวดี แต่คงต้องรีบทำคะแนนตั้งแต่ต้นปี เพราะถ้าหลังจากนั้นโอกาสจะลดน้อยลง ปัญหาอุปสรรคจะมากขึ้น ยิ่งถ้ามีร้านมีธุรกิจของตัวเอง ต้องรีบทำยอดขายในช่วงต้นๆ ปี เพราะดวงดาวจะส่งเสริมให้มีกำไรที่ดี ดวงการเจรจาส่งผลให้มีโอกาสที่ดี มีคนช่วยเหลือ รวมถึงหลายคนที่เบื่อการเป็นลูกจ้างแล้วและอยากจะเปิดธุรกิจของตัวเอง ดวงในการร่วมหุ้นลงทุน เซ็นสัญญาอยู่ในจุดที่ดีมากๆ ที่สำคัญอย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดลอย เชื่อว่าปี 2556 นี้ เป็นอีกหนึ่งปีที่การงานจะส่งผลดีต่อชีวิตการเงิน ดวงดาวในปี 2556 หมายถึง ความร่ำรวยมั่งคั่ง เพราะในปีนี้จะมีช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ๆ  มีแนวโน้มที่มีรายได้มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ยิ่งถ้ามีงานประจำและมีช่องทางหางานพิเศษเพิ่มเติม จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดรายได้ที่ดี ดวงดาวในปีนี้จะส่งเสริมให้การทำงานใดก็ตามจะมีโอกาสที่ดี มีผลตอบแทนที่ดีและอาจจะเหลือเก็บออมได้อีก รวมไปถึงสวัสดิการบางอย่างทางการเงินก็จะส่งผลดีอีกด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมาจากน้ำพักน้ำแรงมากกว่า ลักษณะดวงดาวในปีนี้มีตำแหน่งคล้ายอุดมเกณฑ์ ซึ่งหมายถึงการมีชีวิตที่เป็นปึกแผ่นมีความมั่นคง โดยเฉพาะในเรื่องของการเงินจะดีมากขึ้น ความรัก มีความชัดเจนเด่นชัด เพราะปีมะเส็งนี้ดวงดาวความรักจะเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดที่ดีกว่าเดิม บางคู่อาจจะมีทางออกที่ดีให้กับความรักหรือจะมีเหตุให้คนมีคู่มีแฟนได้กลับมาโสดกันอีกครั้ง แต่จะมีโอกาสได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้ไม่ยาก จังหวะของดวงดาวจะส่งผลให้เกิดความลงตัว ช่วงเวลาตั้งแต่ต้นๆ ปี คนโสดจะมีโอกาสได้พบกับคนใหม่ๆ ที่ดี และมีโอกาสได้พัฒนาความสัมพันธ์กันต่อไป สำหรับคู่ที่มีความพร้อมและอยากจะแต่งงานหมั้นหมาย สามารถหาฤกษ์งามยามดีกันได้เลย แม้แต่มีลูกก็ตาม ปีนี้เป็นปีที่เหมาะสมและมีความลงตัวที่ดีขึ้น แต่บางช่วงเวลาก็มีสะดุดตัวลงบ้าง เพราะปัญหาอุปสรรคเข้ามาเป็นแบบทดสอบ ดังนั้นปีนี้คงต้องดูแลเอาใจใส่กันให้มากขึ้น เพื่อนำพาความรักไปสู่ความสุขในทุกย่างก้าวของชีวิต สุขภาพ-อุบัติเหตุ ดวงดาวจะมีความแรงเป็นระยะๆ ขอให้ดูแลทั้งด้านสุขภาพร่างกายและเรื่องของอุบัติเหตุ ซึ่งปีนี้จะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ลำไส้หรือระบบภายใน แนะนำให้สวดมนต์ไหว้พระบ้าง เพื่อช่วยบรรเทาให้โรคภัยร้ายๆ กลับกลายเป็นดี ราศีธนู ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่ 16 ธันวาคม – 14 มกราคม การงาน ปี 2556 เป็นปีที่ราศีธนูจะมีความเข้มแข็งพร้อมที่จะต่อสู้ลุยงานหนัก เกณฑ์ดวงจะได้พบเจอกับการเริ่มต้นที่ดี ที่เหมาะสมกับกับดวงชะตาราศีเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ทำงานประจำจะมีโอกาสที่ดีเข้ามาเรื่อยๆ ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่เจ้านายเป็นอย่างดีอาจจะได้รับมอบหมายให้ดูแลงานที่สำคัญๆ เรียกว่ามีคนเห็นค่าและความสามารถในตัวคุณมากขึ้น สำหรับคนที่อยากจะเปิดร้านทำธุรกิจ ปีนี้จะมีโอกาสที่ดีเกิดขึ้น มีคนให้การช่วยเหลือสนับสนุนที่ดีเช่นกัน ปีนี้จังหวะดวงดาวจะส่งเสริมให้การติดต่อเจรจาประสบความสำเร็จ มีความราบรื่น มีกำไร มีลูกค้าเข้ามาเพิ่มเติม แต่ดวงดาวมีขึ้นมีลงเป็นปกติ อาจจะระวังในเรื่องของเอกสารสัญญาหรือบัญชีตัวเลข อาชีพที่มีความโดดเด่นคืองานที่เกี่ยวกับการเดินทาง  การบริหาร นายหน้าตัวแทน หรือเป็นอาชีพอิสระ แต่อาชีพอื่นๆ ก็อย่าเพิ่งท้อแท้หมดกำลังใจ ขอให้ขยันตั้งใจต่อไป รับรองว่าความสำเร็จก้าวหน้าอยู่ใกล้แค่เอื้อมแน่นอน การเงิน ตามดวงชะตาแล้วจะมีเกณฑ์ของความมั่นคงเกิดขึ้น เป็นดวงดาวแห่งอุดมเกณฑ์ ที่จะมีความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ในความเป็นอยู่ที่ดี ดวงดาวหลายดวงส่งเสริมให้การเงินอยู่ในจังหวะที่มีกินมีใช้ เป็นปีที่จะได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนช่วยเหลือที่ดีให้ได้รับการอนุมัติในด้านการเงิน ช่วงกลางปีจะเป็นที่ดวงดาวจะยิ่งส่งผลดี ถ้ามีธุรกรรมต้องจัดการ ขอให้อดใจรอกลางปี สำหรับรายได้จะมีเกณฑ์ดวงที่ดี ทั้งรายได้ประจำบวกกับรายได้พิเศษ อีกทั้งดวงโชคลาภจะมีเข้ามาให้ใช้จ่ายคล่องตัวมากขึ้น และในปี 2556 นี้ยังมีเกณฑ์จะได้รับโอนที่ดิน มรดก หรือบางคนอาจจะได้รับเงินส่วนแบ่ง ค่าตอบแทนจากการลงทุนบางอย่าง ที่สำคัญถ้ามีรายได้ที่ดีต้องไม่ละเลยในการจ่ายชำระหนี้สินเก่าๆ ด้วยความรัก มีความโดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะคนโสด มีโอกาสที่ดีเข้ามาให้เลือกมากมาย แต่โดยพื้นฐานแล้วคนราศีนี้มักจะไม่ค่อยกล้าเสี่ยงเปิดใจคบคนใหม่ๆ ส่วนใหญ่มักจะมองหาแต่เพื่อนๆ กันและค่อยพัฒนาความสัมพันธ์กันต่อไป สำหรับคู่รักที่คบหากันมานาน ถ้ามีปัญหาให้ต้องเคลียร์ปรับความเข้าใจกัน แนะนำให้ใช้ช่วงต้นๆ ปีพูดคุยกัน สามารถทำให้ความรู้สึกดีๆ กลับมาได้ไม่ยาก หรือถ้าอยากจะแต่งงานหมั้นหมาย มีงานมงคล สามารถมองหาฤกษ์ยามกันได้ ช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงเวลาที่จะส่งเสริมดวงความรักอย่างมาก ยิ่งถ้าอยากจะมีลูกในปีนี้ ดวงดาวส่งเสริมให้มีข่าวดีเกิดขึ้นเช่นกันสุขภาพ จังหวะดวงดาวแรงจริงๆ เวลาจะเกิดอะไรกับชีวิตก็จะเกิดแบบแรงๆ ตามไปด้วย บางช่วงต้องระวังทั้งเรื่องของสุขภาพร่างกาย และอุบัติเหตุในการการเดินทาง ดังนั้นความไม่ประมาทในการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ และบวกกับการดูแลตัวเองให้มากขึ้น บวกกับการทำบุญสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ รับรองว่าสิ่งดีๆ จะเข้ามาส่งเสริมให้ชีวิตดีขึ้น ราศีมังกร ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่ 15 มกราคม– 12 กุมภาพันธ์ การงาน จังหวะดวงจะเกิดความสำเร็จก้าวหน้า ดวงดาวส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการทำงาน อาจจะมีทั้งการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม หรือแม้กระทั่งการควบรวมกิจการ ยุบแผนกต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ ปีนี้คงต้องอาศัยการปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากขึ้น แต่ขอให้มั่นใจว่าจังหวะดวงไม่ได้เลวร้าย บางช่วงก็อาจจะติดขัดบ้าง บางช่วงดวงดาวก็ส่งผลให้เกิดข่าวดี เกิดแรงเกื้อหนุนผลักดันที่ดี แต่เป็นปกติที่จะมีปริมาณงานเพิ่มเติมเข้ามาให้ดูแลมากขึ้นเป็นเท่าตัว ปัญหาอุปสรรคที่หนีไม่พ้นจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับลูกน้องบริวาร อาจจะนำความเดือดร้อนมาให้อยู่เรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อรู้ดวงในปี 2556 นี้แล้ว คงต้องทำงานด้วยความระวังและรอบคอบให้มากเป็นพิเศษ เผื่อถ้ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นจะได้มีทางออกได้ทันเวลา สำหรับคนที่จะทำธุรกิจเปิดร้านใหม่ปีนี้ สามารถเดินหน้าได้เลย ปัญหาอุปสรรคต่างๆ สามารถควบคุมได้ เพียงแต่ต้องระวังปัญหาที่เกี่ยวกับหุ้นส่วน การถูกเอารัดเอาเปรียบจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นการตรวจสอบเอกสารทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญ ชีวิตการงานยังคงมีเกณฑ์วุ่นวายกับหลายๆ เรื่อง ขอให้ใช้สติควบคู่กับไปกับการทำงานในปีนี้ด้วย การเงิน จังหวะการเงินในปี 2556 นี้จะมีความลงตัวมาก รายได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทั้งปี แต่กลับเก็บออมไม่ได้เลย เพราะเกณฑ์ดวงของรายจ่ายจะเกิดขึ้นตลอดเวลา บวกกับคนราศีนี้จะมีนิสัยใช้เงินอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจจะเป็นต้นเหตุให้มีหนี้สินตามมาได้อีก แต่ทั้งนี้ต้องระวังดวงทุกขลาภด้วย ในปีนี้อาจจะมีคนมาขอความช่วยเหลือด้านการเงินอยู่เรื่อยๆ ให้เกิดเป็นความเดือดร้อนตามมาได้ คงต้องพิจารณากันให้รอบคอบก่อนที่จะช่วยเหลือใดๆ แต่ด้วยอิทธิพลดวงดาวที่มีพลัง จะส่งเสริมให้เกิดโชคลาภได้ไม่น้อย ดังนั้นถ้ารู้จักเก็บหอมรอมริบ น่าจะมีโอกาสที่จะเหลือเก็บได้บ้าง ความรัก มีเกณฑ์ดวงที่ดีมากขึ้น คนโสดจึงมีโอกาสได้เจอกับคนที่ถูกใจในปีนี้ แต่จังหวะดวงจะส่งเสริมให้เกิดข่าวดีแค่ในช่วงต้นปีเท่านั้นเอง ถ้าไม่รีบร้อนก็ต้องรอไปอีกปีหน้า 2557 โอกาสดีๆ จะเข้ามาอีกครั้ง สำหรับคนที่คบหากันมานานแล้ว จะมีโอกาสในเรื่องของการแต่งงานหมั้นหมาย แต่ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมเป็นสำคัญ ถ้าพร้อมแล้วก็สามารถขยับขยายครอบครัวร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีลูกด้วยกันแล้ว ประเด็นของลูกจะเป็นปัญหาใหญ่ให้วุ่นวายกันได้ทั้งปี สำหรับดวงความขัดแย้งในด้านความสัมพันธ์ คงต้องระวังในช่วงหลังจากกลางปีไปแล้ว จะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน อาจถึงขั้นรุนแรง ดังนั้นคงต้องใจเย็นๆ และอดทนให้มากๆ เพื่อประคับประคองความสัมพันธ์กันต่อไปสุขภาพ มีเกณฑ์เจ็บป่วยเพราะร่างกายทำงานหนัก บางทีอาจจะเป็นโรคที่แปลกประหลาด หาสาเหตุไม่เจอ อีกทั้งในปี 2556 ต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุให้มากๆ ด้วย จังหวะกลางปีเป็นต้นไปดวงดาวจะแรงมากขึ้น ขอให้ระวังในการเดินทางให้มากเป็นพิเศษ ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงๆ รวมถึงการทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ราศีกุมภ์ ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่  13 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม การงาน ดวงการงานจะพบกับความสำเร็จก้าวหน้า และจะมีชื่อเสียงมากขึ้น ใครที่เป็นพนักงานลูกจ้างจะมีเกณฑ์ดวงได้รับการปรับเปลี่ยนตำแหน่งที่ดี มีความมั่นคงในหน้าที่การงานมากขึ้น สำหรับคนที่ทำอาชีพอิสระหรือมีธุรกิจของตัวเอง จะมีลูกค้าเข้ามามากขึ้น มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก แต่ความวุ่นวายก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม สำหรับคนที่เพิ่งคิดจะเริ่มต้นลงทุน สามารถเริ่มได้ในปี 2556 นี้ เพียงแต่ต้องมั่นใจกับธุรกิจด้วยการศึกษาหาข้อมูลก่อนให้รอบคอบ และต้องไม่เป็นธุรกิจสีเทาที่มีความเสี่ยง ซึ่งนั้นจะทำให้เกิดความเดือดร้อนตามมา ที่สำคัญการทำธุรกิจต้องระวังความขัดแย้งกับหุ้นส่วนด้วย เพราะดวงในปีนี้จะมีโอกาสผิดใจกัน และปีนี้จะเป็นอีกปีที่จะวุ่นวายกับการทำงานอีกหลายอย่าง และยังต้องเดินทางไปในที่ไกลๆ บ่อยมากขึ้นด้วย ดังนั้นการแบ่งเวลาเป็นสิ่งสำคัญ จะมีผลต่อการสะสางเคลียร์งานเก่าๆ เป็นอย่างมาก ในปีนี้ยังจะมีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับความเหน็ดเหนื่อยที่มากขึ้นตามไปด้วย แต่เชื่อว่าความขยันตั้งใจจะเป็นตัวช่วยสำคัญให้เกิดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต สำหรับคนที่อยากจะเรียนต่อศึกษาต่อ โดยเฉพาะการไปเรียนต่างประเทศจะมีโอกาสที่ดีเข้ามาด้วยเช่นกัน ส่งผลให้การงานมีโอกาสพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆการเงิน อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เป็นปีที่จะมีรายได้ดีขึ้นและเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ต้องระวังรายจ่ายด้านการลงทุนและการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะจะมีหลายสิ่งอย่างให้ต้องสะสางจัดการ ถ้าจะต้องลงทุนทำธุรกิจ ขอให้ดูกำลังทรัพย์และกำลังความสามารถของตัวเองเป็นหลัก อาจจะก่อให้เกิดเป็นหนี้สินตามมาได้อีก ถึงแม้ว่าจะมีรายได้เข้ามามากแค่ไหนก็ตาม แต่สำหรับดวงในการติดต่อเจรจาทางการเงิน มีเกณฑ์จะประสบความสำเร็จและได้รับการช่วยเหลือที่ดีกลับมา เรียกได้ว่าปี 2556 นี้จะเป็นปีที่เงินดี งานดี ชีวิตดี ส่งเสริมให้ชีวิตมีความสุขได้มากขึ้นความรัก เกณฑ์ดวงชะตาความรักอยู่ในจุดที่ลงตัว คนโสดจะมีโอกาสได้พบได้เจอคนที่ถูกใจ ได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ๆ จังหวะในช่วงกลางปีจะมีความแรงในทางที่ดี และสามารถเปิดตัวคบหากันอย่างจริงจังได้ปีนี้ จะมีเกณฑ์ได้พบกับคนที่มีภาวะความเป็นผู้นำสูง มีบุคลิกดูดี หรืออาจจะมีตำแหน่งการงานที่ดีอีกด้วย เกณฑ์ความรักจะเกิดขึ้นจากการเดินทางและการทำงาน แต่สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ อาจจะมีหลายคนเข้ามาพัวพันจนกลายเป็นปัญหา คงต้องเลือกคบหาพิจารณากันไปทีละคน สำหรับคู่รักที่คบหากันมานานและอยากจะขยับขยายครอบครัว สามารถพูดคุยกันได้ตั้งแต่ต้นๆ ปี มีโอกาสได้จัดงานมงคลแต่งงานหมั้นหมาย ในส่วนของความสัมพันธ์ยังดำเนินต่อไปได้อย่างดี ยังสามารถประคับประคองความรักไปได้ แต่บางช่วงเวลาจะได้รับผลกระทบจากดวงดาวเกิดเป็นสั่นคลอน จึงขอให้อดทนและเข้าใจกันให้มากขึ้น สำหรับใครที่อยากจะมีลูกดวงดาวก็จะส่งเสริมเช่นกัน แต่ถ้ายังไม่พร้อมในการมีลูก ขอให้ระวังและควบคุมการวางแผนครอบครัวให้มากเป็นพิเศษ เพราะปีนี้ดวงดาวการมีลูกแรงมาก สุขภาพ เป็นสิ่งที่ต้องดูแลและให้ความสำคัญ ปีนี้จะเป็นปีที่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานอย่างมาก เป็นเหตุให้สภาพร่างกายย่ำแย่ อาจจะทำให้เจ็บป่วยตามมา โดยเฉพาะคนที่มีอาการของโรคประจำตัว สามารถมีอาการกำเริบกลับมาได้ อีกทั้งดวงอุบัติเหตุ กิจกรรมที่มีความเสี่ยงให้เกิดอันตราย ต้องหลีกเลี่ยง และด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอาจจะส่งผลเจ็บป่วยไม่สบายได้ง่ายๆ เช่นกัน ราศีมีน ผู้ที่เกิดระหว่างช่วงวันที่ 15 มีนาคม – 13 เมษายน การงาน เกณฑ์การทำงานในปี 2556 จะมีความสบายใจมากขึ้น เพราะจะเป็นปีที่ได้พ้นเคราะห์พ้นโศกแล้ว ปัญหาต่างๆ จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ปีนี้จะได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่เจ้านายมากขึ้น ได้รับมอบหมายให้ได้ดูแลงานสำคัญๆ สำหรับคนที่อยากจะลงทุนทำธุรกิจจะมีโอกาสและได้รับความช่วยเหลือจนเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งอาจจะดูวุ่นวายไปบ้างในช่วงแรก แต่สุดท้ายก็จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี รวมถึงคนที่อยากจะขยับขยายธุรกิจจะมีช่องทางให้เกิดรายได้ มีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมตั้งแต่ต้นปี อีกทั้งดวงในการติดต่อเจรจาจะราบรื่น แต่ถ้าผ่านพ้นช่วงกลางปีไปแล้ว เกณฑ์ดวงในการทำงานจะถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง มีแนวโน้มเกิดการเปลี่ยนแปลงกับสิ่งแวดล้อมหรือนโยบายต่างๆ แต่ถ้าบางคนดวงแรง อาจจะถึงขั้นเปลี่ยนงานเปลี่ยนสถานที่กันเลยก็ได้ ยังไงก็วางแผนชีวิตเผื่อไว้ล่วงหน้าด้วยและบางช่วงบางเวลา ต้องขอเตือนให้ระวัง! การตัดสินใจ อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อการทำงาน กลายเป็นความผิดพลาดตามมา ดังนั้นเมื่อเรารู้ดวงล่วงหน้าคงต้องรีบหาทางแก้เคล็ดเสริมดวง หาทางแก้ไขรับมืออย่างมีสติการเงิน ดวงการเงินแรง! และโดดเด่น ปี 2556 นี้มีเกณฑ์การเงินที่ดี มีโอกาสได้รับเงินก้อนใหญ่ หรืออาจจะได้รับโอนที่ดิน ทรัพย์สินมรดก สำหรับคนที่ทำธุรกิจลงทุนมีเกณฑ์จะได้กำไรผลตอบแทนที่ดีเข้ามาด้วยเช่นกัน มีช่องทางในการค้าขายมากขึ้น เผลอๆ จะได้ยอดสั่งซื้อตามมาอีกเพียบ! ดวงในปีนี้จะนำพารายได้ที่ดีเข้ามามากเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือการจับจ่ายใช้สอย ถ้าไม่มีสติในการใช้เงินอาจจะทำให้หมดไปได้รวดเร็วในพริบตา เมื่อได้เงินมาก็ควรต้องแบ่งไปทำบุญบริจาคบ้าง หรือเก็บออมไว้บ้างเพื่ออนาคต แต่สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง คือการพนัน ปีนี้ดวงดาวไม่ส่งเสริมและอาจจะทำให้เกิดหนี้สินพัวพันตามมาได้อีกความรัก ด้วยจังหวะดวงที่พ้นเคราะห์ไปแล้ว จะส่งเสริมให้คนโสดมีโอกาสได้พบได้เจอคนที่ถูกใจ และได้สานต่อความสัมพันธ์ที่ดี มีเกณฑ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือที่ดีจากเพื่อนฝูงแนะนำคนดีคนใหม่ๆ ให้ได้รู้จักตั้งแต่ช่วงต้นๆ ปี แต่อาจจะมีความแตกต่างกันในเรื่องการใช้ชีวิต หรือมีอายุที่ต่างกันเยอะพอสมควร แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคปัญหาของความรัก ถ้ารับได้และมีความรู้สึกที่ดีต่อกันก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่สำหรับหลายคนที่มีคู่มีแฟนแล้ว ต้องระวังปัญหาในการจัดสรรเวลา ปีนี้อาจจะมีเวลาเจอกันน้อยลงจนบั่นทอนความสัมพันธ์ให้แย่ลง โดยรวมแล้วสามารถปรับความเข้าใจกันได้ แต่คงต้องใช้เวลาง้องอนกันนานหน่อย บางช่วงดวงจะแรงมากขึ้น ส่งผลให้คนรักกันอาจจะแรงใส่กันได้ทั้งคู่ ถ้าสามารถผ่านจุดนี้ไปได้รับรองว่าปีนี้จะมีความสุขไม่แพ้ปีที่ผ่านมาแน่นอน สุขภาพ จังหวะดวงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะคนที่เจ็บป่วยอยู่แล้ว จะได้รับการรักษาที่ดี มีโอกาสหายจากโรคภัยต่างๆ สำหรับดวงอุบัติเหตุยังคงต้องระวังอยู่ เพราะเกณฑ์ดวงแรง อาจจะส่งผลให้เกิดการเจ็บเนื้อเจ็บตัวได้ง่ายๆ แนะนำการทำบุญไหว้พระ ปล่อยสัตว์น้ำปล่อยปลาจะส่งเสริมดวงชะตาหนุนดวงได้ดีเป็นอย่างดีและจะช่วยผ่อนหนักให้เบา เชื่อว่าปี 2556 จะเป็นปีที่จะมีสิ่งดีๆ เข้ามาให้เกิดความสุขสมหวัง

