Thursday, February 28, 2013

อัพเดต เมกอัพความงาม

อัพเดต เมกอัพความงาม
สาวยุคนี้ต้องไม่ยอมหยุดสวย เพราะมีตัวช่วย จากแบรนด์เครื่องสำอางดัง ให้คุณผู้หญิงสวยแบบไม่มีวันหยุด เริ่มกันตั้งแต่ “คิ้ว” ซึ่ง บ๊อบบี้ บราวน์ เปิดบริการใหม่ Everything BROW Service บริการพิเศษเพื่อการออกแบบและตกแต่งทรงคิ้ว สำหรับทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย เน้นการดูแล แก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล พบกับบริการนี้ได้ที่เคาน์เตอร์ Bobbi Brown ทุกสาขา ....การกรีดตาให้คมกริบด้วยอายไลเนอร์ยังคงไม่ตกเทรนด์ไปจากสาวเอเชีย ทเวลฟ์ พลัส จึงจัด ทเวลฟ์ พลัส มิราเคิล ดับเบิ้ล ออร่า ลูเซนท์ อายไลเนอร์ เส้นสีดำเข้มเต็มพิกัด เผยดวงตากลมโตให้โดดเด่นด้วย Super Black Eyeliner ที่เขียนง่ายไม่เลอะเลือน ด้วยนวัตกรรมหัวแปรงพู่กันอินเทลลิเจนซ์ซิสเต็ม มาให้สาวๆได้เลือกสวยครบเซตทุกรายละเอียด ไปกับ Shiseido Makeup Spring/ Summer 2013 พบกับ ลิปสติกสีสันใหม่ Perfect Rouge 15 เฉดสี Perfect Rouge Tender Sheer ลิปสติกเนื้อชุ่มชื้นที่มีถึง 10 เฉดสีใหม่  รวมทั้งอายคัลเลอร์ Luminizing Satin Eye Color Trio และ Face Color Trio มีให้เลือก 2 เฉดสีใหม่ที่มอบประกายสวยใสให้ใบหน้าดูสวยมีมิติ....เช่นเดียวกับ Burberry คอลเลกชั่น Spring/ Summer 2013 เน้นความสดใสกล้าแกร่งมาพร้อมกับเฉดสีและรูปแบบที่สะท้อนความเป็นตัวเอง มีทั้งอายแชโดว์สีสวยคลาสสิก, Lip Glow 4 สีสดใส และ Lip เนื้อแมทสีแจ่มได้ใจ ด้าน M.A.C จัด Making Pretty เมกอัพสุดโมเดิร์นมาให้สาวๆ หลงรักกับแพ็กเกจหรูหราในโทนสีชมพูพาสเทลประดับโบ มีให้เลือกทั้งลิปสติกสีสวยทั้งชมพูและแดง Powder และ Powder Loose นอกจากนี้ ยังจัด M.A.C Prep+ Prime BB beauty Balm Compact SPF 30/PA++ เมกอัพเบสเนื้อครีมแน่นในรูปแบบคอมแพคมาให้สาวที่ชื่นชอบครีมบีบี และต้อนรับปีงูด้วยคอลเลกชั่น Year of Snake ที่มาในแพ็กเกจจิ้งพิเศษปั๊มลวดลายงูลงบนแป้งเมกอัพ พร้อมกันนี้ M.A.C ยังเผยเทรนด์ Spring/Summer 2013 ที่มาแรงในลุคต่างๆ มี Sig–Nature เป็นลุคที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติของผิวเป็นหลักให้ความรู้สึกเป็นจริง เน้นการเขียนคิ้วที่หนาแต่ดูอ่อนนุ่มไม่แข็ง Nu–Ance เป็นลุคที่เน้นรูปตาเชปทรงกลมแบบยุค 60’s เป็นสโมกกี้อายส์ที่ดูสวยโปร่งไม่ดูทึบหนักด้วยเมกอัพแบบเมคทัลลิค ปิดท้ายด้วยลุค Puri–Tan เน้นการแต่งหน้าในเฉดบรอนส์ มีดวงตาเป็นประกาย ผิวถูกไล้ด้วยโทนสีน้ำตาล... เลือกสวยตามสไตล์ที่ชอบกันได้เลยค่ะ.BurberryShiseido

รวมพลคนไทยจิตอาสาครั้งใหญ่ ช่วยกันขับเคลื่อนสังคมให้น่าอยู่

รวมพลคนไทยจิตอาสาครั้งใหญ่ ช่วยกันขับเคลื่อนสังคมให้น่าอยู่
เพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมของทุกภาคส่วน มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” จึงร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายองค์กรต่างๆ จัดโครงการ “คนไทยขอมือ หน่อย คนละไม้คนละมือ เพื่อสังคมน่าอยู่” เพื่อรวมพลจิตอาสาช่วยเหลือสังคม เป็นต้นแบบให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาเป็นจิตอาสาแบบคนละไม้คนละมือบ้างวิเชียร พงศธร ประธานมูลนิธิเพื่อ “คนไทย” เผยว่า ปัจจุบันการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความอยู่ดีมีสุขในสังคมได้ และจากการติดตามความเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยและภาพรวมของการพัฒนาประเทศ พบว่า สังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาหลายด้าน การมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญ อันเป็นที่มาของงาน “คนไทยขอมือหน่อย คนละไม้ คนละมือ เพื่อสังคมน่าอยู่” ระหว่างวันที่ 2-3 มี.ค. บริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ เข้าถึง และเห็นต้นแบบของงานพัฒนาสังคม เพื่อนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศที่มีประชาชนคนไทยช่วยกันขับเคลื่อนให้สังคมไทยเป็นสังคมที่น่าอยู่งาน “คนไทยขอมือหน่อยฯ” ถือเป็นเทศกาลรวบรวมคนจิตอาสาของไทยที่ใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรก มีองค์กรที่ทำงานเพื่อสังคมมากกว่า 200 องค์กร ที่ทำงานพัฒนาสังคมด้านคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อมและชุมชนยั่งยืน สตรีและครอบครัว ปัญญาและจิตวิญญาณร่วมสมัย การแบ่งปันและอาสาภาคประชาชน และนวัตกรรมทางสังคม ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดนัดจิตอาสาที่ใหญ่ที่สุด เป็นทางเลือกให้กับคนในสังคมได้ตัดสินใจก้าวเข้ามาร่วมมือกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่อไป.

อาหาร บ้าน ทันคน นิยายหวาน รวมพลหนังสือใหม่ต้อนรับมีนาคม

อาหาร บ้าน ทันคน นิยายหวาน รวมพลหนังสือใหม่ต้อนรับมีนาคม
แวดวงหนอนหนังสือ รับรองอ่านคอลัมน์นี้ไม่มีผิดหวัง ไทยรัฐออนไลน์นำหนังสือออกใหม่น่าอ่านจากหลายสำนักพิมพ์ ครบทุกสไตล์ มาฝากให้ครบครันความหวังสีดำ จากสำนักพิมพ์อมรินทร์นิยายภาพร่วมสมัยที่ปลุกให้คนท้อแท้กล้าลุกขึ้นยืนสู้กับปัญหา ผลงานจากนักเขียนคลื่นลูกใหม่ที่บอกเล่าเรื่องราวความปวดร้าวของผู้คนในสังคมสมัยใหม่ ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนถึงแม้จะเจ็บปวดแสนสาหัสขนาดไหน ซึ่งผลงานนำเสนอออกมาในรูปแบบงานลายเส้นกราฟิกชั่น ร้อยเรียงกันกว่า 10 เรื่องเถ่าชิ่ว คนสุดท้าย จากสำนักพิมพ์มติชนนิยายแปลเกี่ยวกับอาหาร มิตรภาพ และการตกลงในบ่วงสวาท ซึ่งผู้เขียนการันตีว่า ถ้าใครได้อ่านเรื่องนี้จบแล้วจะเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับอาหารจีนไปตลอดกาล คลินิกหัวใจกลางสายหมอก จากสำนักพิมพ์อมรินทร์เรื่องราวความรักของสาวดวงซวยที่ทั้งอกหักและตกงานไปในเวลาไล่เลี่ยกัน จึงตัดสินใจลุยเดี่ยวไปพักหัวใจที่บอบช้ำในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอย่าง ปาย แต่แล้วเมืองแห่งสายหมอกบวกกับความโรแมนซ์ ก็ทำให้สาวน้อยผู้นี้พบรักใหม่ที่สดใสกว่าเดิมคู่มือจับโกหก จากสำนักพิมพ์วีเลิร์นหนังสือแปลติดอันดับของ ดร.เดวิด เจ.ไลเบอร์แมน นักจิตวิทยาชื่อก้องโลกที่เคยฝากผลงานเขียนไว้มากมาย โดยหนังสือเล่มนี้จะแนะนำให้คุณรู้จักกลวิธีทางจิตวิทยาที่สามารถนำไปใช้อ่านความคิดและจิตใจผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้ล่วงหน้าได้ในเวลาไม่ถึง 5 นาทีว่าใครที่จริงใจกับคุณ และใครที่กำลังคิดไม่ซื่อกับคุณอยู่my home จากสำนักพิมพ์อมรินทร์แต่งบ้านสวยด้วยตัวเองเดือนนี้อัดแน่นด้วยการแต่งบ้านหลากสไตล์ เริ่มต้นที่การแต่งบ้านตากอากาศในบรรยากาศสีโทนสบายตา เน้นใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่งทั้งหมด ต่อกันด้วยเทคนิคแต่งบ้านอัดแน่นผลงานศิลปะ ซึ่งสิ่งสำคัญคือเน้นความกลมกลืนและสร้างความโดดเด่นผ่านเนื้อหาที่ขัดแย้ง ปิดท้ายกับการแปลงโฉมตู้คอนเทนเนอร์เป็นสตูดิโอสำหรับอยู่อาศัย   

Wednesday, February 27, 2013

โลกสวย ด้วย ลูกกลมๆ...!

โลกสวย ด้วย ลูกกลมๆ...!
สารคดีสัปดาห์นี้ไม่อยากให้พลาดสำหรับคนที่รักเกมกีฬาลูกหนังอย่างฟุตบอล...!ในชนบทของแอฟริกา ลูกฟุตบอลกระเด้งกระดอนอย่างไม่สม่ำเสมอ สนามฟาดแข้งนั้นเล่าก็มีตั้งแต่แห้งกรังและเขียวชอุ่ม ไปจนถึงมีวัชพืชขึ้นรกเรื้อและพื้นทราย พูดง่ายๆ ก็คือขอให้มีที่ว่างเรียบๆ สักหน่อยเป็นอันใช้ได้ เสาประตูอาจทำจากเศษไม้ที่พอหาได้นำมามัดรวมกัน ส่วนนักเตะบ้างเท้าเปล่า บ้างสวมรองเท้ากีฬาขาดวิ่น กระนั้น เด็กๆ ก็ได้อวดฝีแข้งและสนุกสุดเหวี่ยงไปกับการวิ่งไล่เตะลูกบอลทำมือรูปทรงบูดเบี้ยว พวกเขาดวลแข้งกันอย่างสง่าผ่าเผยและบันเทิงเริงใจ เป็นการเล่นเพื่อความสุขใจล้วนๆจะมีไหนอีกเล่าที่กีฬาซึ่งได้ชื่อว่า “เกมอันสวยงาม” จะสวยงามสมชื่อกว่านี้เจสสิกา ฮิลล์ทูต เชื่ออย่างนั้น สองปีก่อนเมื่อมหกรรมกีฬาฟุตบอลโลกจัดขึ้นที่แอฟริกาเป็นครั้งแรก ช่างภาพ ซึ่งพำนักอยู่ในเบลเยียมผู้นี้อยากรู้ว่า ฟุตบอลที่อยู่ห่างไกลจากแสง สี และสนามกีฬาขนาดใหญ่เป็นอย่างไร สิ่งที่เธอพบจากการเดินทางนานกว่าเจ็ดเดือนในสิบประเทศ รวมระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร คือเกมกีฬาของคนรากหญ้า ซึ่งความหลงใหลมีชัยเหนือความยากจนข้นแค้น และบอลลูกกลมๆ เพียงหนึ่งลูก สามารถ “นำความสุขมาสู่คนทั้งหมู่บ้าน” ได้ในชุมชนกว่า 30 แห่งที่เธอไปเยือน ผู้คนจะทำลูกบอลจากวัสดุที่พอหยิบฉวยได้ใกล้มือ ไม่ว่าจะเป็นผ้าขี้ริ้ว หรือถุงเท้า ยางรถยนต์หรือเปลือกไม้ ถุงพลาสติก หรือ (แม้แต่) ถุงยางอนามัยเป่าลม ทุกที่ที่ฮิลล์ทูตไปเยือน เธอจะแลกเปลี่ยนลูกบอลที่ซื้อจากร้านค้าและนำติดรถมาด้วยกับ “อัญมณีน้อยๆ อันเลอค่า” เหล่านี้  ซึ่งส่วนใหญ่เด็กๆ ทำขึ้นเองปีเตอร์ อะเลจี นักเขียนและอาจารย์ประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตต บอกว่า เรื่องราวของฟุตบอลในแอฟริกามีประวัติความเป็นมายาวนาน ย้อนหลังไปเมื่อปี 1862 หนึ่งปีก่อนหน้าการบัญญัติกฎกติกาสากลของกีฬาฟุตบอลที่กรุงลอนดอน การแข่งขันหลายนัดจัดขึ้นที่เมืองเคปทาวน์และพอร์ตเอลิซาเบทในแอฟริกาใต้ กีฬาชนิดนี้แพร่หลายไปทั่วทวีปผ่านทางจักรวรรดินิยมยุโรปโดย มาพร้อมกับทหาร พ่อค้า เส้นทางรถไฟ และโรงเรียนของหมอ สอนศาสนา คนท้องถิ่นยอมรับกีฬานี้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงปรับและประยุกต์รูปแบบการเล่นเป็นของตนเอง และฟุตบอลก็เป็นที่นิยม นับแต่นั้นเป็นต้นมาในศตวรรษที่ผ่านมา นักฟุตบอลชาวแอฟริกันได้เปลี่ยนโฉมหน้าเกมกีฬาของชาวโลกชนิดนี้ เมื่อหลายประเทศเจริญขึ้นและได้รับเอกราช ชาติเหล่านี้ได้เข้าร่วมสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า (International Federation of Association Football: FIFA) และประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งหลังๆแต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของ “เกมสดๆ” ที่เล่นกันในชุมชน หลังเขาทุรกันดารทั่วแอฟริกา อาบูบาคารี อับดุล กานียู ครูผู้ดูแลสโมสรเยาวชนในเมืองทามาเล ประเทศกานา เชื่ออย่างนั้น “ความหลงใหลของทุกคนที่นี่ต่างหากครับ ฟุตบอลทำให้เราเพลิดเพลินและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทันทีที่การแข่งขันเปิดฉากขึ้น เราจะโยนเรื่องบาดหมางทั้งหมดทิ้งไป”ฮิลล์ทูตเห็นดีเห็นงามด้วย “ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีความเสมอภาคมากที่สุดในโลกค่ะ ทุกคนเข้าถึงมันได้ ผู้คนที่ฉันพบทำสิ่งยิ่งใหญ่ด้วยสิ่งเล็กน้อยที่พวกเขาพอจะหาได้ คุณอาจมองดูลูกบอลขาดรุ่งริ่งแล้วรู้สึกเศร้าใจ เป้าหมายของฉันคือการทำให้คุณมองดูลูกบอลเหล่านี้ แล้วรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจค่ะ” เธอทิ้งท้ายเรื่อง เจเรมี เบอร์ลิน ภาพถ่าย เจสสิกา ฮิลล์ทูต ข้อมูลจากนิตยสารเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย http://www.ngthai.com/ngm/1302/default.asp

ร้านหนังสือลอยน้ำ


ร้านหนังสือลอยน้ำ

วันหยุดสุดสัปดาห์ ผมพาครอบครัวไปท่าเรือคลองเตยครับ ปีนี้ปักหมุดว่าต้องไม่พลาด เพราะปีก่อนมาลงเรือ Logos Hope ไม่ทัน สำหรับลายแทงง่ายมากครับ ขับไปที่ท่าเรือคลองเตย เข้าไปแล้วให้ชิดขวาตามป้ายท่าเทียบเรือชายฝั่ง ขับต่อไปจนเห็นตู้คอนเทนเนอร์เยอะๆ นี่ใช่แล้ว หาที่จอดรถตามสะดวกเลยครับผมว่าผมไปตรงเวลาเป๊ะแล้วนะครับ แต่ต้องไปเข้าคิวยาว แสดงว่ามีคนไปก่อนเวลามากพอสมควร ตอนแรกๆ ลูกชายก็ตื่นเต้นที่เห็นเรือลำใหญ่ สักพักถูกแดดตอนเข้าคิวไป 20 นาที เริ่มเฉา 
เลยอยากจะแนะนำว่า ถ้าใครคิดจะพาเด็กๆ ไปแล้วไม่อยากรอคิวนาน ขอให้ไปก่อนเวลาหน่อยครับ และควรพกร่ม หมวก ผ้าเย็น พัดลมไฟฟ้าจิ๋วไปด้วยก็ดีครับแต่พอได้ลงเรือแล้ว แอร์เย็นฉ่ำ ลูกชายกลับมายิ้มแฉ่ง พนักงานต้อนรับเป็นอาสาสมัครมาจากนานาประเทศให้การต้อนรับดีมาก มีการบรรยายเรื่องราวของเรือ Logos Hope ให้ฟัง แต่ลูกชายผมมุ่งจะไปขับเรือ (ปลอม) และดูเรดาร์อย่างเดียวเลยพอเริ่มเข้าไปในร้านหนังสือ คนเยอะครับ หนังสือก็เยอะด้วย เวลาจะซื้อจะต้องเทียบเรตนิดหน่อย เพราะเรือลำนี้ท่องไปทั่วโลก ค่าเงินที่นี่คิดเป็น Unit อัตราที่เทียบกับเงินไทยคือ 100 Units = 80 บาท ลูกชายผมพุ่งตรงไปที่หนังสือธงชาติ เพราะเขาชอบเรื่องธงชาติและประเทศต่างๆ นอกจากหนังสือก็ยังมีพวกโปสเตอร์สื่อการสอนด้วยครับถ้าเด็กคนไหนชอบดูการ์ตูนจากต่างประเทศ ก็จะมีหนังสือเกี่ยวกับตัวการ์ตูนที่เด็กๆ ชื่นชอบเช่นเดียวกัน มีทั้งหนังสือภาพและสมุดระบายสีให้เลือกซื้อได้ในราคาที่ไม่แพงนัก โซนนี้ถูกใจลูกชายผมมากๆมาถึงตอนจ่ายเงิน คิวยาวเหยียดเลยครับ ดีที่ซอยแบ่งเป็นหลายช่อง แถมแคชเชียร์เป็นชาวต่างชาติ เป็นโอกาสดีที่จะให้ลูกชายได้พูดคุยทักทายกับคนแปลกหน้าบ้าง จุดนี้ถ้าบริจาค 20 บาท จะได้โครงเรือกระดาษไปต่อเป็นโมเดลสามมิติด้วยพ้นจากแคชเชียร์จะมีนิทรรศการตามทางเดิน ถ้าไม่รีบกลับนัก เราชวนลูกเดินดูไล่ตั้งแต่ภาพแรกแล้วอธิบายเขาไปด้วยจะดีมากเลยครับ เพราะภาพสื่อถึงอบายมุขต่างๆ ที่จะเข้ามาเมื่อเวลาเขาโตเป็นวัยรุ่น มีทั้งเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด การพนัน การหลงแสงสีเที่ยวกลางคืนมีโซนพักผ่อน รับประทานอาหาร และให้เด็กๆ ทำกิจกรรม ผมกำลังจะไปต่อคิวซื้ออาหารและน้ำ เลยได้เจอเพื่อนที่มาก่อนเราเล่าให้ฟังว่าอาหารดีนะ แต่ผมดูจำนวนคนที่ยืนรอเข้าแถวแล้วต้องตัดใจ กลับเลยดีกว่า เพราะน่าจะใช้เวลาตรงนี้อีกนานเราเดินผ่านธงชาติมากมาย และพบกับลานกว้าง มีการจัดซุ้มของประเทศต่างๆ ให้เราไปพูดคุยกับอาสาสมัคร ลูกชายผมชอบเรือชูชีพสีส้มแป๋น เลยได้เข้าไปคุยกับฝ่ายซ่อมบำรุงที่มาโชว์อุปกรณ์ต่างๆ ให้ดู อาสาสมัครเหล่านี้ยังวัยรุ่นและอัธยาศัยดีทุกคนครับเมื่อเราเดินออกมาจากเรือ มองเห็นผู้คนที่มารอเข้าคิวซื้อบัตรยาวยิ่งกว่าตอนเรามาเสียอีก อ้อ ค่าบัตรลงเรือ ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 12 เข้าฟรีครับ ผมเห็นคนเยอะขนาดนี้ จึงอยากจะขอแนะนำว่า ถ้ามาเร็วไม่ได้ ก็มาช่วงเย็นไปเลยครับ เพราะเรือเปิดถึงสามทุ่มครึ่งทุกวันเราได้พบกับมาสคอตกัปตันเรือเดินทักทายผู้คนและสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ แต่เจ้าลูกชายกำลังบ่นหิวน้ำเลยอารมณ์บูดไปหน่อย โชคดีจริงๆ ที่มีรถของการประปาฯ มาจอดให้บริการ...เราเลยได้ดื่มน้ำเย็นๆ ดับกระหายกันในที่สุด แต่พอหายหิวคราวนี้ลูกชายกลับไม่ยอมขยับ เพราะเข้าใจว่าเราจะต้องกลับไปอยู่ในเรือเพื่อรอเวลาออกทะเลกัน ผมเลยต้องอธิบายให้ฟังว่า เรือลำนี้จะจอดอยู่ที่นี่อีกหลายวัน (ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. จนถึง 11 มี.ค. 2556) จากนั้นจึงจะเดินทางไปประเทศอื่นๆ ต่อไป ถ้าใครสนใจจะมาเยี่ยมชมเรือ Logos Hope ที่ท่าเรือคลองเตย สามารถมาได้ทุกวัน
 โดยเขาจะเปิดให้บริการวันอังคาร-วันเสาร์ เวลา 10.00-21.30 น. ส่วนในวันอาทิตย์และวันจันทร์ เปิดเวลา 14.00-21.30 น. ครับ น้าเมฆ
http://www.facebook.com/cloudbookfanpage  

