ชวนลูกไปดูโขน

ชวนลูกไปดูโขน
วันสุดท้ายปลายเดือนมกราคม ผมได้พาลูกชายไปดูโขนจิ๋วของสาธิต มศว.ประสานมิตร ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เนื่องจากปลายปีที่แล้ว ลูกชายได้ดูโขนตอนจองถนน แล้วก็ประทับใจมาก ได้ดูหนุมานตัวโปรดเหาะเหินตีลังกา คราวนี้พามาสถานที่เดิมอีกครั้งและผมต้องบอกลูกชายไว้ล่วงหน้าว่า โขนคราวนี้อาจจะไม่มีตีลังกานะลูก เพราะคนที่แสดงเป็นพี่ๆ ป.4-ป.6 โตกว่าลูกไม่กี่ปีเอง แต่พ่ออยากให้ดูความตั้งใจและความสามารถของโขนรุ่นจิ๋วนี้ ผมเคยได้ดู Teaser ที่กลุ่ม “ผู้ปกครอง...รักษ์โขน” ส่งมาให้ดูครับ เด็กๆ ที่เล่นโขนพูดได้ดีมากเมื่อไปถึงงานลูกชายวิ่งไปดูโปสเตอร์ของงาน แล้วก็ไล่ชื่อตัวแสดงที่ตัวเองรู้จัก “นี่หนุมาน..นี่พระรามตัวสีเขียว พระลักษมณ์ตัวสีทอง นี่ทศกัณฐ์ ครับพ่อ ... คนนี้ใคร ไม่รู้จัก” สักพักมีพี่ๆ ใส่ชุดโขนทยอยเดินเข้าไปหลังเวที ปกติลูกชายผมจะไม่ค่อยคุยกับคนที่ไม่รู้จักก่อน แต่งานนี้ เรียกพ่อไปด้วย เพราะอยากไปถามว่าพี่แสดงเป็นยักษ์หรือลิงตัวไหน ชื่ออะไร ผมให้ลูกชายไปถามเอง แล้วผมจะคอยถ่ายรูปให้อย่างเดียว สังเกตได้เลยว่าลูกชายกล้าถามในสิ่งที่อยากรู้และสนุกกับการหาคำตอบเมื่อได้เวลาเริ่ม มีการแสดงเปิดรายการ 2 ชุด แล้วก็ต่อด้วยการแสดงโขนรามเกียรติ์ ชุด “มารซื่อชื่อพิเภก” ผมอยากให้ลูกชายได้รู้จักยักษ์ตนนี้ ผมว่าพิเภกเป็นตัวละครสำคัญที่น่าสนใจมีเสียงบรรยายเรื่องราวคร่าวๆ ให้ผู้ชมฟังก่อนเริ่มแสดง ผมว่าดีเพราะถ้าปล่อยให้ผู้ชมที่เป็นเด็กๆ ฟังแต่การขับเสภาอย่างเดียว สมาธิอาจจะไม่ยาวพอที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ จึงเกริ่นเรื่องว่า ทศกัณฐ์ไปเกิดในกรุงลงกา พระอิศวรจึงให้พระเวสสุญาณจุติเป็นน้องของทศกัณฐ์ มีอยู่วันหนึ่งพิเภกทำนายฝันของทศกัณฐ์ว่าการนำนางสีดามาจะเป็นภัยให้กับตัวเองและกรุงลงกา ทศกัณฐ์ฟังแล้วไม่พอใจ จึงขับไล่พิเภกออกจากเมือง ตรงนี้การแสดงทำได้น่าเอ็นดูมากครับ เหมือนพี่เอาไม้ไล่ตีน้องจนร้องไห้ ทั้งกุมภกรรณและอินทรชิตต่างช่วยกันหาที่ซ่อนให้พิเภกและห้ามปรามทศกัณฐ์ แต่ไม่เป็นผล สุดท้ายพิเภกถูกตีก้น และไล่ออกจากเมืองไป พิเภกเลยขอถวายตัวเข้าทัพพระราม พระรามให้พิเภกออกไปร่วมรบด้วยกันกับสมุนวานร และได้ต่อสู้กับมังกรกัณฐ์ ขณะที่ดูผม ภรรยาและลูกชายสนุกมาก เนื้อเรื่องทำได้เข้าใจง่าย มีลูกเล่นมุกตลกน่ารัก ผมดูสัดส่วนของนักแสดงก็อดอมยิ้มไม่ได้ เพราะพลพรรคลิงทั้งหลายยังตัวเล็กอยู่เลย แต่หัวโขนใหญ่โตมาก ส่วนยักษ์นี้ถือว่าสมส่วนดูแข็งแรงบึกบึนดี ให้พระรามพระลักษมณ์ขึ้นลอยได้ แถมมีหมุนอีก 3 รอบด้วย ต้องขอชมเชยครูอาจารย์ผู้ฝึกสอนและความตั้งใจของเด็กๆ ที่ทำงานใหญ่ขนาดนี้ออกมาได้ดีจริงๆ ครับ

ก่อนกลับจากดูโขนจิ๋ววันนั้นได้หนังสือที่เกี่ยวกับรามเกียรติ์มาเพิ่มที่บ้านอีกหนึ่งเล่ม ชื่อว่า “มหัศจรรย์รามเกียรติ์สำหรับเด็ก” ของสำนักพิมพ์เก้าแต้ม จำได้ว่าเคยตามหาเล่มนี้ตามร้านหนังสือ แต่หาไม่ได้เลย ต้องถือว่าเล่มนี้สรุปเนื้อหาตอนต่างๆ มาได้กระชับดีและมีการเล่าที่ไม่ยากเกินไป รูปประกอบดีเหมาะสำหรับเด็กๆ ที่อยากรู้เรื่องของรามเกียรติ์ เมื่อรู้ว่าลูกสนใจอยากดูโขนอีก ภรรยาผมก็เลยเตรียมโปรแกรมไว้ล่วงหน้าแล้ว คือการแสดงโขนที่โรงละครแห่งชาติ จะมีรายการนาฏกรรมสังคีต: โขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดหนุมานชาญสมร ในวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 14.00 น. ครั้งหนึ่ง และในวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2556 เวลา 14.00 น. อีกครั้งหนึ่ง (โทร.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-244-1342 และ 02-221-8191) อีกสถานที่หนึ่งที่สามารถพาลูกไปดูโขนได้ตลอดทั้งปีคือที่ศาลาเฉลิมกรุง มีการแสดงชุดหนุมานข้าราชบริพารพระจักรี ทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เวลา 19.30 น. (โทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-224-4499 เข้าไปดูเว็บไซต์ http://www.salachalermkrung.com) หากครอบครัวไหนสนใจโขนเหมือนกัน เราอาจจะได้ไปเจอกันนะครับ น้าเมฆ
http://www.facebook.com/cloudbookfanpage