อัพเดตเทรนด์แรง แต่งคิ้วปี 2013 จากอนาสตาเซีย เบเวอร์ลี่ ฮิลส์

อัพเดตเทรนด์แรง แต่งคิ้วปี 2013 จากอนาสตาเซีย เบเวอร์ลี่ ฮิลส์
สำหรับสาวๆ ที่รักในการแต่งหน้า สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยอย่างหนึ่งคือ การกันคิ้ว สาวๆ หลายคนมักจะมีปัญหากับเรื่องของคิ้ว บางคนก็คิ้วหนามากจนทำให้รู้สึกว่าคิ้วเรานั้นมันไม่รับกับใบหน้าซักเท่าไหร่ บางทีก็กันคิ้วกันไม่ถูก วันนี้ อนาสตาเซีย เบเวอร์ลี่ ฮิลส์ (ANASTASIA Beverly Hills) จึงขอแนะนำวิธีกันคิ้วที่ได้รูปกับใบหน้า พร้อมอัพเดตเทรนด์การแต่งคิ้วล่ามาแรงในปี 2013 ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่สาวๆ โซนยุโรป จากรันเวย์ นิวยอร์กแฟชั่นวีค ปี 2013 ให้สาวๆ เอเชียได้สวยกันก่อนใคร  ซึ่ง “คิ้วหนาและเข้ม” (Thick Eyebrow) ยังคงอยู่ในกระแสการแต่งหน้าจากเมคอัพ อาร์ติสต์ทั่วโลกอีกเช่นเคย การมีคิ้วหนาจะทำให้ใบหน้าของเราดูมีความคมเข้ม ถ้าพร้อมแล้วเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า ขั้นตอนที่ 1วาดคิ้วด้านบนเพื่อที่จะเป็นแนวทางในการตกแต่งคิ้วให้สวยงาม
 ใช้ดินสอเขียนคิ้วเขียนลงไป เว้นช่วงหัวคิ้วเอาไว้ เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการกำจัดขนคิ้วบริเวณระหว่างช่วงกลางจนถึงเกือบหางคิ้วก่อน จากจุดเริ่มจนถึงจุดสิ้นสุดที่เกือบหางคิ้วให้ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเขียนวาดเป็นเส้นเดียวขั้นตอนที่ 2 วาดคิ้วด้านล่างให้ขนานกับด้านบนทำเหมือนกับขั้นตอนที่ 1 เพียงแต่เป็นด้านล่าง ยาวไปจนสุดที่บริเวณหางคิ้ว ระวังอย่าเขียนให้หางคิ้วตกลงมามากนักขั้นตอนที่ 3 ปัดคิ้วด้วยแปรงสำหรับปัดคิ้ว ปัดหัวคิ้วขึ้นไปทางด้านบน ส่วนปลายคิ้วให้ปัดลงที่ด้านล่างตามในรูป แล้วเบลนด์คิ้วให้ดูหนาเพื่อสร้างมิติ การปัดขนคิ้วแบบนี้จะช่วยให้เราเห็นส่วนเกินของคิ้วได้ดีขึ้นและเราก็จะรู้ได้ว่าจะตัดขนคิ้วส่วนไหนออกได้บ้าง นอกจากนี้ยังช่วยให้เราเห็นเวลาที่คิ้วเรากำลังงอกขึ้นมาใหม่จากการที่เราตัดหรือถอนคิ้วออกไปจากคราวที่แล้วอีกด้วยขั้นตอนที่ 4 เล็มขนส่วนเกินที่บริเวณด้านล่างก่อน ตัดที่คิ้วให้ได้รูปสวยตามที่เราได้วาดเส้นเอาไว้และให้มีส่วนโค้งให้รูปสวยตามเส้นวาดสีชมพูในรูป ข้อควรระวังคืออย่าตัดจนสั้นถึงโคนคิ้วจนเกินไป จะทำให้สั้นและไม่สวยดูไม่เป็นธรรมชาติขั้นตอนที่ 5 กำจัดตอขนคิ้วที่เหลือ ใช้แหนบถอนตอขนคิ้วที่เรากันออกไปในขั้นตอนที่ 3 ออกให้หมดเพื่อให้ดูเรียบเนียน ในขณะที่ดึงควรใช้อีกมือดึงผิวบริเวณหน้าผากขึ้นไปด้านบนเพื่อที่จะได้ลดความเจ็บปวดเวลาที่เราดึงตอของขนคิ้วออกขั้นตอนสุดท้าย เมื่อกันคิ้วเสร็จทั้ง 2 ข้างแล้ว อย่าลืมถอนขนคิ้วบริเวณหัวคิ้วด้วย
ควรจะให้หัวคิ้วอยู่ที่บริเวณสันจมูกเท่านั้น หากเกินจากเส้นสีขาวก็ควรจะถอนออก เพราะจะทำให้คิ้วดูรกและหนาเกินไป หากเพิ่งทำเป็นครั้งแรกก็ควรจะทำไฮไลต์เส้นเอาไว้ จะง่ายต่อการถอนมากขึ้น 

Sunday, December 30, 2012

แต่งผมเริ่ดๆ ตระเวนปาร์ตี้ 3 ทรงนี้รับรองเด่นสะดุดตา

แต่งผมเริ่ดๆ ตระเวนปาร์ตี้ 3 ทรงนี้รับรองเด่นสะดุดตา
แฮร์สไตลิสต์ชื่อดังเผย 3 ทรงผมเก๋ๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน เพื่อแต่งผมให้เริ่ดสุดพลังเตรียมตัวเฉิดฉายในปาร์ตี้ต้อนรับปีใหม่อย่างหรูหราไก่-สมพร ธิรินทร์ แฮร์สไตลิสต์ชื่อดัง เผยถึงเทรนด์ผมปีหน้าว่า “จะเป็นแนวเรโทร หรือย้อนยุค ผมยาวเป็นลอน หรือถ้าเป็นผมซอยสั้น จะเป็นผมบ็อบ มีวอลุ่มเล็กน้อย โดยเครื่องประดับผมยังคงมีความสำคัญสำหรับการตกแต่งทรงผมให้ดูสมัยใหม่ และมีความเก๋มากขึ้น โดยเฉพาะการไปงานเลี้ยงสังสรรค์ เครื่องประดับผมจะเป็นตัวช่วยเสริมบุคลิกให้ดูโดดเด่น และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น”สำหรับการทำผมสำหรับไปงานปาร์ตี้ช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ ช่างทำผมชื่อดังแนะนำ 3 ลุค คือ “Pret-a-Party” ปาร์ตี้ สดใสน่ารัก เป็นธรรมชาติ “Midnight Madam”  มิดไนท์ เซ็กซี่ แกรม ดูแกรม ลึกลับ และ “Gatsby”“การใช้เครื่องประดับผมในชีวิตประจำวันยังมีความจำเป็น และวัยรุ่นยังนิยมใช้กันอยู่มาก โดยนำมาแต่งผมให้ดูเก๋มากขึ้น ช่วงปีใหม่ไปปาร์ตี้ เครื่องประดับผมจะช่วยทำให้คุณดูโดดเด่นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น จุดเด่นของ เอวิต้า เปโรนี่ คือ มีความทันสมัย มีเทรนด์อัพเดทตลอดเวลาจนเป็นที่นิยม เช่นที่คาดผม จะมีหลากหลายแบบ ทำให้เลือกใช้ได้ตามชอบ เอาวัสดุต่างๆ มาดัดแปลงเหมาะกับคนเอเชีย”ลุคที่ 1 “Gatsby” สไตล์ย้อนยุค โดยทำผมเป็นลอนเปียกทั้งศีรษะ ประดับผมด้านหลังด้วยหวีสับประดับลูกปัดแก้ว และมุกในสไตล์วิทเทจ คาดที่คาดผมกำมะหยี่ประดับขนนกและลูกปัดด้านหน้า เติมความสมบูรณ์ขั้นสุดท้ายด้วยกิ๊บตัวเล็กประดับลูกปัดในโทนสีเดียวกันลุคที่ 2  “Pret-a-Party” สำหรับสาวหวาน โดยขั้นตอนแรกของการเตรียมผมคือการจับผมให้เป็นพุ่มสูงอยู่กลางศีรษะ ประดับผมด้วยกิ๊บติดผม และปิ่นปักผมรูปกลีบดอกไม้ทำจากผ้า taffeta เนื้อมันวาวในโทนสีสดใส ประดับด้วยคริสตัลเพิ่มความแวววาวลุคที่ 3  “Midnight Madam” มีเสน่ห์ เย้ายวน ขั้นตอนแรกเตรียมผมโดยการยีผม ให้ผมทุยที่ด้านหลัง หลังจากนั้นรวบผมด้านหลังไปด้านข้างด้วยคลิปหนีบผมหางม้า และหวีสับคู่ประดับผ้าลาย Houndstooth โทนสีแดงเข้ม ซึ่งเป็นสีเด่นในช่วง Autumn Winter 12/13 เติมความโดดเด่นด้วยที่คาดผมทำจากผ้า taffeta เนื้อมันวาว ประดับด้วยขนนกการทำผมคือการเลือกทรงให้เข้ากับใบหน้าของเราให้มากที่สุด ลองปรับแต่งให้เหมาะสมกับกาลเทศะและรูปหน้า แล้วราศีความเจิดจรัสจะหนีหายไปไหนเสีย... 

ร็อกแอนด์โรล หนังนุ่ม สุดยอดกระเป๋า JIMMY CHOO

ร็อกแอนด์โรล หนังนุ่ม สุดยอดกระเป๋า JIMMY CHOO
จิมมี่ ชูว์ (Jimmy Choo) แบรนด์เครื่องหนังชั้นสูงจากประเทศอังกฤษ นำเสนอคอลเลกชั่นกระเป๋าใหม่ “ไบเกอร์ แบค” (Biker Bag) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแอตติจูดสุดเท่ของร็อกแอนด์โรล และรองเท้าไบเกอร์ บู๊ทส์ ดีไซน์ไอคอนิคจากคอลเลกชั่นปี 2007 โดยมีจุดเด่นที่การใช้หนังผลิตจากหนังฟอกไบเกอร์ซึ่งเป็นชนิดของหนังที่มีความนุ่มมือพร้อมความมันวาวเล็กน้อยให้ความรู้สึกแบบวินเทจในตัวถึง 4 ชนิดเลือกจากบริเวณที่ดีที่สุดของชิ้นหนัง ตัดประกอบขึ้นด้วยแพทเทิร์นกว่า 40 ชิ้นโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงต่อใบ นั่นจึงทำให้กระเป๋าไบเกอร์ แบค มีความพิเศษกว่ากระเป๋าทั่วไปของจิมมี่ ชูว์ รวมไปถึงการใช้โซ่เงินเพิลเลเดียมวาวเป็นสายสะพายบุด้วยแผ่นหนังบริเวณไหล่โดยได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าหนังใส่กีตาร์ของนักดนตรีกระเป๋าไบเกอร์ แบค ซึ่งเปรียบเสมือนกระเป๋าไอคอนของจิมมี่ ชูว์ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ นั่นจึงทำให้ไบเกอร์ แบค ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจต่อยอดไปสู่กระเป๋าดีไซน์ไอคอนอื่นๆ ของจิมมี่ ชูว์อย่างไม่รู้จบ โดยในคอลเลกชั่นล่าสุดนี้ขอนำเสนอกระเป๋า 3 ใบ โดยทั้งหมดล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์ของกระเป๋าไบเกอร์ แบคทั้งสิ้นเบกซ์ (Bex)กระเป๋าหนังพับหลากรูปแบบการใช้สอย แสดงถึงความเป็นอิสตรีเพศ แฝงด้วยความทันสมัย เหมาะทั้งสำหรับใช้งานกลางวัน และกลางคืน ใช้งานได้หลากหลาย สามารถสะพายคาดตัว สะพายไหล่หรือใช้เป็นกระเป๋าถือก็ได้เช่นกัน กระเป๋าหนังพับในรูปแบบที่โฉบเฉี่ยวประกอบด้วยส่วนภายใน 1 ส่วนหลักพร้อมกระเป๋าซิปนิรภัย กระเป๋าเล็กอยู่ภายนอกของส่วนกระเป๋าหลัก ใช้งานสะดวกพร้อมด้วยซิปนิรภัยสายโซ่ยาว สามารถปรับได้ตามลักษณะการใช้งาน พร้อมด้วยลายละเอียดการประดับกระเป๋าตามเอกลักษณ์ของกระเป๋าไบเกอร์ แบค ได้แก่ สายโซ่ ซิปและสัญลักษณ์รับประกัน JIMMY CHOO ผลิตจาก กระเป๋าบุภายในด้วยวัสดุไมโครไฟเบอร์ อัลคันทารา สีทรายเบลค (Blake)กระเป๋าสะพายรูปทรงบูกัตติแบบใหม่ เรียบง่าย พร้อมรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย สามารถทั้งสะพายไหล่ คล้องแขนหรือทำเป็นกระเป๋าถือ ด้วยดีไซน์รูปทรงจากกระเป๋าไบเกอร์ แบค มีขนาดใหญ่ พื้นที่กระเป๋ากว้างพร้อมด้วยกระเป๋าซิปภายใน ซิปปิดสองชั้น ส่วนโลหะทั้งหมดมีสัญลักษณ์ของ JIMMY CHOO ประดับตกแต่งด้วยสายโซ่และการประดับกระเป๋า สายสะพายสามารถปรับความยาวได้ อำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้เมื่อต้องการเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน กระดุมหมุดบนด้านหนึ่งของหูกระเป๋าสำหรับกลัดหูสองด้านรวบเข้าด้วยกันขณะใช้งาน กระเป๋าบุภายในด้วยวัสดุไมโครไฟเบอร์ อัลคันทารา สีทรายแชนดรา (Chandra)กระเป๋าคลัทช์อันมีลักษณะเฉพาะตัว ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว พร้อมความอเนกประสงค์ในตัว จากแรงบันดาลใจภายใต้ธีม ร็อก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมวดหมู่นี้ รูปทรงกระเป๋าแบบคลาสสิกพร้อมรายละเอียดการประดับแบบกระเป๋าไบเกอร์ แบค กระเป๋าถือแบบพับพร้อมด้วยกระดุมปิดแม่เหล็ก ประดับด้วยโซ่โลหะสไตล์ไบเกอร์ ประกอบไปด้วยส่วนกระเป๋าหลัก พร้อมกระเป๋าภายในขนาดใหญ่ และป้ายโลหะ JIMMY CHOO กระเป๋าบุภายในด้วยวัสดุไมโครไฟเบอร์ อัลคันทารา สีทราย 