อยากได้ผู้ว่าฯเหมือนพ่อ ผู้ว่ากรุงเทพฯในฝันของต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์

อยากได้ผู้ว่าฯเหมือนพ่อ ผู้ว่ากรุงเทพฯในฝันของต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์
ใกล้เข้าไปอีกวันกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ไทยรัฐออนไลน์ขอถามลูกชายนักการเมืองคนดังจอมแฉอย่าง ต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์ ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้แม้คุณพ่อสุดที่รักไม่ได้ลงชิงชัย อยากรู้เหลือเกินว่าความคิดเห็นของลูกชายคนโตของนายชูวิทย์จะว่าอย่างไรบ้างกับว่าที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ผู้นำเมืองหลวงในฝันของต้นตระกูลผมอยากได้คนทำงานจริง ทำได้ตามนโยบายที่หาเสียงไว้ และทำงานร่วมกับรัฐบาลได้อย่างกลมกลืน เพราะกรุงเทพฯเป็นเมืองหลวง เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ หากได้คนที่เข้ามาพัฒนาให้เจริญสามารถเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ไม่โกงกินคอรัปชัน และขอให้น้ำไม่ท่วมอีก (หัวเราะ) ผมก็อยากจะเลือกคนผู้นั้นเข้ามาเป็นเสียงของประชาชนต้นตระกูล และน้องสาวสุดที่รักคำโม้ที่น่าเบื่อลูกชายคนโตของนักการเมืองจอมแฉกล่าวว่า รู้สึกเบื่อกับนักการเมืองที่มักพูดหาเสียงแต่ถึงเวลากลับทำไม่ได้อย่างที่ลั่นวาจาไว้ อย่างนโยบายสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ มันหลอกลวงเกินไปหน่อย ก่อนที่จะตบท้ายด้วยคำพูดโดนใจใครหลายๆ คนว่าคนกรุงเทพฯ ไม่โง่นะครับ หาเสียงไม่จำเป็นต้องโอเวอร์เกินเหตุคุณพ่อเป็นผู้ว่าฯในฝันชูวิทย์ นักการเมืองที่ใครก็รู้จักพอไทยรัฐออนไลน์ถามว่าถ้าได้ผู้ว่ากรุงเทพมหานครเหมือนคุณพ่อ (ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์) รู้สึกอย่างไร หนุ่มต้นตอบกลั้วหัวเราะว่า ดีเลยครับ เพราะพ่อผมเป็นคนทำงานจริง ทำให้ลูกน้องกลัวได้ หากได้คนที่เข้ามาทำงานแบบพ่อของผม ผมเลือกเบอร์นั้นอย่างไม่ลังเลแอบเผยหมายเลขในดวงใจแม้บุตรชายคนโตตระกูล กมลวิศิษฎ์ จะไม่เปิดปากบอกชัดๆ ว่าเลือกผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพฯหมายเลขอะไร แต่เขาก็บอกอ้อมๆ ว่าคงเปลี่ยนใจจากคนที่เคยเลือกเมื่อสมัยที่แล้ว เพราะไม่ค่อยพอใจกับผลงานที่ผ่านมาสักเท่าไหร่ แม้หนุ่มผู้นี้จะไม่เผยว่าเลือกเบอร์อะไร แต่ฝากรณรงค์ให้คนกรุงเทพฯออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงของตัวเอง ในวันที่ 3 มีนาคมนี้ด้วย 

Tuesday, February 26, 2013

เรียกร้องรัฐบาลเอาจริง เรื่องค้าสัตว์ป่า ชวนคนไทยสนับสนุน หยุดค้างา-หยุดฆ่าช้าง

เรียกร้องรัฐบาลเอาจริง เรื่องค้าสัตว์ป่า ชวนคนไทยสนับสนุน หยุดค้างา-หยุดฆ่าช้าง
เกรียงศักดิ์ ชุณหะวัณ, จันทร์ปาย องค์ศิริวิทยา, โซไรดา ซาลวาลา นำเหล่าคนดังที่รักช้าง เรียกร้องให้ยุติการค้างาช้างในไทย.หลังจากได้กระแสเสียงจากดาราฮอลลีวูดชื่อดัง “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” ที่ส่งอีเมล์ส่วนตัวถึงเพื่อนและผู้สนับสนุนให้ช่วยกันทำหนังสือร้องทุกข์ไปถึงนายกรัฐมนตรีไทย เรื่องการห้ามค้าสัตว์ป่า โดยขอให้รัฐบาลไทยเป็นแกนนำในการอนุรักษ์ช้าง ด้วยการยุติการค้างาช้างอย่างเด็ดขาด จึงเป็นเหตุให้ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) จับมือกับ TRAFFIC องค์กรต่อต้านการค้าสัตว์ป่า เดินหน้าเรียกพลังเสียงจากคนไทยให้สนับสนุน “หยุดค้างา หยุดฆ่าช้าง” ในงาน “ไถ่ชีวิตช้างด้วยชื่อ ช่วยช้างแอฟริกา หยุดค้างาช้างในไทย” รณรงค์ให้คนไทยร่วมลงชื่อหยุดการค้างาช้างในประเทศไทย พร้อมชวนคนดังมาร่วมกิจกรรมรณรงค์ด้วยการพับกระดาษแบบญี่ปุ่นเป็นรูปช้าง ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆนี้คนดังร่วมกิจกรรมพับช้างกระดาษ เพื่อรณรงค์หยุดค้างา หยุดฆ่าช้าง.ในงาน  จันทร์ปาย องค์-ศิริวิทยา ผู้จัดการรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า WWF ประเทศไทย กล่าวว่า ช้างในแอฟริกาถูกฆ่าตายเป็นหมื่นตัวต่อปี เพื่อหวังเอางา โดยคนเข้าใจผิดว่า การตัดงาช้างที่เอามาทำเครื่องประ-ดับกายและประดับบ้านนั้น ตัดงาช้างแล้วช้างไม่ตาย แต่จริงๆกระบวนการนั้นเขาฆ่าช้างทั้งตัวเพื่อเอางาเท่านั้น และการค้างาช้างได้กลายเป็นอาชญากรรมข้ามชาติไปแล้ว ประเทศไทยมีความพยายามในการควบคุมการลักลอบค้าสัตว์ป่า แต่ตลาดการค้างาช้างมีความซับซ้อนและยากที่จะควบคุมได้ในทางปฏิบัติ การจะหยุดปัญหานี้อย่างจริงจังจึงจำเป็นต้องมีการยกเลิกการค้างาช้างในประเทศไทย ขณะนี้ WWF ประเทศไทย, คนไทย และคนทั่วโลกกำลังร่วมมือกันเรียกร้องให้ประเทศไทยยกเลิกการค้างาช้าง ซึ่งขณะนี้รวบรวมรายชื่อได้แล้วมากกว่า 400,000 ชื่อ และเราอยากได้มากกว่านั้น โดยลงชื่อได้ที่  www.wwfthai.org/killthetrade ซึ่งเราจะยื่นรายชื่อ พร้อมจดหมายต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ยุติการค้างาช้างในประเทศไทยในทันที ในช่วงก่อนการประชุมภาคีสมาชิกของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในวันที่ 3-15 มี.ค.ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ เกรียงศักดิ์ ชุณหะวัณ หนึ่งในผู้ทำงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า ประเทศไทย ได้กลายเป็นศูนย์ผ่านการค้าสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นงาช้าง, ตัวนิ่ม ฯลฯ การค้างาช้างมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทั้งที่มีการรณรงค์ต่อต้านมากขึ้น ซึ่งตราบใดที่ยังคงมีตลาดที่ต้องการซื้อ การค้าสัตว์ป่าก็ไม่มีวันจบสิ้น  เราจึงต้องหยุดการซื้อขาย ส่วนโซไรดา ซาลวาลา  ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนช้าง กล่าวว่า สถานการณ์การฆ่าช้างเพื่อค้างาในประเทศไทยยังไม่ลดลง แต่การรับรู้ทางสังคมมีมากขึ้น เรายังต้องการเสียงจากพวกท่านอีกเยอะ มาช่วยกันยุติการค้างา แล้วอยากจะเสนอให้ทางภาครัฐปฏิรูปกฎหมายช้างป่าและช้างบ้านด้วย.

อาร์ต 4 มิติ ประมวลภาพศิลปะ 19 ศิลปินสตรีทอาร์ต (ตัวแม่) บันลือโลก!

อาร์ต 4 มิติ ประมวลภาพศิลปะ 19 ศิลปินสตรีทอาร์ต (ตัวแม่) บันลือโลก!
ไทยรัฐออนไลน์ เห็นภาพสวยๆ ของงาน “Living Arts Festival @Ratchaprasong 2013” แล้วอดไม่ได้ที่จะมาประมวลให้ชมกัน..!กับการตอกย้ำคอนเซปต์ “Happiness Is All Around” ของย่านราชประสงค์ ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ “Living Arts Festival @Ratchaprasong 2013” ทุ่มงบ 40 ล้านบาท ปิดถนนย่านราชประสงค์ ด้านหน้าศูนย์การค้าเกษร ไปจนถึงเอราวัณ แบงค็อก และ “สกายวอล์ก” ทางเดินเชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท ตั้งแต่ห้างฯ เซน ไปจนถึงสถานีชิดลม รวมพื้นที่กว่า 106,000 ตารางเมตรเพื่อให้เป็นเวทีสำหรับการปล่อยแสงอวดพลังสร้างสรรค์ ในสไตล์เอาต์ดอร์สตรีทอาร์ต 3 มิติ และ 4 มิติ โดยการผนึกกำลังของ 19 ศิลปินโลก โดยงานจัดระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-10 มี.ค.นี้ ห้ามพลาด.  

ชาวไร่ไฮโซ MINI COUNTRYMAN COOPER D (ตอนที่1)

ชาวไร่ไฮโซ MINI COUNTRYMAN COOPER D (ตอนที่1)
ทดสอบการขับขี่ MINI Countryman Cooper D ยานยนต์ 5 ประตูพลังดีเซลอัดเทอร์โบกึ่งลุยกึ่งหรูของ BMW Group ตอนแรกกับการรีวิวตัวถัง ภายใน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เครื่องยนต์ ชุดส่งกำลัง ระบบรองรับและราคาค่าตัว...มันเหมือนคนตัวเล็กที่ไปเข้าคอร์สออกกำลังกายอย่างหนักพร้อมๆ ไปกับการกินสารกระตุ้นกล้ามเนื้อพวกสเตียรอยด์ MINI Countryman คือตัวอย่างของการแตกสายพันธ์ุเพื่อการตลาดอย่างแท้จริง มันไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์รุ่นเก่าที่ถูกนำมาสานตำนานด้วยรูปลักษณ์ใหม่อีกต่อไป มันได้กลายมาเป็นรถ BMW คันเล็กไปแล้วจากคุณภาพของงานประกอบการขับขี่ วัสดุและราคา ทุกวันนี้ รถ MINI ได้แฝงเอาความร่วมสมัยและแนวทางการออกแบบใหม่ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของคนทั่วไป การเดินตามแฟชั่นคือความทันสมัยที่เปลี่ยนแปลงให้รถ MINI ในทุกวันนี้มีรูปทรงที่แปลกตามากยิ่งขึ้น มันตัวโตขึ้น มีระบบรองรับการขับขี่มากยิ่งขึ้นพร้อมๆ ไปกับราคาที่สูงขึ้นจนขึ้นไปอยู่ในชั้นของรถเล็กระดับพรีเมี่ยม นับจากปี 2001 ที่ BMW Group เข้ามาซื้อกิจการของ MINI ต่อจากแบรน์ ROVER ที่กำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก จนมาถึงทุกวันนี้บนตัวเลขยอดขาย 1.5 ล้านคันทั่วโลกคือความสำเร็จที่ยากจะทำลาย กลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ต้องการรถยนต์ที่มีรูปแบบหลากหลายมากยิ่งขึ้นทุกที สาเหตุดังกล่าวทำให้ MINI สูญเสียความเป็นตัวตนไปพอสมควรจากการทำรถที่เน้นหนักทางด้านการตลาดมากจนเกินไป ในปี 2008 รถต้นแบบ Countryman Concept ได้สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนๆ ของ MINI ในงานแสดงรถยนต์ปารีสมอเตอร์โชว์ ด้วยตัวถังแบบ 5 ประตู พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและช่วงล่างแนว Crossover มันตัวอ้วนขึ้นและสูงขึ้นมาก แม้จะไม่ดูดีเท่ารุ่นตัวถัง 3 ประตู แต่การมาถึงของ Countryman เป็นการป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า BMW Group พร้อมแล้วสำหรับการขยายตลาดสู่ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่และพยายามรักษาความนิยมใน แบรนด์ MINI ไว้ นับเป็นครั้งแรกที่ BMW กล้าที่จะตัดสินใจเพิ่มความหลากหลายของตัวถัง MINI ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาว่า กำลังทำให้ MINI ในทุกวันนี้ขาดความเป็นตัวตนที่ชัดเจนทุกๆ ค่ายในห้วงเวลานี้พยายามทำรถของตนเองให้มีขนาดที่เล็กลง แต่กลับสวนทางอย่างสิ้นเชิงเมื่อพบกับรูปลักษณ์ของเจ้า MINI Countryman เพื่อทำให้มันมีความอเนกประสงค์ด้านการใช้งานมากยิ่งขึ้น ขนาดของตัวถังรหัส R60 จึงถูกขยายออกไปทุกทิศทุกทาง รถทดสอบ Countryman Cooper D ขับเคลื่ิอน 2 ล้อหน้าคันนี้มีความกว้าง 1,789 มิลลิเมตร ยาวถึง 4,097 มิลลิเมตรและมีความสูงถึง 1,561 มิลลิเมตร เมื่อมองดูใกล้ๆ จะพบความอวบอ้วนของตัวถังที่ถูกดีไซน์ให้อ้างอิงกับรถยนต์ในแนว Crossover ซึ่งมีมิติความสูงมากกว่ารถยนต์ทั่วๆ ไป ด้านหน้าของเจ้า Countryman มีไฟหน้าแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำกับไฟของรุ่น 3 ประตู จากขนาดที่ใหญ่กว่า กระจังหน้าก็ยังมีมิติที่เพิ่มมากขึ้นแม้จะยังมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันกับ รุ่น 3 ประตูตัวเล็ก สปอยเลอร์หน้าหรือกันชน วางไฟตัดหมอกทรงกลมบริเวณมุมทั้งสองด้าน ส่วนช่องรับอากาศเพื่อระบายความร้อนให้กับหม้อน้ำและรังผึ้งของระบบปรับอากาศนั้นก็ยังใหญ่โตตามขนาดของตัวรถไปโดยปริยาย ฝากระโปรงออกแบบให้มีมุมมองที่นูนขึ้นเล็กน้อยตรงกลาง พร้อมไปกับการคาดสติกเกอร์ตามแนวทางของ MINI ที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ส่วนตัวไปแล้วมุมมอง ด้านข้างตัวถังของ MINI Countryman Cooper D จะพบเห็นความใหญ่โตได้อย่างชัดเจนทั้งจากขนาดของความสูงและแนวของกระจกบังลม เสาหน้ามีความลาดเอียงน้อยลงกลับทำให้ทัศนวิสัยมุมมองด้านหน้าปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น พลาสติก ABS ใช้ตกแต่งซุ้มล้อหน้า-หลังกับแนวชายล่างของขอบบันไดตัดกับสีขาวของตัวถัง แก้มข้างวางไฟเลี้ยวไว้คนละแนวกับรุ่นตัวถังเล็กด้วยการใช้แนวทะแยงที่ลงตัว กับไฟเลี้ยวทรงยาวแทนที่ไฟเลี้ยวทรงกลมของเจ้าตัวเล็ก ล้ออัลลอยลายแนวๆ สีขาวขอบ 17 นิ้วแบบ 5 รูน็อตยึด ห่อรัดเอาไว้ด้วยยางกึ่งลุยของ Bridgestone ไซส์ 205/55/R17 แก้มยางที่สูงขึ้นมากกว่ารุ่นเล็กยังช่วยทำให้การวิ่งลุยทางฝุ่นหรือทางขรุขระดีขึ้น แนวของหลังคาที่ค่อยๆ ลดระดับความลาดเอียงไปยังส่วนท้ายสอดรับกับเสาหลังที่ค่อนข้างเตี้ยได้ดี ที่แปลกตาคือเสาอากาศซึ่งติดตั้งอยู่บนหลังคาทางส่วนหลังที่สูงโด่ง บานประตูใช้มือจับแบบพลาสติกชุบโครเมี่ยมสีเงินช่วยเพิ่มเติมมุมมอง หลังคาสีดำกับรถสีขาวตัดกันอย่างลงตัวและสวยงาม ในรุ่น Countryman Cooper D ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าซึ่งมีราคาลดต่ำลงมาจากรุ่น Countryman All4 Cooper SD ไม่มี Moon roof ติดตั้งมาให้เหมือนกับรุ่นสูงสุด สันหลังคามีชิ้นงานใช้สำหรับติดตั้งแร็คหลังคาสำหรับขนของผู้คนส่วนใหญ่คาดหวังกับขนาดที่โตขึ้นแบบรถ SUV ที่ใช้งานได้ดีและ Countryman Cooper D ตอบโจทย์นี้ได้อย่างลงตัวแม้จะไม่ใหญ่เท่ากับรถขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบ บั้นท้ายของมันสร้างความแตกต่างอย่างมีเสน่ห์รวมถึงงานวิศวกรรมโครงสร้างและความประณีตในการประกอบ ฝาท้ายเปิดออกได้ด้วยมุมที่สูงเป็นพิเศษสำหรับการขนสัมภาระ ไฟท้ายแนวตั้งมีขนาดที่โตขึ้นตามมิติของตัวถัง ส่วนชิ้นงานสปอยเลอร์หลังหรือกันชนด้านหลังก็ยังลงตัวสอดรับกับส่วนท้าย กระจกบานหลังที่ติดอยู่กับฝาท้ายมีขนาดเล็กไปนิดและต้องเพิ่มความระวัง ขณะที่กำลังถอยหลังเนื่องจากความสูงของตัวรถ สำหรับ Countryman Cooper D มีเซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญาณเสียงเมื่อเข้าใกล้วัตถุกีดขวาง กระจกบังลมด้านหลังมีใบปัดน้ำฝนขนาดเล็กและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบหลอด LED มาให้อีกด้วยถึงแม้ตัวจะโตแต่ภายใน ห้องโดยสารของ Countryman Cooper D ยังคงกลิ่นไอของ MINI รุ่นปกติเอาไว้อย่างเหนียวแน่นจากการจัดวาง การคัดสรรวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในและรูปแบบของปุ่มสวิตช์ต่างๆ ที่ยังคงเหมือน กับรุ่น 3 ประตู มาตรวัดใหญ่ขนาดชามก๋วยเตี๋ยวไม่มีจอมัลติฟังก์ชั่นเหมือนกับรุ่นสูงสุด มีชุดเครื่องเสียงแบบ CD-MP3 AM-FM พร้อมช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอก ชุดควบคุมอุณหภูมิและปุ่มสวิตช์เปิด-ปิดกระจกบังลมแบบไฟฟ้ากับระบบไฟส่อง สว่างอยู่ค่อนข้างต่ำทำให้การใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร ภายในของ Countryman Cooper D คันทดสอบเน้นสีแบบทูโทนดำสลับแดง เบาะแบบผ้าใช้หนังแท้สีเทาเข้มหุ้มขอบเพื่อความคงทน แผงประตูสีดำสลับแดง ที่ออกแบบได้ดีและโดนใจคือคอนโซลพลาสติกขึ้นรูปที่หุ้มด้วยไวนิลคุณภาพสูง สำหรับป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก พวงมาลัยสามก้านกับสวิตช์ปรับตั้งเครื่องเสียงและปุ่มรับสายโทรศัพท์ หลังวงพวงมาลัยยังมีแป้นเปลี่ยนเกียร์หรือ Paddle Shift ทำจากพลาสติกสีดำ ช่องแอร์ทรงกลมที่เข้ากันกับหน้าปัดมาตรวัด ซุ้มเกียร์ออโต้ทำออกมาคล้ายๆ กับเกียร์ธรรมดาโดยใช้ถุงหนังแท้สีดำห่อหุ้ม คันเกียร์ แม้จะเต็มไปด้วยพลาสติกรอบๆ ห้องโดยสาร แต่รูปแบบและงานดีไซน์รวมถึงการจัดวางทำออกมาได้ดีโดนใจวัยรุ่นเหมือนเดิมมือจับประตูสีเงินตัดกับแผงบุประตูสีดำสลับแดง ตัดขอบแผงประตูด้วยชิ้นงานพลาสติกทรงโค้งสีเงินที่ให้ผิวสัมผัสแตกต่างกัน ออกไป เบาะผู้โดยสารตอนหลังยังสามารถพับให้เอนราบเพื่อการขนของพวกกระเป๋าเดินทาง ใบโต ถุง Golf หรือจักรยานแบบพับได้ เอกลักษณ์อีกอย่างที่ช่วยสร้างบรรยากาศของการขับขี่ในตอนกลางคืนคือหลอดไฟ แบบ LED ที่ประดับประดาอยู่ตรงมือจับแผงประตูทุกบาน กับไฟเหนือศีรษะของเบาะผู้โดยสารตอนหน้าที่สามารถเปลี่ยนเฉดสีได้ถึง 756 เฉดสี โดยผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งสีของไฟ LED ภายในห้องโดยสารได้ตามใจชอบ ทำให้ห้องโดยสารมีความงดงามแปลกตาในตอนกลางคืนเครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบแถวเรียง 2.0ลิตรพร้อมเทอร์โบแปรผันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันได้ สูงสุด 19.6 กิโลเมตร / ลิตรสำหรับ Cooper D ทั้งในรุ่นแฮทช์แบค 3 ประตูและแบบ 5 ประตูเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ของ MINI ขนาด 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบ ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีมาจากพื้นฐานของเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.0 ลิตรที่ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบ เทอร์โบแปรผันที่ให้กำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกช่วงของรอบเครื่องยนต์ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงวิศวกรของ MINI เคลมว่ามันสามารถวิ่งได้ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 19.6 กิโลเมตร / ลิตร พร้อมแรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,250 สำหรับ Countryman Cooper D และในรุ่นแฮทช์แบค 3ประตูหรือ MINI Cooper D และสำหรับ Cooper SD ในรุ่นแฮทช์แบค 3 ประตูรุ่นสูงสุดรวมถึง Countryman Cooper SD All4 นั้นมีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ที่ 18.9 กิโลเมตร / ลิตร และให้แรงบิดสูงสุดถึง 305 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,700 รอบ ทำให้ MINI Cooper D และ SD ทุกแบบตัวถัง เป็นรถที่มีแรงบิดรอบต่ำที่น่าทึ่งมากเมื่อเทียบกับรถยนต์ในขนาดและเซกเมนต์ เดียวกัน สำหรับชุดส่งกำลังหรือเกียร์ ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อมโหมดชิฟเกียร์ด้วยตัวเองทั้งแบบ Manual และ Auto ผ่านสวิตช์ปรับเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยเครื่องยนต์ ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ ได้รับการติดตั้งในรุ่น MINI Countryman ภายใต้ชื่อ MINI Cooper D Countryman และ MINI Cooper SD All4 Countryman รวมทั้งในรุ่น MINI Cooper ภายใต้ชื่อ MINI Cooper SD Coupe ทำให้มินิมีรุ่นต่างๆ ในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ให้เลือกถึง 5 รุ่นด้วยกัน นอกจากอัตราการประหยัดน้ำมันที่ แล้ว MINI ยังคงคาแรกเตอร์ในการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจในสไตล์โก-คาร์ท ด้วยระบบพวงมาลัยแบบ EPS Electric Power Steering สามารถให้การควบคุมที่เฉียบคมและแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเนื่องจากพวงมาลัยไฟฟ้ามีระบบการทำงาน ที่แยกจากเครื่องยนต์โดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ ระบบอิเล็กทรอนิกส์เสริมด้านความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control, ระบบเบรก ABS Antilock Braking System ระบบ EBD Electronic Brake force Distribution และระบบ CBC CorneringBrake Control ก็ได้รับการติดตั้งเพื่อความมั่นใจสูงสุดในขณะขับขี่ใช้งานเทคโนโลยี MINIMALISM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงตามแบบฉบับของ MINI เทคโนโลยี MINIMALISM ถูกออกแบบเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับ MINI เครื่องยนต์ดีเซลทุกรุ่น ซึ่งเทคโนโลยี MINIMALISM รวมถึงระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติจากการเบรก (Brake EnergyRe-Generation), ระบบพวงมาลัยแบบ EPS Electric Power Steering และระบบสำรองพลังงานแบบ On-demand สำหรับอุปกรณ์เสริม ทำให้มีอัตราการประหยัดน้ำมันโดยรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ของ MINI ได้รับการปรับปรุงเพื่อลด Vibration และลดเสียงจากห้องเครื่องยนต์ทำให้เครื่องเดินเงียบปราศจากอาการสั่นเหมือน เครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปรายละเอียดด้านเทคนิคMINI CountrymanMINI Cooper D Countryman (คันทดสอบ)เครื่องยนต์ 4 สูบ ดีเซลคอมมอนเรล เจนเนอเรชั่นล่าสุดพร้อมเทอร์โบแปรผันปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 1,995 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที)112 / 4,000แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) 270 / 1,750-2,250ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตร /ชั่วโมง)180อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร /ชั่วโมง (วินาที) 11.3อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย (กิโลเมตร / ลิตร) 17.9ระดับการปล่อย CO2 (กรัม / กิโลเมตร) 149มิติรถยนต์ ยาว/กว้าง/สูง (มิลลิเมตร) 4,097/1,789/1,561ราคา (บาท - รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 2,840,000MINI เครื่องยนต์ดีเซล มีโปรแกรมบริการหลังการขาย MINI Service Inclusive (MSI) ซึ่งเป็นการดูแลบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 3 ปีหรือ 50,000 กิโลเมตร โปรแกรม MSI เป็นสิทธิ์เฉพาะสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ MINI ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งลูกค้า MINI จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการมิลเลนเนียม ออโต้สามารถนำรถเข้ารับบริการได้จากมิลเลนเนียม ออโต้ สาขาเอกมัยซึ่งสามารถรองรับการบริการหลังการขายได้ถึง 9 ช่องสำหรับให้บริการทางด้านเทคนิคโดยเฉพาะ และใหม่ล่าสุดกับศูนย์บริการ MINI ที่มิลเลนเนียม ออโต้ สาขาพระราม 3 ซึ่งสามารถรองรับการบริการหลังการขายได้ถึง 16 ช่อง สำหรับ BMW และ MINI ให้บริการแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนของปีที่ผ่านมาMINI Cooper D Countryman Specificationsengine type.......................................turbocharged dieselEngine manufacturer.......................BMWEngine codeCylinders Straight .........................4Capacity........................................2 litre 1,995 cc (121.742 cu in)Bore × Stroke..................................84 mm × 90 mm 3.31 × 3.54 in Bore/stroke ratio.............................0.93Valve gear......................................DOHC 4 valves per cylinder 16 Total valvesmaximum power output..............112 PS (81.7 kW) at 4,000 rpmSpecific output................................54.9 bhp/litre 0.9 bhp/cu inmaximum torque...........................270 Nm (199 ft·lb) (27.5 kgm) at 1,750-2,250 rpmSpecific torque................................135.34 Nm/litre 1.64 ft·lb/cu3sump...............................................wet sumpedcompression ratio............................16.5:1Fuel system.....................................common rail direct diesel injectionbmep (brake mean effective pressure)1700.7 kPa (246.7 psi)Engine coolant.................................WaterUnitary capacity...............................498.75 ccAspiration.........................................Turbo D.Acceleration..................................... 0-100 km/h11.30 sStanding kilometre..........................33.00 sMaximum speed..............................180 km/h (112 mph)Power-to-weight ratio......................77.66 bhp/tonCarbon dioxide emissions................149 g/kmEngine position.................................fronttransverse Drive wheels....................front wheel driveSteering.............................................rack & pinion PASturns lock-to-lock..............................2.400Turning circle....................................nonFront suspensionRear suspensionWheel size front................................17 inWheel size rear..................................17 inTyres front.........................................205/55 R 17 Tyres rear..........................................205/55 R 17 Brakes Front brake diameter.........................280 mmRear brake diameter..........................259 mmGearbox............................................6 speed automaticTop gear ratio...................................0.67Final drive ratio...............................3.68Wheelbase.......................................2,595 mm 102.2 inTrack/tread (front)...........................1,534 mm 60.4 inTrack/tread (rear).............................1,559 mm 61.4 inLength.............................................4,097 mm 161.3 inWidth...............................................1,789 mm 70.4 inHeight..............................................1,561 mm 61.5 inGround clearance............................149 mm 5.9 inlength:wheelbase ratio....................1.58Kerb weight.....................................1,410 kg 3,109 lbFuel tank capacity............................47 litres 10.3 UK Gal 12.4 US Galอาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

