Tuesday, February 26, 2013

ชาวไร่ไฮโซ MINI COUNTRYMAN COOPER D (ตอนที่1)

ชาวไร่ไฮโซ MINI COUNTRYMAN COOPER D (ตอนที่1)
ทดสอบการขับขี่ MINI Countryman Cooper D ยานยนต์ 5 ประตูพลังดีเซลอัดเทอร์โบกึ่งลุยกึ่งหรูของ BMW Group ตอนแรกกับการรีวิวตัวถัง ภายใน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เครื่องยนต์ ชุดส่งกำลัง ระบบรองรับและราคาค่าตัว...มันเหมือนคนตัวเล็กที่ไปเข้าคอร์สออกกำลังกายอย่างหนักพร้อมๆ ไปกับการกินสารกระตุ้นกล้ามเนื้อพวกสเตียรอยด์ MINI Countryman คือตัวอย่างของการแตกสายพันธ์ุเพื่อการตลาดอย่างแท้จริง มันไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์รุ่นเก่าที่ถูกนำมาสานตำนานด้วยรูปลักษณ์ใหม่อีกต่อไป มันได้กลายมาเป็นรถ BMW คันเล็กไปแล้วจากคุณภาพของงานประกอบการขับขี่ วัสดุและราคา ทุกวันนี้ รถ MINI ได้แฝงเอาความร่วมสมัยและแนวทางการออกแบบใหม่ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของคนทั่วไป การเดินตามแฟชั่นคือความทันสมัยที่เปลี่ยนแปลงให้รถ MINI ในทุกวันนี้มีรูปทรงที่แปลกตามากยิ่งขึ้น มันตัวโตขึ้น มีระบบรองรับการขับขี่มากยิ่งขึ้นพร้อมๆ ไปกับราคาที่สูงขึ้นจนขึ้นไปอยู่ในชั้นของรถเล็กระดับพรีเมี่ยม นับจากปี 2001 ที่ BMW Group เข้ามาซื้อกิจการของ MINI ต่อจากแบรน์ ROVER ที่กำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก จนมาถึงทุกวันนี้บนตัวเลขยอดขาย 1.5 ล้านคันทั่วโลกคือความสำเร็จที่ยากจะทำลาย กลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ต้องการรถยนต์ที่มีรูปแบบหลากหลายมากยิ่งขึ้นทุกที สาเหตุดังกล่าวทำให้ MINI สูญเสียความเป็นตัวตนไปพอสมควรจากการทำรถที่เน้นหนักทางด้านการตลาดมากจนเกินไป ในปี 2008 รถต้นแบบ Countryman Concept ได้สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนๆ ของ MINI ในงานแสดงรถยนต์ปารีสมอเตอร์โชว์ ด้วยตัวถังแบบ 5 ประตู พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและช่วงล่างแนว Crossover มันตัวอ้วนขึ้นและสูงขึ้นมาก แม้จะไม่ดูดีเท่ารุ่นตัวถัง 3 ประตู แต่การมาถึงของ Countryman เป็นการป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า BMW Group พร้อมแล้วสำหรับการขยายตลาดสู่ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่และพยายามรักษาความนิยมใน แบรนด์ MINI ไว้ นับเป็นครั้งแรกที่ BMW กล้าที่จะตัดสินใจเพิ่มความหลากหลายของตัวถัง MINI ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาว่า กำลังทำให้ MINI ในทุกวันนี้ขาดความเป็นตัวตนที่ชัดเจนทุกๆ ค่ายในห้วงเวลานี้พยายามทำรถของตนเองให้มีขนาดที่เล็กลง แต่กลับสวนทางอย่างสิ้นเชิงเมื่อพบกับรูปลักษณ์ของเจ้า MINI Countryman เพื่อทำให้มันมีความอเนกประสงค์ด้านการใช้งานมากยิ่งขึ้น ขนาดของตัวถังรหัส R60 จึงถูกขยายออกไปทุกทิศทุกทาง รถทดสอบ Countryman Cooper D ขับเคลื่ิอน 2 ล้อหน้าคันนี้มีความกว้าง 1,789 มิลลิเมตร ยาวถึง 4,097 มิลลิเมตรและมีความสูงถึง 1,561 มิลลิเมตร เมื่อมองดูใกล้ๆ จะพบความอวบอ้วนของตัวถังที่ถูกดีไซน์ให้อ้างอิงกับรถยนต์ในแนว Crossover ซึ่งมีมิติความสูงมากกว่ารถยนต์ทั่วๆ ไป ด้านหน้าของเจ้า Countryman มีไฟหน้าแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำกับไฟของรุ่น 3 ประตู จากขนาดที่ใหญ่กว่า กระจังหน้าก็ยังมีมิติที่เพิ่มมากขึ้นแม้จะยังมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันกับ รุ่น 3 ประตูตัวเล็ก สปอยเลอร์หน้าหรือกันชน