ไทยแลนด์ โฟโต้กราฟฟี่ คอนเทสต์ 2012 เฟ้นหาช่างภาพอิสระ

ไทยแลนด์ โฟโต้กราฟฟี่ คอนเทสต์ 2012 เฟ้นหาช่างภาพอิสระ
นิตยสารลอฟฟีเชียลไทยแลนด์ร่วมกับโรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ, เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย, ชีร์โร่ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) ผู้แทนจำหน่ายกล้อง แฮสเซิลบลัด กล้องระดับโลกและดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ผู้แทนจำหน่ายแชมเปญ เวอฟ คลีโคต์ แชมเปญเฮาส์เก่าแก่ของฝรั่งเศส ร่วมจัดงานประกาศผลและมอบรางวัล พร้อมแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลิศในการประกวดภาพถ่าย “ไทยแลนด์โฟโต้กราฟฟี่ คอนเทสต์ 2012 ผู้ชนะเลิศคือ คุณพิสิฐ หวังวิศาล จากการถ่ายภาพในแนวคิดอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ด้วยภาพอาหาร แฟชั่น และสถาปัตยกรรม รับรางวัลมูลค่าล้านกว่าบาท รับกล้องจาก Hasselblad สิทธิในการใช้สตูดิโอ Hasselblad 12 ครั้งในหนึ่งปี พร้อมตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-มาเก๊า จำนวน 2 ที่นั่ง พร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืน ที่โรงแรมโอ กุระ มาเก๊า และแชมเปญ Veuve Clicquot VCP Jeroboam (3 L.) 1 ขวด คุณกุสุมา ไชยพร บรรณาธิการบริหารนิตยสารลอฟฟีเชียลไทยแลนด์ กล่าวว่า นิตยสารลอฟฟีเชียลไทยแลนด์ ร่วมกับโรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ, เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย), บริษัท ชีร์โร่ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายกล้อง แฮสเซิลบลัด และบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ผู้แทนจำหน่ายแชมเปญ เวอฟ คลีโคต์ แชมเปญเฮาส์เก่าแก่ของฝรั่งเศส ได้จัดงานประกาศผลมอบรางวัล กับผู้ชนะเลิศโครงการประกวดภาพถ่าย “ไทยแลนด์โฟโต้กราฟฟี่ คอนเทสต์ 2012 ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป ทั้งช่างภาพมืออาชีพและสมัครเล่น ส่งผลงานและรับการคัดเลือกผู้เข้ารอบ 12 คน มาทำเวิร์กช็อปและเข้าอบรมกับผู้เชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายนานนับเดือน ใน 3 หัวข้อคือ ภาพถ่ายอาหาร แฟชั่น และสถาปัตยกรรม จากนั้นผู้เข้าแข่งขันจะได้ผลิตผลงาน โดยออกแบบกำหนดตัวนางแบบ แนวคิดจัดทำ และถ่ายภาพ ทั้งในสตูดิโอ และภายนอกด้วยตนเอง คนละ 3 ภาพ โดยทุกๆภาพจะได้รับการพิจารณาตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในวงการภาพถ่ายประเทศไทย โดยผู้ชนะเลิศ ได้แก่ คุณพิสิฐ หวังวิศาล ช่างภาพอิสระ ที่ถ่ายภาพด้วยแนวคิดคือ ภาพอาหารคือ อดีต : วันวานที่สั่งสม ด้วยภาพแกงเขียวหวาน รวมทั้งของตกแต่งด้วยไม้ เรียบง่ายแบบไทย ให้แสงเหมือนหน้าต่างจากครัว ภาพแฟชั่นคือ ปัจจุบัน : ภาพที่หยุดนิ่งของสิ่งที่เคลื่อนไหว เป็นลูกตุ้มนาฬิกาที่ค้างเอาไว้กับนางแบบด้วยสีขาว หรือดำ แสดงนัยยะว่าเราจะเลือกที่จะสว่าง หรือมืดบนชุดสะท้อนสีทอง หมายถึง “Present is a Gift” ส่วนภาพสถาปัตยกรรมคือ อนาคต : คือภาพสะท้อนของสิ่งที่เกิดจากปัจจุบัน นำภาพอาคารที่ใช้กระจกสะท้อนเงาของตัวเองขยับให้เกิดรูปร่างและแสงใหม่ขึ้น เพื่อว่าอนาคตคือภาพที่กำลังจะได้เห็น ส่วนรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ คุณวรุณ เกียรติศิลป์ จากแนวความคิดภาพแฟชั่น คือ With or without Life สะท้อนว่าสุดท้ายมนุษย์ต้องพบความตายทุกคน มีนางแบบนั่งบนเก้าอี้ไฟฟ้าแทนความตาย และนกเค้าแมวแทนจุดสุดท้ายของชีวิต ภาพอาหาร คือ Steamed Snow fish with turmeric ตกแต่งจานที่มีความเป็นไทยผสมกับความเป็นญี่ปุ่น เน้นรูปทรงเรขาคณิต รวมทั้งใบตอง ไม้และปลา ภาพสถาปัตยกรรมคือ ภาพตึกโรงแรมโอกุระ ที่มีความโค้ง ความเหลี่ยม สวยงามทันสมัย มีองค์ประกอบเป็นกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับสองคือ คุณปิติ เกียรติพันธุ์พัฒนา จัดภาพแฟชั่น ที่เน้นความหรูหรา แต่แฝงด้วยความลึกลับ น่าค้นหาได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์ นำเสนอเป็นภาพขาวดำ ภาพอาหาร คือ มุมมองของอาหารที่น่ารับประทานคู่กับเครื่องดื่ม มีเนื้อที่ใส่ข้อความประชาสัมพันธ์ได้ ภาพถ่ายสถาปัตยกรรม เน้นเส้นสายและโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม และบรรยากาศของเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ชื่นชมความงามของกรุงเทพมหานคร คุณกุสุมา กล่าวต่อไปว่า ในฐานะที่นิตยสารลอฟฟีเชียล เป็นนิตยสารที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ มองเห็นว่าวงการถ่ายภาพแฟชั่นในประเทศไทยยังขาดการฝึกฝน บุคลากรด้านการถ่ายภาพ ให้สามารถคิดงานสร้างสรรค์และทำงานในเชิงสร้างสรรค์ สามารถทำงานในระดับนานาชาติร่วมกับมืออาชีพจากทั่วโลกได้ จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นโดยร่วมกับผู้สนับสนุนหลักอีก 4 ราย ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าระดับโลก และจากการจัดทำโครงการในครั้งนี้พบว่า ช่างภาพไทยเป็นช่างภาพที่มีฝีมือ ซึ่งหากมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์กับช่างภาพมืออาชีพ ในด้านเทคนิคต่างๆ จะทำให้สามารถพัฒนาศักยภาพ และความสามารถให้ดียิ่งขึ้น โดยการประกวดครั้งนี้ จากผลงานของผู้เข้าประกวด 36 ภาพ แม้ว่าจะมีผู้ได้รับรางวัลเพียง 3 ท่าน แต่จากประสบการณ์ที่ผู้เข้าอบรมได้รับจากกูรูที่มีฝีมือระดับนานาชาติ คาดว่าจะทำให้ทุกท่านที่ผ่านเวทีการประกวดในครั้งนี้ สามารถนำไปพัฒนาและมีโอกาสได้ทำงานตามที่ต้องการได้ อย่างไรก็ตาม นิตยสารลอฟฟีเชียล มีความตั้งใจที่จะสานต่อโครงการประกวดถ่ายภาพ โดยจัดประกวดอย่างต่อเนื่องในปีถัดไป รวมทั้งจะขยายไปสู่การถ่ายภาพในด้านอื่นๆ เช่น การประกวดถ่ายภาพนางแบบ หรือการจัดฉากองค์ประกอบต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆ ให้กับวงการถ่ายภาพไทยได้มีการพัฒนา เทียบชั้นนานาชาติต่อไป.

Tuesday, December 25, 2012

NISSAN เปิดโครงการ เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน

NISSAN เปิดโครงการ เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน
บริษัท Nissan Motor Thailand co,Ltd. ร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง แถลงเปิดโครงการ “เดินทางปลอดภัยคาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน” เพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในความพยายามที่จะลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน มอบอุปกรณ์เพื่อสาธารณประโยชน์ อันได้แก่ เสื้อสะท้อนแสง เต็นท์ขนาด 4x4 เมตร และป้ายไฟหยุดตรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการปฏิบัติหน้าที่บนท้องถนน...โครงการเดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน มีวัตถุประสงค์ในการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคาด เข็มขัดนิรภัยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับหรือผู้โดยสารที่นั่งอยู่ภายในรถทั้งในส่วนด้านหน้าหรือด้านหลังทั้งนี้ จากสถิติที่ได้จากจำนวนรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนพบว่า มีเพียงร้อยละ 28 ของผู้ขับขี่เท่านั้นที่คาดเข็มขัดนิรภัย และเพียงร้อยละ 11 ในส่วนของผู้โดยสารที่คาดเข็มขัดนิรภัย จากสถิติดังกล่าวเป็นเกณฑ์ที่ต่ำมาก ทั้งนี้ยังพบด้วยว่ามีผู้โดยสารที่อายุต่ำกว่า 15 ปี หลุดออกจากห้องโดยสาร หรือกระแทกของแข็งในห้องโดยสารส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตNissan ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์คุณภาพและผู้นำด้านรถยนต์ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรืออีโคคาร์ มีนโยบายในการตอบแทนสังคมอย่างชัดเจน โดยหนึ่งในแผนงานของการตอบแทนสังคมก็คือนโยบายในการส่งเสริมด้านความปลอดภัยของผู้ใช้รถและใช้ถนน และนิสสันได้ใช้โอกาสใกล้ช่วงวันหยุดพิเศษปีนี้เปิดโครงการดังกล่าวซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท คุณประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาดและขายกล่าว สำหรับกิจกรรมเพื่อรณรงค์ โครงการ เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคันในครั้งนี้ จะเริ่มต้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง คือ วันที่ 28 ธันวาคม 2555 ที่จะเป็นช่วงเฝ้าระวัง หรือ 7 วันอันตราย บริษัท นิสสัน และตำรวจทางหลวงจะจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางหลักของการเดินทางสู่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ เพื่อให้บริการตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถยนต์เบื้องต้นโดยนักศึกษาช่างเทคนิคที่จะมาช่วยตรวจสภาพ ไม่ว่าจะเป็นความดันลมยาง แบตเตอรี่ หรือระดับน้ำกลั่น พร้อมให้บริการน้ำดื่ม และสติกเกอร์รณรงค์โครงการ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เส้นทาง หลักดังกล่าวส่วนการรณรงค์ นิสสันได้มอบอุปกรณ์สาธารณประโยชน์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านได้นำไปใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทุกท่าน ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลช่วยเหลือเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของประชาชน ทั้งในช่วงเวลาธรรมดาและโดยเฉพาะในวันหยุดช่วงเทศกาล นิสสันมุ่งหวังที่จะมีส่วนร่วมช่วยลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเราวางแผนขยายโครงการนี้ไปยังช่วงวันหยุดเทศกาลสำคัญๆ อื่นๆ ในอนาคต และจะจัดเตรียมกิจกรรมเพื่อขยายขอบเขตในการรณรงค์โครงการนี้เพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในสังคมไทยนอกจากนี้ในส่วนของการรณรงค์ Nissan ยังได้รับความร่วมมือจากดารา นักแสดง มาร่วมในโครงการด้วย และวันนี้คุณเกรซ กาญจ์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า และคุณเพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ ได้มาร่วมแถลงเปิดโครงการ ฯ และมาร่วมแจกสติกเกอร์ เดินทางปลอดภัยคาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน ให้กับสื่อมวลชนเพื่อช่วยนำไปเผยแพร่ ส่วนในช่วงวันหยุดที่ใกล้มาถึงนี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวงร่วมกับบริษัท นิสสันฯ จะตั้งเต็นท์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนบนเส้นทางหลวงดังนี้ จุดที่ 1 บริเวณจุดพักรถถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาออก จุดที่ 2 บริเวณหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงวังน้อย จุดที่ 3 บริเวณหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงทับกวางจุดที่ 4 บริเวณหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงวังมะนาว ประชาชนสามารถแวะรับบริการพักรถ รับน้ำดื่มฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2555– วันที่ 30 ธันวาคม 2555.อาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

ฝันร้ายของลูกน้อย กับโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก

ฝันร้ายของลูกน้อย กับโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก
หลายๆ คน อาจเคยได้ยินเกี่ยวกับโรครูมาตอยด์ หรือโรคข้ออักเสบเรื้อรัง และคิดว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว มีเด็กจำนวนมากที่ป่วยเป็นโรคนี้ แต่ร่างกายของเด็กกับผู้ใหญ่นั้นมีความแตกต่างกัน ทำให้โรคข้ออักเสบในเด็กและผู้ใหญ่จึงไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงเรียกโรคข้ออักเสบที่เกิดกับเด็กว่า “โรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก”แพทย์หญิงโสมรัชช์ วิไลยุค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคข้อและรูมาติสซั่มในเด็ก หน่วยโรคภูมิแพ้ ภูมิคุ้มกันและโรคข้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “โรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก เป็นหนึ่งในกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง (Autoimmune Disease) หมายถึง ภูมิคุ้มกันทำงานเกินหน้าที่ เพราะหลังจากที่กำจัดเชื้อโรคไปแล้ว แต่ภูมิคุ้มกันยังคงทำงานอยู่จนทำร้ายร่างกายของบุคคลนั้นๆ ซึ่งโรคข้ออักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุในเด็ก ก็เกิดจากการที่ภูมิคุ้มกันหันกลับมาทำร้ายข้อตัวเอง ทำให้เกิดข้ออักเสบในเด็กได้ โดยสามารถพบเด็กที่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบฯ ได้ตั้งแต่อายุ 8 – 9 เดือน จนกระทั่ง 16 ปี”แต่สิ่งสำคัญ ก็คือ เมื่อลูกน้อยมีอาการปวดข้อ ข้อบวม และข้ออักเสบ แต่ไม่สามารถอธิบายอาการหรือสื่อสารถึงความเจ็บปวดได้ ทำให้กว่าคุณพ่อ - คุณแม่จะทราบ หนูน้อยก็ต้องทนทรมานและมีอาการข้ออักเสบมากขึ้น ในบางรายอาจถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้ ดังนั้น คุณพ่อ - คุณแม่ จึงควรสังเกตความผิดปกติของลูก โดยสังเกตจาก หากลูกน้อยของคุณมีอาการข้อบวมหรือมีน้ำอยู่ในข้อ และเวลาที่เอามือจับจะรู้สึกอุ่นกว่าข้อข้างที่ปกติ มีรอยแดงบริเวณข้อ จับแล้วมีอาการเจ็บ หรือมีอาการข้อติดในช่วงเช้า ซึ่งเรียกว่า ‘ภาวะ Morning Stiffness’ เนื่องจากเวลาหลับไม่ได้ขยับข้อทำให้สารอักเสบหลั่งออกมา แต่เมื่อตื่นนอนมาแล้วได้ขยับตัว อาการข้อติดหรือปวดข้อก็จะดีขึ้น ซึ่งอาการแบบนี้ยังส่งผลให้เด็กบางคนไม่สามารถนอนกลางวัน หรือนั่งเรียนทั้งวันได้ หรือช่วงที่อากาศเย็นๆ ทำให้ขยับข้อลำบากและปวดข้อมาก ซึ่งอาการปวดข้อและข้ออักเสบ สามารถพบได้ทั้งบริเวณข้อมือ ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อสะโพก กระดูกต้นคอ และบริเวณขากรรไกร นอกจากนี้ ยังอาจพบอาการอื่นๆ อาทิ ตาอักเสบ ไข้สูงโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยไข้จะขึ้นสูงในเวลาเดิมทุกวัน หรือมีผื่นเม็ดแดงๆ เล็กๆ ขึ้นเวลาที่มีไข้ขึ้น และเมื่อไข้ลงผื่นก็จะหายไป หากพบความผิดปกติดังกล่าวควรรีบพาลูกน้อยไปปรึกษาแพทย์ทันทีปัจจุบัน วิธีการตรวจวินิจฉัยโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก ทำได้โดยการตรวจเลือด และหากพบว่าเป็นโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก จะมีวิธีการรักษาด้วยการใช้ยาซึ่งมีหลากหลายประเภท ได้แก่ ยาในกลุ่มกดภูมิคุ้มกัน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาคอร์ติโคสสเตียรอยด์ ยากลุ่มสารชีวภาพ และในบางรายอาจใช้การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าข้อ แต่เหมาะสำหรับเด็กที่มีอาการข้ออักเสบเพียงข้อเดียว นอกจากนี้ เด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคนี้ ยังต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ อาทิ การไม่ทานของดิบ หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดและน้ำอัดลม เป็นต้น พร้อมทั้งยังจำเป็นต้องทำกายภาพบำบัด และออกกำลังอย่างถูกวิธีควบคู่กับการทานยาด้วย อย่างไรก็ตาม การรักษาโรคข้ออักเสบในเด็กนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย และละเอียดอ่อน เพราะต้องคำนึงถึงการเจริญเติบโตของเด็กด้วย ดังนั้น หากคุณพ่อ - คุณแม่ หรือผู้ปกครอง สังเกตอาการของลูกน้อย และพามาปรึกษาแพทย์ทันทีที่พบความผิดปกติ ก็จะช่วยให้อาการข้ออักเสบไม่ลุกลาม และการรักษาก็สามารถทำได้โดยง่าย เพื่อให้หนูน้อยไม่ต้องทนทรมานกับโรคที่เป็นเหมือนฝันร้ายเช่นนี้ และสามารถเติบโตได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป

RougeRouge Indy Black&Tan กระเป๋าคู่ใจสาวรูจช์ รูจช์

RougeRouge Indy Black&Tan กระเป๋าคู่ใจสาวรูจช์ รูจช์
หลังจากที่ Indy Bag รุ่นแรกกลายเป็นกระเป๋าขวัญใจของสาวๆ สาวกรูจช์ รูจช์กันไปแล้ว รูจช์ รูจช์ ไม่รีรอกลับมาครองใจสาวๆ กันอีกครั้งกับ Indy Bag ในโทนสีใหม่สุดคลาสสิกIndy Bag ถูกลอนช์ขึ้นในรูปแบบของ Multiple Use เพื่อรองรับทุกการใช้งานในวิถีชีวิตประจำวันของหญิงสาววัยรุ่นยุคใหม่อย่างแท้จริง โดยสามารถเป็นทั้งกระเป๋าคลัชต์คู่ใจที่เหมาะกับลุควินเทจในตอนกลางวัน หรือจะเป็นคอสเมติกเคส (Cosmetic Case) สำหรับพกพาชิ้นเมกอัพสุดโปรดติดตัวไปทุกหนแห่ง เพื่อเติมแต่งใบหน้าให้สวยเด้งตลอดเช้าจรดค่ำ หรือจะแปลงโฉมเป็นกระเป๋าสะพายใบจิ๋ว สำหรับใส่ของกระจุกกระจิกออกไปแฮงก์เอาต์ในยามราตรีก็ยังได้รูปฟอร์มของตัวกระเป๋าได้แรงบันดาลใจมาจากซองจดหมายที่ประกอบกันขึ้นจากเส้นสายเรขาคณิตที่ต่อติดหรือทับซ้อนกันอย่างมีมิติในแบบฉบับที่เป็นเอกลักษณ์ของรูจช์ รูจช์ จนกลายมาเป็นกระเป๋ารูปทรงสี่เหลี่ยมฝาปิดกระเป๋าเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมซ้อนชั้นและเย็บเดินเส้นไล่ระดับ Indy Bag ในโทนสีใหม่ ทำจากผ้าแคนวาสญี่ปุ่นชั้นดีสีน้ำตาลลาเต้ (Latte Brown) ฝาปิดกระเป๋าทำจากหนังวัวอิตาเลียนคุณภาพสูง ในสองโทนสีดำและน้ำตาลแทน ที่มาแมตช์กันเมื่อไรก็สร้างลุคสุดคลาสสิกที่เข้ากับเสื้อผ้าได้ทุกสีทุกสไตล์ Indy bag มาพร้อมกับสายสะพายโซ่สีทองตกแต่งด้วยป้ายโลหะประทับตราโลโก้และที่จับซิปรูปตัว “R” สีทองเช่นเดียวกัน 