Monday, February 25, 2013

สุดเยี่ยม ผลงาน SKYLINE คว้าแชมป์ Casaviva Design Contest 2013

สุดเยี่ยม ผลงาน SKYLINE คว้าแชมป์ Casaviva Design Contest 2013
สุกฤษฏิ์ สุขเกษม  กับผลงาน SKYLINE อาร์ม-สุกฤษฏิ์ สุขเกษม ชนะเลิศ Casaviva Design Contest 2012 โดยนิตยสาร Casaviva คว้ารางวัลใหญ่บินดูงาน Milan Furniture Fair 2013...ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง นิตยสาร Casaviva นิตยสารตกแต่งบ้านจากประเทศอิตาลีเครือ บริษัท  อินสไพร์  เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ล่าสุดจัดรอบตัดสินโครงการประกวดออกแบบบ้าน Casaviva Design Contest  2012 : Celebrity Home Suite Home  ครั้งที่ 6คุณสมัชชา วิราพร บก.นิตยสาร casaviva ร่วมถ่ายภาพกับผู้เข้าประกวด ภายใต้คอนเซปต์ บ้านพักตากอากาศรับวิวทะเล ตอบสนองการใช้ชีวิตอันแสนสะดวกสบาย ราวกับห้องสวีตของโรงแรมระดับ 5 ดาวให้กับเซเลบริตี้นักธุรกิจสาวชื่อดัง ปอ-ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ซึ่ง อาร์ม-สุกฤษฏิ์ สุขเกษม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะ  Faculty of  Architecture,Design  and  Planning สาขา  Bachelor  of  Design in  Architecture The University of  Sydney  Australia ชนะเลิศคว้ารางวัลใหญ่บินดูงานมิลานแฟร์ 2013 ประเทศอิตาลี พร้อมเงินรางวัลและเกียรติบัตรรวมกว่า 200,000 บาท ณ แกรนด์ ฮอลล์ ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่  ซึ่งมีนิสิตนักศึกษาและผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมากผู้ได้รับรางวัล ภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ผ่านเข้ารอบ 11 ทีมขึ้นโชว์พร้อมนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ  ต่อด้วยมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน “เต้น-นรารักษ์” ช่วงไฮไลต์ประกาศผล รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ สุกฤษฏิ์ สุขเกษม เจ้าของผลงาน SKYLINE ได้รับรางวัล ดูงานเฟอร์นิเจอร์ระดับโลกในงานมิลาน แฟร์ 2013 ประเทศอิตาลี และเยี่ยมชมกองบรรณาธิการ นิตยสาร Casaviva ฉบับอิตาลี พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท, ใบประกาศเกียรติคุณ สมาชิกนิตยสาร Casaviva 1 ปี รวมกว่า 200,000 บาทมอบโดย สมัชชา วิราพร บรรณาธิการ นิตยสาร Casaviva และปอ- ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ เซเลบริตี้นักธุรกิจสาว รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ อลิสสา แซ่ซิม เจ้าของผลงาน PearIAMORE ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท, ใบประกาศเกียรติคุณ สมาชิกนิตยสาร Casaviva 1 ปี และ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ วิชชากร วณิชเดโชชัย เจ้าของผลงาน Rest within the Pure ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท, ใบประกาศเกียรติคุณ สมาชิกนิตยสาร Casaviva 1 ปี ถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกันบนเวทีปอ ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์มินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน เต้น นรารักษ์สุกฤษฏิ์ สุขเกษม สุดท้ายต้องขอแสดงความยินดีกับคนเก่ง.

ชีวิตเปี่ยมสุข ธุรกิจอาหาร ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ เจ้าแม่ Krispy Kreme

ชีวิตเปี่ยมสุข ธุรกิจอาหาร ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ เจ้าแม่ Krispy Kreme
เปิดใจ ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ เจ้าแม่โดนัทมหัศจรรย์ “Krispy Kreme” กับปรากฏการณ์โดนัทคิวยาวที่สุดในประเทศ อยากรู้แล้วสิว่าในชีวิตประจำวัน เธอกิน อยู่ อย่างไรกันนะทายาทคนโตของมหาเศรษฐี “เนสกาแฟ” ที่วันนี้รับบทบาททั้งศรีภรรยาของสามีชาวฟิลิปปินส์ คุณแม่ของสองสาวน้อยวัยซน (แถมอีกคนอยู่ในท้อง) ข้าราชการกระทรวงการคลัง อาจารย์พิเศษและเจ้าของโดนัทร้านดังที่สร้างกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ด้วยปริมาณคนต่อคิวยาวถล่มทลายติดต่อกันนานหลายเดือน ทั้งหมดที่กล่าวมาจะเป็นใครได้อีกนอกจากสุภาพสตรีแสนน่ารักอย่าง ตุ๊ก-อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอเสิร์ฟสุขจานด่วนมีโอกาสได้มานั่งพูดคุยสัมภาษณ์กันแบบตัวต่อตัว ถึงได้ทราบว่าเธอผู้นี้ “ช่างกิน” มิใช่น้อย“เป็นคนชอบกินมาตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยกค่ะ สมัยโน้นไม่ได้เป็นเด็กอ้วนอะไร แต่เพราะคุณพ่อคุณแม่เน้นให้กินอาหารครบ 5 หมู่ ตุ๊กกับน้องๆ จึงกินมื้อเช้าแบบฟูลคอร์สมาตั้งแต่เด็กๆ เราถูกปลูกฝังมาว่ามื้อเช้าสำคัญที่สุด ไปโรงเรียนคุณครูยังสอนให้กินอาหารตามหลักโภชนาการแบบพีระมิดอาหารรูปสามเหลี่ยมที่เคยเรียนกันมา ท่องได้แม่นเลยว่าควรกินอะไรวันละเท่าไรถึงจะดีต่อร่างกาย แต่ก็มีบ้างนะที่ตามใจปาก ใครจะอดใจไม่ลองของอร่อยได้ล่ะ “ตุ๊กให้น้ำหนักเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต เพราะมันคือความสุขในชีวิตที่หาได้ทันที ไม่เหมือนเวลาเราอยากได้ของมีราคาสักชิ้น ต้องเก็บเงินนานกว่าจะได้มา แต่อาหารอร่อยบางอย่างไม่ต้องรอนาน ซื้อกินและมีความสุขกับรสอร่อยได้เดี๋ยวนั้นเลยอีกทั้งอาหารอร่อยไม่จำเป็นต้องใช้งบมากมาย”ตกหลุมรักโดนัทแห่งความสุขสิบกว่าปีมาแล้วที่เธอหลงใหลในรสชาติของโดนัทแสนอร่อยโดยบังเอิญ ดังคำเล่าว่า“สิบกว่าปีก่อนตอนตุ๊กเรียน MBA อยู่ที่บอสตัน ได้ยินเพื่อนเล่าว่ามีโดนัทยี่ห้อหนึ่งอร่อยมาก คนต่อคิวซื้อเยอะ ฟังตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เข้าใจว่าแค่โดนัทธรรมดาแต่ไปๆ มาๆ เริ่มมีเพื่อนและคนรอบตัวพูดถึงมากขึ้น จึงนึกอยากชิม ตอนนั้นที่บอสตันยังไม่มีสาขาเลยค่ะ ที่ใกล้ที่สุดคือสาขานิวยอร์ก ซึ่งใช้เวลาขับรถ 4 ชั่วโมง มีโอกาสจึงฝากเพื่อนซื้อมาให้ชิม คริสปี้ ครีมชิ้นแรกที่ได้ลิ้มลองเป็นรสออริจินัลค่ะ กัดเข้าไปคำแรกรู้เลยว่าที่เขาร่ำลือกันมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ที่ใครๆ ยอมต่อคิวยาวเพื่อให้ได้มา คือมันต่างจากทุกยี่ห้อที่เคยกินมาเลย อร่อยที่สุดแล้วในโลกของโดนัท ด้วยเนื้อที่นุ่มเบา กินชิ้นเดียวไม่เคยพอ นับจากวันนั้นตุ๊กก็หลงใหลโดนัทเจ้านี้มาตลอด ใครไปนิวยอร์กเป็นต้องฝากเขาหิ้ว เอามาตุนไว้ในตู้เย็น ค่อยๆ แบ่งออกมากิน กลัวหมด หวงมากเลยนะ ใครแตะไม่ได้ กินประจำจนเรียนจบเลยล่ะ“พอกลับมาเมืองไทยยังคอยฝากคนโน้นคนนี้หิ้วมาให้เสมอ คือรู้สึกว่ากินแล้วแฮปปี้ มีความสุขหายเหนื่อยและมีพลัง รักหมดใจจนถอนตัวไม่ขึ้นเชียวค่ะ สมัยคบกับแฟนและยังไม่แต่งงาน (ลอภ์เรนฆ์ ลีโอณีโอ หรือคุณปิยะพัฒน์ วรวณิช) ต้องให้แฟนหิ้วมาฝากทุกครั้งที่เขากลับฟิลิปปินส์ กระทั่งแต่งงานมีลูกสาวตัวเล็กๆ 2 คน (น้องอิสรีย์และน้องอทิตา) จึงได้มีโอกาสนำเข้าโดนัทยี่ห้อนี้มาขายในเมืองไทยทุกวันนี้สบายแล้วค่ะ อยากกินเมื่อไรก็ได้ มีความสุขมาก เมนูอร่อย ช่วงเวลาแห่งความสุข“ตุ๊กมีจานอร่อยตลอดกาลของตัวเองอยู่หนึ่งเมนู ประทับใจมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ กระทั่งตอนนี้ก็ยังคงกินอยู่ประจำ เป็นเมนูง่ายๆ บ้านๆ ซึ่งก็คือ ‘หมูทอดกระเทียม’ เป็นหมูหมักซีอิ๊วทอดธรรมดานี่ละค่ะ แต่อร่อยติดใจมาก ครั้งแรกที่ได้กินนั้นเป็นฝีมือของพี่เลี้ยง ตั้งแต่กี่ขวบจำไม่ได้แล้วค่ะ หมูทอดร้อนๆ หอมกลิ่นซีอิ๊วและกระเทียมราดบนข้าวสวย โปะด้วยไข่เจียวหน่อยนะอร่อยเหาะสุดๆ ไปเลย ยิ่งถ้ากินคู่กับจานและช้อนสังกะสีด้วยจะได้อารมณ์มาก พอโตขึ้นมาก็เริ่มมีพัฒนาการด้วยการราดพริกน้ำปลาให้รสจัดจ้านขึ้น จนกินพริกขี้หนูเป็นด้วยเหตุนี้ ส่วนทุกวันนี้กินอาหารได้ทุกประเภทค่ะ เน้นว่าต้องอร่อยเท่านั้นด้วยเชื่อไหมว่าคุณแม่ตุ๊กผู้นี้ทำอาหารไม่เป็น แต่ก็ได้พยายามไปเรียนทำอาหาร เพื่อเอาใจลูกชายคนโต แต่ทำได้ไม่กี่วันก็ต้องวางมือ เพราะรู้สึกว่างานครัวคงไม่เหมาะกับตัวเอง ให้คนที่เขาถนัดทำดีกว่าสุดท้ายเลยต้องลงเอยที่การหาแม่บ้านมารับหน้าที่ตรงนี้ไป ความสุขบทบาทที่หลากหลายเช่นกันกับโดนัทแสนอร่อยที่มีหลากหลายรสชาติ ในเรื่องบทบาทการทำงาน เจ้าแม่โดนัทท่านนี้ก็งานชุกไม่แพ้กัน“กิจการร้านโดนัทคริสปี้ ครีม เป็นธุรกิจส่วนตัว แต่งานประจำของตุ๊กนั้นรับราชการเป็นนักวิชาการคลัง กระทรวงการคลัง ได้ใช้ความรู้ปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจที่ร่ำเรียนมากับงานนี้ละค่ะ นอกจากนี้ ก็มีบรรยายพิเศษตามสถาบันการศึกษาต่างๆ และรับหน้าที่กรรมการสโมสรและสมาคมศิษย์เก่าอีกหลายแห่ง ส่วนเวลาที่เหลือให้ลูกและครอบครัวหมดเลย “กิจการร้านโดนัทนับเป็นสนามฝึกประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี เพราะกว่าจะได้ลิขสิทธิ์มาไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องทำเองเป็นทุกอย่าง ตั้งแต่กวาดถูทำความสะอาดร้านไปจนถึงผสมแป้งโดนัทตามสูตร เพราะไม่มีประสบการณ์ทางด้านธุรกิจอาหารเลย ทำให้ต้องพิสูจน์ตัวเองมาก ต้องทำแผนธุรกิจเอง นอกจากนั้น ยังต้องบินไปสัมภาษณ์หลายครั้งในหลายประเทศด้วยกัน ยังจำได้ว่ากว่าจะเซ็นสัญญากันได้ ก็หนึ่งวันก่อนคลอดพอดีค่ะ เหนื่อยมาก แต่ผลตอบลับก็ดีมากเช่นกัน ดีใจที่เห็นคนได้ทานโดนัทแล้วมีความสุขเหมือนที่ตุ๊กรู้สึก ตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ยังมีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย. ภาพ/ข้อมูล : นิตยสาร Health & Cuisine 