วางไฟตัดหมอกทรงกลมบริเวณมุมทั้งสองด้าน ส่วนช่องรับอากาศเพื่อระบายความร้อนให้กับหม้อน้ำและรังผึ้งของระบบปรับอากาศนั้นก็ยังใหญ่โตตามขนาดของตัวรถไปโดยปริยาย ฝากระโปรงออกแบบให้มีมุมมองที่นูนขึ้นเล็กน้อยตรงกลาง พร้อมไปกับการคาดสติกเกอร์ตามแนวทางของ MINI ที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ส่วนตัวไปแล้วมุมมอง ด้านข้างตัวถังของ MINI Countryman Cooper D จะพบเห็นความใหญ่โตได้อย่างชัดเจนทั้งจากขนาดของความสูงและแนวของกระจกบังลม เสาหน้ามีความลาดเอียงน้อยลงกลับทำให้ทัศนวิสัยมุมมองด้านหน้าปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น พลาสติก ABS ใช้ตกแต่งซุ้มล้อหน้า-หลังกับแนวชายล่างของขอบบันไดตัดกับสีขาวของตัวถัง แก้มข้างวางไฟเลี้ยวไว้คนละแนวกับรุ่นตัวถังเล็กด้วยการใช้แนวทะแยงที่ลงตัว กับไฟเลี้ยวทรงยาวแทนที่ไฟเลี้ยวทรงกลมของเจ้าตัวเล็ก ล้ออัลลอยลายแนวๆ สีขาวขอบ 17 นิ้วแบบ 5 รูน็อตยึด ห่อรัดเอาไว้ด้วยยางกึ่งลุยของ Bridgestone ไซส์ 205/55/R17 แก้มยางที่สูงขึ้นมากกว่ารุ่นเล็กยังช่วยทำให้การวิ่งลุยทางฝุ่นหรือทางขรุขระดีขึ้น แนวของหลังคาที่ค่อยๆ ลดระดับความลาดเอียงไปยังส่วนท้ายสอดรับกับเสาหลังที่ค่อนข้างเตี้ยได้ดี ที่แปลกตาคือเสาอากาศซึ่งติดตั้งอยู่บนหลังคาทางส่วนหลังที่สูงโด่ง บานประตูใช้มือจับแบบพลาสติกชุบโครเมี่ยมสีเงินช่วยเพิ่มเติมมุมมอง หลังคาสีดำกับรถสีขาวตัดกันอย่างลงตัวและสวยงาม ในรุ่น Countryman Cooper D ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าซึ่งมีราคาลดต่ำลงมาจากรุ่น Countryman All4 Cooper SD ไม่มี Moon roof ติดตั้งมาให้เหมือนกับรุ่นสูงสุด สันหลังคามีชิ้นงานใช้สำหรับติดตั้งแร็คหลังคาสำหรับขนของผู้คนส่วนใหญ่คาดหวังกับขนาดที่โตขึ้นแบบรถ SUV ที่ใช้งานได้ดีและ Countryman Cooper D ตอบโจทย์นี้ได้อย่างลงตัวแม้จะไม่ใหญ่เท่ากับรถขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบ บั้นท้ายของมันสร้างความแตกต่างอย่างมีเสน่ห์รวมถึงงานวิศวกรรมโครงสร้างและความประณีตในการประกอบ ฝาท้ายเปิดออกได้ด้วยมุมที่สูงเป็นพิเศษสำหรับการขนสัมภาระ ไฟท้ายแนวตั้งมีขนาดที่โตขึ้นตามมิติของตัวถัง ส่วนชิ้นงานสปอยเลอร์หลังหรือกันชนด้านหลังก็ยังลงตัวสอดรับกับส่วนท้าย กระจกบานหลังที่ติดอยู่กับฝาท้ายมีขนาดเล็กไปนิดและต้องเพิ่มความระวัง ขณะที่กำลังถอยหลังเนื่องจากความสูงของตัวรถ สำหรับ Countryman Cooper D มีเซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญาณเสียงเมื่อเข้าใกล้วัตถุกีดขวาง กระจกบังลมด้านหลังมีใบปัดน้ำฝนขนาดเล็กและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบหลอด LED มาให้อีกด้วยถึงแม้ตัวจะโตแต่ภายใน ห้องโดยสารของ Countryman Cooper D ยังคงกลิ่นไอของ MINI รุ่นปกติเอาไว้อย่างเหนียวแน่นจากการจัดวาง การคัดสรรวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในและรูปแบบของปุ่มสวิตช์ต่างๆ ที่ยังคงเหมือน กับรุ่น 3 ประตู มาตรวัดใหญ่ขนาดชามก๋วยเตี๋ยวไม่มีจอมัลติฟังก์ชั่นเหมือนกับรุ่นสูงสุด มีชุดเครื่องเสียงแบบ CD-MP3 AM-FM พร้อมช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอก ชุดควบคุมอุณหภูมิและปุ่มสวิตช์เปิด-ปิดกระจกบังลมแบบไฟฟ้ากับระบบไฟส่อง สว่างอยู่ค่อนข้างต่ำทำให้การใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร ภายในของ Countryman Cooper D คันทดสอบเน้นสีแบบทูโทนดำสลับแดง เบาะแบบผ้าใช้หนังแท้สีเทาเข้มหุ้มขอบเพื่อความคงทน แผงประตูสีดำสลับแดง