Sunday, December 23, 2012

HOME STUDIO บ้าน งาน และความลงตัว

HOME STUDIO บ้าน งาน และความลงตัว
“หลายครั้ง... สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขได้มากที่สุด ก็มาจากการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและได้อยู่ในสภาพแวดล้อมตามแบบที่ตัวเองชอบและต้องการ แล้วแต่เราจะเลือกแบบไหน แต่หากทั้งสองมาอยู่ด้วยกันได้ การใช้ชีวิตในแต่ละวันคงจะทำให้เรามีความสุขแบบหาจากที่ไหนไม่ได้เลย”Trend@home วันนี้เรามีนัดกันที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่านเหม่งจ๋าย ซึ่งเปิดเป็นโฮมออฟฟิศขนาดเล็กบนพื้นใช้สอย 200 ตารางเมตร ใช้ชื่อว่า “STUDIO JEW” ของ คุณจิ๋ว-วรพจน์ ศรีธิมากุล ไดเร็คเตอร์เจ้าของบริษัทผู้ทำงานเกี่ยวกับศิลปะ ก่อนเข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายในโฮมออฟฟิศหลังนี้ เราได้เดินสำรวจรอบ ๆ ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 4 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร มองภายนอกที่นี่อาจดูเหมือนบ้านหลังอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กัน แต่สิ่งที่แตกต่างและโดดเด่นคือลายเพ้นท์บริเวณหน้าประตูทางเข้า และการออกแบบประตูให้มีลักษณะเฉียงเพื่อช่วยในเรื่องฮวงจุ้ย รวมถึงมีบ่อน้ำเชื่อมไปยังสวนข้างบ้านดูร่มรื่นคุณจิ๋วเล่าจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนทาวน์เฮาส์หลังนี้ให้กลายเป็นที่ทำงานและบ้านพักให้ฟังว่า “ทำบ้านหลังนี้เพราะอยากขยายออฟฟิศให้กว้างขึ้น จึงพยายามมองหาบ้านสักหลังที่มี 4 ชั้น ไว้ทำออฟฟิศชั้นล่าง ส่วนชั้นบนสุดก็ทำเป็นบ้านพักส่วนตัว ซึ่งโครงการนี้ก็ออกแบบได้ตรงตามความต้องการมาก ๆ แถมยังมีชั้นดาดฟ้าด้วย โดยเราได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่เพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น การย้ายประตูทางเข้าหน้าบ้าน ทุบผนัง และกั้นห้อง โดยมี คุณลิ-วรกิตติ์ ศรีธิมากุล สถาปนิก ซึ่งเป็นน้องชายของผมมาช่วยดูแลเรื่องการตกแต่งภายในและส่วนต่าง ๆ ของบ้านหลังนี้”ชั้น 1 ออกแบบให้เป็นมุมรับประทานอาหาร มีโต๊ะรับประทานอาหารและมุมเคาน์เตอร์เล็ก ๆ สามารถทำอาหารได้ มีห้องสตูดิโอแยกออกมาไว้ใช้ทำงาน บริเวณชั้น 2 เป็นสตูดิโอเปิดโล่งทั้งชั้น สำหรับทำงานเพ้นท์ต่าง ๆ โดยออกแบบให้มีห้องเก็บของเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย สามารถเปิดทะลุไปยังบันไดหนีไฟซึ่งช่วยระบายอากาศภายในห้องได้ ชั้น 3 เป็นส่วนออฟฟิศ แบ่งเป็น 2 โซน คือ ส่วนของงานเอกสารและงานกราฟิกต่าง ๆ มีโต๊ะทำงานประมาณ 4 – 5 ตัว และมีโต๊ะกลางไว้นั่งประชุมงาน  มีการกั้นห้องเล็ก ๆ ไว้เป็นห้องทำงานส่วนตัวของคุณจิ๋วเอง เผื่อถ้าต้องนั่งทำงานดึก ๆ ก็สามารถเปิดเครื่องปรับอากาศแค่ตัวเดียวได้ในห้องนี้ ถัดขึ้นมาบนชั้น 4 ออกแบบให้เป็นส่วนพักอาศัย มีการแบ่งส่วนต่าง ๆ อย่างชัดเจนทั้งมุมเคาน์เตอร์ครัว มุมนั่งเล่น และห้องนอน คุณจิ๋วเล่าว่า “ตอนแรกชั้นนี้มีห้องน้ำ 2 ห้อง โดยได้ทุบห้องที่อยู่ติดระเบียงออกเพื่อขยายเป็นมุมนั่งเล่นและมุมรับประทานอาหารเล็ก ๆ แล้วทำประตูบานเลื่อนให้เข้าออกได้ ช่วยให้ห้องดูกว้างและมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น” ด้วยความชอบสะสมแผ่นเสียงของคุณจิ๋ว มุมนั่งเล่นนี้จึงถือเป็นมุมโปรดของเขาไปโดยปริยาย คุณจิ๋วมักจะใช้เวลานั่งฟังเพลงบนชุดโซฟาขนาดใหญ่รูปตัวแอล (L) นี้เป็นประจำ เพราะสามารถนั่งหรือนอนเอกเขนกได้สบาย ส่วนห้องนอนก็ตกแต่งแบบเรียบง่าย เน้นเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินที่ทำจากไม้เป็นหลักทั้งโต๊ะและตู้เสื้อผ้า หลังผนังหัวเตียงอีกด้านมีห้องแต่งตัว  เชื่อมไปยังห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยโมเสกสีดำทั้งห้อง เข้ากับเจ้าของบ้านที่มีบุคลิกเท่ ๆ และมีสไตล์ นอกจากนี้ ชั้นบนสุดยังมีดาดฟ้า ซึ่งคุณจิ๋วปรับให้เป็นมุมนั่งเล่นชิล ๆ สามารถมาสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ได้ รอบ ๆ ปลูกต้นไม้กั้นไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวและช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้าน ใกล้กันมีส่วนซักล้างเล็ก ๆ  ที่ทำผนังกั้นสัดส่วนอย่างเรียบร้อย เติมลูกเล่นเล็ก ๆ ให้ผนังส่วนนี้ด้วยการเพ้นท์ลายต้นไม้สวย ๆ และมีประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดได้ หลังจากได้เยี่ยมเยียนโฮมออฟฟิศหลังนี้ สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ คือ ทุกคนในบ้านล้วนแต่รักในงานศิลปะ สังเกตได้จากทุกมุมและทุกชั้นของบ้านจะมีงานศิลปะสวย ๆ ประดับอยู่ ทั้งงานเพ้นท์และประติมากรรมต่าง ๆ ซึ่งเราเชื่อว่านี่คงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลาย ๆ คน ที่อยากใช้ชีวิตกับอะไรก็ตามที่ตนเองรักและชอบในทุกๆ วัน เช่นเดียวกับภาพบรรยากาศของบ้านหลังนี้...Designer’s Talk “การออกแบบโฮมออฟฟิศนี้มีโจทย์ไม่กี่อย่างเพราะพี่ชายมีภาพอยู่ในใจแล้ว ว่าอยากให้แต่ละชั้นมีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง การทำงานจึงค่อนข้างง่าย รวมถึงมีการพูดคุยกันเกือบทุกวัน ทำให้รู้ว่าพี่ชายอยากได้งานลักษณะไหน การรีโนเวตทาวน์เฮาส์หลังนี้เริ่มต้นจากทำส่วนออฟฟิศชั้น 2 และ 3 ก่อน เพราะต้องการย้ายเข้ามาอยู่เร็วที่สุด ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก มีเพียงทำบานเลื่อนและตกแต่งบางส่วนเพียงเล็กน้อย ใช้พื้นเดิมที่เป็นพื้นปูนเปลือยและกั้นผนังในแต่ละชั้น  “จากนั้นก็ขยับงานไปสู่ห้องพักชั้น 4 จนเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤษภาคม รูปแบบโดยรวมของบ้านเป็นสไตล์โมเดิร์นเรียบ ๆ มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้บิลท์อินสีวอลนัทที่เข้ากับพื้นไม้และผนังสีเทา ซึ่งช่วยให้การจัดวางภาพวาดสีสันสดใสบนผนังดูโดดเด่นขึ้น ข้อดีของโครงการนี้คือเขามีการจัดวางสเปซค่อนข้างดี เวลาตกแต่งภายในจึงค่อนข้างง่ายและไม่ค่อยมีปัญหา” Tip : เคล็ดลับการทำความสะอาดพื้นไม้- รอยขีดข่วนบนพื้นไม้ ขัดรอยขีดข่วนด้วยกระดาษทรายเนื้อละเอียด ระวังอย่ากินเนื้อที่เกินจำเป็น จากนั้นผสมยาขัดรองเท้าสีน้ำตาลเข้ากับขี้ผึ้งขัดพื้นเพียงเล็กน้อย  แล้วนำไปทาบริเวณที่เป็นรอย  จากนั้นถูให้เนื้อน้ำยากลืนเข้ากับเนื้อไม้
-หยดเทียนไข วางก้อนน้ำแข็งทาบบนหยดเทียนไขเพื่อให้แข็งตัว ใช้สันมีดค่อย ๆ แซะคราบน้ำตาเทียนออกไป จากนั้นทาน้ำยาขัดเงาชนิดน้ำเล็กน้อย แล้วใช้ผ้านุ่มเช็ดให้สะอาด
- คราบไขมัน ให้รีบเช็ดคราบออกด้วยกระดาษเช็ดมือหรือผ้า เสร็จแล้วผสมน้ำอุ่นเข้ากับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วนที่เท่ากัน นำผ้าสะอาดมาชุบน้ำที่ผสมไว้ บิดหมาด ๆ แล้วเช็ดให้ทั่วจนกว่าคราบไขมันจะจางไปขอบคุณ Room ฉบับเดือนตุลาคม คอลัมน์ Room to roomwww.roommag.com

แอบมองท่าแชะคนดัง สนุกร่วมงานปีใหม่แบรนด์ KENZO

แอบมองท่าแชะคนดัง สนุกร่วมงานปีใหม่แบรนด์ KENZO
ส่องดูแฟชั่นและท่าเก๊กถ่ายภาพของเหล่าเซเลบริตี้ที่มาร่วมงานฉลองความสำเร็จให้กับ KENZO แบรนด์เสื้อผ้า น้ำหอม เครื่องสำอาง สัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลก  

CELINE งามเด่น ต้อนรับฤดูกาลก่อนใคร

CELINE งามเด่น ต้อนรับฤดูกาลก่อนใคร
ฤดูหนาวยังไม่ทันผ่านพ้น เสื้อผ้ายังไม่ทันตกยุคสมัย แต่แบรนด์ เซลีน ก็พร้อมเอาใจสาวล้ำนำกาลเวลาด้วยคอลเลกชั่นใหม่ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ ปี 2013นับตั้งแต่ Phoebe Philo (ฟีบี้ ฟิโล) ได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ CELINE เมื่อสามปีที่แล้ว เธอก็ได้ทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นจุดสนใจจากเหล่าแฟชั่นนิสต้า รวมถึงสื่อแฟชั่นจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นแอคเซสเซอรี่อย่างกระเป๋า ซึ่งได้กลายเป็นไอเท็มยอดฮิตที่สาวๆ ทั่วโลกต่างหวังครอบครอง หากใครได้เดินทางไปแถวย่านหรูเมืองแมนฮัตตัน นิวยอร์กซิตี้ ก็คงหนีไม่พ้นที่จะเดินชนกระเป๋า Luggage อย่างแน่นอน นับเป็นกระแสที่เขย่าวงการแฟชั่นด้วยเสื้อผ้า และกระเป๋าสไตล์มินิมอลอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของฟีบี้นั้นเองสำหรับกระเป๋าซีซั่นฤดูใบไม้ผลิ 2013 ฟีบี้ ฟิโล ได้นำเสนอสองรูปทรงใหม่ อย่างรุ่น All Soft กระเป๋าที่ไม่มีการตกแต่งใดๆ สามารถถือแบบพับครึ่ง ซึ่งมาพร้อมกับกระเป๋าใบจิ๋วด้านในที่ถอดแบบมาจากกระเป๋าใบนอก และรุ่น Edge ที่รูปลักษณ์นั้นสอดคล้องกับชื่อของกระเป๋าที่ออกแบบมาให้เน้นโครงสร้างที่ชัดเจนส่วนของเสื้อผ้า ซีซั่นนี้เป็นการนำเสนอเสื้อผ้ายอดนิยมของฟีบี้อีกครั้ง โดยนำไอเดียมาดัดแปลงให้ดูเก๋มากยิ่งขึ้น สิ่งที่โดดเด่นก็คงจะไม่พ้นการนำเอาหนังมาใช้ โดยการตัดออกเป็นแนวเส้นตรงแล้วนำมาตัดเย็บในลักษณะแนวนอนสำหรับเสื้อยืด และเสื้อโค้ท รวมไปถึงหนังงู Python ที่นำใช้มาตกแต่งกระเป๋าเสื้อสเวตเตอร์ขนแพะ ผ้าพันคอลวดลายกราฟฟิกก็ได้นำกลับมาให้ชมอีกครั้ง โดยการนำมามิกซ์แอนด์แมตซ์กับกางเกงขาสั้นที่ทับด้วยกางเกงขายาวเนื้อผ้าบางสีขาวเหล่าสาวกฟีบี้จะไม่ผิดหวังกับกางเกงขายาวที่นำสีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงมาใช้ตกแต่งเป็นดีเทลตรงขากางเกง ซึ่งเป็นลุคที่ไม่ควรพลาด ส่วนการตัดเย็บนั้นก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นหัวใจสำคัญ และเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์ CELINE และนับเป็นสิ่งที่ทุกคนในวงการแฟชั่นต่างให้การยอมรับ หรืออีกนัยหนึ่งก็เปรียบเสมือนกับกระเป๋ารุ่น Luggage ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวแฟชั่นนิสต้าที่อาศัยอยู่ที่ย่านหรู ณ มหานครนิวยอร์ก 

Saturday, December 22, 2012

อลังการ ประชันแต่งต้นคริสต์มาส ฉลองความสุขทั่วโลก

อลังการ ประชันแต่งต้นคริสต์มาส ฉลองความสุขทั่วโลก
ไอเดียเจ๋งขึ้นทุกปีๆ พอถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรปและอเมริกา แต่สำหรับประเทศไทยเองก็ไม่น้อยหน้า เพราะทุกปีก็จะมีการจัดดิสเพลย์บนพื้นที่ลานกว้างให้ ทุกคนมาร่วมสนุกสนานกับการเก็บประทับใจอย่างเต็มที่... วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ จึงได้รวบรวมต้นคริสต์มาสของประเทศต่างๆ ที่ตกแต่งกันอย่างสวยงาม จะมีประเทศไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยมหานครแห่งความหรูหราบ้าแฟชั่นอย่าง กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นอกจากจะมีหอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์สุดโดดเด่นแล้ว ในช่วงคริสต์มาสแบบนี้ ก็ยังมีต้นคริสต์มาสยักษ์ตั้งตระหง่าน The Concorde Square ไว้อย่างสวยงามอีกด้วยThe Balloon wishes Christmas tree คืออีกหนึ่งสีสันที่ทำให้ประเทศเม็กซิโก มีชีวิตชีวา ดูจากภาพก็เห็นแล้วว่า มุมนี้ใครๆ ก็อยากมาถ่ายรูปต้นคริสต์มาส ที่ Manger Square ในเขตเวสต์แบงก์ สถานที่ประสูติของพระเยซูคริสต์สวยงามสอดรับกับสถาปัตยกรรมเบื้องหลังสำหรับต้นคริสต์มาส The Christmas Lights ที่มอนติคาโล คาสิโน ประเทศโมนาโกเมืองผู้ดีอย่างประเทศอังกฤษ พอถึงเทศกาลคริสต์มาสก็ไม่น้อยหน้าประเทศอื่นๆ เพราะเล่นจับคู่เอาความอลังการของ London  eye กับต้นคริสต์มาสมาสร้างบรรยากาศการเฉลิมฉลองใน Central Londonสำหรับในประเทศไทย ต้นคริสต์มาสก็ถือเป็นอีก 1 ไฮไลท์ของการเฉลิมฉลองในช่วงสิ้นปี ซึ่งสถานที่ที่คนไทยนิยมไปมากที่สุดก็คือลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยในปีนี้ยังคงคอนเซปต์การจัดดิสเพลย์ที่เข้ากับบรรยากาศในช่วงหน้าหนาว จำลองบรรยากาศคริสต์มาสของต่างประเทศมาไว้อย่างสวยงาม ซึ่งใครที่ไม่ได้ไปถ่ายรูปที่นี่ ถือว่าเชยสุดๆ เลยล่ะ 

กว่าจะเป็นโอลิเวีย คัลโปมิสยูนิเวิร์ส2012 ประมวลภาพสวย เซ็กซี่ ทรงเสน่ห์!

กว่าจะเป็นโอลิเวีย คัลโปมิสยูนิเวิร์ส2012 ประมวลภาพสวย เซ็กซี่ ทรงเสน่ห์!
โลกใบสีฟ้าแห่งนี้ ได้ต้อนรับสาวเจ้าของมงกุฎสาวที่สวยที่สุดในจักรวาลปี 2012 ไปครอบครองแล้ว ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ปี 2012 โดยปีนี้ คือ น.ส.โอลิเวีย คัลโป วัย 20 ปี สาวสวยจากประเทศสหรัฐอเมริกาไทยรัฐออนไลน์เก็บบรรยากาศทุกอิริยาบถบนเวทีมาให้ได้ชมกันเต็มอิ่ม มาดูกันว่า นางงามจักรวาลคนใหม่จะมีความสวย เซ็กซี่ ทรงเสน่ห์ขนาดไหน ไปชมพร้อมกัน.. 