NEW CAR OF THE MONTH

NEW CAR OF THE MONTH
รถใหม่ในยุโรปประจำเดือนมีนาคม แม้พิษจากหนี้สาธารณะยังคงส่งผลในกลุ่มอียู ตามด้วยการปลดคนงานและปิดโรงงานประกอบบางแห่งเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่การขายของก็ยังต้องดำเนินต่อไป...สถานะอันดับที่ 6 ของประเทศที่มีอันตรายจากการสัญจรไปมาด้วยยานพาหนะ ทำให้ชื่อเสียงประเทศไทยทางด้านเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลกต้องมัวหมองลงไป อุบัติเหตุรถปิกอัพชนสองสามีภรรยาชาวอังกฤษที่ปั่นจักยานข้ามโลกชนเสียชีวิตที่แปดริ้ว หรือล่าสุดกับอุบัติเหตุบนถนนเกาะพงันที่ทำให้นักท่องเที่ยวสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนลูกที่โดยสารมาด้วยถึงกับเสียชีวิต ทำให้ต้องกลับมาย้อนดูวินัยจราจรการขับรถใช้ถนนของคนไทย สามัญสำนึกเกี่ยวกับความปลอดภัยที่จางหายไป ความประมาท ใช้ความเร็วสูง รวมถึงการดื่มแล้วขับยังคงทำให้ถนนหนทางของประเทศนี้น่ากลัวขึ้นไปทุกวัน หยุดคิดเรื่องความปลอดภัยสักนิดก่อนจะขับรถ รักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด เริ่มที่คุณก่อนที่จะคิดไปให้ใครทำMINI Paceman John Cooper Workแตกลายรุ่นแยกย่อเป็นประจำจนจำไม่ได้ว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหนแล้ว ล่าสุด BMW Group บริษัทแม่ที่ดูแลแบรนด์ MINI ปล่อยของร้อนรุ่นล่าสุด นี่คือ Countryman รุ่นที่มีเพียงสามประตูแทนที่จะเป็นห้าประตู โดยมีชื่อว่า MINI Paceman ตัวแรงรหัส John Cooper Work พร้อมชุดแต่งเสริมความโหด เช่น ล้อขอบ 18 นิ้วลายล้างยาก หรือออปชั่นพิเศษซึ่งเป็นล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้ว ใหญ่สะใจวัยรุ่น นอกจากล้อ เจ้า Paceman John Cooper Workยังมีกาบปันได ชุดท่อระบายไอเสียแบบสปอร์ต สปอยเลอร์หน้า - หลังที่ลงตัวกว่ารุ่นปกติ รถ MINI Paceman John Cooper Work มีให้เลือกสองสีคือสีดำคาดสติกเกอร์แดง และสีขาวคาดสติกเกอร์ดำ ส่วนห้องโดยสารก็ตกแต่งในแนวทางของ John Cooper Work สำนักแต่งคู่บุญบารมีของ MINI ที่มีราคาค่าของตกแต่งแพงหูดับ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เบนซิน อัดอากาศด้วยเทอร์โบแบบ Twin-scroll turbocharger พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดจิ๋ว ลูกสูบและฝาปรับแต่งให้รับแรงได้มากขึ้นแต่น้ำหนักเบาลง ระบบไอดีปรับใหม่หมดทั้งยวง เครื่องสี่สูบเบนซินเทอร์โบตัวนี้ สร้างแรงได้ถึง 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ชุดเกียร์มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดกับเกียร์เซมิออโตเมตริก 6 อัตราทด แบบ Step-Tronic พ่วงด้วยชุดขับเคลื่อนสี่ล้อ All4 อันลือลั่น กับชุดล็อกเฟืองท้ายอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อกระจายแรงบิดหน้าหลังในระดับ 50-50 เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 6.9 วินาที ความเร็วปลาย 226.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ออกขายเร็วๆ นี้อย่างแน่นอนMercedes Benz E-Class Minor Change 2014Mercedes Benz ปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ให้กับ E-Class ทั้งรุ่นสี่ประตู รุ่น Coupe และรุ่นสเตชั่นแวนกอน ไฟหน้าแบบใหม่พร้อมไฟ LED Day Time ชุดกันชนหน้าและฝากระโปรงหน้าออกแบบให้สอดคล้องกับเส้นสายของตัวถัง ไฟท้ายแบบใหม่หลอด LED ชุดกันชนท้ายทำเท่ด้วยแผ่น Diffuser คอยรีดอากาศที่ไหลผ่านบั้นท้ายให้มีระเบียบมากขึ้น ส่งผลไปถึงการทรงตัวในย่านความเร็วสูงที่มั่นคงขึ้น เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซลอัดเทอร์โบเหมือนเดิมรวมถึงเครื่อง BlueDIRECT แบบสี่สูบ หกสูบหรือ V8 เครื่องยนต์ทุกรุ่นมีหัวฉีดไฟฟ้าแบบล่าสุด ระบบวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและฝั่งไอเสีย เครื่องยนต์ดีเซลที่น่าจับตามองคือรุ่น E300 BlueTEC ทำงานร่วมแกนกับมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงในระบบ Hybrid ให้กำลัง 231 แรงม้า กับแรงบิด 750 นิวตันเมตร กินเชื้อเพลิง 4.5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตรBMW Series-7 2013ค่ายใบพัดสีฟ้าขาวส่งเรือธงรุ่นปรับโฉมออกทำตลาดด้วยไฟหน้าแบบล่าสุดที่งดงามกับระบบรองรับและอุปกรณ์ระดับเทพชนิดเครื่องบินยังอาย ยอดขาย 200,000 คันตลอดอายุ 4 ปีของโมเดล ทำให้ผู้บริหารของ BMW จำเป็นต้องปล่อยเวอร์ชั่นล่าสุดออกมากระตุ่นตลาดเสริมตัวเลขยอดขาย ซาลูนตัวโตคันนี้ปรับกระจังหน้ารูปไตคู่โดยยกให้สูงขึ้น แต่ทำให้มันดูแปลกและไม่ค่อยลงตัว สิ่งที่ดีขึ้นคือการเปลี่ยนแปลงภายในโดยเพิ่มศักยภาพของการขับและความเป็นไดนามิกเข้าไปจนเกินหน้าเกินตาคู่แข่ง รุ่นแยกย่อยเยอะจนเลือกไม่ถูกเช่น 760i / 730d 258 แรงม้า / 740d Twin Turbo 313 แรงม้า / 750d xDRIVE 381 แรงม้า / Active Hybrid 7 320 แรงม้า เครื่องยนต์ เครื่องยนต์แถวเรียงหกสูบเทอร์โบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงที่สร้างแรงม้าได้อีก 55 ตัว ชุดส่งกำลังของทุกรุ่นเป็นเกียร์ออโต้ 8 สปีดของ ZF มาพร้อมโหมด ECO Start/Stop อุปกรณ์ที่จะทำให้เจ้าของรถพึงพอใจมากที่สุดนอกจากการนั่งคือมาตรวัดดิจิตอลที่ล้ำพอๆ กับเครื่องบินเจ็ท จอมาตรวัดจะเรืองแสงและให้สีไปตามโหมดที่ผู้ขับปรับตั้ง ในโหมด Sport มันจะส่งสีแดงราวกับห้องควบคุมของเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ รถ BMW Series-7 2013 วางขายแล้วในยุโรปและอเมริกา สำหรับประเทศไทยเดือนมีนาคมนี้มาแน่นอนHonda Accord 2013 Accord 2013 เรือธงของค่าย Honda มาแล้วด้วยรูปลักษณ์ที่สดใหม่ มันสวยและดุขึ้นด้วยไฟและชุดกระจังหน้าที่ดีไซน์ได้ลงตัวและดูดีขึ้นมาก ชิ้นงานพลาสติกโครเมี่ยมขอบกระจังทำให้ความหรูหราเพิ่มขึ้น สปอยเลอร์หน้าและตะแกรงรังผึ้งระบายความร้อนกับไฟตัดหมอกทรงเหลี่ยม รุ่นสี่ประตูซีดานมีไฟท้ายที่ลงตัวมากกว่ารุ่น Coupe ซึ่งมีขายในทวีปอเมริกาเหนือ เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 2.0 ลิตร 163 แรงม้า 2.4 ลิตร 185 แรงม้า กับรุ่น V6 3.5 ลิตร 287 แรงม้า แถมด้วยรุ่นประหยัดแบบ Plug in Hybrid เป็นระบบ Hybrid ใหม่ล่าสุดที่คิดค้นโดยวิศวกรของ Honda มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวบวกกำลังจากเครื่อง 2.0 ลิตร ได้เรี่ยวแรง 196 แรงม้า ชุดส่งกำลังของรถรุ่นนี้วางเกียร์สายพานไฟฟ้าแบบ CVT ที่นุ่มนวล พร้อมระบบ S Range Control ให้ลากรอบได้อย่างเกียร์ทอร์คคอนเวอร์เตอร์อีกด้วย ในไทยแฟนๆ ของ Honda เตรียมควักกระเป๋ากันได้เลยไม่นานเกินรออย่างแน่นอนGolf Plus Lifeรถเล็กห้าประตูสมรรถนะสูงจาก VW นี่คือ Golf Plus Life เวอร์ชั่นพิเศษที่เพิ่มพื้นที่สำหรับนักขนของที่ชอบเดินทาง เบาะที่ปรับเลื่อนได้อีก 16 เซนติเมตร จะได้ส่วนเก็บสัมภาระอีก 1,450 ลิตรด้วยการพับเบาะผู้โดยสารตอนหลัง อุปกรณ์ถูกยกระดับการใช้งานให้แจ่มขึ้น เช่น แอร์ดิจิตอล เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบทำความร้อนสำหรับพื้นที่แถบขั้วโลก ระบบฉีดน้ำทำความสะอาดกระจกบังลมบานหน้าด้วยปั๊มแรงดันสูง ชุดเครื่องเสียง RCD ระบบช่วยจอด Park Pilot กับ Light And Sight Pack และ Multifunction Plus Display เบาะนั่งเลือกวัสดุหุ้มได้ทั้งหนังและผ้า พวงมาลัย หัวเกียร์ คันเบรคมือหุ้มหนังแท้ ล้ออัลลอย 16 นิ้ว เครื่องยนต์แถวเรียงสี่สูบทั้งเบนซินและดีเซลเหมือนเดิม กำลังมีตั้งแต่ 80 แรงม้าไปจนถึง 140 แรงม้าออปชั่นเสริมมีหลังคาแก้ว panoramic ไว้ให้ควักกระเป๋าเพิ่ม. อาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom

Sunday, February 24, 2013

หวานสไตล์ สวนดอกไม้อังกฤษ

หวานสไตล์ สวนดอกไม้อังกฤษ
ดิษยา-ดนัย สรไกรกิติกูล (คู่กลาง) เจ้าของแบรนด์ดิษยา พร้อมด้วย แฟนคลับที่มาให้กำลังใจ.ซัมเมอร์นี้แฟชั่นนิสต้าเตรียมสัมผัสความหวานในคอลเลกชั่นล่าสุด สปริง/ซัมเมอร์ จาก “ดิษยา” แบรนด์แฟชั่นไทยระดับท็อปคลาสของ ออม–ดิษยา สรไกรกิติกูล ได้เปิดตัวคอลเลกชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2013 เรดี้ ทูแวร์ “Kisses from the Bloom” ในงาน “English Garden” โดยมีแฟชั่นนิสต้าระดับเอลิสต์ อย่าง แพร-ศศิปรียา จิราธิวัฒน์, ชวพร เลาหพงศ์ชนะ, พลอย หอวัง, กรัยเพชร อิสสระ, มิลิน ยุวจรัสกุล, ชาลิสา วีรวรรณ, อัญชิสา วัชรพล ฯลฯ มาร่วมงานอย่างคับคั่งที่ TCDC ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรี่ยมเมื่อเร็วๆนี้บรรยากาศในงานได้ถูกสร้างสรรค์ ให้เป็นสวนสวยแบบอังกฤษ ได้รับ การออกแบบแสงและคอนเซปต์โชว์จาก “จิโร่ เอ็นโด” ไลต์ติ้งดีไซเนอร์ ชื่อดังชาวญี่ปุ่น โดยทั้งเวที, ไลต์ติ้ง รวมทั้งที่นั่งของผู้ชมได้ถูกจัดวางไล่ระดับเหมือนเนินเขาเล็กๆ ในลักษณะ 4 มุมโอบล้อมเวที ในส่วนของแฟชั่น ออม-ดิษยา กล่าวว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากสวนดอกไม้แบบอังกฤษ ทั้งสวนกลางวันและกลางคืน รวมทั้งลายปริ๊นซ์ดอกไม้ โครงเหล็กดัดต้นไม้ในสวน โดยหยิบเอาเฉดสีของดอกไม้ใบหญ้าตั้งแต่ผลิรับแสงอาทิตย์ ยามเช้า ไปจนถึงช่วงแสงจันทร์ยามค่ำคืน สาวๆจะได้เลือกสวยหวานในเฉดสีพาสเทล หรือสวยเด่น ในคีย์ลุคใหม่แบบซัมเมอร์ ไปกับเดรสทรงเอตัดต่อสดใส หรือเดรสปักเลื่อมพิมพ์ลายหรู และชุดเดรสที่เล่นเทคนิคการวางซ้อนลูกไม้ไล่สี .....พบกับคอลเลกชั่นใหม่นี้ได้ที่เกษร พลาซ่า, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล ชิดลม, สยามพารากอน และ ดิ เอ็มโพเรี่ยม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์.

อยากปราดเปรียวเฟี้ยวเงาะกับรังนกเสริมพลัง

อยากปราดเปรียวเฟี้ยวเงาะกับรังนกเสริมพลัง
วันนี้ผมได้ลงไปสัมผัสบรรยากาศของเมืองใต้ อีกนิดจะเข้าเขตจะนะ ตอนแรกก็ขนหัวลุกอยู่เหมือนกัน แต่พอได้คุยได้กินข้าวกับพวกเขา เรื่องที่เราจิตนาการก็เปลี่ยนไป พื้นที่บางแห่งเท่านั้นถึงจะไม่สงบ แต่หลายพื้นที่ก็อยู่กันสุขสบายใจ สบายกาย ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป เรื่องร้ายๆ ที่ชาวบ้านเล่าให้ฟังกลับไม่เป็นอย่างที่รู้...มาถึงเมืองใต้ เมืองหาดใหญ่ ที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นจังหวัด แต่แท้จริงคือเมืองเศรษฐกิจ ที่เหล่าคนจีนโพ้นทะเลเข้ามาทำมาหากินนานแสนนาน ที่เมืองนี้ขึ้นชื่ออีกอย่างคือ รังนก ในอดีตพระมหากษัตริย์ไทย ก็จะให้เก็บค่าภาคหลวงในเรื่องต่างๆ รวมถึงรังนก มาทั้งที่ต้องมาชิมว่าที่เขาร่ำลือถึงฝีไม้ลายมือจะเด็ดแค่ไหน ร้านรังนกสยาม เป็นร้านอยู่แถวๆ เซ็นทรัลหาดใหญ่ กลางใจเมือง หลายคนชอบร้านอื่นๆ มากกว่า แต่ผมชอบร้านนี้ ลองมาหลายร้านแล้วครับรังนกที่นี่เขาตั้งใจทำเอามากๆ ค่อยๆ เก็บขน ค่อยๆ ทำไปทีละน้อย จนได้รังนกระดับเกรด 1 จนถึงเกรด 3 วันนี้ที่ไปลองจะเป็นเกรด 3 ถ้าเกรดนี้อร่อย เกรดที่สูงกว่านี้ไม่ต้องพูดถึง มาลุยกันเลยครับ ผมไปดูวิธีเขาทำด้วย เขาเอารังนกมาเป็นกระปุก แล้วเอามาลวกกับน้ำร้อน ก่อนที่จะเอาน้ำร้อนกับน้ำเชื่อมน้ำตาลกรวดมาใส่ รสชาติอร่อยมากครับ ไม่หวานมากนุ่มนวลดีครับ ชอบเลยทีเดียว ถ้าเป็นกรุงเทพฯ จะหวานมากกว่านี้ แล้วกินน้ำขมตัดอีกนิด ใช้ได้เลยครับพี่น้องร้านนี้อยู่ที่ 122, 124 นิพัทธ์อุทิศ 3 อำเภอหาดใหญ่ สงขลา 90110  โทรศัพท์ 0-7423-7565, 074351719ร้านเปิดตั้งแต่เช้าถึง 4 ทุ่มครึี่งRating : ที่สุดในแผ่นดินLatitude :7.00510Longitude :100.47060เรื่องและภาพโดยธนา ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส)www.facebook.com/baypalace 

BMW เปิดตัว SERIES 3/5/7 ACTIVE HYBRID

BMW เปิดตัว SERIES 3/5/7 ACTIVE HYBRID
BMW Group Thailand เปิดแนวรบตลาดรถหรูพลัง Hybrid ปล่อยของร้อนสุดไฮเทค Series 3-5-7 ACTIVE HYBRID เครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า...2556 : ปีแห่งนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ๆ ที่ตอบรับกับโลกแห่งอนาคตวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน BMW Group Thailand เปิดแถลงข่าวแจงแผนงานและทิศทางในการทำตลาดปี 2556 ว่า BMW Group Thailand ได้วางแผนที่จะนำเสนอนวัตกรรมทางยานยนต์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้รถยนต์ที่มีประสิทธิภาพและใช้เทคโนโลยีล้ำอนาคต โดยยังคงไว้ซึ่งความประหยัดน้ำมันและรักษาต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับการเป็นเจ้าของ นอกจากนี้แล้ว ปี 2556 ยังนับเป็นปีแห่งการเริ่มต้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับ BMW Group ด้วยรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า BMW i3 ที่จะได้รับการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบภายในปลายปีนี้ สำหรับประเทศไทยนั้น บริษัทฯ พร้อมแล้วที่จะนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยได้เป็นอย่างดี“BMW Group Thailand ยังคงมุ่งมั่นตามแผนแม่บท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความพึงพอใจของลูกค้าและเพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านราคาขายต่อรถยนต์ BMW ให้ดียิ่งขึ้นไป ด้วยการตอบรับจากลูกค้าของ BMW MINI และ BMW Motorrad อย่างสูงสุดเป็นปีที่สองติดต่อกันนี้ เรายังคงมุ่งมั่นเพื่อทำให้ได้มากกว่าคาดหมายของลูกค้าของเราต่อไป”BMW Financial Service สร้างสถิติใหม่ปี 2555 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบ 10 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาเช่นเดียวกันคริสเตียน วิดมานน์ กรรมการผู้จัดการ BMW Financial Service Thailand กล่าวว่า “BMW Financial Service ได้เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ด้วยการสร้างสถิติยอดสัญญาเช่าซื้อในปี 2555 ที่เติบโตถึง 25% สำหรับกลุ่มลูกค้า BMW และ MINI ความสำเร็จดังกล่าวนี้ เป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับลูกค้าได้สูงสุด การให้บริการที่ดีเยี่ยม และการมุ่งมั่นเพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งลูกค้าและผู้จำหน่าย BMW และ MINI ทั้งในด้านการเสาะหาลูกค้าใหม่ๆพร้อมๆ กับการรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันอย่างดีที่สุด”กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์เชิงรุก เทคโนโลยี BMW ActiveHybrid ที่มีให้เลือกถึง 8 รุ่น :BMW ActiveHybrid 3, BMW ActiveHybrid 3 M Sport, BMW ActiveHybrid 3 M Sport with 19” alloy wheel and adaptive M suspensionBMW ActiveHybrid 5, BMW ActiveHybrid 5 M SportBMW ActiveHybrid 7 L, BMW ActiveHybrid 7 L M Sport, BMW ActiveHybrid 7 L High Line BMW Group Thailand แนะนำผลิตภัณฑ์ยนตรกรรมไฮเทคเครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า BMW ActiveHybrid 3/5/7L มีให้เลือก 8 รุ่น ซึ่งทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ที่ได้รับรางวัล “Engine of the year” ถึง 2 ปีซ้อนBMW ActiveHybrid 3 (ราคา 4,199,000 บาท)BMW ActiveHybrid 3 M Sport (ราคา 4,399,000 บาท)BMW ActiveHybrid 3 M Sport (ราคา 4,499,000 บาท) พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19” และ ช่วงล่าง M แบบปรับตั้งได้จัดเป็น full hybrid รุ่นแรกของโลกในกลุ่มของรถสปอร์ตคอมแพ็คซีดานระดับหรูเทคโนโลยี hybrid พร้อมประสิทธิภาพการประหยัด ขุมกำลังประกอบไปด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า, เครื่องยนต์เบนซิน BMW TwinPower Turbo 6 สูบ, และแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ประสิทธิภาพสูง พละกำลังแห่งการขับเคลื่อน 340 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมงพื้นที่เก็บสัมภาระด้วยท้ายถูกออกแบบมาเพื่อเก็บแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนไว้อย่างมิดชิดBMW ActiveHybrid 5 (ราคา 5,399,000 บาท)BMW ActiveHybrid 5 M Sport (ราคา 5,599,000 บาท)ขุมกำลังที่ 340 แรงม้า และระดับการปล่อย CO2 149 กรัม/กม. สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง Coasting mode ตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ ได้จนถึงขีดความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.ระบบบริหารการใช้พลังงาน intelligent energy management E-boost function ช่วยเพิ่มอัตราเร่งBMW ActiveHybrid 7 L (ราคา 8,299,000 บาท)BMW ActiveHybrid 7 L M Sport (ราคา 8,899,000 บาท) BMW ActiveHybrid 7 L Highline (ราคา 8,999,000 บาท) BMW ActiveHybrid 7 L สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมงมอเตอร์ไฟฟ้าสั่งงานฟังก์ชั่น Boost เมื่อต้องการพลังงานสำหรับการออกตัว หรือเมื่อต้องการเร่งแซง อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.7 วินาที ระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติ (Brake Energy Regeneration), ระบบ Hybrid Start/Stop และโหมดการขับขี่แบบ ECO PRO ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 14.7 กิโลเมตร/ลิตร (ระดับการปล่อย CO2 158 กรัม/กิโลเมตร)BMW 7 Series LCI BMW 730Li (THB 7,299,000)BMW 730Ld (THB 7,599,000)ไฟหน้าแบบ LED แบบปรับอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ยามค่ำคืนโดยไม่รบกวนสายตาของผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่นระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง หน้าจอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อแสดงผลในการขับขี่ด้วยโหมดต่างๆ ที่เลือกได้ รวมทั้ง ECO PROBMW 320d Touring M Sport ประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการที่ 4,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)BMW MotorradBMW HP4 - น้ำหนักเบาที่สุดแต่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้าBMW HP4 จัดเป็นมอเตอร์ไซค์ 4 สูบ ในกลุ่มซุปเปอร์สปอร์ต 1,000 ซีซี ที่เบาที่สุด ให้พละกำลังสูงสุด 193 แรงม้า และมีน้ำหนักเพียง 199 กิโลกรัม หากคำนวณโดยรวม Race ABS และ ถังน้ำมันที่เติมเต็ม 90 เปอร์เซ็นต์ (169 กิโลกรัม คำนวณที่ถังเปล่ารวม Race ABS) HP4 มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ เช่นเดียวกับ S 1000 RR ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด193 แรงม้าที่ 13,000 รอบ และมีรอบเครื่องยนต์สูงสุด 14,200 รอบ สำหรับผู้ที่ต้องการการขับขี่อย่างเร้าใจสูงสุด BMW HP4 พร้อมชุดแต่ง Competition Package มาพร้อมกับชิ้นส่วนคาร์บอน เช่น สปอยเลอร์, ที่พักเท้า, มือจับเบรกและคลัตช์, ล้อสี Racing blue metallic.BMW F700 GS & F800 GS - พร้อมระบบ ABS ทั้ง 2 รุ่นBMW F 800 GS รวมการใช้งานทั้งในแบบทั่วไป และในแบบ Touring ด้วยสมรรถนะ ของมอเตอร์ไซค์ออฟโรด ในขณะที่ BMW F 700 GS ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ที่ไม่ต้องการใช้งานในลักษณะออฟโรด มากนัก แต่เน้นจุดแข็งในเรื่องของระดับที่นั่งต่ำ และความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันBMW F 800 GS   BMW F 700 GS 63 กิโลวัตต์ /85 แรงม้า   55 กิโลวัตต์ /75 แรงม้า USD telescopic fork     conventional telescopic fork Progressive damping spring strut   Gas pressure spring strut ล้อแบบซีลวด ล้อแบบอะลูมิเนียมหล่อ ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว    ล้อหน้าขนาด 19 นิ้วแฮนเดิลบาร์อะลูมิเนียม    แฮนเดิลบาร์เหล็ก ความสูงเบาะที่นั่ง 880/850 mm   ความสูงเบาะที่นั่ง 820/790 mm น้ำหนัก 214 กก.  น้ำหนัก 209 กก.โปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ BMW Services Inclusive (BSI) และ MINI Service Inclusive (MSI)รถยนต์ BMW และ MINI มาพร้อมกับโปรแกรมบริการหลังการขาย BSI BMW Services Inclusive ซึ่งเป็นการดูแลบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี/ 100,000 กิโลเมตร ลูกค้า BMW สามารถเลือกที่จะขยายระยะเวลาโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ BMW ดังกล่าวนี้เพิ่มเติมได้อีก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร เพื่อการคุ้มครองสูงสุดรวม 6 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้า MINI โปรแกรม MINI Service Inclusive คุ้มครองการบำรุงรักษารถยนต์ MINI ตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร นอกจากนี้แล้วลูกค้า MINI ยังสามารถเลือกที่จะขยายระยะเวลาการคุ้มครองนี้ต่อไปได้โดยรวมถึง 6 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร โปรแกรม BSI และ MSI เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของ (Low Cost of Ownership) อาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom

Saturday, February 23, 2013

ผู้พิชิตขุมทรัพย์ใต้ท้องทะเลลึก ฌากส์ บราเนลเล็ค เจ้าพ่อไข่มุกสีทอง

ผู้พิชิตขุมทรัพย์ใต้ท้องทะเลลึก ฌากส์ บราเนลเล็ค เจ้าพ่อไข่มุกสีทอง
“ไข่มุก” คืออัญมณีแห่งสายน้ำ และอัญมณีหนึ่งเดียวในโลกที่ถือกำเนิดจากสิ่งมีชีวิต ถ้าย้อนประวัติศาสตร์จะพบว่า “ไข่มุก” ยังเป็นอัญมณีชนิดแรกของโลก ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องประดับของราชวงศ์ก่อนเพชรและพลอยด้วยซ้ำ โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 4,000 ปี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีศาสตร์แถวหน้าของโลก “มร.เคนเนท  สคาร์แรทท์” เอ็มดีสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (จีไอเอ) ประจำภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ซึ่งให้บริการตรวจสอบ วิเคราะห์ และจำแนกอัญมณีทุกชนิด รวมถึง “ไข่มุก” อาสานำคณะสื่อมวลชนจากประเทศไทย บินลัดฟ้าไปเยี่ยมชมฟาร์มไข่มุกสีทองของ Jewelmer ผู้นำการผลิตไข่มุกสีทองคุณภาพอันดับหนึ่งของโลก ณ หมู่เกาะปาลาวัน ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เพื่อเจาะลึกเบื้องหลังการเพาะเลี้ยงไข่มุกละเอียดทุกขั้นตอน พร้อมกระทบไหล่เจ้าพ่อไข่มุกระดับโลกสัญชาติฝรั่งเศส วัย 65 ปี “มร.ฌากส์ บราเนลเล็ค” ผู้ค้นพบความมหัศจรรย์ของไข่มุกสีทองเป็นคนแรกในโลกก่อนจะเข้ามาอยู่ในวงการอัญมณี “คุณฌากส์” ทำอะไรมาก่อนสองหุ้นส่วนเจ้าของฟาร์มไข่มุกสีทอง Jewelmer มร.ฌากส์ และ มร.มานูเอล ให้การต้อนรับเอ็มดีจีไอเอ มร.เคนเนท สคาร์แรทท์ อบอุ่น.ผมเกิดที่แคว้นบริตทานี ซึ่งขึ้นชื่อด้านอาหารทะเล อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส และตอนใต้ของอังกฤษ เรียนทางด้านชีววิทยาและจิตวิทยาอยู่ 2 ปี แต่ไม่จบปริญญาตรี เพราะมหาวิทยาลัยไฟไหม้ ซะก่อน (หัวเราะ) จากนั้นจึงไปเป็นนักบินพาณิชย์ให้กับสายการบินแห่งหนึ่งในเฟรนช์โปลินีเซีย ระหว่างนั้นผมถูกเรียกตัวจากกองทัพให้รับใช้ชาติ โดยบรรจุอยู่ในกองทัพเรือ เป็นทหารเรืออยู่เกือบ 2 ปี ระหว่างที่ผมเป็นนักบิน ชีวิตจะขึ้นอยู่กับตารางการบิน คือต้องตื่นแต่เช้า และทำทุกอย่างตามตาราง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ชอบ ผมจึงคิดหาช่องทางอื่นทำมาหากิน อยากทำอะไรก็ได้ที่มีอิสระ อยากเดินทางไปไหนเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจนึก ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาเจ้าของสายการบิน บอกว่าอยากขอเช่าเครื่องบินของบริษัท และจะจ่ายค่าเช่าให้ทุกเดือน เพราะไม่อยากทำทุกอย่างตามตารางบินแล้ว ตอนแรกเจ้าของสายการบินไม่เชื่อว่าจะหาเงินมาจ่ายค่าเช่าได้ แต่ผมก็ยืนยันว่า สามารถทำได้จริง โดยการันตีว่าจะเช่าเครื่องเดือนละไม่ต่ำกว่า 50 ชั่วโมง ปรากฏว่าแค่เดือนแรกผมก็ทำเวลาบินได้ถึง 75 ชั่วโมง เจ้าของสายการบินยังแปลกใจว่าทำไมคนหนุ่มอายุแค่ยี่สิบถึงมีเงินจ่าย จากนั้นผมก็เริ่มต้นสร้างสนามบินแห่งแรกบนเกาะตาฮิติ สมัยนั้นตาฮิติยังไม่มีสนามบิน แต่ต้องการโปรโมตการท่องเที่ยว ผมจึงนั่งเรือเข้าไปคุยกับชาวบ้านว่า หากมีการสร้างสนามบินจะช่วยโปรโมตให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวตาฮิติ ขณะเดียวกันก็ช่วยให้การขนส่งปลาและกุ้งล็อบสเตอร์ทำได้ง่ายขึ้น เกาะนี้มีปลาเยอะ ทุกคนหาปลาได้มาก แต่ไม่มีเรือ ไม่มีคนซื้อ ไม่มีการขนส่ง ฉะนั้น เราต้องนำเครื่องบินเข้าไป ผมใช้เวลาแค่ 2 อาทิตย์ ก็เนรมิตสนามบินสำเร็จ โดยที่ไม่ต้องกู้ยืมเงิน ปรากฏว่าชาวบ้านมีความสุขขึ้น เพราะปกติจะหาปลาและส่งออกขายทางเรือแค่ปีละ 1 ลำ อาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์ขึ้นมาก จากเดิมที่มีแต่ปลาและมะพร้าว เรื่องการแพทย์และสาธารณสุขต่างๆบนเกาะก็พัฒนาขึ้นจากเจ้าของสนามบิน กระโดดเข้ามาอยู่ในวงการค้ามุกได้อย่างไรสมัยเป็นนักบิน ผมสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินราคาถูก ฉะนั้น เมื่อไหร่ที่มีเวลาว่าง ผมก็จะเดินทางไปที่ต่างๆ เมื่อผมไปญี่ปุ่นได้พบกับอาจารย์คนสำคัญ ซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มมุก และครูสอนสมาธิ ท่านถ่ายทอดวิชาให้หลายอย่าง รวมถึงวิธีการเพาะมุกเลี้ยง ผมใช้เวลาเรียนอยู่ราว 2 ปี จึงเริ่มทำฟาร์มไข่มุกแห่งแรกบนเกาะตาฮิติ โดยได้อาจารย์ญี่ปุ่นท่านนี้มาช่วย จำได้ว่าเราทั้งคู่ต่อแพอยู่กลางทะเล และต่างคนก็ต่างพูดภาษาของกันและกันไม่ได้ แต่ใช้วิธีสื่อสารกันทางจิต ต้องใช้ชีวิตอยู่กลางทะเลอย่างนั้น 8 เดือน กระทั่งประสบความสำเร็จเป็นรายแรกๆของโลกในการเพาะเลี้ยงมุกตาฮิติ ซึ่งเป็นไข่มุกสีดำ ปรากฏว่าขายดิบขายดีมาก แต่ผมมีเรื่องขัดแย้งกับหุ้นส่วน จึงขายบริษัททิ้งชีวิตที่ต้องนับหนึ่งใหม่อีกครั้งสาหัสสากรรจ์ขนาดไหนผมทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง แล้วลงทุนซื้อเรือแล่นไปสำรวจโลกเหมือน “โรบินสัน ครูโซ” เพื่อมองหาลู่ทางการลงทุนทำฟาร์มมุก ผมแล่นเรือไปทั่วยุโรป มหาสมุทรแอตแลนติก หมู่เกาะแถบแปซิฟิก และเอเชีย เคยอยู่แถวภูเก็ตประมาณ 2 ปี จนแล่นมาถึงฟิลิปปินส์ ทำให้ค้นพบบ้านหลังใหม่ ที่จะสร้างอาณาจักรธุรกิจฟาร์มมุกขึ้นอีกครั้งชาวต่างชาติลงทุนทำฟาร์มมุกในฟิลิปปินส์ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องฝ่าอุปสรรคเยอะไหมผมโชคดีที่ได้หุ้นส่วนเป็นนักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์คือ “มร.มานูเอล โคจองโก” ซึ่งมีวิสัยทัศน์ตรงกัน จึงร่วมกันทำฟาร์มไข่มุกบนหมู่เกาะ ปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ และก่อตั้งบริษัท Jewelmer International Corporation ในปี 1979 ต้องใช้เวลานานหลายปี  กว่าจะคิดค้นและพัฒนาไข่มุกสีทองได้สำเร็จเป็นเจ้าแรกของโลก โดยปัจจุบันมีฟาร์มไข่มุกสีทองอยู่ 6 แห่ง บนหมู่เกาะปาลาวัน สถานที่ อนุบาลหอยมุก  และห้องแล็บวิจัย 2 แห่ง โรงงานเครื่องประดับ 1 แห่ง และโชว์รูมเครื่องประดับจิวเวลรี่ 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก ทั้งฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส และอเมริกา ปัจจุบันในฟิลิปปินส์มีการผลิตไข่มุกสีทองส่งออกขายทั่วโลกถึงปีละ 800,000 เม็ด โดยแหล่งผลิตไข่มุกสีทองสำคัญล้วนตั้งอยู่บนหมู่เกาะปาลาวันอะไรคือเคล็ดลับสุดยอดในการเพาะเลี้ยงไข่มุกสีทอง ซึ่งเป็นไข่มุกหายากและราคาแพงที่สุดในโลกต้องประคบประหงมหอยมุกเหมือนลูกแท้ๆ และต้องอดทน!! เพราะกว่าจะได้ “ไข่มุกสีทอง” แต่ละเม็ดใช้เวลานานหลายปี โดยการเพาะเลี้ยงหอยมุกต้องผ่านกระบวนการถึง 323 ขั้นตอน ใช้ระยะเวลาถึง 5 ปี ในการทุ่มเทดูแลหอยมุกพันธุ์ “Pinctada Maxima” เพื่อให้ผลิตไข่มุกสีทองคุณภาพดีที่สุดกระบวนการเพาะเลี้ยงหอยมุกประกอบด้วยอะไรบ้างต้องเริ่มจากการอนุบาลเพื่อเพาะเลี้ยงตัวอ่อนของหอยมุกให้เติบโตแข็งแรงในช่วง 2-3 ปีแรก โดยคนงานในฟาร์มมีหน้าที่บันทึกสภาพอากาศและสภาพการเปลี่ยนแปลงของน้ำทะเล ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อนหอยมุก ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ, ความเค็มของน้ำทะเล และความหนาแน่นของแพลงตอน โดยตัวอ่อนของหอยมุกจะถูกใส่ลงในตาข่าย แล้วหย่อนลงใต้ทะเลที่ระดับความลึก 15 เมตร เพื่อไม่ให้ถูกรบกวนจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ กระนั้นแม้จะดูแลประคบประหงมอย่างดีที่สุด แต่เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็จะมีเพียงหอยมุกจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่เจริญวัยเต็มที่ หลังได้ตัวอ่อนของหอยมุกที่แข็งแรง เจริญเติบโตประมาณ 3 ปี ก็ถึงขั้นตอนของการเพาะย้ายเนื้อเยื่อ และนำนิวเคลียส ซึ่งเป็นลูกปัดกลมๆ ฝังในอวัยวะสืบพันธุ์ของหอยมุก ขั้นตอนนี้จะทำในห้องแล็บโดยเจ้าหน้าที่เทคนิคเฉพาะเท่านั้น เพราะต้องอาศัยความชำนาญสูงในการวางตำแหน่งของนิวเคลียสและชิ้นส่วนเนื้อเยื่อที่ได้จากหอยมุกตัวอื่นเพื่อให้เกิดสีตามต้องการ จึงจะกระตุ้นให้เกิดการผลิตน้ำมุกออกมาเคลือบหุ้มนิวเคลียส ซึ่งน้ำมุกนั้นก็คือสารที่มุกปล่อยออกมาป้องกันตัว เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมทำให้ระคายเคือง หลังการเพาะย้ายเนื้อเยื่อ หอยมุกจะใช้เวลา 2-3 ปี สำหรับการสร้างชั้นผลึกคริสตัลทับถมกันรอบๆนิวเคลียสที่ใส่เข้าไป โดยระยะนี้หอยมุกจะถูกเลี้ยงในตะกร้า และต้องหมั่นนำขึ้นมาตรวจเช็กสุขภาพความแข็งแรงด้วยเครื่องเอกซเรย์ จากนั้นผู้เชี่ยวชาญการเพาะย้ายเนื้อเยื่อจะทำหน้าที่เก็บเกี่ยวไข่มุก โดยไข่มุกแต่ละเม็ดจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามธรรมชาติ ก็ต้องลุ้นกันทุกครั้งมุกที่สวยและมีคุณภาพต้องมีคุณสมบัติอย่างไรรูปทรงของมุกมีหลากหลายชนิด ทั้งทรงกลม, เกือบกลม, รูปไข่, รูปหยดน้ำ และบาร็อกทรงบิดเบี้ยว แต่รูปทรงที่นิยมที่สุดคือ รูปทรงกลมที่ได้สัดส่วนสมดุล นอกจากนี้ พื้นผิวมุกต้องมีความสดใสเงางามเหมือนกระจก ไม่หมองคล้ำ ส่วนคุณภาพของชั้นมุกก็ต้องมีความหนาที่เหมาะสม ไม่บางเกินไป กรณีที่ซื้อมุกราคาสูงควรถามหาใบเซอร์จากจีไอเอ ซึ่งรับประกันได้ถึงคุณภาพ เพราะมีมาตรฐานการตรวจสอบมุกที่เชื่อถือได้ โดยจะระบุ 7 ปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้คุณภาพมุก เช่น ขนาด, รูปร่าง, สี, ความวาว, คุณภาพของผิวมุก, คุณภาพของหอยมุก และความเป็นเอกภาพของคุณลักษณะมุกเมื่อขึ้นตัวเรือนกว่าจะมีวันนี้ได้ ต้องล้มๆลุกๆมาหลายครั้ง อะไรเป็นแรงใจให้สู้ไม่ถอยผมไม่เคยกลัวความล้มเหลว และมีหัวใจของนักผจญภัย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะวิธีเลี้ยงดูของคุณพ่อ ที่มักจะให้ลูกได้ลองผิดลองถูกด้วยตนเองมาตั้งแต่เด็ก โดยไม่ห้ามว่าอย่าทำ และไม่เคยตำหนิเวลาที่ทำผิดพลาด ผมจำได้ว่า ตอนอายุ 4-5 ขวบ ก็ลุกขึ้นต่อเรือเองแล้ว และครั้งหนึ่งเคยเกือบจมน้ำตายเพราะโดนพายุ พอกลับมาถึงบ้าน คุณพ่อไม่ต่อว่าสักคำ!! สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเป็นคนกล้าคิดกล้าทำ กล้าผจญภัย และกล้าริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ในฐานะพ่อของลูกทั้ง 8 คน ผมก็พยายามถ่ายทอดความกล้าบ้าบิ่นแบบนี้ให้กับลูกๆ เพราะอยากให้พวกเขารู้จักยืนด้วยลำแข้งตัวเองผจญภัยมาเยอะแล้ว ยังเหลือความฝันอะไรอีกที่อยากทำผมอยากบวชเป็นพระ!! เพื่อจะได้แบ่งปันประสบการณ์ที่เรียนรู้ให้คนอื่นบ้าง ผมเริ่มศึกษาเรื่องสมาธิและพลังจักรวาลกับพระอาจารย์ชาวญี่ปุ่นและชาวจีนตั้งแต่หนุ่มๆ จึงอยากถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์กับสังคม ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีสติอยู่กับปัจจุบัน แล้วทุกวันจะเป็นวันที่ดีที่สุด. ทีมข่าวหน้าสตรี

เรียกฉันว่า มหาสมุทรหมอก!

เรียกฉันว่า มหาสมุทรหมอก!
ที่นี่เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยและใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด... ไม่ใช่แค่เจ้าของภาพบอก แต่ตามหลักฐานที่ปรากฏก็ระบุอย่างนั้นว่า ใช่ แบบไม่ต้องสงสัย...ภาพเล่าเรื่องสัปดาห์นี้ เป็นของ เบิ้ม พยุงศักดิ์ การสมเกตุ นักข่าว และ ช่างภาพเซกชั่นกีฬา (ความสามารถ 2 in 1 ของเขาที่มี ยาสระผมบางยี่ห้อยังอาย!) ฝีมือดีของไทยรัฐออนไลน์ เดินทางไปชาร์จแบตชื่นชมอุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน และ พะเนินทุ่ง นอกจากเรติน่าดวงตาจะเก็บความประทับใจแล้วเขายังมองผ่านวิวไฟเดอร์ของกล้องเก็บภาพเหล่านี้มาฝาก เป็นภาพที่กว้างใหญ่ของ ทะเลหมอก กว้างขวางราวกับ มหาสมุทรหมอก พร้อมกับบรรยากาศริมทางที่สวยและมีเสน่ห์ ชนิดที่ยิ่งมองยิ่งอยากเดินทางไปให้เห็นจริงๆ กับตา. **รู้ไว้ใช่ว่า**อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน  - มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอแก่งกระจาน อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอท่ายาง อำเภอเขาย้อย จ.เพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นอุทยานแห่งชาติที่สมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำลำธารของลุ่มแม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ หน้าผาที่สวยงาม ทั้งเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดของประเทศ คือมีเนื้อที่ประมาณ 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,821,875 ไร่ 1.8 ล้านไร่ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524 โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำและป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยา นฯ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ คือยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง 1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากสันเขื่อนแก่งกระจาน มีถนนเลียบออกมาทางซ้ายมือเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถูกจัดเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์เมืองไทย ประจำเดือนเมษายน โดยมีจุดเด่น คือ ตระการตาลานผีเสื้อในป่าแก่งกระจานหมอก - หมอก หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Fog เกิดจากไอน้ำเปลี่ยนสถานะควบแน่นเป็นหยดน้ำเล็กๆ เช่นเดียวกับเมฆ เพียงแต่เมฆเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ เนื่องจากการยกตัวของกลุ่มอากาศ แต่หมอกเกิดขึ้นจากความเย็นของพื้นผิว หรือการเพ่ิมปริมาณไอน้ำในอากาศ การเกิดหมอ หมอกเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศอุ่นๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปบนพื้นที่เย็นกว่า หมอกในทะเล เกิดขึ้นเนื่องจากอากาศเย็นพัดไปสู่น่านน้ำที่อุ่น ไอน้ำที่อยู่ใกล้ผิวน้ำ ก็จะลอยเข้าไปสู่อากาศเย็นมีลักษณะเหมือนควันลอยขึ้นจากผิวน้ำ.

EASY Packing & Moving! ไอเดียการ เก็บของ และ แพ็กของ ก่อนย้ายบ้าน!