ที่ออกแบบได้ดีและโดนใจคือคอนโซลพลาสติกขึ้นรูปที่หุ้มด้วยไวนิลคุณภาพสูง สำหรับป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก พวงมาลัยสามก้านกับสวิตช์ปรับตั้งเครื่องเสียงและปุ่มรับสายโทรศัพท์ หลังวงพวงมาลัยยังมีแป้นเปลี่ยนเกียร์หรือ Paddle Shift ทำจากพลาสติกสีดำ ช่องแอร์ทรงกลมที่เข้ากันกับหน้าปัดมาตรวัด ซุ้มเกียร์ออโต้ทำออกมาคล้ายๆ กับเกียร์ธรรมดาโดยใช้ถุงหนังแท้สีดำห่อหุ้ม คันเกียร์ แม้จะเต็มไปด้วยพลาสติกรอบๆ ห้องโดยสาร แต่รูปแบบและงานดีไซน์รวมถึงการจัดวางทำออกมาได้ดีโดนใจวัยรุ่นเหมือนเดิมมือจับประตูสีเงินตัดกับแผงบุประตูสีดำสลับแดง ตัดขอบแผงประตูด้วยชิ้นงานพลาสติกทรงโค้งสีเงินที่ให้ผิวสัมผัสแตกต่างกัน ออกไป เบาะผู้โดยสารตอนหลังยังสามารถพับให้เอนราบเพื่อการขนของพวกกระเป๋าเดินทาง ใบโต ถุง Golf หรือจักรยานแบบพับได้ เอกลักษณ์อีกอย่างที่ช่วยสร้างบรรยากาศของการขับขี่ในตอนกลางคืนคือหลอดไฟ แบบ LED ที่ประดับประดาอยู่ตรงมือจับแผงประตูทุกบาน กับไฟเหนือศีรษะของเบาะผู้โดยสารตอนหน้าที่สามารถเปลี่ยนเฉดสีได้ถึง 756 เฉดสี โดยผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งสีของไฟ LED ภายในห้องโดยสารได้ตามใจชอบ ทำให้ห้องโดยสารมีความงดงามแปลกตาในตอนกลางคืนเครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบแถวเรียง 2.0ลิตรพร้อมเทอร์โบแปรผันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันได้ สูงสุด 19.6 กิโลเมตร / ลิตรสำหรับ Cooper D ทั้งในรุ่นแฮทช์แบค 3 ประตูและแบบ 5 ประตูเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ของ MINI ขนาด 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบ ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีมาจากพื้นฐานของเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.0 ลิตรที่ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบ เทอร์โบแปรผันที่ให้กำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกช่วงของรอบเครื่องยนต์ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงวิศวกรของ MINI เคลมว่ามันสามารถวิ่งได้ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 19.6 กิโลเมตร / ลิตร พร้อมแรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,250 สำหรับ Countryman Cooper D และในรุ่นแฮทช์แบค 3ประตูหรือ MINI Cooper D และสำหรับ Cooper SD ในรุ่นแฮทช์แบค 3 ประตูรุ่นสูงสุดรวมถึง Countryman Cooper SD All4 นั้นมีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ที่ 18.9 กิโลเมตร / ลิตร และให้แรงบิดสูงสุดถึง 305 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,700 รอบ ทำให้ MINI Cooper D และ SD ทุกแบบตัวถัง เป็นรถที่มีแรงบิดรอบต่ำที่น่าทึ่งมากเมื่อเทียบกับรถยนต์ในขนาดและเซกเมนต์ เดียวกัน สำหรับชุดส่งกำลังหรือเกียร์ ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อมโหมดชิฟเกียร์ด้วยตัวเองทั้งแบบ Manual และ Auto ผ่านสวิตช์ปรับเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยเครื่องยนต์ ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ ได้รับการติดตั้งในรุ่น MINI Countryman ภายใต้ชื่อ MINI Cooper D Countryman และ MINI Cooper SD All4 Countryman รวมทั้งในรุ่น MINI Cooper ภายใต้ชื่อ MINI Cooper SD Coupe ทำให้มินิมีรุ่นต่างๆ ในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ให้เลือกถึง 5 รุ่นด้วยกัน นอกจากอัตราการประหยัดน้ำมันที่ แล้ว MINI ยังคงคาแรกเตอร์ในการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจในสไตล์โก-คาร์ท ด้วยระบบพวงมาลัยแบบ EPS Electric Power Steering สามารถให้การควบคุมที่เฉียบคมและแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเนื่องจากพวงมาลัยไฟฟ้ามีระบบการทำงาน ที่แยกจากเครื่องยนต์โดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ ระบบอิเล็กทรอนิกส์เสริมด้านความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control, ระบบเบรก ABS Antilock Braking System ระบบ EBD Electronic Brake force Distribution และระบบ CBC CorneringBrake Control ก็ได้รับการติดตั้งเพื่อความมั่นใจสูงสุดในขณะขับขี่ใช้งานเทคโนโลยี MINIMALISM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงตามแบบฉบับของ MINI เทคโนโลยี MINIMALISM ถูกออกแบบเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับ MINI เครื่องยนต์ดีเซลทุกรุ่น ซึ่งเทคโนโลยี MINIMALISM รวมถึงระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติจากการเบรก (Brake EnergyRe-Generation), ระบบพวงมาลัยแบบ EPS Electric Power Steering และระบบสำรองพลังงานแบบ On-demand สำหรับอุปกรณ์เสริม ทำให้มีอัตราการประหยัดน้ำมันโดยรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ของ MINI ได้รับการปรับปรุงเพื่อลด Vibration และลดเสียงจากห้องเครื่องยนต์ทำให้เครื่องเดินเงียบปราศจากอาการสั่นเหมือน เครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปรายละเอียดด้านเทคนิคMINI CountrymanMINI Cooper D Countryman (คันทดสอบ)เครื่องยนต์ 4 สูบ ดีเซลคอมมอนเรล เจนเนอเรชั่นล่าสุดพร้อมเทอร์โบแปรผันปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 1,995 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที)112 / 4,000แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) 270 / 1,750-2,250ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตร /ชั่วโมง)180อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร /ชั่วโมง (วินาที) 11.3อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย (กิโลเมตร / ลิตร) 17.9ระดับการปล่อย CO2 (กรัม / กิโลเมตร) 149มิติรถยนต์ ยาว/กว้าง/สูง (มิลลิเมตร) 4,097/1,789/1,561ราคา (บาท - รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 2,840,000MINI เครื่องยนต์ดีเซล มีโปรแกรมบริการหลังการขาย MINI Service Inclusive (MSI) ซึ่งเป็นการดูแลบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 3 ปีหรือ 50,000 กิโลเมตร โปรแกรม MSI เป็นสิทธิ์เฉพาะสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ MINI ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งลูกค้า MINI จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการมิลเลนเนียม ออโต้สามารถนำรถเข้ารับบริการได้จากมิลเลนเนียม ออโต้ สาขาเอกมัยซึ่งสามารถรองรับการบริการหลังการขายได้ถึง 9 ช่องสำหรับให้บริการทางด้านเทคนิคโดยเฉพาะ และใหม่ล่าสุดกับศูนย์บริการ MINI ที่มิลเลนเนียม ออโต้ สาขาพระราม 3 ซึ่งสามารถรองรับการบริการหลังการขายได้ถึง 16 ช่อง สำหรับ BMW และ MINI ให้บริการแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนของปีที่ผ่านมาMINI Cooper D Countryman Specificationsengine type.......................................turbocharged dieselEngine manufacturer.......................BMWEngine