ดิษยา Gifting 2012 Tea Musketeers คอลเลกชั่นชาหอม ของขวัญปีใหม่

ดิษยา Gifting 2012 Tea Musketeers คอลเลกชั่นชาหอม ของขวัญปีใหม่
ช่วงเวลาของเทศกาลส่งความสุข 2555 นี้ ดิษยา (Disaya) ร่วมกับแบรนด์ชาชั้นนำอย่าง นัมเบอร์ 57 (Balankura’s No. 57) ในการออกแบบส่วนผสมและกลิ่นพิเศษของคอลเลกชั่นใบชา 3 กลิ่น “ที มัสเกอเตียร์” (Tea Musketeers) ให้เข้ากับความรื่นเริงช่วงปลายปีนี้ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากคอลเลกชั่นฤดูหนาว “มาย คัพ ออฟ ที” (My Cup of Tea) ซึ่งเกี่ยวข้องกับธรรมเนียมการดื่มชาแบบอังกฤษผสมกับกลิ่นอายเสื้อผ้าหรูของดิษยาคอลเลกชั่นใบชา 3 กลิ่นพิเศษนี้ ทางแบรนด์ นัมเบอร์ 57 โดย ตาล-พิมพ์ชนก พลางกูร ได้ตั้งใจเฟ้นหาส่วนผสมพิเศษที่จะช่วยสร้างอารมณ์หอมหวานตั้งแต่ ขณะค่อยรินน้ำร้อนลงกระทบใบชาจนถึงช่วงเวลาจิบดื่ม โดยประกอบด้วย 3 กลิ่นดังนี้ไรซ์ พุดดิ้ง ไวท์ ที (Rice Pudding White Tea)การนำใบชาชั้นสูงอย่างชาขาว มาคั่วผสมกับเมล็ดข้าวเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเฉพาะตัว โดดเด่นด้วยกลิ่นวนิลาและครีมนม เหมาะสำหรับดื่มสบายๆ ยามบ่ายเบาๆแอปเปิล ครัมเบิล กรีน ที (Apple Crumble Green Tea)ว่ากันว่า ชาเขียวร้อน ชงใหม่ๆ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ แต่เมื่อผสมกลิ่นหอมสดชื่นของแอปเปิล วนิลา และคาราเมลเข้าไป ชาต้นตำรับจากญี่ปุ่นก็กลายเป็นสูตรขนมแอปเปิลครัมเบิลอบใหม่ๆ จากเตามาคารูน แบล็ค ที (Macaroon Black Tea)ใบชาดำรสเข้มข้น และมีกลิ่นหอมนุ่มละมุน ผสมกับกลิ่นเด่นอย่างเรดเบอร์รี่ กุหลาบ และสัมผัสนวลๆ ของวนิลา 

Friday, December 21, 2012

นิยาย เรื่องสั้น คำผกา เซ็กซี่... บุ๊กออนไลน์กับสาวสวยหยดย้อย!

นิยาย เรื่องสั้น คำผกา เซ็กซี่... บุ๊กออนไลน์กับสาวสวยหยดย้อย!
บุ๊กออนไลน์สัปดาห์นี้ไทยรัฐออนไลน์แนะนำหนังสือใหม่ที่ไม่อ่านไม่ได้ มาพร้อมกับสาวสวยเช่นเคย...คิดเล่น เห็นต่าง // สำนักพิมพ์มติชนการที่เราจะวิจารณ์อะไร ก็ต้องมีคำอธิบายที่หนักแน่นพอ นี่คือสิ่งที่เราจะต้องร่วมกันเปลี่ยนแอตติจูด (Attitude) ของสังคม ที่สุดแล้วการที่เราเขียนหรือวิพากษ์วิจารณ์ก็ด้วยความรู้สึกที่ว่าเราอยากเห็นสังคมที่เราอยู่นี้ ดีขึ้น และหนังสือเล่มนี้จะชำแหละทุกคำถาม ชัดเจนทุกคำตอบ กับทุกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ชวนคุณมาคิดเล่นๆ แต่เห็นต่าง ในมุมมองทางสังคม-การเมือง-และเรื่องใกล้ตัว, เพศอันหลากหลายที่อยู่รอบๆ ตัวเรา, นานาทัศนะกับคำ ผกา แล้วมาร่วม คิดเล่น เห็นต่าง กับหนังสือเล่มนี้กันนะคะDRAW Something // สำนักพิมพ์แซลมอนบันทึกอ่านสนุกของนักวาดเล่น สำหรับคนอยากวาดรูปเป็นแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง บันทึกรายวันของ ทีปกร วุฒิพิทยามงคล นักวาดกึ่งอาชีพที่งานชุก และงานชิคที่สุดในรุ่น เปิดบ้านให้ตรวจสอบแรงบันดาลใจในการขีดเขียนตลอดวัน และพร้อมชวนคุณมาวาดรูปเพื่อสุขภาพใจ! หนังสือเล่มนี้เน้นความสุขที่จะวาดรูปมากกว่าสิ่งอื่น เพราะไม่คิดว่าภาพที่สวยงามคือเป้าหมายของการวาดภาพเสมอไป บวกกับไม่อยากทำตัวเป็นหนังสือสอนวาดรูป จึงอุตริเสนอชีวิตการวาดรูปของทีปกรเสียส่วนใหญ่แทน ลองอ่านเรื่อง-ภาพของทีปกรดู คุณอาจจะพบว่าที่จริงความสุขนั้นหาง่ายและอาจหาได้ด้วยดินสอเพียงแท่งเดียวพรวด Puck // บริษัท บันลือ พับลิเคชั่นส์ จำกัดพรวด! เป็นเรื่องสั้นที่ตัวละครหลายๆ ตัว มีอาการกลัวเพี้ยนๆ พวกเขาและเธอกลัวการใช้ชีวิตจนชีวิตมีปัญหา การกลัวอะไรสักอย่างเกินไปมักทำชีวิตติดขัด ฉะนั้นแล้ว จงพรวดทำทุกอย่างเสียก่อน ก่อนจะกลัวผมเชื่อว่าเราคงไม่ตายง่ายๆ เพราะความอายไม่เคยฆ่าคน และคนกล้าเท่านั้นที่พร้อมจะพรวด! หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณกล้า และออกจากความกลัวต่างๆ ผสมผสานไปกับความฮา ติดตลกที่มีทั้งพลังลึกลับ, ขาหมูหยุดโลก, ขึ้นบ้านใหม่, หมูเล็ก, ความรักชาติ, จิ้งจก 8 หาง, แมวในขวด และเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมายที่รอให้คุณมาพุ่งพรวด!! ไปกับหนังสือแนวการ์ตูนอ่านสนุกเล่มนี้ค่ะมนตร์รัก ในลมร้อน Carnal Innocence // หนังสือในเครืออมรินทร์นิยายรักโรแมนติกที่เป็นเหมือนของขวัญชวนให้ยินดี...เป็นเรื่องราวความรักที่ยิ่งใหญ่ และได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว ซึ่งผลงานเขียนในความเป็นโนรา รอเบิร์ตส์ มักมีอะไรที่ทำให้เราตื่นเต้นเร้าใจอยู่เสมอ อย่างเช่นเรื่องนี้ที่มีทั้งความรักกุ๊กกิ๊กชวนจิกหมอน ฆาตกรรมอำพราง และประเด็นทางสังคมที่น่าสนใจ กับตัวละครในเรื่องนั้นแน่นอนว่าโนราก็ยังไม่ทำให้เราผิดหวัง คุณจะได้พบว่าตัวละครทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวเอก ตัวร้าย หรือตัวประกอบ ก็ต่างมีเสน่ห์ชวนประทับใจทั้งสิ้น ขอรับประกันว่านักอ่านทุกคนจะเพลิดเพลินกับหนังสือเล่มนี้จนลืมเวลาเลยทีเดียวTHE STONES // จัดจำหน่ายโดย เอเซียบุ๊คในปี 2012 นี้ วง Rolling Stone ได้ครบรอบ 50 ปี ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเขียนออกมาเพื่อรำลึกถึง วง meteoric ที่โด่งดังวงหนึ่งของโลก โดยผ่านการเขียนจากนักเขียนชื่อดังอย่าง Norman ซึ่งเนื้อหาในเล่มนี้จะมีความแตกต่างจากอัตชีวประวัติของคนดังทั่วไป เพราะ Norman ได้รวบรวมเรื่องราวความรัก ชื่อเสียง รวมทั้งข่าวอื้อฉาวต่างๆ มากมายไว้ในเล่มนี้ ใครที่เป็นแฟนคลับ Rolling Stone ห้ามพลาดค่ะMAXIM (ปก เนย โชติกา) ฉบับ ธ.ค.2012 MAXIM ส่งท้ายปีอย่างร้อนแรงบนแผงหนังสือ ด้วยความสวยเซ็กซี่ ของเนย โชติกา ที่จะมาเปิดอกเรื่องส่วนตัวและความหวานมัน ฉันคือ...เนย พร้อมกับการโพสท่าที่โดนใจชายแบบสุดๆ ยังไม่หมดแค่นั้น MAXIM ฉบับนี้ยังพาคุณไปอัพเดทเรื่องราวของชายที่ชื่อ สตีฟ จ็อบส์ แม้ว่าเขาจะจากพวกเราไปเกือบ 1 ปี แล้ว ชวนคนไร้คู่ไปสนุกสุดติ่งกับความโสดที่เฉลิมฉลองส่งท้ายปีกับสถานที่สุดแจ่ม, อัพเดทเบื้องหลังหนังไทยปี 55, เทรนด์ในการออกแบบรถเล็กหรือซิตี้ คาร์, และใครที่กำลังท้อแท้สิ้นหวัง ลองมาดูเรื่องราวของหนุ่มพิการชาวออสซี่ที่จะทำให้คุณมีกำลังใจกับการสู้ชีวิตในปีถัดไปค่ะMiX MAGAZINE (ครบรอบ 6 ปี) ฉบับ ธ.ค.2012 //เต็มอิ่ม! เพิ่มหน้าแฟชั่นพิเศษ แถมด้วยการแจกรางวัลใหญ่จุใจ รับฟรี! กับปฏิทินตั้งโต๊ะ 12 สาวเซเลบริตี้, 100 สิ่งที่สุดแห่งปี 2012, อัพเดทเทรนด์แฟชั่นทั้งชายและหญิง, Eco Car ที่ร้อนแรงที่สุดแห่งปี, เรื่องราวต่างๆ ของคนดังที่อาจเป็นประโยชน์ต่อแนวคิดของคุณ, กิจกรรมที่น่าสนใจในเดือนนี้, พลิกระบบทุนด้วยแนวคิดใหม่, ร่ำรวยก่อนแล้วค่อยบรรลุธรรม ซึ่งใครที่ไม่อยากพลาดเรื่องราวดีๆ และมีประโยชน์แบบนี้รีบไปจับจองเป็นเจ้าของลองเปิดอ่านกันดูนะคะ เพราะเขาอัดแน่นด้วยสาระความบันเทิงส่งท้ายปีกันอย่างเต็มที่สุดๆ ค่ะ 

ครึ่งทาง ไทยแลนด์ อีโคคาร์ 2012 ยอดจองทะลุเป้ากว่า 600 คัน!

ครึ่งทาง ไทยแลนด์ อีโคคาร์ 2012 ยอดจองทะลุเป้ากว่า 600 คัน!
ครึ่งทาง ไทยแลนด์ อีโคคาร์ & เฟิร์สต์คาร์โชว์ 2012 ยอดจองทะลุเป้ากว่า 600 คัน มหกรรมยานยนต์สุดท้ายก่อนปิดโครงการรถใหม่คันแรก...งานไทยแลนด์อีโคคาร์ แอนด์ เฟิร์สต์คาร์โชว์ 2012 งานแสดงรถยนต์ที่ตอบโจทย์และเปิดโอกาสพร้อมแคมเปญเด็ดๆ ให้ผู้ที่สนใจใช้สิทธิ์ซื้อรถยนต์คันแรกตามนโยบายของรัฐบาล ได้ใช้สิทธิ์กันอย่างเต็มที่ก่อนที่นโยบายดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.2555 นี้เท่านั้น โดยงาน ไทยแลนด์ อีโคคาร์แอนด์เฟิร์สต์ คาร์ โชว์ 2012 จัดขึ้น ณ ลานแฟชั่น แกเลอเรีย ห้างสรรพสินค้าเมกาบางนา กม.8 ระหว่างวันนี้ถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2555ภายในงานสัมผัสและทดลองขับรถยนต์จาก 7 ค่ายรถยักษ์ใหญ่ที่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า, โตโยต้า, มิตซูบิชิ, เชฟโรเลต, ซูซูกิ, นิสสัน และเกีย ที่นำแคมเปญเด่นของค่ายมากระหน่ำให้ประชาชนที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนทั้งวันแบบกระชากใจ และด้านอุปกรณ์ประดับยนต์และการปกป้องรถยนต์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นค่าย ฟิล์มฮิวเปอร์ อ็อปติค, แม็กม่า, คาร์ไชน์, ซีคเกอร์, ยางดันล็อป,พลัส 1 และฟิล์ม วีคูล ต่างจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษทุกผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งท้ายปีที่เอาใจคนรักรถยนต์ในงานครั้งนี้โดยเฉพาะโดยบรรยากาศทั้ง 5 วันที่ผ่านมา ยังมีประชาชนจำนวนมากที่แวะเวียนมาร่วมงาน พร้อมเข้ามาจองรถกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และเมื่อช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมามียอดจองรถยนต์รวมอยู่ที่ 415 คัน ส่วนในวันธรรมดาช่วงตอนเย็นก็ได้รับอานิสงส์จากผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาร่วมดูรายละเอียดและเปรียบเทียบข้อมูลของรถแต่ละบูธ จนได้ยอดจองไปอีกกว่าร้อยคัน โดยสรุปเมื่อผ่านไปเพียง 5 วันหรือครึ่งทางของการจัดงานไทยแลนด์อีโคคาร์ แอนด์ เฟิร์สต์คาร์โชว์ 2012 ยอดจองของทุกบูธได้ตัวเลขรวมกันกว่า 600 คัน แล้ว โดยมีค่ายฮอนด้ามาเป็นอันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 เป็นของค่ายนิสสัน และอันดับ 3 เป็นของมิตซูบิชิ โดยคาดว่าหลังจากนี้ถึงเสร็จสิ้นการจัดงาน ไทยแลนด์อีโคคาร์ แอนด์ เฟิร์สต์คาร์โชว์ 2012 วันสุดท้ายที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2555 จะมีเป้ายอดจองทั้งหมดอยู่ที่กว่า 1,000 คันนอกจากนั้นภายในงานครั้งนี้ยังมีกิจกรรมความสนุกมามอบให้กับผู้ร่วมงานทุกคน ทั้งการพูดคุยจากกูรูด้านรถยนต์, มินิคอนเสิร์ต ทั้งจาก มิ้นท์ เอเอฟ 3, แม็ค เอเอฟ 7, ไบท์ เอเอฟ 9, เบล สุพล ห้ามพลาดตั้งแต่วันนี้ – วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2555 ติดตามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.thailandecocarshow.com 

ปรนนิบัติผิวขาวผ่องใส รับปีใหม่อย่างเป็นสุขกับ SK-II

ปรนนิบัติผิวขาวผ่องใส รับปีใหม่อย่างเป็นสุขกับ SK-II
เอสเค-ทู เตรียมชุดผลิตภัณฑ์สุดพิเศษอันทรงคุณค่า เพื่อให้ทุกท่านมอบความสุขให้แก่ตนเองและคนที่คุณรักเป็นการปิดท้ายปีอย่างสวยงามและสมบูรณ์แบบ ชุดผลิตภัณฑ์แต่ละชุดประกอบด้วยเหล่าผลิตภัณฑ์อันทรงประสิทธิภาพจากเอสเค-ทู ทุกท่านจะได้คืนความมีชีวิตชีวาและความรื่นรมย์ให้แก่ตนเองในเทศกาลแห่งความสุขด้วยชุดผลิตภัณฑ์สุดพิเศษจากเอสเค-ทู ได้แก่ 3 ชุดผลิตภัณฑ์หลัก Best of the Best: 10th anniversary set, Aura Set, Revival Set และชุดผลิตภัณฑ์อื่นเข้าตอบโจทย์ทุกความปรารถนาที่ผิวต้องการ ได้แก่ Inspiration Set, His&Hers Set, Deluxe Special Set, Pitera Essence Set และ SK-II Fill-at-Will Set โดยในแต่ละชุดผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อประสบการณ์มหัศจรรย์แห่งผิวแลดูกระจ่างใสดุจกำเนิดใหม่ในปีที่ SK-II ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่ปีที่ 10 SK-II ขอมอบชุดผลิตภัณฑ์สุดพิเศษ Best of the Best: 10th anniversary สำหรับมอบในเทศกาลแห่งความสุข ประกอบไปด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ชิ้นเอกจากเอสเค-ทู เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอสเซนส์ (Facial Treatment Essence) เอสเซนเชียล พาวเวอร์ (Essential Power) และเซลลูมิเนชั่น เอสเซนส์ อีเอ็กซ์ (Cellumination Essence Ex) ซึ่งทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปรนนิบัติผิวที่ทรงประสิทธิภาพจากเอสเค-ทูเพื่อผิวดูกระจ่างใสทั้ง 5 มิติการปรนนิบัติผิวที่ดีที่สุดของ SK-II นำทุกท่านสู่ประสบการณ์ของผิวกระจ่างใสดุจกำเนิดใหม่ด้วยชุดผลิตภัณฑ์ Best of the Best: 10th anniversary set ดูแลผิวของคุณด้วยชุดผลิตภัณฑ์ Best of the Best: 10th anniversary จากเอสเค-ทู ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่เลือกสรรแล้วว่าดีที่สุดของเอสเค-ทู เปลี่ยนแปลงผิวให้ดูกระจ่างใสครบทั้ง 5 มิติจากผลิตภัณฑ์ยอดนิยมมากที่สุดของ SK-II ซึ่งก็คือ เอสเค-ทู เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอสเซนส์ สู่ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวเพื่อความกระจ่างใสเจิดจรัส เซลลูมิเนชั่น เอสเซนส์ อีเอ็กซ์ และก้าวไปอีกขั้นกับผลิตภัณฑ์พิเศษดูแลผิวและริ้วรอยแห่งวัยดุจความงามแห่งกาลเวลา 10 ปี เอสเซนเชียล พาวเวอร์ รวมเป็นชุดผลิตภัณฑ์ Best of the Best: 10th anniversary set พร้อมมอบพลังแห่งความงามด้วยประสบการณ์มหัศจรรย์แก่ทุกคนในช่วงเทศกาลแห่งความสุขหัวใจสำคัญของชุดผลิตภัณฑ์ Best of the Best: 10th anniversary คือผลิตภัณฑ์ยอดนิยมจากเอสเค-ทู เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอสเซนส์ อุดมด้วย Pitera™ กว่า 90% ส่วนประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของ Pitera™ นี้ ยังเป็นส่วนประกอบที่อยู่ในทุกผลิตภัณฑ์ โดยมีสารอาหารที่สำคัญสำหรับผิวกว่า 50 ชนิด ทำงานอย่างประสานสอดคล้อง เข้าดูแลผิวให้มีการผลัดเปลี่ยนผิวอย่างมีประสิทธิภาพตามธรรมชาติ เพื่อมอบผิวสุขภาพผิวดีทั้ง 5 มิติเฟเชียล ทรีทเมนท์ เอสเซนส์ จากเอสเค-ทู เปรียบดั่งจุดเริ่มต้นของการบำรุงผิว ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยยกระดับผิวทั้ง 5 มิติ ได้แก่ ความกระชับ ความเรียบเนียน จุดด่างดำ ริ้วรอย และความกระจ่างใส ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของความกระจ่างใสของผิวโดยรวมและที่พิเศษมากขึ้นไปอีกในปีนี้ เอสเค-ทูได้เพิ่มความพิเศษน่าสนใจให้กับ ขวด เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอสเซนส์ รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ด้วยการร่วมมือกับ Fashion House สุดคลาสสิกจากฝรั่งเศสอย่าง ROCHAS เพื่อรังสรรค์ออกแบบขวด เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอสเซนส์ รุ่นพิเศษ ด้วยลายลูกไม้อันเป็นเอกลัษณ์แสนประณีตของ ROCHAS ร้อยเรียงอยู่รอบตัวขวดอย่างอ่อนช้อย ทำให้ย้อนนึกถึงแสงไฟและสีสันเปล่งประกายวิบวับในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ยิ่งไปกว่านั้นตัวขวดยังถูกออกแบบมาให้มีสัมผัสราวกับไอเย็นจากฤดูหนาวพร้อมโทนสีเงินและแดง แสดงถึงบรรยากาศเทศกาลแห่งความสุข 