EASY Packing & Moving! ไอเดียการ เก็บของ และ แพ็กของ ก่อนย้ายบ้าน!
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการย้ายบ้าน... หลายคนคงคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมากมาย เราจะรับมือกับการย้ายบ้านอย่างไร? อย่าเพิ่งซีเรียสไป เราเชื่อว่าการย้ายบ้านสามารถทำให้เป็นเรื่องสนุกได้ ถ้าเข้าใจขั้นตอนและมีการวางแผนการย้ายบ้านเอาไว้ก่อนเสียแต่เนิ่นๆ วันนี้เรามีขั้นตอนต่างๆ ในการเตรียมของสำหรับย้ายบ้านมาฝาก ซึ่งเรานำเสนอแบบจัดเต็ม ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ว่าเรื่องย้ายบ้านนั้นไม่ยากอย่างที่คิดเมื่อทราบชัดเจนแล้วว่าต้องย้ายบ้านแน่นอน สิ่งแรกที่ควรทำคือ ทำการสำรวจสิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีอยู่ จากนั้นจำแนกออกเป็นหมวดหมู่ และคัดเลือกสิ่งของที่ไม่ต้องการแล้ว อย่างเสื้อผ้าเก่า อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสีย หรือเก่า, หนังสือ, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปขาย หรือบริจาคกับมูลนิธิต่างๆ Packing ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการแพ็กของ   มาลองทำความรู้จักกับอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการบรรจุของกันก่อน1. กล่องกระดาษ ถือเป็นอุปกรณ์หลักในการบรรจุสิ่งของสำหรับการขนย้าย กล่องขนาด 23 x 31 x 27 เซนติเมตร ราคาประมาณใบละ 10 บาท2. พลาสติกกันกระแทก ใช้สำหรับห่อหุ้มสิ่งของที่แตกง่าย ควรซื้อม้วนขนาดใหญ่ ที่มีหน้ากว้าง 1.30 เมตร ราคาประมาณม้วนละ 500 บาท   
3. กระดาษลูกฟูก ช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี นิยมใช้ความหนา 2 ชั้น หน้ากว้าง 112 เซนติเมตร ราคาประมาณกิโลกรัมละ 24 บาท4. กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษห่อพัสดุสีน้ำตาลใช้ห่อของชิ้นเล็กๆ ก่อนบรรจุลงกล่อง ป้องกันการเสียดสีกัน หรือกันกระแทกภายในกล่องกระดาษห่อพัสดุสีน้ำตาล มีขนาด 89x119 เซนติเมตร 1 กล่อง มี 120 แผ่น/ห่อ ราคาประมาณ 390 บาท5. พลาสติกห่อใสใช้งานสะดวก เพราะพลาสติกสามารถติดกันได้โดยไม่ต้องติดเทปกาว เหมาะกับการห่อของที่ไม่ต้องระวังเรื่องการแตกหักแต่ไม่ต้องการให้เลอะ เช่น โซฟา ฟูก ฯลฯ นิยมใช้ขนาดความหนา 15 ไมครอน หน้ากว้าง 300 เซนติเมตร ยาว 300 เมตร ราคาม้วนละ 160 บาท6. ผ้าใช้ผ้าที่มีอยู่ในบ้าน เช่น ผ้าคลุมเตียง อาจใช้ห่อเครื่องนอน ช่วยปกป้องพื้นผิวสิ่งของจากการสัมผัส ส่วนผ้าผืนเล็กๆ เช่น ผ้าขนหนู ใช้เป็นวัสดุห่อหุ้มก่อนบรรจุลงกล่อง หรือใช้รองระหว่างชั้นในกล่องได้7. ลังไม้ เหมาะสำหรับบรรจุของชิ้นใหญ่ที่มีน้ำหนักมากและแตกหักได้ เช่น แจกันหรือรูปปั้นขนาดใหญ่ มีหลายขนาดให้เลือก ราคาประมาณ 150-250 บาท หาซื้อได้ตามริมถนนย่านคลองเตย, มีนบุรี หรือร้านกุหลาบ ย่านปทุมธานี โทร.08-1646-4994,  facebook / พาเลทลังไม้ ร้านกุหลาบ8. เชือก ใช้มัดของที่เป็นม้วน เช่น เสื่อ พรม และใช้มัดกล่องให้แน่น ควรเลือกใช้เชือกให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น เชือกไนลอน เหมาะกับของชิ้นใหญ่ มีน้ำหนักมาก, ส่วนเชือกฟางหรือเชือกผ้าเหมาะกับของที่ไม่หนักมาก9. เทปกาว ใช้ผนึกฝากล่อง หรือยึดระหว่างวัสดุห่อหุ้ม เทปกาวที่นิยมใช้ มี 3 ชนิด คือ เทปกาวสีน้ำตาล ใช้ปิดกล่องสิ่งของเครื่องใช้ทั่วไป, เทปกาวสีแดง ใช้ติดเพื่อให้ทราบว่าเป็นสิ่งของที่แตกหัก และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ, เทปกาวขาว หรือเทปหนังไก่ ใช้ติดสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือของที่ต้องการแพ็กชั่วคราว มีข้อดีไม่ทิ้งร่องรอยไว้บนผิววัสดุ หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป10. เม็ดโฟมและกระดาษชิ้นเล็ก สำหรับป้องกันการเสียดสีกัน หรือกันกระแทกภายในกล่องเม็ดโฟม มี 2 ขนาด คือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 มิลลิเมตร และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-5 มิลลิเมตร มีจำหน่ายเป็นถุง ถุงละ 2 กิโลกรัม ราคาประมาณถุงละ 400 บาท11. ลังพลาสติกหรือกล่องพลาสติกอเนกประสงค์แบบมีล้อ มีให้เลือกทั้งแบบใสและทึบ มีหลายขนาดให้เลือก ราคาประมาณ 200–500 บาทหมายเหตุ : อุปกรณ์แพ็กของดังกล่าวสามารถหาซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างทั่วไป, Homepro, ไทวัสดุ, ซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ท และร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเขียนทั่วไป ฯลฯวิธีแพ็กของ1. เฟอร์นิเจอร์ สำหรับตู้ โต๊ะ, เตียง หากมีลิ้นชัก หรือแผ่นกระจก ควรถอดแยกชิ้นส่วนออกมา แล้วห่อแยกต่างหาก ตู้ที่เป็นบานเปิดหรือบานเลื่อน ควรใช้เชือกมัด หรือใช้เทปยึดบานประตูให้ติดกับตัวตู้ เพื่อความสะดวกในขณะขนย้าย สำหรับของชิ้นใหญ่ที่ไม่สามารถห่อได้ทั้งหมด อย่าลืมติดกระดาษ หรือพลาสติกกันกระแทก บริเวณที่เป็นเหลี่ยมหรือมุม2. เครื่องใช้ไฟฟ้า วิธีที่ดีที่สุดคือ การบรรจุเครื่องใช้ไฟฟ้าลงในกล่องที่มาจากโรงงาน ถ้าไม่มีกล่องที่บรรจุมาจากโรงงาน ควรหาวัสดุที่ป้องกันการกระแทกมาทดแทน เช่น ใช้ผ้าห่อ3. จาน ชาม ขวด แก้ว กระจก หรือสิ่งของที่แตกหักได้ ชนิดเดียวกันควรเก็บด้วยกัน เรียงจากขนาดใหญ่ไปหาขนาดเล็ก ถ้าวางซ้อนกันได้ จะช่วยประหยัดเนื้อที่ หากในกล่องมีพื้นที่ว่าง ควรใส่เม็ดโฟม หรือกระดาษชิ้นเล็กๆ ลงไปในกล่องด้วย เพื่อกันการกระแทกระหว่างการขนย้าย สำหรับกระจกควรใช้กระดาษลูกฟูก หรือพลาสติกกันกระแทก ห่อหลายๆ ชั้น แล้วทำเครื่องหมายระวังแตกไว้ในจุดที่เห็นได้ชัด4. เสื้อผ้า ควรเริ่มจากเก็บเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ก่อน แล้วค่อยเก็บชุดที่ใส่บ่อยทีหลัง กระเป๋าเดินทางถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับใส่เสื้อผ้าตอนขนย้าย ส่วนเสื้อผ้าที่ไม่สามารถพับได้ เช่น เสื้อสูท หรือชุดผ้าไหม ให้หาถุงสำหรับคลุมเสื้อแล้ววางแนวนอน หรือแขวนไปกับรถ ทั้งนี้ สามารถทำตู้เสื้อผ้าแบบเคลื่อนที่ได้เอง โดยใช้กล่องทรงสูงเจาะรูด้านข้างที่ขอบบน แล้วใช้ท่อพีวีซีทำเป็นราวแขวนไว้ด้านบน เวลาเคลื่อนย้ายเสื้อผ้าจะได้ไม่ยับ 5. หนังสือ คัดแยกหนังสือตามขนาด แล้วบรรจุหนังสือที่มีขนาดใกล้เคียงกันไว้ในกล่องเดียวกัน ไม่ควรเก็บหนังสือรวมกันมากๆ ในกล่องขนาดใหญ่ เพราะกล่องจะมีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายไม่สะดวก6. รองเท้า
 ไม่ควรเก็บรองเท้าโดยการวางทับกัน เพราะจะทำให้รองเท้าเสียทรง หากมีกล่องใส่รองเท้าควรเก็บรองเท้าลงในกล่อง แล้วเขียนโน้ตติดข้างกล่องว่าเป็นรองเท้าชนิดไหน หรืออาจเก็บรวมกันในกล่องขนาดใหญ่ จัดรองเท้าที่มีขนาดใกล้เคียงกันวางนอนเข้าคู่เป็นชั้นๆ แล้วใช้กระดาษลูกฟูกกั้นระหว่างชั้นโดยใช้กระป๋องเครื่องดื่มวางที่มุมของกล่อง เพื่อช่วยรับน้ำหนัก ไม่ให้กดลงบนรองเท้าMoving By Yourself ขนย้ายของด้วยตัวเองแม้จะดูเหมือนยุ่งยากแต่ก็สบายใจ เนื่องจากเราสามารถควบคุมขั้นตอนทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่เริ่มบรรจุของลงกล่องจนกระทั่งนำของออกมาจัดในบ้านใหม่ หากไม่มีรถขนาดใหญ่เพียงพอในการขนย้าย ควรติดต่อคนรู้จัก หรือเพื่อนๆ เพื่อช่วยในการขนย้าย หรือหากใช้บริการรถรับจ้าง ควรติดต่อและตกลงราคากันล่วงหน้า และจัดเตรียมปริมาณของในแต่ละเที่ยว ให้เหมาะสมกับขนาดของรถ ซึ่งมีทั้งรถกระบะไปจนถึงรถบรรทุก ส่วนราคานั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดรถและระยะทางเมื่อแพ็กเสร็จแล้ว ควรเก็บของโดยแยกตามแต่ละห้อง ช่วยให้การแยกของเมื่อขนย้ายเข้าไปยังบ้านใหม่ทำได้สะดวกมากขึ้น ควรติดสัญลักษณ์แถบสี หรือเขียนกำกับไว้ ติดไว้ที่ข้างกล่องและที่ห้องต่างๆ แยกตามห้อง วิธีนี้ทำให้ผู้ที่มาช่วยขนย้ายสามารถยกกล่องไปวางรวมกันในแต่ละห้องได้ง่าย โดยไม่ต้องเสียเวลามาถามว่ากล่องใบนี้เอาไว้ที่ไหน ช่วยประหยัดเวลาและลดความวุ่นวายได้มากทีเดียว   Checklist ก่อนการย้ายบ้านประมาณ 1 เดือน ควรวางแผนดังนี้อุปกรณ์ช่วยให้ทำการขนย้ายง่ายขึ้น 1. ลูกล้อสำหรับย้ายสิ่งของ ใช้เคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของได้สะดวก รับน้ำหนักได้ 90 กก. ขนาดกะทัดรัด จัดเก็บง่าย2. แผ่นสไลเดอร์ (Slider) วัสดุสำหรับเลื่อนเฟอร์นิเจอร์หนักโดยไม่ทำให้พื้นเป็นรอย                                                                 3. รถเข็น มีให้เลือกหลายขนาด ใช้งานง่ายและสะดวก 4. บันได รถเข็น 2 IN 1 ขนย้ายของรับน้ำหนักไม่เกิน 80 กก. มือจับหุ้มยางกันเลื่อน จับถนัดมือพับเก็บได้ ประหยัดเนื้อที่Moving by Moving Companies การใช้บริษัทขนย้ายมืออาชีพ   นับเป็นวิธีที่ง่ายสะดวกและรวดเร็ว แถมประหยัดเวลามากกว่าการขนย้ายด้วยตัวเองมากที่สุด แต่เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณเพียงพอ เพียงแค่โทรศัพท์ไปติดต่อนัดเวลาให้บริษัทที่ให้บริการขนย้ายของมาสำรวจที่บ้าน เพื่อประเมินราคาและนัดวันขนย้าย เมื่อถึงกำหนดตามที่ตกลงไว้บริษัทขนย้ายจะดำเนินการเก็บของขนย้ายให้โดยเจ้าของบ้านไม่ต้องลงมือใดๆ หรือหากต้องการย้ายเฉพาะของชิ้นใหญ่ อย่าง แชนเดอร์เลียร์, เปียโน ฯลฯ ก็สามารถใช้บริการบริษัทรับขนย้ายได้เช่นกัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการขนย้ายราคานั้น จะขึ้นอยู่กับจำนวนข้าวของเครื่องใช้ที่จะต้องแพ็กกิ้งป้องกัน วันและเวลาที่เริ่มขนย้าย จำนวนเที่ยวรถที่ใช้ ระยะทางขนย้ายจากต้นทางไปยังปลายทาง  ค่าใช้จ่ายโดยประมาณสำหรับการใช้บริการ                                                                                        - ค่าสำรวจหน้างานใน กทม.ชั้นใน 500 บาท หรือ กทม.รอบนอก ค่าใช้จ่ายประมาณ  1,000 บาท                                                                       - บริการแพ็กกิ้งและขนย้ายบ้านด้วยรถปิกอัพหลังคาสูง ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,500 บาท                                                                     - บริการแพ็กกิ้งและขนย้ายบ้านด้วยรถหกล้อแบบคอก มีผ้าใบปิด ค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000 บาท                                                            -  บริการแพ็กกิ้งและขนย้ายบ้านด้วยรถหกล้อแบบตู้ทึบ ค่าใช้จ่ายประมาณ 17,000 บาท จากนั้นทางบริษัทจะจัดส่งเอกสารมาให้อ่าน เป็นพวกคำแนะนำสิ่งที่บริษัทบริการทำให้และแบบฟอร์มประเมินของสิ่งที่เราต้องทำ คือ แจ้งจำนวนและขนาดของที่เป็นชิ้นใหญ่ ถ้ามีอะไรที่เป็นกระจก หรือแตกง่ายก็ให้ระบุ ทางบริษัทจะจัดอุปกรณ์สำหรับ Safety ให้ ส่วนของชิ้นเล็กชิ้นน้อยรวมกัน ก็ให้ระบุเป็นจำนวนกล่องที่ต้องการและจากนั้นนัดวันขนย้าย เมื่อถึงวันนัด พอพนักงานมาถึงจะทำการเริ่มแพ็กของ ถอดเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ สำหรับเสื้อผ้าให้ใส่ไว้ในตู้เหมือนเดิม เพราะทางบริษัทจะมีกล่องสำหรับใส่เสื้อผ้าแขวนและเสื้อผ้าพับเสื้อผ้าแขวนจะถูกใส่ในกล่องกระดาษเป็นตู้เสื้อผ้าเคลื่อนที่ ส่วนเสื้อผ้าพับไว้แล้วทางบริษัทจะมีกล่องพลาสติกสำหรับใส่เสื้อผ้าโดยเฉพาะ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการขนย้าย
 Room’s Tipอย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าก่อนขนย้าย หากช่วงนั้นเป็นฤดูฝน ควรโทรนัดหมายล่วงหน้า 7-14 วัน จะได้จองวันที่เราต้องการย้าย เพราะวันเสาร์และอาทิตย์คิวค่อนข้างแน่น ปัจจุบันมีบริการประเมินราคาออนไลน์ ส่วนใหญ่จะไม่คิดค่าบริการ มีบริการประเมินราคาค่าใช้จ่ายการขนย้าย ขนย้ายแบบ on-line หรือลองกรอก Survey Guide เพื่อคำนวณราคาคร่าวๆ บางบริษัทมีบริการให้ยืมกล่องใส่ของฟรี  ไม่จำกัดจำนวนพร้อมเทปปิดกล่องฟรี  (กล่องขนาดประมาณ 1.5x1.5 ฟุต) **Did you know**1. ควรทำรายการสิ่งของที่บรรจุในแต่ละกล่องเอาไว้เพื่อความสะดวกในการค้นหาเมื่อถึงบ้านใหม่2. อย่าลืมแยกเก็บสิ่งของที่มีค่า และควรนำติดตัวไปเอง3. การบรรจุลงกล่อง ควรใส่ให้เต็มพอดี ไม่หลวมหรือแน่นไป4. สิ่งของที่แตกหักง่าย หากบรรจุรวมกับของหนักควรมีของที่อ่อนนุ่มหรือวัสดุกันกระแทกป้องกันไว้5. ของที่ต้องใช้เป็นชุด หรือมีอุปกรณ์ประกอบ เช่น เครื่องเสียง  ควรบรรจุไว้ด้วยกันจะได้ไม่ลำบากในการค้นหาเมื่อถึงบ้านใหม่6. แบ่งเสื้อผ้าที่ต้องใช้งานก่อนประมาณ 7-10 วัน แล้วแยกใส่กระเป๋าไว้ต่างหาก เพื่อความสะดวกหลังจากย้ายข้าวของเสร็จแล้ว7. ระหว่างการขนย้ายควรวางเครื่องใช้ไฟฟ้าในทิศทางปกติของการใช้งาน สำหรับตู้เย็นควรถอดปลั๊กทิ้งไว้ก่อนการขนย้าย 3-4  ชั่วโมง เพื่อให้น้ำยาไหลกลับสู่ด้านล่างไม่ตกค้างอยู่ตามท่อ ซึ่งอาจทำให้ระบบทำความเย็นของตู้เย็นเสียหายได้ 
หลังจากเก็บของลงในกล่องเรียบร้อยแล้ว ควรเขียนรายการ หรือแปะสติกเกอร์กำกับไว้ที่ข้างกล่อง ว่าภายในบรรจุอะไรบ้าง หากของชิ้นไหนเป็นของที่สามารถแตกหักเสียหายได้ ควรติดสัญลักษณ์ไว้เพื่อเตือนให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ และควรเก็บของแยกตามห้อง  ข้อมูลจากนิตยสาร room เรื่อง Sara ภาพ นันทิยา บุษบงค์ สไตล์ ประไพวดี  โภคสวัสดิ์ ภาพประกอบ คณาธิป จันทร์เอี่ยม

Friday, February 22, 2013

FENDI ชุบชีวิตใหม่ น้ำพุเทรวี สัญลักษณ์กรุงโรม

FENDI ชุบชีวิตใหม่ น้ำพุเทรวี สัญลักษณ์กรุงโรม
ก็เพราะแฟชั่นคือภาพสะท้อนของศิลปวัฒนธรรมและอารยธรรมโลกในแต่ละยุคแต่ละสมัย ในฐานะเจ้าพ่อวงการแฟชั่นโลก “คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์” ซีอีโอใหญ่แห่ง FENDI ห้องเสื้อระดับตำนานสัญชาติอิตาเลียน จึงเป็นตัวตั้งตัวตีอนุรักษ์สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของโลกอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุดได้จับมือกับนายกเทศมนตรีประจำกรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อเป็นผู้อุปถัมภ์เพียงรายเดียวในการบูรณปฏิสังขรณ์น้ำพุเทรวี และน้ำพุเดอะโฟร์ฟาวเทนส์ สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมสำคัญของชาวโรมันและประเทศอิตาลี ภายใต้โครงการ “FENDI for FOUNTAINS”ย้อนกลับไปเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา เทศบาลกรุงโรมได้ตัดสินใจบูรณะ “น้ำพุเทรวี” เป็นกรณีเร่งด่วน โดยคาดว่าจะใช้เงินในการดำเนินการ 320,000 ยูโร กระนั้น หลังจากสำรวจโดยละเอียดพบว่า สถานการณ์นั้นร้ายแรงกว่าที่คาดไว้มาก นายกเทศมนตรีจึงร้องขอให้องค์กรขนาดใหญ่ร่วมดูแลมรดกของชาติ ซึ่งโชคดีที่ได้ FENDI อาสาเป็นผู้อุปถัมภ์เต็มตัว และรับปากดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่างในการบูรณ-ปฏิสังขรณ์เพียงผู้เดียว เนื่องจาก FENDI ผูกพันกับกรุงโรมมาช้านาน ในฐานะสถานที่ที่ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจมากมายในการสร้างสรรค์ผลงาน นอกเหนือจากการทุ่มงบ 2,120,000 ยูโร เพื่อบูรณะซ่อมแซม “น้ำพุเทรวี” ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2015 ทาง FENDI ยังบริจาคเงินก้อนใหญ่ในการซ่อมแซม “น้ำพุเดอะโฟร์ฟาวเทนส์” ซึ่งตั้งอยู่ที่หัวมุมถนนในชื่อเดียวกัน โดยการบูรณะจะเริ่มขึ้นปลายปีนี้ และเพื่อตอบแทนน้ำใจอันเหลือล้นของ FENDI เทศบาลกรุงโรมได้จัดทำป้ายแสดงความขอบคุณ FENDI แขวนไว้บริเวณน้ำพุด้วย. 

