Thursday, December 20, 2012

ตามหาปักษาสวรรค์!

ตามหาปักษาสวรรค์!
สารคดีสัปดาห์นี้ไทยรัฐออนไลน์พาไปตามหาปักษาแห่งสวรรค์...เมื่อเก้าปีก่อน ชายสองคนเริ่มต้นภารกิจค้นหาอันน่าทึ่ง นั่นคือ การออกตามหาและบันทึกภาพนกปักษาสวรรค์ในตำนานทั้งหมด 39 ชนิดเป็นครั้งแรก หลังการสำรวจ 18 ครั้ง และภาพถ่ายกว่า 39,000 ภาพ ความฝันของทั้งคู่ก็เป็นจริงในนิวกินีจิงโจ้ปีนต้นไม้ และผีเสื้อตัวโตพอๆ กับจานร่อนบินว่อนไปทั่วป่าดิบชื้นที่ซึ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมออกลูกเป็นไข่วิ่งเพ่นพ่านไปตามพื้นดินเฉอะแฉะ กบมีจมูกยาว และแม่น้ำอุดมไปด้วยปลาสายรุ้งแต่ไม่มีสัตว์น่าพิศวงชนิดใดในนิวกินีที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลงใหลได้มากเท่ากับสิ่งมีชีวิตที่อัลเฟรด รัสเซล วอลเลซ นักธรรมชาติวิทยาสมัยศตวรรษที่สิบเก้าเรียกว่า “เจ้าของเรือนขนที่งดงามและน่าอัศจรรย์ที่สุดในโลก” นั่นคือนกปักษาสวรรค์อีกแล้วนกปักษาสวรรค์ทั้ง 39 ชนิดพบได้เฉพาะบนเกาะนิวกินีและพื้นที่ใกล้เคียงอีกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น แม้จะมีการสำรวจและวิจัยนกดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ยังไม่มีใครเคยเห็นพวกมันครบทั้ง 39 ชนิดจนกระทั่งบัดนี้เมื่อปี 2003 เอดวิน สโกลส์  นักปักษีวิทยาจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์  และทิม เลเมน นักชีววิทยาและช่างภาพเริ่มวางแผนภารกิจค้นหาและบันทึกภาพนกปักษาสวรรค์ทุกชนิดพันธุ์  พวกเขาใช้เวลา 8 ปีและการสำรวจ 18 ครั้งในดินแดนแปลกตาที่สุดบางแห่งของโลก  จนสามารถเก็บภาพการเกี้ยวพาราสีและพฤติกรรมที่วงการวิทยาศาสตร์ไม่เคยล่วงรู้มาก่อนในโลกธรรมชาติคงมีความอัศจรรย์อีกเพียงไม่กี่อย่างที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับพฤติกรรมการเกี้ยวพาราสีของนกเพศผู้ในวงศ์  Paradisaeidae  ตั้งแต่การแพนเรือนขนสีทองอร่าม  การเริงระบำที่แลดูชวนขัน  ไปจนถึงขนและแผงคอสีเหลือบรุ้ง และสีสันที่เจิดจรัสยิ่งกว่าอัญมณี  ความวิลิศมาหราทั้งหมดนี้บังเกิดขึ้นเพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น  นั่นคือการดึงดูดความสนใจของนกเพศเมีย นกปักษาสวรรค์เป็นตัวอย่างสุดขั้วของทฤษฎีการคัดเลือกทางเพศ (Sexual Selection) ของชาร์ลส์ ดาร์วิน กล่าวคือ เพศเมียจะเลือกคู่โดยตัดสินจากลักษณะพิเศษบางอย่างที่ดึงดูดใจ  ซึ่งทำให้ลักษณะสืบสายพันธุ์เหล่านั้นมีโอกาสถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมากขึ้น  ความที่นิวกินีมีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์และแทบไม่มีศัตรูผู้ล่า นกเหล่านี้จึงแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ลักษณะสืบสายพันธุ์อันโดดเด่นสำแดงออกมาแทบจะเรียกได้ว่าไร้ขีดจำกัด เลเมนและสโกลส์ตั้งเป้าที่จะบันทึกภาพนกเหล่านี้ในลักษณะที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน  นั่นคือ ถ่ายจากมุมมองของนกเพศเมีย  บนเกาะบาตันตาทางตะวันตกของนิวกินี  เลเมนต้องปีนป่ายถึง 50 เมตรขึ้นไปยังเรือนยอดของป่าดิบชื้นเพื่อถ่ายภาพพฤติกรรมการเกี้ยวพาราสีของนกปักษาสวรรค์สีแดง  ส่วนบนคาบสมุทรฮิวออน ห่างออกไปทางตะวันออกราว 2,000 กิโลเมตร เขาติดตั้งกล้องถ่ายภาพไว้บนกิ่งไม้โดยทำมุมกดลงเพื่อให้ได้มุมมองของนกเพศเมียที่เห็นแผงขนอกสีสันสดใส และแผ่เป็นจีบรอบของนกพาโรเทียวาห์เนสเพศผู้แม้ทั้งคู่จะมีประสบการณ์ภาคสนามในพื้นที่เขตร้อนมาแล้วก่อนที่จะเริ่มภารกิจครั้งนี้ แต่ไม่มีใครคาดคิดถึงการผจญภัยที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า พวกเขาต้องนั่งหลังขดหลังแข็งไปกับเฮลิคอปเตอร์ และเดินป่าเป็นระยะทางไกลๆ ไปตามเส้นทางที่น้ำท่วมขัง ต้องลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเลถึงสองครั้งสองคราเมื่อเครื่องยนต์เรือเสีย รวมๆ แล้วพวกเขาต้อง นั่งเฝ้ารอและเฝ้าดูอยู่ในบังไพรกว่า 2,000 ชั่วโมง เพื่อแลกกับช่วงเวลาแห่งการค้นพบอันน่าตื่นตาการพบเห็นนกมานูคอดโจบิขนสีฟ้าและดำเป็นมันวาวเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2011 เป็นการปิดฉากการสำรวจอันยาวนาน  สโกลส์และเลเมนหวังว่าผลงานของพวกเขาจะปลุกกระแสการอนุรักษ์ขึ้นในนิวกินี  ที่ซึ่งถิ่นอาศัยของนกเหล่านี้ได้รับการปกป้องมาจนถึงปัจจุบันเพียงเพราะอยู่ห่างไกล ดังเช่นที่วอลเลซบันทึกไว้ว่า “ธรรมชาติดูเหมือนจะเตรียมการไว้ทุกขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจได้ว่า สมบัติอันล้ำค่าที่สุดเหล่านี้จะไม่สูญเสียคุณค่าไปเพียงเพราะได้มาโดยง่าย”ภาพถ่าย ทิม เลเมน เรื่อง เมล ไวต์ 

No comments:

Post a Comment

Blog Archive