Thursday, December 20, 2012

ขัวศิลปะ-สะพานศิลปิน รวมพลังดินปั้น พู่กัน สี พลิกเมืองเชียงราย

ขัวศิลปะ-สะพานศิลปิน รวมพลังดินปั้น พู่กัน สี พลิกเมืองเชียงราย
ข้ามน้ำ ผ่านภูเขาสู่เหนือสุดของประเทศไทยที่ จ.เชียงราย เมืองที่หลายคนนิยมมาเที่ยวกันในช่วงหน้าหนาว เพราะได้เห็นดอกไม้หลากสีสันผลิบานตามสถานที่ท่องเที่ยว ได้ไปนมัสการตามวัดต่างๆ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย แต่จริงๆ แล้ว เชียงรายมีอะไรมากกว่าที่คุ้นเคย เพราะที่นี่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยงานศิลปะ ใครบางคนอาจมองไม่เห็น แต่ต่อไปนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่ช้า...มีศิลปินหลายชีวิตที่ขอปักหลักอยู่เชียงรายอย่างถาวร ทั้งมีบ้านเกิดที่นี่อยู่แล้วและมาจากที่อื่น เราอาจจะหาคำตอบที่ตายตัวไม่ได้ว่าเพราะอะไรศิลปินที่สร้างงานศิลปะถึงเลือกเชียงรายเป็นบ้าน แต่เหตุผลหนึ่งที่คล้ายกันก็คือ เชียงรายนอกจากจะเป็นเมืองที่สงบแล้ว ก็ยังมีเรื่องราวของศิลปะวัฒนธรรม ให้พวกเขาได้ค้นหาแรงบันดาลใจในการสร้างงานของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความสำเร็จของคนทำงานด้านนี้จะราบรื่นไปอย่างง่ายดาย เพราะตราบใดที่คนส่วนใหญ่มองว่าศิลปะเข้าถึงยาก การสนับสนุนผลงานก็เกิดขึ้นยากตามไปด้วย บรรยากาศภายในงานแถลงข่าวผลงานประติมากรรมไม้ไผ่ของเหล่าศิลปินเชียงราย ซึ่งนำมาจัดแสดงภายในงานแถลงข่าวเปิดตัวขัวศิลปะขัวศิลปะ Art Bridge Chiangrai (ABCR) เป็นไอเดียที่กลุ่มศิลปินเชียงรายพยายามสร้างขึ้นเพื่อให้สังคมเข้าถึงศิลปะง่ายขึ้น เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างศิลปินและคนทั่วไป โดยมีขัวศิลปะเป็นตัวเชื่อม ซึ่ง อ.สมลักษณ์ ปันติบุญ ศิลปินช่างปั้นระดับนานาชาติ เจ้าของดอยดินแดง ซึ่งรับหน้าที่เป็นประธานขัวศิลปะ ได้เล่าให้ฟังว่าเริ่มต้นมันก็มาจากความคิดที่อยากทำมูลนิธิขึ้นมาและมีจังหวะที่เหมาะสม แต่คราวนี้ก็ดีที่เราได้มาคุยกัน ทางเฉลิมชัยก็มาด้วย จู่ๆ ก็เอาเงินมาวางให้ 5 แสนบาท ว่าจะทำอะไรก็ทำ ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ถ้าเรามีใจซะอย่างทำให้ดี ทุกอย่างมันก็จะดี อย่างเรื่องที่ศิลปินจะทำบ้านให้เยี่ยมชม ผมว่าดีมาก เขาจะได้มีที่ขายรูปมีที่แสดงงาน และเป็นศูนย์รวมไว้คุยปรึกษากันด้วย แต่การขายงานมันจะเกิดการผลักดันเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เชิญคนอื่นมาแสดงงาน มันจะเกิดความหลากหลายมากขึ้น   ผมมองว่า ถ้าทำแกลเลอรี่อย่างเดียวมันยาก เพราะในไทยไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่  ขัวศิลปะเองเลยทำเป็นแกลเลอรี่ มีที่กินข้าว ที่ซื้อของ และเรียนศิลปะน่าจะดีกว่า ก็ต้องดูในอนาคตข้างหน้า เราก็มีความหวังว่ามันน่าจะดี เพราะเราตั้งใจสามัคคีกันทำขึ้นมา ที่จริงมันก็ยากเหมือนกันที่จะทำขัวศิลปะ เพราะเราทำงานกับคนหมู่มาก ศิลปินแต่ละคนก็จะมีความช่างคิดที่แตกต่างกันมีความปัจเจกก็เป็นปกติของเขา แต่ถ้าประเด็นมันชัดเจนก็คงต้องทำ ไม่ใช่ว่ายากหรือง่าย ถ้าเราทำสำเร็จมันก็ดีกับทุกคน และเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นได้ อย่างถ้าเราจะสร้างบ้านตัวเองเราก็ต้องทำเอง จะไปให้ใครทำได้ยังไง ด้าน อ.พลวัฒน์ ประพัฒน์ทอง อาจารย์ประจำสำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการผลักดันขัวศิลปะให้เกิดขึ้น เล่าว่าศิลปินอยู่ได้ด้วยผู้อุปถัมภ์และการแสดงผลงาน แต่ที่ผ่านมามันหายากมากขึ้นเรื่อยๆ ศิลปินรุ่นใหม่อาจจะต้องมองถึงวิธีการนำเสนอให้เหมาะกับยุคสมัยด้วย อาจต้องมีการปรับตัว จริงๆ รัฐต้องอุปถัมภ์ด้วย แต่ในไทยไม่ทำเลย ซึ่งมันก็ยาก อย่างศิลปินที่มีชื่อเสียงที่ผ่านมาก็มีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้น ถึงมีชื่อเสียงจนทุกวันนี้ ศิลปินต้องมีแนวทางเป็นของตัวเองที่โดดเด่นออกมาถึงจะมีชื่อเสียง ซึ่งยากมาก และต้องใช้เวลานานพอสมควร การทำงานของระบบราชการมันค่อยข้างช้า พวกศิลปินเขาเลยไม่รอกันแล้ว ซึ่งที่เราทำก็จะเป็นกึ่งการท่องเที่ยวด้วย เราจะมีการเปิดให้เที่ยวบ้านศิลปิน ซึ่งจริงๆ แล้ว มันก็เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมของจังหวัดเชียงราย อาคารขัวศิลปะเห็นความตั้งใจของเหล่าศิลปินที่อยากให้ขัวศิลปะแห่งนี้ได้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสังคม ก็คงต้องเอาใจช่วยให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งอีกไม่นานในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ก็จะเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ใครที่มีโอกาสแวะไปเที่ยว จ.เชียงราย ก็คงได้เห็นขัวศิลปะตัวจริง ที่มีทั้งที่กินข้าว ที่เสพศิลป์ และที่เรียนศิลปะ นอกจากนี้ ใครที่สนใจอยากไปเห็นวิถีชีวิของพวกเขา ว่าทำงานกันอย่างไร หาแรงบันดาลใจจากไหนในการสร้างผลงานก็สามารถไปดูได้ด้วยใครว่าศิลปินเข้าถึงยาก คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ได้แล้ว..Twitter : sriploi_social 

ตามหาปักษาสวรรค์!

ตามหาปักษาสวรรค์!
สารคดีสัปดาห์นี้ไทยรัฐออนไลน์พาไปตามหาปักษาแห่งสวรรค์...เมื่อเก้าปีก่อน ชายสองคนเริ่มต้นภารกิจค้นหาอันน่าทึ่ง นั่นคือ การออกตามหาและบันทึกภาพนกปักษาสวรรค์ในตำนานทั้งหมด 39 ชนิดเป็นครั้งแรก หลังการสำรวจ 18 ครั้ง และภาพถ่ายกว่า 39,000 ภาพ ความฝันของทั้งคู่ก็เป็นจริงในนิวกินีจิงโจ้ปีนต้นไม้ และผีเสื้อตัวโตพอๆ กับจานร่อนบินว่อนไปทั่วป่าดิบชื้นที่ซึ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมออกลูกเป็นไข่วิ่งเพ่นพ่านไปตามพื้นดินเฉอะแฉะ กบมีจมูกยาว และแม่น้ำอุดมไปด้วยปลาสายรุ้งแต่ไม่มีสัตว์น่าพิศวงชนิดใดในนิวกินีที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลงใหลได้มากเท่ากับสิ่งมีชีวิตที่อัลเฟรด รัสเซล วอลเลซ นักธรรมชาติวิทยาสมัยศตวรรษที่สิบเก้าเรียกว่า “เจ้าของเรือนขนที่งดงามและน่าอัศจรรย์ที่สุดในโลก” นั่นคือนกปักษาสวรรค์อีกแล้วนกปักษาสวรรค์ทั้ง 39 ชนิดพบได้เฉพาะบนเกาะนิวกินีและพื้นที่ใกล้เคียงอีกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น แม้จะมีการสำรวจและวิจัยนกดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ยังไม่มีใครเคยเห็นพวกมันครบทั้ง 39 ชนิดจนกระทั่งบัดนี้เมื่อปี 2003 เอดวิน สโกลส์  นักปักษีวิทยาจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์  และทิม เลเมน นักชีววิทยาและช่างภาพเริ่มวางแผนภารกิจค้นหาและบันทึกภาพนกปักษาสวรรค์ทุกชนิดพันธุ์  พวกเขาใช้เวลา 8 ปีและการสำรวจ 18 ครั้งในดินแดนแปลกตาที่สุดบางแห่งของโลก  จนสามารถเก็บภาพการเกี้ยวพาราสีและพฤติกรรมที่วงการวิทยาศาสตร์ไม่เคยล่วงรู้มาก่อนในโลกธรรมชาติคงมีความอัศจรรย์อีกเพียงไม่กี่อย่างที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับพฤติกรรมการเกี้ยวพาราสีของนกเพศผู้ในวงศ์  Paradisaeidae  ตั้งแต่การแพนเรือนขนสีทองอร่าม  การเริงระบำที่แลดูชวนขัน  ไปจนถึงขนและแผงคอสีเหลือบรุ้ง และสีสันที่เจิดจรัสยิ่งกว่าอัญมณี  ความวิลิศมาหราทั้งหมดนี้บังเกิดขึ้นเพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น  นั่นคือการดึงดูดความสนใจของนกเพศเมีย นกปักษาสวรรค์เป็นตัวอย่างสุดขั้วของทฤษฎีการคัดเลือกทางเพศ (Sexual Selection) ของชาร์ลส์ ดาร์วิน กล่าวคือ เพศเมียจะเลือกคู่โดยตัดสินจากลักษณะพิเศษบางอย่างที่ดึงดูดใจ  ซึ่งทำให้ลักษณะสืบสายพันธุ์เหล่านั้นมีโอกาสถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมากขึ้น  ความที่นิวกินีมีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์และแทบไม่มีศัตรูผู้ล่า นกเหล่านี้จึงแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ลักษณะสืบสายพันธุ์อันโดดเด่นสำแดงออกมาแทบจะเรียกได้ว่าไร้ขีดจำกัด เลเมนและสโกลส์ตั้งเป้าที่จะบันทึกภาพนกเหล่านี้ในลักษณะที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน  นั่นคือ ถ่ายจากมุมมองของนกเพศเมีย  บนเกาะบาตันตาทางตะวันตกของนิวกินี  เลเมนต้องปีนป่ายถึง 50 เมตรขึ้นไปยังเรือนยอดของป่าดิบชื้นเพื่อถ่ายภาพพฤติกรรมการเกี้ยวพาราสีของนกปักษาสวรรค์สีแดง  ส่วนบนคาบสมุทรฮิวออน ห่างออกไปทางตะวันออกราว 2,000 กิโลเมตร เขาติดตั้งกล้องถ่ายภาพไว้บนกิ่งไม้โดยทำมุมกดลงเพื่อให้ได้มุมมองของนกเพศเมียที่เห็นแผงขนอกสีสันสดใส และแผ่เป็นจีบรอบของนกพาโรเทียวาห์เนสเพศผู้แม้ทั้งคู่จะมีประสบการณ์ภาคสนามในพื้นที่เขตร้อนมาแล้วก่อนที่จะเริ่มภารกิจครั้งนี้ แต่ไม่มีใครคาดคิดถึงการผจญภัยที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า พวกเขาต้องนั่งหลังขดหลังแข็งไปกับเฮลิคอปเตอร์ และเดินป่าเป็นระยะทางไกลๆ ไปตามเส้นทางที่น้ำท่วมขัง ต้องลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเลถึงสองครั้งสองคราเมื่อเครื่องยนต์เรือเสีย รวมๆ แล้วพวกเขาต้อง นั่งเฝ้ารอและเฝ้าดูอยู่ในบังไพรกว่า 2,000 ชั่วโมง เพื่อแลกกับช่วงเวลาแห่งการค้นพบอันน่าตื่นตาการพบเห็นนกมานูคอดโจบิขนสีฟ้าและดำเป็นมันวาวเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2011 เป็นการปิดฉากการสำรวจอันยาวนาน  สโกลส์และเลเมนหวังว่าผลงานของพวกเขาจะปลุกกระแสการอนุรักษ์ขึ้นในนิวกินี  ที่ซึ่งถิ่นอาศัยของนกเหล่านี้ได้รับการปกป้องมาจนถึงปัจจุบันเพียงเพราะอยู่ห่างไกล ดังเช่นที่วอลเลซบันทึกไว้ว่า “ธรรมชาติดูเหมือนจะเตรียมการไว้ทุกขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจได้ว่า สมบัติอันล้ำค่าที่สุดเหล่านี้จะไม่สูญเสียคุณค่าไปเพียงเพราะได้มาโดยง่าย”ภาพถ่าย ทิม เลเมน เรื่อง เมล ไวต์ 

PANDORA Special Limited Edition

PANDORA Special Limited Edition
หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับคอลเลกชั่น My First Pandora เซตสตาร์ตเตอร์สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของแพนโดร่าชิ้นแรก กลับมาครั้งนี้แพนโดร่า (PANDORA) แบรนด์ชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก ขอนำเสนอคอลเลกชั่นเครื่องประดับใหม่ล่าสุดเอาใจชาวไทยและต่างชาติกับ “Unforgettable Moments Thailand” ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความน่าประทับใจของเมืองไทยผ่านสร้อยข้อมือและชามต่างๆ ที่บ่งบอกความเป็นไทยได้เป็นอย่างน่าประทับใจและสามารถอยู่ความทรงจำของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี โดยคอลเลกชั่นพิเศษจาก PANDORA ในครั้งนี้มีให้เลือกทั้งหมด 5 เซตได้แก่I LOVE THAILAND เซตหลักของคอลเลกชั่นที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นประเทศไทยโดยเฉพาะผ่านตัวชามมูราโน่รูปธงไตรรงค์ ชามรูปช้างสัตว์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ความเป็นไทย และชาม Buddha ที่บ่งบอกความเป็นเมืองพุทธ ทั้งหมดถือเป็นสัญลักษณ์ความเป็นไทยอย่างแท้จริงI LOVE PHUKET เซตที่นำเสนอเรื่องราวความน่าประทับใจของชายทะเลยอดฮิตติดอันดับโลกของเมืองไทย ผ่านชามรูปปลาโลมาที่เป็นสัญลักษณ์ของความร่าเริงสดใสในท้องทะเลรวมถึงชามรูปหอยและยังมีชามรูปสับปะรดผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ต และชามมูราโน่สีฟ้าอ่อนสดใสบ่งบอกถึงความสดใสของท้องฟ้าและท้องทะเลได้เป็นอย่างดีI LOVE PATTAYA อีกหนึ่งเซตที่น่าสนใจ ที่บ่งบอกเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการความแปลกใหม่และความสนุกสนาน ผ่านชามที่เล่าเรื่องราวของเมืองพัทยาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นชามมูราโน่สีฟ้า สีเขียวที่เน้นความสดใสมีชีวิตชีวาของเมืองพัทยา ชามรูปเรือสำราญที่เน้นย้ำความเป็นเมืองที่มีท่าเรือธุรกิจในระแวกชายฝั่งทะเลตะวันออก ชามรูปเต่ากับเทศกาลการปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ท้องทะเลซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ชาวเมืองพัทยาและชลบุรีให้ความสำคัญมาโดยตลอดI LOVE CHEINGMAI เซตที่บอกเล่าเรื่องราวเมืองเหนือที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติยกย่องถึงความเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมอันดีงาม ที่เล่าเรื่องราวผ่านชามไม้ ธุรกิจค้าไม้ที่ถือเป็นธุรกิจที่ขึ้นชื่อของชาวภาคเหนือของไทย ชามตัวอักษรเลขหนึ่งไทยโบราณที่สามารถอธิบายความเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีวัฒนธรรมและความรุ่งเรืองในอดีตกาล ชามรูปดอกไม้และดอกกุหลาบที่สามารถแสดงให้เห็นถึงเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับที่โด่งดังไกลไปทั่วโลกI LOVE CHEINGRAI นอกจากเชียงใหม่เมืองทางเหนือที่ได้รับความนิยมแล้ว จังหวัดเชียงรายก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีเรื่องราวมากมายที่น่าจดจำเพราะเคยเป็นเมืองที่สำคัญในอดีต ทั้งยังเป็นเมืองเหนือสุดของดินแดนสยามอีกด้วย โดยชามที่แพนโดร่านำมาถ่ายทอด อาทิ ชามมูราโน่ธงไตรรงค์สัญลักษณ์ความเป็นชาติไทย ชามรูปม้าซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอีกสิ่งของชาวเหนือ ชามรูปดอกไม้กับเทศกาลงานดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นทุกๆ ปี และชามไม้สัญลักษณ์ธุรกิจการค้าไม้และการแปรรูปไม้ที่มีความสำคัญของจังหวัด. 