Living Arts Festival 2013 เทศกาลปล่อยแสง 19 ศิลปินสตรีทอาร์ตบันลือโลก

Living Arts Festival 2013 เทศกาลปล่อยแสง 19 ศิลปินสตรีทอาร์ตบันลือโลก
ตอกย้ำคอนเซปต์ “Happiness Is All Around” ของย่านราชประสงค์ ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ “Living Arts Festival @Ratchaprasong 2013” ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-10 มี.ค.นี้ ทุ่มงบ 40 ล้านบาท ปิดถนนย่านราชประสงค์ด้านหน้าศูนย์การค้าเกษร ไปจนถึงเอราวัณ แบงค็อก และ“สกายวอล์ก”ทางเดินเชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท ตั้งแต่ห้างฯเซน ไปจนถึงสถานีชิดลม รวมพื้นที่กว่า 106,000 ตารางเมตร เพื่อให้เป็นเวทีสำหรับการปล่อยแสงอวดพลังสร้างสรรค์ในสไตล์เอาต์ดอร์สตรีทอาร์ต 3 มิติ และ 4 มิติ โดยการผนึกกำลังของ 19 ศิลปินโลก“จูลี เคิร์ก เพอร์เซลล์” หนึ่งในศิลปินสตรีทอาร์ตจากสหรัฐอเมริกา ที่มาสร้างสีสันในครั้งนี้ บอกเล่าว่า ธีมหลักของเทศกาลคือ อุทยานแห่งความสนุก “The Street of Arts The Street of Fun” โดยศิลปินทุกคนเตรียมสร้างความตื่นตาตื่นใจ ผ่านผลงานศิลปะแนวใหม่ในสไตล์เอาต์ดอร์สตรีทอาร์ต 3 มิติ และ 4 มิติ เพื่อล้อเล่นกับสายตาของผู้ชม พร้อมชวนให้สนุกกับการถ่ายภาพคู่ผลงานสุดพิศวงแบบไม่จำกัดจินตนาการ นับเป็นความสนุกสนานที่สามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวได้ทุกเพศ ทุกวัย และทุกเชื้อชาติ โดยผลงานเหล่านี้เคยเดินทางไปสร้างความมหัศจรรย์ตามเมืองใหญ่ๆมาแล้วทั่วโลก สำหรับเธอเองเตรียมนำผลงานชุด “ลิงขี่มังกรยักษ์” มาอวดสายตาชาวไทยเพื่อให้สมกับเป็นเทศกาลปล่อยแสง ยังมีการเสริมทัพด้วยความบันเทิงพิเศษคือ ประติมากรรมมีชีวิต “Living Statue” โดยเชื้อเชิญ 9 ศิลปินระดับโลกร่วมเนรมิตประติมากรรมบุคคลระดับโลก อาทิ “ชาร์ลี แชปลิน” ที่จะสร้างความขบขันยกกำลังสอง, “ฟาน เดอ เวิร์ฟ” พ่อเมืองไลเดิน ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ของฮอลแลนด์ในยุคสงคราม, “ไนท์ อิน เวนิส” สตรีผู้เลอโฉมในยามรัตติกาลแห่งเวนิส, “กามเทพคิวปิด”, “เทพธิดาไซคี” และ “ชาวนาดัตช์” ซึ่งคว้ารางวัลที่หนึ่งด้านงานฝีมือจากเวทีประกวดประติมากรรมมีชีวิตชิงแชมป์โลก ปี 2012 โดยการแสดงประติมากรรมมีชีวิตจัดขึ้นเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ที่ 2-3 มี.ค.2556...งานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย แค่เปิดใจให้พร้อมรับความสนุกเต็มพิกัด!!  

ศิลปะแห่งการเดินทางตำรับ LOUIS VUITTON

ศิลปะแห่งการเดินทางตำรับ LOUIS VUITTON
เป็นเวลาเกือบ 160 ปี ที่ “หลุยส์ วิตตอง” ให้ความสำคัญกับศิลปะการเดิน ทาง  ล่าสุด แบรนด์เนมระดับโลกสัญชาติฝรั่งเศส สานต่อความมุ่งมั่น ด้วยการจับมือนักออกแบบชั้นนำของโลกทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ เพื่อสร้างสรรค์คอลเลกชั่นเฟอร์นิเจอร์และแอกเซสเซอรี่สุดล้ำไอเดีย จำนวน 16 ชิ้น ด้วยแรงบันดาลใจจากการเดินทางตลอดเส้นทางยาวนานหลายทศวรรษ ภายใต้แนวคิด “ออปเช่ส์ โนมาดส์” (Objets Nomades)ผลงานสร้างสรรค์โดดเด่นต้องยกให้ “ตู้ใส่สัมภาระมาราคาตู” โดย “เฟอร์นานโด และอัมเบอร์โตคัมปานา” ผลิตจากแผ่นหนังที่ได้จากการเวิร์กช็อปตัดเย็บผลิตภัณฑ์หนังตามออเดอร์ของหลุยส์ วิตตอง “โต๊ะขนาดพกพา” ฝีมือดีไซน์ “คริสเตียน ลีเอเกร” ใช้ไม้เมเปิ้ลประกอบเป็นขาโต๊ะ ส่วนพื้นโต๊ะใช้หนังโนมาดส์เป็นวัสดุหลัก ออกแบบให้พกพาง่าย มีรูปทรงบอบบางแต่แข็งแรงทนทาน ส่วนผลงานดีไซน์ของ “อาเตอลิเยร์ อุย” ประกอบด้วย “เปล” สร้างสรรค์จากผืนหนังของหลุยส์ วิตตอง พร้อมวัสดุยึดติดโลหะชุบทอง เพื่อนำเสนอศิลปะการพักผ่อนไฮคลาสและ “ม้านั่งเดี่ยว” เก้าอี้รูปทรงเรขาคณิต ได้แรงบันดาลใจจากงานพับกระดาษออริกามิ ผสานเทคนิคการผลิตหีบของหลุยส์ วิตตอง ในคอลเลกชั่นเดียวกันยังมี“ม้านั่งเดี่ยว” ผลงานของ “แพททริเซียอูร์ควิโอลา” หยิบแรงบันดาลใจจากแพตเทิร์นลายดอกไม้โมโนแกรมสร้างสรรค์ม้านั่งเดี่ยวตัวเล็ก เมื่อกางออกจะดูคล้ายกลีบดอกไม้ชั้นใน และสามารถปรับเป็นกระเป๋าถือสุดเก๋ด้วยน่าสนใจไม่แพ้กันคือ “ม้านั่ง” ของ “คลิโน คาสเตลลี” ผลิตจากแผ่นหนังชิ้นเล็กชิ้นน้อย, “เก้าอี้ชายหาด” โดย “มาร์เทน  บาส” ดูคล้ายกระเป๋าของนักการทูต สายรัดรองนั่งทำจากผ้าฝ้ายสอดประสานกันอย่างพิถีพิถัน, “โคมไฟทรงกระดิ่ง” ของ “เอ็ดเวิร์ด บาร์เบอร์ และเจย์ ออสเกอร์บี” ใช้สายหนังโนมาดส์ห่อรอบตัวโคมไฟแก้ว ที่ถูกเป่าเป็นรูปทรงกระดิ่ง และ “โคมไฟกระเป๋าถือ” ของ “เธียรี่ โกแกง” เป็นโคมไฟอะลูมิเนียมขัดเงา มีสายห้อยหนังถักด้วยเทคโนโลยี OLED เปลี่ยนค่ำคืนมืดมิดให้สุกสกาว  ด้าน “โอกิ  ซาโตะ”  ดีไซเนอร์ประจำเน็นโดสตูดิโอ สร้างสรรค์ “โคมไฟ” จากผืนหนังในเวิร์กช็อปอาส์นิแยร์ได้อย่างน่าทึ่ง ชิ้นเด่นน่าสะสมยังรวมถึง หมอนสวมคอ “โคล  เดอ  โวยาจ” กับ ผ้าปิดตา “ลูแน็ท  เดอ   ซอมเมยล์” ฝีมือ “กองสตองซ์ กีเซ็ท” และ “ที่แขวนกระเป๋า” ของ “เพร์รีน เดมงส์” ตั้งใจดีไซน์เพื่อสาวกแอลวี.

Siam VW Festival 2013 รวมพลคนเลิฟเต่า

Siam VW Festival 2013 รวมพลคนเลิฟเต่า
ไทย ยานยนตร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกน ในเครือ ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป จัดงานรวมพลคนรักรถโฟล์ค เอาใจสาวก VW ที่นิยมของร่วมสมัยอย่างรถเต่า...บริษัท “ไทยยานยนตร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกน ในเครือ “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” ร่วมสนับสนุนงานมหกรรมรวมพลคนรัก “โฟล์ค” ภายใต้ชื่องาน “SiamVW Festival 2013” ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการรวมตัวของผู้ที่มีใจชื่นชอบรถยนต์โฟล์คสวาเกน ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีขบวนรถโฟล์คสวาเกนจากประเทศมาเลเซียและประเทศอินโดนีเซีย เดินทางเข้ามาร่วมงานดังกล่าวด้วย พร้อมกันนี้ได้จัดเป็นตลาดกลางสำหรับการจำหน่ายอะไหล่การให้ความรู้ในเรื่องการบำรุง รักษา และการใช้รถยนต์โฟล์คสวาเกนอย่างถูกวิธี โดยภายในงานจะจัดให้มีการแข่งขัน แรลลี่-ยิมคาน่า, การแข่งขันเข็นรถโฟล์คสวาเกน, การประมูลอะไหล่และของต่างๆ โดยรายได้มอบให้แก่ “มูลนิธิเด็ก พุทธมณฑล”, การเปิดท้ายขายของมากกว่า 60 ร้าน และการจัดแสดงโชว์เครื่องเสียงรถยนต์พร้อมความบันเทิงจากการแสดงดนตรีเพื่อเพื่อนเราชาวโฟล์คสวาเกน และมินิคอนเสิร์ต “สินเจริญ บราเธอร์ส” ณ สวนสนุกวันเดอร์เวิลด์พาร์ค.อาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

อภิมหาอลังการ... ประมวลภาพปาร์ตี้เปิดตัว โรงแรม เดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ

อภิมหาอลังการ... ประมวลภาพปาร์ตี้เปิดตัว โรงแรม เดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ
ปาร์ตี้แห่งปีกับงานการเฉลิมฉลองการเปิดตัว โรงแรม เดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ ไฮโซตบเท้าร่วมงานทั้งวงการ..เมืองหลวงของประเทศไทยกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมากับงานการเฉลิมฉลองการ เปิดตัวโรงแรม เดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ เหล่าคนดังจากหลายแวดวงและนักธุรกิจแถวหน้ากว่า 450 ท่าน ต่างตบเท้า เข้าร่วมเป็น สักขีพยาน ในงานเปิดตัวของทางโรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดโรงแรม เดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดในการนำทุกท่านเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเป็น การเปิดตัว ตัวอาคารของทางโรงแรมซึ่งถูกออกแบบมาอย่างสวยงามและสร้างสรรค์ ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมากับการเปิดให้บริการ ทางโรงแรมได้บรรลุทุกความคาดหวังได้อย่างลงตัว “โรงแรม เดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ มีความภูมิใจ และเป็นเกียรติที่ได้จัดงานใหญ่ระดับนี้อย่างประสบความ สำเร็จความคาดหวังของเราคือการเปิดตัวโรงแรม สู่สายตาผู้คนใน ด้านความหรูหรา ทันสมัย และหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุด ซึ่งผมคิดว่าเราทำได้สำเร็จ” คุณซากิ บาซ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรม  เดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ กล่าวในงาน งานนี้ยังได้รับเกียรติจากเซเลบชื่อดังอาทิ โบวี่ อัฐมา, วุ้นเส้น วิริฒิพา และ เล็ก ธีรเดช มาร่วมสร้างสีสันให้กับงาน งานดำเนินโดยพิธีกรสาวสวย คุณพนิตา บุญเกียรติ ในชุดราตรีจาก F Fashion งานเริ่มด้วยการกล่าวเชิญ คุณซากิ บาซ ผู้จัดการทั่วไป คุณบุญฤทธิ์ คุณมนตรี และคุณรัชนี ศิรินรินทร เจ้าของโรงแรมขึ้นกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติในช่วงแรกซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณห้องอาหาร Medinii ตกแต่งในธีมทะเลทราย การแสดง ในช่วงนี้ประกอบด้วย ระบำหน้าท้องจาก Hadassa และเจมส์บอนด์สาวที่เดินอวดโฉมสร้างสีสัน ในบริเวณห้องอาหาร Medinii นี้ยังแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งออกเป็นเลานจ์เพื่อการจัดแสดงแบบนาฬิกาแบรนด์ ระดับโลกอย่าง ราล์ฟ ลอเรน โดย เอส.ที. ไดเมนชัน และ ของขวัญเซอร์ไพรส์หลังงานจากค่ายน้ำหอมชื่อดังอย่าง เบล เพอร์ฟูมส์ผู้มาร่วมงานยังได้เพลิดเพลินกับอาหารนานาชาติ เครื่องดื่ม และค็อกเทลตามสีธีมของโรงแรมที่มาพร้อมกับ ส่วนผสมแปลกใหม่เช่นอบเชย กล้วยไม้ ใบกะเพราและอื่นๆ อีกมากมาย เครื่องดื่มในงานได้รับการสนับสนุน โดย ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่  ต่อด้วยการไต่ระดับขึ้นสู่ชั้น 37 ในโซนของสระว่ายน้ำ H2O ซึ่งสระน้ำกลางแจ้งนี้ได้ถูกจำแลงให้กลายเป็น สวรรค์ใต้น้ำ การออกแบบในส่วนนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่เกาะกรีกซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยป่าเถาวัลย์ ที่มี นางพอยซัน ไอวี อาศัยอยู่ นอกจากนั้นในส่วนของสระว่ายน้ำยังจัดให้มีนางเงือกและเทพโพไซดอน แสดงแบบเรียก ความสนใจจาก ผู้ร่วมงาน ขยับสูงขึ้นสู่ชั้น 38 บริเวณพื้นที่ของบาร์ Axis ที่ถูกจำลองบรรยากาศให้กลายเป็นอวกาศประดับประดา ด้วยดวงไฟระยิบระยับประหนึ่งสัญลักษณ์แห่งดวงดาว ณ ชั้นนี้มีเทพอันโดรเมดาถือโซ่เฝ้าพื้นที่ อยู่ที่บริเวณบันไดวนทางขึ้นสู่ชั้นสูงสุด ที่บาร์ Spin ของทางโรงแรม มาถึงช่วงสุดท้ายบนจุดสูงสุดจัดขึ้นบริเวณบาร์ Spin ที่ถูกจำลองให้กลายเป็นสรวงสวรรค์ ได้ดีเจ คลีโอ พี มาเปิดเพลงสร้างความมันส์แบบปาร์ตี้คนเมือง นอกจากนั้นในชั้นนี้ยังมีนางแบบบอดี้เพ้นท์ที่มาในร่างของอธีน่าเทพแห่งสงครามและอโฟรไดท์เทพแห่งความรักและความปรารถนา สร้างความตื่นตา ให้ผู้มาร่วมงานท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทอล์กออฟเดอะทาวน์ “โรงแรม เดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน เริ่มจาก ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ประเทศไทย, เบลเพอร์ฟูมส์, เอส.ที. ไดเมนชัน, F fashion และ Genesis Skin Klinik” คุณซากิ บาซ กล่าว “ช่างเป็นค่ำคืนที่แสนวิเศษที่จะถูกจดจำไปอีกหลายปีข้างหน้า” 

เจิด จัด จรัส จ้า ครบเซตสาว GUCCI หรูเรียบท้าร้อน!!

เจิด จัด จรัส จ้า ครบเซตสาว GUCCI หรูเรียบท้าร้อน!!
ต้อนรับฤดูกาลเริ่มอบอ้าวกับคอลเลกชั่นล่าสุด GUCCI โดยเน้นดีไซน์กระเป๋า เสื้อผ้า และเครื่องประดับแบบเรียบหรูเผยความเซ็กซี่เย้ายวนรูปทรงเรียบหรูแบบ Minimalist สีสันที่ชัดเจน กลิ่นอายเอ็กซอติก จุดเริ่มต้นใหม่ของความสวยงาม สง่า น่าค้นหา สำหรับคอลเลกชั่น Spring Summer 2013 การหลอมรวมกันระหว่างความบริสุทธิ์กับความเซ็กซี่แบบมีศิลป์โดยการเผยให้เห็นผิวกายเล็กน้อย ประดับด้วยแอคเซสเซอรี่หนังแก้วเป็นลูกเล่นที่ซุกซนหากแต่ยัคงดูดีมีระดับ  “นี่คือตัวแทนของผู้หญิงชั้นสูง” Frida Giannini อธิบาย “มอบความรู้สึกที่ดึงดูด ด้วยความงามอันบริสุทธิ์และชัดเจน แรงบันดาลใจของคอลเลกชั่นนี้เริ่มจากภาพเก่าในอดีตของหญิงสาวที่เป็นไอคอนแห่งยุคสมัย โดย Richard Avedon และ Gian Paolo Barbieri”โครงร่างAristographic- โครงร่างเน้นความเป็นผู้ดี ด้วยเสื้อนอกทรงทูนิค แจ็กเกตคอเชิ้ต และเสื้อตัวในคอตั้ง เพื่อใส่คู่กับกางเกงตัวนุ่มพลิ้ว มินิเดรสทรง Cocoon หรือเดรสยาวทรงแคบ ทำให้บุคลิกดูเคร่งขรึม และแอบหักมุมให้เซ็กซี่เล็กน้อยด้วยการผ่าหลังลึก เหมือนงานศิลป์ของ Lucio Fontanaสีสันที่เลือกใช้บนคอเสื้อดูสดใสด้วยริ้วบานเย็น เหลืองสด ฟ้าเทา ประกอบเป็นชั้นๆ คล้ายคลื่น แขนเสื้อทรงกระดิ่งเพิ่มความฟูฟ่องให้เป็นชุดค็อกเทลที่สมบูรณ์ ประดับด้วยสร้อยแบบโช้คเกอร์ ศิลปะภาพลวงตาแนว trompe l’oeil หินปะการังและ turquoise กลิ่นอายตะวันออกในลายพริ้นท์: ดอกไม้ทะเลจากวอลเปเปอร์ญี่ปุ่น สำหรับชุดสไตล์ Pajama พริ้นท์ลายหนังงูบนเสื้อ Tunic กับกางเกง จากเส้นใยของกระดาษญี่ปุ่น หรือผ้าไหม lamè jacquard ให้อารมณ์เอ็กซอติกด้วยลายหนังงูเหลือมชุดราตรีใช้สีดำล้วน หรือขาวล้วน สลับกันอย่างชัดเจนและโดดเด่น ผ้า Organza ผสมผสานกับ tulle ซึ่งปักเป็นรูปทรงเรขาคณิต แขนเสื้อแบบกิโมโนดัดแปลงด้วยการเล่นระดับช่วยเสริมให้เดรส column ดูขาวและเงางาม ชัดเจนยิ่งขึ้น เปรียบประดุจรูปปั้นในความฝันเครื่องประดับPainted love สื่อสารความหลงใหลกับหนังแก้วสีสันฉูดฉาด นำมาจับคู่กับเดรสต่างๆ ดูเหมาะเจาะงดงาม รองเท้าสานสไตล์ cage กับสายรัดข้อเท้าซึ่งถูกตกแต่งด้วย horsebit รองเท้าบู๊ตสั้นไว้สวมใส่ใต้กางเกง กระเป๋าสะพาย และคลัทช์ ทำจาก plexiglass ที่ลวดลายดูคล้ายกับอัญมณีเลอค่า ชวนให้หวนนึกถึงเพชรพลอยหลากสีด้วยเรซิ่นสีสดใส ส่องประกาย 

Thursday, February 21, 2013

ลองของแนว MERCEDES BENZ NEW A-CLASS (ตอนที่2)