codeCylinders Straight .........................4Capacity........................................2 litre 1,995 cc (121.742 cu in)Bore × Stroke..................................84 mm × 90 mm 3.31 × 3.54 in Bore/stroke ratio.............................0.93Valve gear......................................DOHC 4 valves per cylinder 16 Total valvesmaximum power output..............112 PS (81.7 kW) at 4,000 rpmSpecific output................................54.9 bhp/litre 0.9 bhp/cu inmaximum torque...........................270 Nm (199 ft·lb) (27.5 kgm) at 1,750-2,250 rpmSpecific torque................................135.34 Nm/litre 1.64 ft·lb/cu3sump...............................................wet sumpedcompression ratio............................16.5:1Fuel system.....................................common rail direct diesel injectionbmep (brake mean effective pressure)1700.7 kPa (246.7 psi)Engine coolant.................................WaterUnitary capacity...............................498.75 ccAspiration.........................................Turbo D.Acceleration..................................... 0-100 km/h11.30 sStanding kilometre..........................33.00 sMaximum speed..............................180 km/h (112 mph)Power-to-weight ratio......................77.66 bhp/tonCarbon dioxide emissions................149 g/kmEngine position.................................fronttransverse Drive wheels....................front wheel driveSteering.............................................rack & pinion PASturns lock-to-lock..............................2.400Turning circle....................................nonFront suspensionRear suspensionWheel size front................................17 inWheel size rear..................................17 inTyres front.........................................205/55 R 17 Tyres rear..........................................205/55 R 17 Brakes Front brake diameter.........................280 mmRear brake diameter..........................259 mmGearbox............................................6 speed automaticTop gear ratio...................................0.67Final drive ratio...............................3.68Wheelbase.......................................2,595 mm 102.2 inTrack/tread (front)...........................1,534 mm 60.4 inTrack/tread (rear).............................1,559 mm 61.4 inLength.............................................4,097 mm 161.3 inWidth...............................................1,789 mm 70.4 inHeight..............................................1,561 mm 61.5 inGround clearance............................149 mm 5.9 inlength:wheelbase ratio....................1.58Kerb weight.....................................1,410 kg 3,109 lbFuel tank capacity............................47 litres 10.3 UK Gal 12.4 US Galอาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

No comments:

Post a Comment

Blog Archive