Wednesday, December 19, 2012

สร้างจิตให้ฉลาด ฝึกสมองให้เป็นอัจฉริยะ!

สร้างจิตให้ฉลาด ฝึกสมองให้เป็นอัจฉริยะ!
สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีจัดงานเสวนาหัวข้อ ‘จิตอัจฉริยะ...รหัสลับแห่งปัญญา’ ตอน ครูโน้ตกับศิลปินแห่งชาติ ถอดรหัสศึกษาวิธีคิดของบุคคลต้นแบบความเป็น ‘อัจฉริยะ’ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงองค์ความรู้จากศาสตร์ต่างๆ ผสานกับองค์ธรรมแห่งพระพุทธศาสนา แล้วประมวลผลออกมาเป็นวิธีคิดง่ายๆ จนสามารถมองทุกสรรพสิ่งได้อย่างลึกซึ้ง เปี่ยมด้วยพลัง มีจินตนาการที่ลุ่มลึก และแปลงเป็นความจริงด้วยการลงมือทำ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในการฝึกพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ จากกระแสตอบรับที่ดีของหนังสือ ‘จิตอัจฉริยะ Genius 7’ ผลงานของ ดร.ปริญเนตร สุวรรณศรี หรือ ครูโน้ต สุดยอดนักยุทธศาสตร์การเรียนรู้ ผู้อยู่เบื้องหลังเด็กไทยในการเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันศิลปกรรมระดับโลก ที่เปิดเผยวิธีการสร้างจิตให้ ‘ฉลาด’ ฝึกสมองให้เป็น ‘อัจฉริยะ’ อย่างรอบด้าน ซึ่งเผยแพร่ออกสู่สังคมเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีจึงต่อยอดจัดกิจกรรม ‘จิตอัจฉริยะ...รหัสลับแห่งปัญญา’ เพื่อเสริมความรู้ความเข้าใจในการสร้างความเป็น ‘จิตอัจฉริยะ’ ด้านต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มต้นด้วยตอน ครูโน้ตกับศิลปินแห่งชาติ ที่เน้นการใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือข่วยสร้างความคิดเชื่อมโยงจินตนาการ โดยมีแขกรับเชิญ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้เป็นต้นแบบ ‘จิตอัจฉริยะ’ ด้านศิลปกรรมในระดับโลก ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ในปี พ.ศ. 2554 เป็นผู้ที่มีธรรมะและสติเป็นธงชัยในการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นเป็นวิถีของ
จิตอัจฉริยะอย่างแท้จริง ‘จิตอัจฉริยะ’ เป็นการถอดรหัสจากทุกสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติรอบตัวมาหลอมรวมกับหลักธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยการสังเกตและเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ แบบที่เราอาจคาดไม่ถึงหรืออาจจะไม่เคยสังเกตพบ ผสมผสานองค์ความรู้ต่างๆ แล้วต่อตรงเข้าสู่จิต เพื่อประมวลผลออกมาเป็น วิธีคิดที่ง่าย งอก งาม จนสามารถมองทุกสรรพสิ่งได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะสามารถนำไปใช้สร้างสรรค์ได้ทุกเรื่องในชีวิต และรู้ว่าจะต้องใช้แนวคิดแบบใด เมื่อไร เพื่อให้ตรงกับทางออกที่ดีที่สุดของปัญหา ทำให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างสมดุล อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ กล่าวว่า “ผมบอกได้เลยว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ คือ เป็นผู้ที่เรียนรู้ทุกอย่าง แล้วแยกแยะ บริหารจัดการคัดกรองด้วยตนเอง ไม่ได้ทำตามพ่อแม่ทุกอย่าง เพราะพ่อแม่อยู่สูงสุดของชีวิต แต่ไม่ใช่ต้นแบบในชีวิต ถ้าเป็นอัจฉริยะจริงๆ จะเรามองและก้าวข้ามเช่นนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในชีวิตของเรานั้น จะต้องมีความสำเร็จทางจิตใจด้วย ซึ่งก็คือความดีงาม แต่ทุกวันนี้บ้านเมืองเราเจริญรวดเร็ว แต่จิตใจเรากลับไม่พัฒนา ทำให้ประเทศชาติล้าหลังมาก ขยับช้า เพราะฉะนั้นการอ่านเป็นสิ่งสำคัญ ผมจะไม่บอกว่าหนังสือ ‘จิตอัจฉริยะ’ เป็นหนังสือที่ดีที่สุด แต่จะบอกว่าเป็นหนังสือที่ควรอ่าน เพราะทำให้รู้ว่าเราจะมีจิตอัจฉริยะเหนือผู้อื่นได้อย่างไร แล้วเทียบกับหลายๆ อย่างให้เข้าใจได้ง่าย และยังเสริมทักษะในการดำรงชีวิตที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในอาชีพ อย่างที่ครูโน้ตเคยทำสำเร็จมาแล้วอีกด้วย” 

หยุดอาการคัดจมูกเรื้อรัง ด้วยคลื่นวิทยุ

หยุดอาการคัดจมูกเรื้อรัง ด้วยคลื่นวิทยุ
ภาวะคัดจมูกเรื้อรัง ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแย่กว่าคนทั่วไป เช่น เสียสมาธิในการเรียน การทำงาน ไม่มีความสะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ หรือแม้กระทั่งการนอนหลับพักผ่อน ซึ่งบางกรณีทำให้เกิดภาวะนอนหลับยาก หรือนอนหลับไม่สนิท อันส่งผลต่อเนื่องทำให้เกิดภาวะง่วงในเวลากลางวันได้สาเหตุของภาวะคัดจมูกเรื้อรังที่พบบ่อยภาวะเยื่อบุจมูกส่วนล่าง (inferior turbinate) บวมโต ทำให้ปากทางของช่องจมูกแคบลง ส่งผลให้อากาศไม่สามารถผ่านช่องจมูกได้อย่างสะดวก ภาวะนี้อาจเกิดจากเยื่อบุจมูกอักเสบชนิดภูมิแพ้ที่เป็นเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุจมูกส่วนล่างเกิดการบวมโตมากกว่าปกติ หรือเกิดจากการอักเสบเรื้อรังก็ได้ภาวะสันจมูกคด ทำให้เกิดอาการคัดจมูกข้างใดข้างหนึ่งอยู่เสมอ ซึ่งภาวะนี้อาจเกิดร่วมกับภาวะเยื่อบุจมูกบวมโตก็ได้การอักเสบในช่องโพรงจมูกและไซนัส ภาวะการอักเสบของไซนัส จะทำให้มีมูกปนหนองไหลออกจากโพรงไซนัสมาที่บริเวณเยื่อบุจมูกตลอดเวลา ซึ่งส่งผลให้เกิดการบวมของเยื่อบุจมูกเรื้อรังได้เช่นกันภาวะต่อมอดีนอยด์โต มักพบในผู้ป่วยเด็กที่มีภูมิแพ้จมูกอักเสบ หรือไซนัสอักเสบเรื้อรังการรักษาแพทย์เฉพาะทางหู คอ จมูก จะทำการตรวจร่างกาย เพื่อวินิจฉัยภาวะคัดจมูกเรื้อรัง ว่ามาจากสาเหตุใด และให้การรักษาตามสาเหตุ เช่น ควบคุมภูมิแพ้ในผู้ป่วยที่มีสาเหตุจากภูมิแพ้ ผ่าตัดแก้ไขสันจมูกในกรณีที่สันจมูกคดมาก หรือรักษาการติดเชื้อในกรณีมีการอักเสบติดเชื้อภายในช่องจมูกสำหรับผู้ป่วยกลุ่มที่แพทย์วินิจฉัยว่า มีภาวะเยื่อบุจมูกส่วนล่างโต ส่งผลให้เกิดอาการคัดจมูก แม้ว่าจะทำการรักษาสาเหตุไปแล้ว แต่ยังมีอาการคัดจมูกเรื้อรังอยู่ ในปัจจุบันมีเครื่องมือที่เรียกว่า RF (Radio frequency) จะทำการปล่อยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุผ่านเข็มเล็กๆ ซึ่งจะเหนี่ยวนำให้เนื้อเยื่อรอบๆ เข็มเกิดความร้อน และเกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อจากพังผืดเล็กๆ ที่เกิดขึ้นตามมาภายหลังทำการจี้เยื่อบุจมูก ซึ่งจะส่งผลให้เยื่อบุจมูกบริเวณที่จี้ไปเกิดการหดตัวเล็กลง ทำให้ทางเดินอากาศของช่องจมูกใหญ่ขึ้นกว่าเดิมการหดตัวของเยื่อบุจมูกจะเริ่มหดตัวหลังทำการจี้ไปแล้ว 1-3 สัปดาห์ โดยการหดตัวทำให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้โล่งจมูกมากขึ้น ผู้ป่วยกว่าร้อยละ 80 จะยังรู้สึกหายใจโล่งแม้ว่าเวลาผ่านไปมากกว่า 1 ปี  การรักษาด้วยวิธีนี้สามารถทำซ้ำได้ ถ้ามีอาการคัดจมูกจากเยื่อบุจมูกบวมโตกลับมาอีกครั้ง และผู้ป่วยบางราย นอกจากอาการคัดจมูกซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของการจี้เยื่อบุจมูกดีขึ้นแล้ว อาการ คัน จาม น้ำมูกไหล หรือเสมหะลงคอ ก็ลดลงได้เช่นเดียวกันการจี้เยื่อบุจมูกนั้น สามารถทำแบบผู้ป่วยนอกได้ โดยการใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ หรือนอนโรงพยาบาล ใช้เวลาเพียง 15-30 นาที พักดูอาการหลังทำการจี้จมูกอีกประมาณ 30-60 นาที ก็สามารถกลับบ้านได้ การปฏิบัติตนและสิ่งที่ควรทราบหลังการรักษา 1.  ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้หลังจากพักฟื้นเพียง 1-2 ชั่วโมง ยกเว้นบางรายที่แพทย์เห็นสมควรให้นอนพักนานขึ้น และผู้ป่วยจะได้รับยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ยาลดบวม แล้วแต่อาการ 2.  หลังการรักษาสัปดาห์แรก อาการมักยังไม่ดีขึ้นทันที ผู้ป่วยอาจมีอาการแสบ หรือเจ็บภายในจมูก และมีน้ำมูกหรือ เลือดกำเดาออกเล็กน้อย ซึ่งอาการดังกล่าวมักจะหายไปเองในเวลาต่อมา3.  หลังรักษาไปแล้ว 48-72 ชั่วโมง ควรล้างทำความสะอาดในช่องจมูกบริเวณที่รักษาเบาๆ โดยใช้น้ำเกลือ เพื่อป้องกันการเกิดสะเก็ดแผล ซึ่งเกิดจากน้ำมูกและคราบเลือดที่ค้างอยู่ ผู้ป่วยควรล้างจมูกวันละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย ยกเว้นมีเลือดออกมากให้หยุดล้างจมูกชั่วคราว และใช้ยาหยอดห้ามเลือดแทน4. หลังรักษาโดยทั่วไปผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิต หรือทำกิจกรรมได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรงๆ หรือการกระแทกบริเวณจมูก และหลีกเลี่ยงการออกกำลังที่หักโหมใน 24 ชั่วโมงแรก 5. ถ้ามีเลือดออกจากจมูก ควรนอนพัก ยกศีรษะสูง หยอดยาหยอดจมูกห้ามเลือด แต่ถ้าเลือดออกไม่หยุดควรไปพบแพทย์หลังจากทำการรักษาด้วยวิธีการจี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ หรือ RF แล้ว แพทย์จะนัดผู้ป่วยทุกรายมาดูแผลครั้งแรกประมาณ 1 สัปดาห์หลังรักษา และหลังจากนั้นจะนัดมาเป็นระยะ หากอาการต่างๆ ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร แพทย์จะแนะนำทางเลือกในการรักษาตามความเหมาะสมต่อไป คลินิกหู คอ จมูก โรงพยาบาลเวชธานี

คนรักเพรทเซลยิ้มกว้าง อานตี้ แอนส์ มอบสิทธิ์ดีๆให้อีกเพียบ

คนรักเพรทเซลยิ้มกว้าง อานตี้ แอนส์ มอบสิทธิ์ดีๆให้อีกเพียบ
อานตี้ แอนส์ ผู้นำตลาดซอล์ฟเพรทเซลของประเทศไทย เปิดตัวบัตรสมาชิกเพรทเซลคลับ คลับแห่งความอร่อย สุดคุ้ม ให้คุณได้ยิ้มกว้างกว่าเดิม กับ “Pretzel Club Keep Your Smile 2013” เปิดต้อนรับสมาชิกใหม่เพียง 150 บาท หรือสมาชิกเก่า (ปี 2012 เท่านั้น) ต่ออายุความอร่อย คุ้มค่า เพียง 120 บาท (บัตรหมดอายุ 31 Dec 2013) ได้อร่อยกับเพรทเซลฟรี !! ทุกวัน พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมาย รวมมูลค่ากว่า 4,000 บาท อาทิ- ซื้อ 1 แถม 1 ฟรี (จำนวน 60 ครั้ง / ปี) - รับส่วนลด 15% เมื่อซื้อสินค้าในราคาปกติ- Pretzel Club Mileage สะสมแต้มความสุข รับความอร่อยฟรี (1 บาท = 1 Point)- Free Pretzel 2 ชิ้น เมื่อซื้อบัตรสมาชิก “Pretzel Club Keep Your Smile 2013” - Free Pretzel 1 ชิ้น เมื่อลงทะเบียนสมาชิกผ่านทางเว็บไซต์ www.pretzelclub.com- Free Pretzel 2 ชิ้น ในวันเกิด- และรับส่วนลดพิเศษจากร้านอาหารในเครือ CRG และสินค้าแบรนด์ดังมากมาย อาทิ Laura mercier, Payot, Major Cineplex เป็นต้น 
อานตี้ แอนส์ ตอกย้ำความเป็นแบรนด์แรก และแบรนด์หลักที่ให้สินค้าหนึ่งฟรีหนึ่งอย่างแท้จริงแบบไม่มีเงื่อนไข และพิเศษยิ่งขึ้นกับโปรแกรมสะสมแต้มแลกรับความอร่อยกับ Pretzel Club Mileage ยิ่งอร่อยมาก ยิ่งคุ้มมาก รับประกันความสดใหม่ของเพรทเซลภายใน 30 นาที เพื่อให้ได้สัมผัสกับเพรทเซลแสนอร่อย อบร้อน กรอบนอกนุ่มใน โอ้โห! สิทธิพิเศษมากมายขนาดนี้ รอช้าอยู่ทำไมจ้า...

Sunday, December 16, 2012

Let’s Get the Loft Look! สเปซเดิม โฉมใหม่ สไตล์ลอฟต์

Let’s Get the Loft Look! สเปซเดิม โฉมใหม่ สไตล์ลอฟต์
ในยุคที่ “สไตล์ลอฟต์” กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการอยู่อาศัยแบบโมเดิร์น หลายคนคงอยากลองเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งบ้านใหม่ให้ดูฮอตฮิตติดชาร์ตกับเขาบ้าง แม้พื้นที่เดิมจะไม่ได้โปร่งโล่ง ช่องเปิดกว้าง เพดานสูง ผนังปูนขัดมัน แต่เราก็สามารถสร้างบรรยากาศเรียบเท่สไตล์ลอฟต์ได้ด้วยการปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งที่สะท้อนตัวตน ให้ความรู้สึกของไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ แต่ยังอบอุ่นด้วยความเป็น “บ้าน” ในระหว่างที่คุณอาจจะยังจินตนาการถึงบ้านโฉมใหม่ไม่ออก เราขอพามาเยี่ยมชมโครงการสราญสิริ ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ ที่นี่ตกแต่งบ้านตัวอย่างด้วยสไตล์ลอฟต์ได้น่าสนใจมาก ซึ่งอยู่ภายใต้คอนเซปต์ Modern Loft รูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันระหว่างความโมเดิร์นดูเรียบง่ายตรงไปตรงมา กับสเปซเปิดโล่ง สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย อีกทั้งเขายังได้เลือกใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกเรียบเท่ แต่ไม่แข็งกระด้าง เห็นอย่างนี้อาจรู้สึกว่าเก๋ แต่ถ้าได้ลองไปสัมผัสจริง รับรองว่าคุณจะได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ เหมือนเราแน่นอนสไตล์ลอฟต์มาจากไหน?ก่อนจะเริ่มลงมือแปลงโฉมบ้าน เรามารู้จักเบื้องลึกเบื้องหลังของการตกแต่งสไตล์ลอฟต์กันสักหน่อย ถ้าลองเปิดพจนานุกรม “ลอฟต์” คือห้องเพดาน หรือพื้นที่ใต้หลังคา แต่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 “ลอฟต์” ถูกเปลี่ยนความหมายใหม่ที่กินความไปถึงที่อยู่อาศัย ซึ่งพัฒนามาจากโรงงาน หรือโกดัง เมื่อครั้งเกิดเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกและโรงงาน อันเป็นผลพวงมาจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมต้องปิดตัวลง กลุ่มคนที่ไม่สามารถซื้อ หรือเช่าบ้านในเมืองที่มีราคาสูงได้ จึงยึดเอาพื้นที่โรงงาน หรือโกดังเก่านี้เป็น “บ้าน” หลังใหม่ รวมไปถึงบรรดาศิลปินที่ต้องการพื้นที่กว้างขวางเปิดโล่ง ไม่มีการแบ่งฟังก์ชั่นใช้งานที่ชัดเจนเกินไป เพื่อใช้สำหรับสร้างสรรค์งานศิลปะได้อย่างอิสระ แต่ที่ทำให้สไตล์นี้โดดเด่นจริงๆ นั้น เห็นจะมาจาก New York Loft ในย่าน So Ho ที่ศิลปินและดีไซเนอร์มักออกแบบตกแต่งได้เก๋ไก๋ จนกลายเป็นสไตล์เฉพาะที่ได้รับความนิยมแพร่หลายกระทั่งมาถึงปัจจุบัน ความเรียบง่ายของวัสดุและโครงสร้างแบบอุตสาหกรรม ผสานกับพื้นที่เปิดโล่งยังเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหล และ “สไตล์ลอฟต์” ก็เขยิบมาเป็นแรงบันดาลใจและสไตล์การตกแต่งสามัญประจำบ้านไปโดยปริยายขอบคุณ Room ฉบับเดือนพฤศจิกายน คอลัมน์design we lovewww.roommag.com