ลองของแนว MERCEDES BENZ NEW A-CLASS (ตอนที่2)
ตอนที่สองกับการซิ่ง New A-Class ไปบนสนามแข่งโบนันซ่า ทดสอบการควบคุมตัวรถในสถานการณ์ต่างๆ โชว์ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และระบบรองรับที่เฉียบคมสุดๆ...บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. เชิญสื่อมวลชนและลูกค้า VIP ทดสอบสมรรถนะเชิงประสิทธิภาพของการควบคุม อบรมการขับขี่แบบปลอดภัย การควบคุมรถในสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการแก้ไขอาการของรถที่กำลังเสียหลัก โดยใช้รถทดสอบ Mercedes-Benz A-Class รุ่นล่าสุดทั้ง A180 Style และ A250 AMG Sport ในงาน Mercedes Benz Driving Experience 2013 เปิดประสบการณ์เรียนรู้วิธีควบคุมรถแบบปลอดภัย บนสนามเซอร์กิตเป็นครั้งแรก ด้วยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new A-Class คอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมด้วยเทรนเนอร์ดีกรีนักแข่งรถมืออาชีพจากประเทศออสเตรเลีย แนะเทคนิคให้แก่กลุ่มลูกค้าและสื่อมวลชน ณ สนามแข่งโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์11.30 น. วันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2556 มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในช่วงสายของวันเปิดงาน ภายในห้องแถลงข่าวของสนามแข่งรถโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ว่า “ปีนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ Mercedes Benz กับกิจกรรม Mercedes-Benz Driving Experience (MBDE) ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 10 โดยในปีนี้กิจกรรมการทดสอบมีความพิเศษและแตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา คือ การนำรถยนต์ Mercedes Benz The new A-Class มาใช้ในการทดสอบสมรรถนะเชิงความปลอดภัยบนสนามแข่งเป็นครั้งแรก ซึ่งเล็งเห็นว่า การทดสอบสมรรถนะเชิงความปลอดภัยถือเป็นส่วนสำคัญยิ่งในปรัชญาด้านความปลอดภัยแบบบูรณาการ Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. จึงได้นำทีมนักแข่งมืออาชีพที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการขับขี่บนสนามแข่งมาแนะเทคนิคการขับขี่ให้แก่บรรดาลูกค้าและสื่อมวลชน ร่วมกับทีมผู้ฝึกสอนจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” กิจกรรมทดสอบสมรรถนะความปลอดภัย “Mercedes-Benz A-Class Driving Experience” จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 รวมระยะเวลาการจัดทดสอบ 18 วัน (ระหว่างวันที่ 7 - 24 กุมภาพันธ์ 2556) โดยดำเนินการจัดทดสอบในสนามแข่ง ณ สนามแข่งโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดทดสอบเรียนรู้การขับขี่และสัมผัสกับสมรรถนะของ New A-Class 2013 ในครั้งนี้ว่า “Mercedes Benz เห็นว่ากิจกรรมการทดสอบสมรรถนะเชิงความปลอดภัยเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ A-Class ถึงศักยภาพขีดความสามารถในสมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ พร้อมเข้าใจถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ ซึ่ง Benz ได้จัดเตรียมรถยนต์ New A-Class รุ่น A 250 AMG Sport และA 180 Style สำหรับการทดสอบไว้ถึง 15 คัน โดยจัดทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและมีดีกรีเป็นนักแข่งรถมืออาชีพจากประเทศออสเตรเลีย 4 ท่าน ซึ่งมีประสบการณ์การสอนการขับขี่ปลอดภัยและการขับขี่บนสนามแข่งมาแล้วทั่วโลก นำทีมโดย ปีเตอร์ แฮ็คเก็ต- เอลเลียต บาร์เบอร์ - จอร์ช มีเด็กค์ และ โร ชาร์ลส ร่วมด้วยผู้ฝึกสอนจาก Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. อัชฌ์ บุณยประสิทธิ์ และ ชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมโปรแกรมการขับขี่ปลอดภัยและได้รับประกาศนียบัตรรับรอง มาตรฐานจาก Mercedes Benz ประเทศเยอรมนี รวมถึง สิรคุปต์ เมทะนี นักแสดงและนักแข่งรถมืออาชีพ”The New A-Class เป็นรถยนต์คอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ดีไซน์แบบใหม่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ในเซ็กเมนท์นี้ และยังเป็นยนตรกรรมที่เปรียบเสมือนจังหวะชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์เป็น ของตัวเอง รักในความเป็นสปอร์ต ปราดเปรียว คล่องแคล่ว มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 สูบเทอร์โบ ที่ถ่ายทอดผ่านกำลังเกียร์อัตโนมัติแบบ 7G-DCT พร้อมด้วยฟังก์ชั่น ECO Start/Stop โดย The New A-Class ถือเป็นมาตรฐานใหม่ในด้านการประหยัดพลังงาน ทั้งประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่สูงขึ้นถึง 26% รวมทั้งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 98 กรัมต่อกิโลเมตร นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP® – Electronic Stability Program) ที่ช่วยให้ล้อรถยนต์ยึดเกาะผิวถนนได้ดีขึ้น รวมถึงการควบคุมการทรงตัวของระบบช่วงล่าง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นฟีทเจอร์มาตรฐานของรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ ทั่วโลก ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) เป็นต้น ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนท้องถนนการทดสอบจะใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ซึ่งประกอบไปด้วยแบบทดสอบลักษณะต่างๆ ได้แก่ การบังคับรถในทิศทางที่กำหนด (Handling Challenge) การขับด้วยความเร็วและเปลี่ยนช่องทางวิ่งแบบกะทันหัน (High Speed Lane Change) เพื่อเรียนรู้อาการของรถและการควบคุมรถอย่างถูกวิธีเมื่อขับด้วยความเร็วสูง และการจำลองสถานการณ์เพื่อทดสอบโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ หรือ ESP® – Electronic Stability Program (ESP® Simulator) เมื่อต้องควบคุมรถในสถานการณ์คับขัน เช่น หักหลบสิ่งกีดขวางบนถนนเปียกลื่น และเปรียบเทียบอาการเสียการทรงตัว อาการเข้าโค้งและหลุดโค้ง เป็นต้น นายคมกริช กล่าวสรุปว่า “ในการทดสอบสมรรถนะเชิงความปลอดภัยด้วยรถยนต์ Mercedes Benz New A-Class บนสนามแข่งในครั้งนี้ นอกจากผู้เข้ารับการทดสอบจะได้รับประสบการณ์จริง มีความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติด มากับตัวรถได้อย่างเต็มที่บนสนามแข่งเป็นครั้งแรกแล้ว ผู้เข้าร่วมทดสอบทุกท่านที่ผ่านการทำแบบทดสอบจะได้รับประกาศนียบัตรรับรอง จากทางบริษัทฯ อีกด้วย”12.00 น. ทีมงาน Instructor ของ Mercedes Benz แบ่งสื่อมวลชนออกเป็นสามทีมเพื่อลงทดสอบพร้อมๆ กันทั้งสี่สถานี สำหรับสถานีแรกเป็นการทดสอบการทรงตัวของ New A-Class ซึ่งใช้การขับขี่แบบ Handling Challenge - Gymkhana สลาลมหลบกรวยไพล่อนที่ตั้งวางเรียงรายอยู่บนแทร็คของสนามแข่งโบนันซ่าในช่วงปลายทางตรงก่อนเข้าโค้ง สเตชั่นแรกของการเรียนรู้และการควบคุมรถ New A-Class เริ่มจากท่านั่งที่ถูกต้อง การจัดวางขาและแขนให้มีความสัมพันธ์กับการหมุนพวงมาลัยหรือเหยียบแป้นคัน เร่ง-เบรก Instructor นักขับรถแข่งชาวออสซี่ Elliot Barbour และคุณอั๋น สิรคุปต์ เมทะนี นักแสดงและนักแข่งรถมืออาชีพ ซึ่งรับหน้าที่ผู้ฝึกสอนประจำสเตเชั่น Handling Challenge - Gymkhana แนะนำการจัดท่านั่งที่ถูกต้อง สำหรับการขับขี่แบบยิมคาน่าที่ต้องใช้ความเร็วมากกว่าการขับแบบปกติ เบาะนั่งถูกปรับลงไปจนสุดเพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงของการนั่งควบคุมรถมีความสมดุล บนตัวรถทดสอบ Mercedes Benz New A-Class A250 AMG Sport จำนวนห้าคันซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดทั้งแรงม้าและอุปกรณ์ตกแต่ง สำหรับรถรุ่น A250 AMG Sport นอกจากจะมีชุดแต่งของ AMG แล้ว ยังใส่ล้ออัลลอยของ AMG ลาย 5 ก้านขอบ 18 นิ้วกับยาง Michelin Pilot Sport ไซล์ 225/40/R18 เป็นยางที่เหมาะสมกับรถแฮตช์แบคที่มีเรี่ยวแรงเกิน 200 แรงม้า บนสถานีทดสอบแรก ผมรอจนเพื่อนๆ สื่อมวลชนขับขี่ไปคนละรอบ-สองรอบก่อนเพื่อให้ยางและเบรกมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น หลังจากนั้นจึงออกไปขับเป็นคนท้ายๆ สถานีนี้ สำหรับผู้ที่ทำเวลาได้ต่ำที่สุดจะมีรางวัลเป็นรถจำลอง New A-Class A250 AMG Sport ขนาด 1:18 ทำให้เพื่อนๆ หลายคนรวมทั้งตัวผมผลักดันเจ้า A250 AMG ในช่วงจับเวลาจนแทบจะถึงขอบเขตอันจำกัดของตัวรถเลยทีเดียวพวงมาลัยไฟฟ้าของ A250 AMG ในโหมดสูงสุดให้ความกระชับและฉับไวในระดับที่น่าพึงพอใจ เมื่อมาอยู่ในรถขับเคลื่อนล้อหน้าทำให้การควบคุมทิศทางค่อนข้างง่ายและมีน้ำหนักที่พอเหมาะพอควร ไม่เบาหวิวจนน่ากลัวหรือหนักจนเกินไป มันคมและมีกริ้บของยาง Michelin Pilot Sport เป็นตัวปรุงแต่งให้ขับแบบยิมคาน่าได้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น กรวยไพล่อนที่ตั้งอยู่ชิดกันยังช่วยบีบให้ความเร็วของรถไม่สูงมากจนเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้สำหรับบางคนที่ขับเร็วมากจนเกินพอดี การถ่ายเทน้ำหนักทำได้ดีอย่างไร้ที่ติ อาการหน้ายุบหรือย้วยของ New A-Class เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยจากระบบรองรับแบบสปอร์ตที่เซตมาจากโรงงานที่ให้ความรู้สึกหนึบนุ่มมากกว่าแนวแข็งกระด้าง ส่วนอาการหน้าดื้อนั้น หากใช้คันเร่งให้มีความเหมาะสมกับการสาวพวงมาลัย มันจะเลี้ยวกลับลำ 360 องศาด้วยมุมเลี้ยวที่ค่อนข้างแคบ สถานีแรกนี้มีการใช้เบรกกันพอสมควรไม่หนักแบบสถานีที่สองซึ่งเป็นการจำลองสถานการณ์เปลี่ยนทิศทางแบบกะทันหันหรือ Lane change สำหรับเวลาที่ดีที่สุดในสเตชั่น Handling Challenge - Gymkhana คือ คุณอัฐฐา นายเรือ ที่ทำได้ 18.01 วินาที คว้ารางวัลรถจำลอง A250 AMG สีเงินไปครอบครองทันที ส่วนผมล่อไปถึง 20.19 วินาที แต่ก็ยังถือว่าโอเคเพราะไม่ได้ชนกรวยไพล่อนเลยแม้แต่อันเดียวสถานีหรือสเตชั่นทดสอบที่สองเป็นการฝึกบังคับควบคุมหักเหทิศทางของรถแบบกะทันหัน หรือ Lane change เจ้าหน้าที่นักขับของทีมงาน Mercedes Benz ประกอบด้วย Peter Hackett นักแข่งรถคนแรกที่ชนะเลิศทั้งการแข่งขัน Australia Formula 4000 และ Formula 3 Championship กับคุณชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมโปรแกรมการขับขี่ปลอดภัยระดับสูงและได้รับประกาศนียบัตร รับรองมาตรฐานจาก Mercedes Benz ประเทศเยอรมนี สถานีนี้กรวยไพล่อนถูกตั้งเพื่อกำหนดให้ตัวรถสามารถทำความเร็วได้ระดับหนึ่ง (ประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) แล้วหักหลบซ้ายขวาสองครั้งก่อนที่จะพุ่งไปยังตำแหน่งที่จะต้องใช้เบรกแบบเต็มกำลัง สถานีนี้สร้างความตื่นเต้นจากความเร็วของตัวรถที่เพิ่มมากขึ้นกว่าสถานีแรก เสียงยางเสียดสีกับผิวแทร็คและเสียงเบรกอย่างรุนแรงดังต่อเนื่องตลอดเวลาที่ สื่อมวลชนได้ลงไปสัมผัสทดสอบการควบคุมที่ต้องใช้ทักษะเพิ่มมากขึ้น ผมใช้รถทดสอบ A250 AMG Sport สีเทาที่ผ่านการวิ่งมาอย่างโชกโชนตั้งแต่วันแรกๆ ของงาน Mercedes-Benz Driving Experience (MBDE) ยาง Michelin Pilot Sport ถูกเปลี่ยนทันทีที่โดนตรวจพบว่าเกิดรอยบั้งขึ้นที่ขอบหน้ายาง บูธของ Michelin รับหน้าที่เป็นบริษัทยางเจ้าประจำสำหรับใช้ขับทดสอบในงาน Mercedes Benz Driving Experience ด้วยการเตรียมสำรองยางสำหรับการขับทดสอบที่เปลืองหน้ายางมากกว่าการขับแบบปกติเมื่อกดคันเร่งพุ่งออกมาจากจุดสตาร์ตที่ใช้ทดสอบ ESP® – Electronic Stability Program (ESP® Simulator) ไฟสัญญาณเตือนการทำงานของ Traction Control ระบบช่วยทรงตัว ESP กะพริบถี่ยิบ ความเร็วอยู่ในระดับกำหนดไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมเล็งไปที่ทิศทางที่จะมุ่งหน้าไปตามคำแนะนำของคุณชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ โดยไม่มองไปที่กรวยไพล่อนซึ่งเป็นอุปสรรคที่ถูกตั้งเรียงรายเอาไว้เพื่อ บังคับทั้งทิศทางและความเร็ว ผมหักพวงมาลัยไปทางซ้ายและขวาตามทิศทางที่ถูกกำหนด ก่อนเจ้า A250 AMG จะทะยานผ่านจุดที่ต้องเบรกแบบเต็มกำลัง การหักพวงมาลัยอย่างต่อเนื่องใน A250 AMG ให้ความรู้สึกที่มั่นคง แม้ด้านหน้ารถจะออกอาการดื้อบ้างเล็กๆ เมื่อผมเติมคันเร่งมากเกินไปจนไม่สัมพันธ์กับการหักพวงมาลัย แต่ระบบควบคุมการทรงตัวที่เปิดเอาไว้ได้เข้ามาแทรกแซง และทำให้การหักหัวรถ เปลี่ยนทิศทางทำได้ดีและให้ความมั่นใจได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ เบรกมีแรงต้านเล็กน้อยพร้อมๆ ไปกับการทำงานของระบบป้องกันล้อล็อกหรือ ABS ดังตึกๆๆ ทันทีที่ลงน้ำหนักเบรกแบบเต็มกำลัง แม้จะมีระยะเบรกเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ทิศทางที่รถมุ่งไปกลับมั่นคงไม่มีอาการส่าย หรือวอกแวกแม้แต่น้อย ระบบป้องกันล้อล็อกของ New A-Class ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางของรถขณะเบรกได้อีกด้วย ที่สถานีที่สอง สื่อมวลชนได้ลองควบคุมโดยใช้การหักหลบเปลี่ยนทิศทางแบบกะทันหันกันอย่าง จุใจถึงคนละ 3-4 รอบเลยทีเดียว เป็นอีกสถานีหนึ่งที่ยางและระบบห้ามล้อรวมถึงพวงมาลัยไฟฟ้าต้องทำงานอย่างหนักสถานีที่สามเป็นการขับ A250 AMG รุ่นสูงสุด บนรูปแบบของการแข่งขัน Quarter Mile หรือ Drag Racing เพื่อทดสอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 209 แรงม้าที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับขนาดของตัวรถ วิศวกรของ Mercedes Benz เคลมว่ามันสามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 6.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 241.4 ในการตะกายไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของรถ A-Class รุ่นสูงสุด ครูฝึก Peter Hackett ชาวออสเตรเลียและคุณชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ จัดประกับคู่โดยปล่อยรถทีละสองคันจากจุดสตาร์ต เร่งความเร็วจนเข้าเส้นชัยบนระยะทาง 400 เมตร ผมใช้วีธีการออกตัวโดยกดคันเร่งและแป้นเบรกไปพร้อมๆ กัน เกียร์ 7G-DCT พร้อมระบบ ECO Stop/Start สำหรับรุ่นสูงสุด A-Class A250 AMG Sport Package มีสมองกลเกียร์ที่ฉลาดเกินเหตุ เมื่อผมกดทั้งเบรกทั้งคันเร่งเพื่อการออกตัวที่รวดเร็ว ระบบควบคุมจะส่งสัญญาณเตือนเป็นตัวอักษร HOLD MODE บนจอมัลติฟังก์ชั่น เป็นการเตือนแบบกะพริบถี่ๆ ผมถอนเท้าซ้ายออกจากแป้นเบรกพร้อมๆ กับกดเท้าขวาลงลึกไปที่คันเร่ง เจ้า A250 AMG Sport Package ออกตัวแบบเนือยๆ แตกต่างจากรถคันข้างๆ ที่ออกตัวอย่างรวดเร็วทั้งๆที่ใช้เพียงแค่การกดเท้าไป ที่แป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว เกิดจากเกียร์ที่มีระบบป้องกันการออกตัวอย่างไม่ถูกวิธีที่จะทำให้เกิดการสึกหรออย่างรวดเร็วนั่นเอง ในรอบที่สอง ผมเพียงแค่กดคันเร่งลงไปจนสุดโดยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับแป้นเบรก เจ้า A250 AMG พุ่งทะยานไปตามแรงเท้าพร้อมๆ ไปกับแรงดึงที่ทำให้รู้สึกสนุก เวลา 6.6 วินาที สำหรับการตะกายไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้มันได้เปรียบเจ้า MINI Cooper S R56 อยู่นิดๆ แต่ถึงแม้ว่ากำลังของ A250 AMG จะเหนือกว่ารถเล็กที่สร้างโดย BMW คู่แข่งสำคัญในตลาด การเข้าออกโค้ง MINI กลับให้ความรู้สึกที่คมกว่าจากระบบรองรับที่เซตมาเพื่อการซิ่งสถานเดียว ไม่ได้ปรับตั้งมาในรูปแบบซิ่งก็ได้ไหลก็ดีอย่าง New A-Classสถานีสุดท้ายเป็นการเรียนรู้การควบคุมรถขณะที่ต้องเบรกในผิวถนนที่มีน้ำปกคลุม สเตชั่นที่สี่เป็นหน้าที่ของคุณอัชฌ์ บุณยประสิทธิ์ หรือคุณดอม กับนักขับออสซี่ George Miedecke ซึ่งเคยได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน AMRS Production Touring Car Championship ใน Class B อีกทั้งยังได้รับรางวัล“ดาวรุ่งที่น่าจับตามอง” รวมถึงการเป็นนักขับทดสอบของรถแข่งพลังสูงแบบ V8 Super car ในทวีปออสเตรเลีย สถานีนี้ครูฝึกสอนทั้งสองคนใช้รถ Mercedes Benz A180 Style รวม 5 คัน โดยทุกคันจะถูกปิดระบบช่วยทรงตัวหรือ ESP® – Electronic Stability Control เหลือเพียงแค่ฝีมือล้วนๆ ในการขับทดสอบที่ต้องหักหลบไพล่อนในสถานการณ์ที่ผิวถนนมีน้ำฉาบอยู่ ล้อคู่หลังของรถทดสอบ Benz A180 Style ทั้ง 5 คัน ยังถูกคลุมด้วยยางพลาสติกที่ช่วยให้ลื่นขึ้นไปอีกระดับ มันลื่นจนเหมือนกับวิ่งอยู่บนถนนที่ถูกราดด้วยเนยเหลวๆ ท้ายรถที่พร้อมจะปัดตัวเองตลอดเวลาหากกระตุกพวงมาลัย ทำให้สามารถเรียนรู้ เคล็ดลับในการแก้อาการของตัวรถขณะเกิดการปัดหรือหมุนจากการเบรกเต็มกำลังบนพื้นถนนที่เปียกลื่น พวงมาลัยไฟฟ้าของ A180 Style นั้นเบาสบายมืออยู่แล้วในย่านความเร็วต่ำ การแต่งพวงมาลัยแก้อาการท้ายปัดช่วยเพิ่มพูนทักษะในการควบคุมตัวรถตามคำแนะนำของครูฝึก และเนื่องจากยังพอมีเวลาเหลืออยู่ สถานีสุดท้ายในการลองขับบนผิวถนนที่เปียกลื่นแล้วจึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน จากท้ายรถที่คอยจะปัดอยู่ตลอดเวลา เมื่อปราศจากระบบช่วยทรงตัว ESP® – Electronic Stability Control เจ้า New A-Class ไม่ต่างไปจากม้าพยศที่คอยจะหมุนซ้ายป่ายขวาอยู่ตลอดเวลาเมื่อเบรกแบบเต็ม กำลังหรือหักพวงมาลัยแบบฉับพลันทันที การควบคุมทิศทางจึงจำเป็นต้องแก้ที่การหักพวงมาลัยไปยังทิศที่ตรงกันข้ามกับ ท้ายรถที่กำลังปัดอย่างรุนแรง เทคนิคที่ครูฝึกแนะนำจะเกิดประโยชน์อย่างมากสำหรับการแก้ไขในสถานการณ์จริง หากรถเกิดการเสียหลัก เช่น ท้ายปัดหรือหมุนเนื่องจากการหักพวงมาลัยหรือเบรกขณะผิวถนนเปียกลื่นสเตชั่นของการฝึกทั้งสี่สถานีจบลงในช่วงเย็น หลังจากนั้นเป็นการเชิญสื่อมวลชนทั้งหมดนั่งไปกับนักขับระดับเซียนชาวออสซี่ สี่คนและครูฝึกจากประเทศไทยทั้งสองท่าน ในช่วง Hot Lap บนตัวรถ A250 AMG Sport ซึ่งใช้ความเร็วหรือสปีดในระดับที่ใช้สำหรับการแข่งขันแบบเซอร์กิต การนั่งไปบนรถสปอร์ตที่กำลังอัดเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงในสนามแข่งรถโบนันซ่าสร้างความตื่นเต้นประทับใจให้กับสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก ประสิทธิภาพของตัวรถทั้ง A180 และ A250 สำหรับการขับทดสอบในสนามยังทำให้รู้ถึงความสามารถของระบบรองรับ เครื่องยนต์ เบรก ชุดส่งกำลังและระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่มีอยู่ในตัวรถรุ่นนี้ คงต้องรออีกสักระยะสำหรับการทดสอบวิ่งทางไกลที่จะมีขึ้นอีกครั้งหลังจากการทดสอบในสนามแข่งรถสิ้นสุดลงในช่วงปลายเดือนนี้ โดยส่วนตัวแล้ว เจ้า New A-Class เป็นยนตรกรรมแฮตช์แบค 5 ประตูที่ควบคุมได้ง่ายดายราวกับรถเด็กเล่น ไม่ว่าคุณจะอายุ 20 หรือ 70 ปีก็สามารถขับเจ้านี่ได้อย่างคล่องแคล่ว ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพของการขับขี่ด้อยลงแต่อย่างใด ทั้งสิ้น รูปแบบและสีสันที่สวยงามของมันจะทำให้คุณชอบมันได้ไม่ยาก และจะรักมันมากขึ้นเมื่อได้ลอง ภายในที่ลงตัวทั้งรุ่นปกติและรุ่นสูงสุดจะมีส่วนช่วยให้ตัวเลขยอดขายไปได้ดี ในตลาดรถเล็กระดับสูงของไทย ด้วยเงิน 1.89-2.5 ล้านบาท คุณจะได้รถที่วิ่งได้ดีพอๆ กับรถซิ่งในสนาม งานตกแต่งห้องโดยสารที่โดนใจและสภาพการขับขี่ที่ไม่เป็นรองรถคู่แข่ง หากสนใจก็ลองไปขับทดสอบด้วยตัวเองตามโชว์รูมของตัวแทนจำหน่ายของค่าย Mercedes Benz Thailand ดูว่ามันตรงและโดนกับความชอบของคุณหรือเปล่า สำหรับผมแล้ว การมีเจ้าตัวเล็กอีกคันในโรงรถที่บ้านหากยังพอมีที่จอดเหลือพอสำหรับมัน บนการใช้งานทั้งในเมืองและวิ่งทางไกล มันจะเป็นยานพาหนะขนาดกะทัดรัดอีกคันที่ทำให้คุณพึงพอใจได้อย่างไม่ยากเย็น นัก.อาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

Blog Archive