ปันของเล่นผ่านต้นคริสต์มาส ทำบุญก่อนเริ่มปี 2013

ปันของเล่นผ่านต้นคริสต์มาส ทำบุญก่อนเริ่มปี 2013
เพียงแค่เสียสละของเล่นชิ้นเก่งในตู้เก็บของ มอบให้โรงแรมอีสติน มักกะสัน กรุงเทพฯเพื่อนำไปประดับต้นคริสต์มาส ก่อนจะนำไปสร้างรอยยิ้มให้เด็กๆ ผู้ยากไร้โรงแรมอีสติน มักกะสัน กรุงเทพฯ เชิญชวนทุกท่านร่วมส่งมอบความสุขให้กับน้องๆ ที่ด้อยโอกาส ได้มีของขวัญชิ้นพิเศษ ในวันปีใหม่และวันเด็กแห่งชาติ พร้อมคืนรอยยิ้มให้น้องๆ อีกครั้งผ่านการแบ่งปันเพียงเล็กน้อยของคุณ ด้วยการบริจาคตุ๊กตาและของเล่นที่เหลือใช้ซึ่งอยู่ในสภาพที่ยังสามารถใช้งานได้ โดยทางโรงแรมฯจะนำไปประดับตกแต่งบนต้นคริสต์มาส บริเวณชั้นล็อบบี้ และจะทำการส่งมอบให้กับเด็กๆในชุมชนและโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณโรงแรมฯ ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคตุ๊กตาและของเล่นได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2556 ณ ล็อบบี้ ชั้น 7 โรงแรมอีสติน มักกะสัน กรุงเทพฯ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2651-7600

แมน เข้ม คลาสสิก ‘ALBA Premier’ ครบจบในเรือนเดียว

แมน เข้ม คลาสสิก ‘ALBA Premier’ ครบจบในเรือนเดียว
การจะเป็นบุรุษดูดีมีระดับ นาฬิกาข้อมือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ ALBA แบรนด์นาฬิกาแดนปลาดิบ จึงเปิดตัว “ALBA Premier” สุดยอดเรือนเวลาสุดหรูสไตล์คลาสสิกALBA ผู้นำเทรนด์เรือนเวลาคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น ขอนำความลักส์ชัวรี่ ระดับพรีเมี่ยม มาช่วยเติมลุคเทรนดี้ ให้กับหนุ่มทันสมัยที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายแห่งความคลาสสิกเฉพาะตัวเช่นคุณ กับ  “ALBA Premier” (อัลบา พรีเมียร์) เรือนเวลาหรูบนหน้าปัดสีน้ำตาล (Brown IP Coating) พร้อมขอบตัวเรือนพิงค์โกลด์และสายหนัง ที่กำลังอินที่สุดในยุคนี้ จัดเต็มกับฟังก์ชั่น Chronograph ระบบ instant reset บนหน้าปัด 3D ซ้อนเลเยอร์ บอกเวลาแบบ 3 เข็ม พร้อมช่องแสดงวันที่ ง่ายต่อการใช้งานด้วยปุ่ม pusher แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร และประสิทธิภาพในการกันน้ำถึง 50 เมตร ในราคาสบายกระเป๋า  ร่วมจับจองเรือนเวลาระดับพรีเมี่ยม ที่ลงตัวกับรสนิยมของหนุ่มเทรนดี้เช่นคุณกับ “ALBA Premier” ได้แล้ววันนี้

Wednesday, December 12, 2012

HONDA JAZZ HYBRID (ตอนที่2)

HONDA JAZZ HYBRID (ตอนที่2)
ตอนที่สองของการทดสอบยานยนต์ประหยัดพลังงานเครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า Honda Jazz Hybrid สมรรถนะ ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 88 แรงม้าบวกพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 14 แรงม้า บนระบบขับเคลื่อนแบบสะอาด Honda Hybrid IMA ....ภายในของ Jazz Hybrid แทบไม่แตกต่างไปจากรุ่นเครื่องยนต์ปกติในรุ่น V มีเพียงหน้าปัดมาตรวัดกับสีสันที่แปรเปลี่ยนไปเพื่อให้เจ้าของได้รับรู้ว่า กำลังขับรถ Jazz เครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า หน้าปัด MID ยังทำหน้าที่แจ้งเตือนตำแหน่งการเปิดปิดประตู เข็มขัดนิรภัย อุณหภูมิภายนอก ระยะทางต่อเชื้อเพลิงในถังที่สามารถไปถึง ระบบชาร์จและถ่ายเทพลังงานของการขับเคลื่ิอนทั้งจากเครื่องยนต์และจาก มอเตอร์ไฟฟ้า (ซึ่งทำงานน้อยไปสักนิด) รวมถึงการแจ้งเตือนระดับของการขับขี่ในโหมด ECON เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้คันเร่งได้อย่างถูกต้องและประหยัดเชื้อเพลิงอย่างสูงสุดเท่าที่ระบบ Hybrid IMA จะสามารถทำได้ ตำแหน่งท่านั่งที่สูงโด่งคล้ายการควบคุม MINI MPV แม้จะทำให้ทัศน์วิสัยของการมองเห็นกว้างขึ้น แต่ผมอยากได้เบาะที่ปรับระดับให้เตี้ยลงมากกว่านี้ เพื่อการควบคุมที่ดีและลดแรงเหวี่ยงเมื่อต้องขับเข้าสู่ทางโค้งด้วยความเร็ว ที่มากกว่าการใช้งานในชีวิตประจำวันการขับขี่ใช้งานภายในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ขนาดที่ีกะทัดรัดของ Jazz Hybrid กับแรงบิดรอบต่ำของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ฝังตัวเองอยู่ในชุดเกียร์มีความกระฉับกระเฉงแม้จะมีขนาดของเครื่องยนต์เพียง 1.3 ลิตร 88 แรงม้า แต่มีมอเตอร์เข้ามาเสริมในด้านของแรงบิด ทำให้การออกตัวจากจุดหยุดนิ่งค่อนข้างว่องไวทันอกทันใจเกือบเท่ารุ่น เครื่องยนต์ปกติขนาด 1.5 ลิตร มอเตอร์ Hybrid IMA กำลัง 14 แรงม้า ช่วยทำให้เจ้ารถเล็กคันนี้มีเรี่ยวแรงที่ีเหมาะสมกับขนาดและน้ำหนัก ช่วงติดสัญญาณไฟ เครื่องยนต์จะเข้าสู่โหมด Auto Start-Stop โดยเซ็นเซอร์จะสั่งงานไปที่ระบบดังกล่าวเพื่อดับเครื่ิองยนต์ทันทีที่ตัวรถ หยุดสนิท แม้จะทำงานบ้างไม่ทำงานบ้างแล้วแต่การสั่งงานของ Idling Stop และมีช่วงเวลาดับเครื่องยนต์นานแค่ 1 นาทีเศษ แต่มันได้เข้ามาช่วยในเรื่องของการลดมลพิษในอากาศได้ตามที่ Honda ประกาศเอาไว้ตั้งแต่ปี 2010 วิศวกรของ Honda แจ้งว่า สำหรับประเทศไทยซึ่งถือเป็นเมืองเขตร้อน ระบบ Idling Stop จะทำงานเท่าที่จำเป็น เนื่องจากระบบนี้ เมื่อทำงานจะตัดการทำงานของคอมแอร์โดยเหลือเพียงแค่พัดลมแอร์ในห้องโดยสาร หากเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิภายนอกตรวจพบว่ามีอากาศร้อนจัด Idling Stop จะทำงานเท่าที่จำเป็นคงความเย็นในห้องโดยสารเอาไว้สำหรับความสะดวกสบายของ ผู้โดยสารในระหว่างการเดินทางสภาพการจราจรที่หนาแน่นและพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัดในการจอดรถของเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร ทำให้การขับขี่ใช้งานรถเล็กประหยัดพลังงานอย่าง Jazz Hybrid มีความลงตัวใช้ได้ ขนาดที่สั้นแต่มีความกว้างของห้องโดยสารที่ถูกออกแบบให้มีพื้นที่เหนือศีรษะ มากกว่าปกติ ทำให้การขับขี่ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนรถเล็กบางยี่ห้อ ระบบส่งกำลังแบบ CVT แปรผันไปตามความเร็ว มันค่อนข้างนุ่มนวล ไหลลื่นแต่ออกจะน่าเบื่ออยู่บ้างในบ้างเวลาที่ต้องการทำความเร็ว เมื่อกดคันเร่งลงลึกสุด ระบบเกียร์ CVT จะตอบสนองอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามสมองกลเกียร์ที่จะแปรผันไปตามระดับความเร็ว อัตราเร่งแบบไหลเรื่อยๆ ของคันเร่งไฟฟ้าในโหมดประหยัดถูกออกแบบให้มีความเหมาะสมกับประสิทธิภาพในการแสดงตัวตนว่าเป็นยนตรกรรมประหยัดพลังงาน แม้มอเตอร์จะทำงานได้ไม่นานนักจากขนาดที่กะทัดรัดของชุดแบตฯ แต่ความประหยัดจะเกิดขึ้นทันทีที่คุณใช้คันเร่งของมันอย่างทะนุถนอมในโหมด ECON ระบบจะเข้ามาหน่วงคันเร่งไฟฟ้าไม่ให้ว่องไวตอบสนองต่อการกดรวดเร็วจนเกินไป รวมถึงเกียร์ที่ค่อยๆ ไต่ระดับความเร็ว และเมื่อขับด้วยความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบ Hybrid IMA จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทันที แม้จะเป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่เครื่องยนต์จะเข้ามาสานต่อ แต่การประสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ที่ติดตั้งอยู่ภายในเกียร์ CVT ทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงหรูหรากว่า Jazz รุ่น 1.5 ลิตรอยู่พอสมควร หลังจากวิ่งใช้งานในเมืองมานานหลายวัน ในช่วงใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์ ผมนำเจ้า Jazz Hybrid สีฟ้าสดใสออกวิ่งทางไกลเป็นครั้งแรกโดยใช้เส้นทางวงแหวนตะวันออกที่เชื่อมต่อกับทางด่วนพิเศษฉลองรัช ผ่านวังน้อย แล้วเลี้ยวขวาขึ้นสะพานต่างระดับไปยังเส้นบายพาสเลี่ยงเมืองสระบุรีต่อ เชื่อมกับถนนมิตรภาพ มุ่งสู่มวกเหล็ก เขาใหญ่ เพื่อร่วมทดสอบ Honda Brio Amaze อีโคคาร์รุ่นสี่ประตูที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ นับเป็นการเปิดตัวรถยนต์ในปี 2012 ของ Honda ถึง 10 รุ่นภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เมื่อวิ่งบนทางไฮเวย์และคอยควบคุมคันเร่งไม่ให้มากจนเกินไป อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Jazz Hybrid จะอยู่ที่ 16-18 กิโลเมตรต่อลิตรที่ความเร็ว 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่หากใช้ความเร็วเดินทางอย่างต่อเนื่องที่ 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้น การเร่งแซงรถช้าโดยกดคันเร่งจนมิด เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะรับหน้าที่ผสานกำลังในรูปของแรงบิดอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ผมขับโดยใช้ความเร็วต่ำไม่เกิน 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้ามาขับเคลื่อนโดยเข้าสู่โหมด EV อย่างที่กล่าวว่ามอเตอร์ของ Jazz Hybrid ทำงานสั้นๆ และได้ระยะไม่มากเท่า Prius ซึ่งเกิดจากขนาดของเครื่องยนต์ ระบบมอเตอร์เสริมแรงและแบตเตอรี่มีขนาดที่เล็กกว่า รวมถึงราคาของเจ้า Jazz Hybrid ก็ยังถูกกว่ากันอยู่มาก ส่วนยางลดแรงต้านทานของ Michelin รุ่น Energy MX1 ขนาด 175/65/R15 84T ที่ความเร็วต่ำให้การยึดเกาะในระดับที่ปกติ แต่หากใส่กันในโค้งแรงๆ แล้วยางหน้าแคบจะออกอาการอยู่บ้าง ทั้งเสียงของขอบแก้มยางที่ส่งออกมาเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติ รวมถึงอาการแปลกๆ ช่วงกลางโค้งหากขับแบบรุนแรง จากขนาดของยางที่ต้องการความประหยัดเมื่อออกแบบมาสำหรับรถประหยัดพลังงาน มากกว่าจะเอามาวิ่งที่ย่านความเร็วสูงกันบ่อยๆ ส่วนการเปลี่ยนล้อและยางให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะส่งผลให้การยึดเกาะดีขึ้น แต่อัตราสิ้นเปลืองก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ช่วงล่างท่ี่แทบไม่แตกต่างไปจาก Honda Jazz รุ่นปกติให้ความรู้สึกมั่นคงใช้ได้ แต่หากวิ่งเกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต้องระวังเรื่องของการเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลัน เนื่องจากขนาดของหน้ายางที่เล็กและแคบเพียงแค่ 175 ยาง Michelin รุ่น Energy MX1 นั้นเหมาะกับรถเล็กที่เน้นวิ่งแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆมากกว่าจะใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนพวงมาลัยไฟฟ้าให้ความรู้สึกหลอกๆ อยู่พอสมควรสำหรับเจ้าของรถหน้าใหม่ที่ เพิ่งจะถอย Jazz Hybrid ออกมาใช้งาน และคงต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับความรู้สึกของพวงมาลัยอยู่บ้าง น้ำหนักที่ตำแหน่งกึ่งกลางหน่วงมาหนักมือใช้ได้ แต่ระยะฟรีก็ยังมีอยู่บ้างซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไร ที่ความเร็วต่ำมันค่อนข้างคล่องแคล่วสำหรับการถอยเข้าออก แต่การวิ่งทำความเร็วทางตรง พวงมาลัยของมันจะออกอาการขืนเล็กน้อยคล้ายพวงมาลัยของ MINI Cooper สำหรับการเก็บเสียงนั้นทำได้ตามราคาค่าตัว ที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร เสียงลมปะทะจะดังเข้ามาให้ได้ยินอยู่บ้าง ขนาดที่เล็กและการเลือกใช้วัสดุที่ไม่แพงมากทำให้การซับเสียงอยู่ในระดับปกติไม่ได้โด่ดเด่นอะไร เครื่องเสียงมีลำโพงคุณภาพปานกลางและให้ความคมชัดที่ดี เล่นได้ทั้ง CD /MP3 / AUX / USB โดยสามารถกดสั่งงานบนปุ่มที่พวงมาลัย ปุ่ม i Control ที่ด้านขวาใช้ควบคุมจอ MID ที่เป็นจอข้อมูลของระบบต่างๆการทำงานของระบบ Hybrid IMA หรือ Integrated Motor Assist ในรถ Jazz Hybrid คล้ายคลึงกับรถ CRZ แต่มีเรี่ยวแรงน้อยลงมาตามสัดส่วนของการออกแบบระบบขับเคลื่อน ในช่วงของการออกตัว เครื่องยนต์จะเข้ามารับหน้าที่หลักในการสร้างแรงบิดและเสริมกำลังด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนที่จากจุดหยุดนิ่ง เมื่อผมกดปุ่มโหมดประหยัดหรือ ECON Eco Assist (Ecological Drive Assist System) คันเร่งจะยืดหยุ่นการทำงานโดยลดความฉับไวลงเล็กน้อยเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง ช่วงการขับขี่ที่ย่านความเร็วต่ำนั้น เครื่องยนต์จะหยุดการทำงานลงชั่วครู่และเข้าสู่โหมด EV หรือ Electric Vehicle Mode แบบอัตโนมัติ (ที่ระดับความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) โดยที่มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งติดตั้งอยู่ในชุดเกียร์ CVT จะรับหน้าที่ขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว ส่วนช่วงของการเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้า หรือการออกตัวแบบฉับพลันทันที เมื่อผมกดคันเร่งไฟฟ้า Drive By Wire มอเตอร์ไฟฟ้าในระบบ Hybrid IMA จะเข้ามาทำงานพร้อมๆ ไปกับเครื่องยนต์ เพื่อสร้างแรงบิดสูงสุดสำหรับการเร่งความเร็วหรือแซง สำหรับการเบรก เมื่อรถหยุดสนิทนิ่ง เครื่องยนต์จะเข้าสู่โหมด Auto Start-Stop และหยุดการทำงานลง ระบบจะนำพลังงานที่สูญเสียไปขณะเบรกมาแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วส่งกลับคืนไปเก็บยังแบตเตอรี่ท้ายรถเพื่อนำพลังงานมาใช้ต่อไป ระบบ Idling Stop จะหยุดการทำงานของทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าลงเพื่อช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อย CO2 โดยที่คอมเพรสเซอร์ของระบบทำความเย็นจะหยุดทำงานไปด้วย เหลือเพียงแค่พัดลมในห้องโดยสารที่ยังคงทำงานอยู่ สำหรับระบบ Auto Start-Stop หรือ Idling Stop ใน Jazz Hybrid บางครั้งจะสั่งให้เครื่องยนต์ไม่ดับลงเนื่องจากแบตเตอรี่มีประจุกระแสไฟไม่พอ รวมถึงหากอุณหภูมิภายนอกสูงมากจนเกินไป ระบบจะสั่งให้เครื่องยนต์ติดตลอดอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้องโดยสารในวันที่มีอากาศร้อนจัดระบบ Hybrid IMA ของ Honda แม้จะไม่มีประสิทธิภาพเท่า Toyota Prius แต่มีรูปแบบการทำงานที่เรียบง่ายกว่ามาก มีความซับซ้อนก็น้อยกว่าและมีชิ้นส่วนเท่าที่จำเป็น หากใช้งานโดยคำนึงถึงการใช้คันเร่งอย่างระมัดระวัง ความประหยัดก็จะเพิ่มมากขึ้นกว่า Jazz เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สำหรับการตอบสนองนั้น รถ Jazz Hybrid ให้ความคล่องตัวในระดับที่น่าพอใจ อัตราเร่งเมื่อเครื่องยนต์ทำงานควบคู่ไปกับมอเตอร์ไฟฟ้ามาเร็วและมีความต่อเนื่องดี ธรรมชาติของรถยนต์แบบ Hybrid นั้น เน้นการขับขี่แบบไม่รีบเร่ง ซึ่งสอดรับกับการออกแบบระบบส่งกำลัง CVT ที่มอบความนิ่มนวลในการปรับเปลี่ยนอัตราทด โดยภาพรวมแล้ว Honda Jazz Hybrid จะให้ความประหยัดหากผู้ขับใช้รอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงมากจนเกินไป ระบบส่งกำลังแบบสายพานยังออกแบบให้ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์และมอเตอร์ได้ดี ช่วงล่างให้ความมั่นใจที่ความเร็วไม่เกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนห้องโดยสารนั้นเป็นจุดเด่นของรถเล็กรุ่นนี้อยู่แล้วจากการออกแบบพื้นที่ ของการวางเท้า พื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่สำหรับการขนสัมภาระ วัสดุและอุปกรณ์อยู่ในระดับรถยนต์ราคา 7.6 แสนบาททั่วไป หากซื้อไปใช้ขับในเมืองซึ่งมีสภาพการจราจรหนาแน่น ความคล่องตัวจากขนาดที่กะทัดรัดรวมถึงระบบขับเคลื่อน Hybrid IMA ที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำกว่าเครื่องยนต์แบบปกติ จะช่วยให้การเดินทางในชีวิตประจำวันของคนเมืองมีความสะดวกสบายกระเป๋าขึ้นมาอีกเล็กน้อย เมื่อไม่ต้องวิ่งเข้าออกปั๊มน้ำมันกันบ่อยนัก.อาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

Blog Archive