ฮอนด้าจัดงานวันฉลองชัยชนะ
คมชัดลึก :อาซึชิ ฟูจิโมโต ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ฮอนด้า เรซซิ่ง เฟส 2009 โดยแชมป์ประจำปี 4 รุ่นได้แก่
กรัณฑ์ ศุภพงษ์ แชมป์ประจำปีรุ่น ฮอนด้า โปรคัพ โอเวอร์ออล, อาภาธร กรรณสูต แชมป์ซีวิค คลาสเอ, สุทธิลักษณ์ บุญเจริญ แชมป์ ซีวิค คลาสบี-ซี และ ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ แชมป์รุ่นแจ๊ซ วันเมคเรซสำหรับ ศึก ฮอนด้า เรซซิ่ง เฟส ประจำฤดูกาล 2010 จะแข่งขันทั้งสิ้น 10 เรซ ใน 5 สนาม เท่ากับปีที่แล้ว
เบนซ์ มอบรางวัลผู้จำหน่ายประจำปี 52
บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย นายอเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร แสดงความยินดีและมอบรางวัลเป็นเกียรติแด่ผู้จำหน่ายที่ได้รับรางวัลความพึงพอใจสูงสุดต่อประสบการณ์การซื้อรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ ซึ่งผู้จำหน่าย และรางวัลพนักงานขายดีเด่น ด้านบริการลูกค้า ณ งานประชุมผู้จำหน่าย ประจำปี พ.ศ. 2552 ทั้งนี้ผู้จำหน่ายที่ได้รับรางวัลความพึงพอใจได้แก่ บริษัท สวนหลวง ออโต้เฮ้าส์ จำกัด บริษัท เบนซ์ พระราม 3 จำกัด และบริษัท จันทบุรี เจพี มอเตอร์ จำกัด ตามลำดับ
มาสด้า จัดแข่งทักษะช่าง
จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่า บริษัทได้จัดแข่งขันทักษะช่างเทคนิคมาสด้า สำหรับผลการแข่งขันในครั้งที่ 9 ประจำปี 2552 นี้ ช่างเทคนิคจากศูนย์มาสด้า ไซม์ดาร์บี้ สาขาเจริญนคร คว้าแชมป์ไปครอง ส่วนที่ปรึกษาการบริการ ตัวแทนจากมาสด้า ไซม์ ดารบี้ สาขาศรีนครินทร์ คว้าแชมป์ไปครองเป็นผลสำเร็จ
บริดจสโตนสนับสนุนกอล์ฟ “เดอะ รอยัล โทรฟี”
บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่าบริษัทได้ร่วมผู้สนับสนุนกอล์ฟรายการ เดอะ รอยัล โทรฟี ซึ่งภายในงานได้มีการจัดแสดงสินค้าเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์กลุ่มทูรันซ่า ทั้งรุ่น GR80 และ AR10 และผลิตภัณฑ์กลุ่มอุปกรณ์กีฬากอล์ฟคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าทุกท่านได้ทดสอบวงสวิงและวัดระยะการตี ซึ่งได้รับการประเมินผลด้วยคอมพิวเตอร์อีกด้วย เคนวู้ด เปิดตัว DDX 5036
บริษัท เคนวูด อิเลคทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด DDX 5036 เครื่องเสียงที่มีหน้าจอความละเอียด 1.1 ล้านพิกเซล พร้อมฟังก์ชันแปลกใหม่เช่น การเพิ่มระบบ GUI (Graphic User Interface) โดยจำหน่ายราคาชุดละ 20,900 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้องสยอง!!เก๋งพุ่งชนรถทัวร์ดับ5เจ็บ17 สังคมสุดสัปดาห์ประจำวันที่30ม.ค.ฟันธงตลาดจยย.ส่อแววรุ่งรับปีเสือเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นจัดกอล์ฟชิงถ้วยพระเทพฯแค่ก้มหยิบขวดน้ำ...พุ่งชน ตร.ทางหลวงขาขาด-ชีวิตเปลี่ยน !
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Wednesday, March 31, 2010
นับถอยหลังมาสด้า2ซีดาน60วันเก๋งเล็กถึงจุดเดือด
นับถอยหลังมาสด้า2ซีดาน60วันเก๋งเล็กถึงจุดเดือด
คมชัดลึก : ปี 2553 น่าจะนับได้ว่าเป็นปีที่มาสด้า สามารถขึ้นมาผงาดเป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้เล่นที่มีอิทธิพลมากสุดในตลาด จากคำแถลงของจอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่บอกว่าปีนี้จับตาดูทีเด็ดของมาสด้าให้ดี
เพราะว่าเป้าหมาย 35000 คันต่อปี เติบโตเพิ่มขึ้น 164% จากยอดขายเดิมที่ทำได้ 1,3000 คัน ไม่ใช่ธรรมดา เพราะนั่นหมายถึงว่า มาสด้าจะมีงบประมาณมาทำตลาดมากขึ้นกับเป้าหมายการขายซึ่งเพิ่มขึ้น 50% ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงพอสมควร
การกำหนดเป้าหมายยอดขายไว้สูง ส่วนหนึ่งมาจากมาสด้ามีรถตัวใหม่เข้าตลาดนั่นคือ มาสด้า 2 ซีดาน โฉมใหม่ล่าสุด ซึ่งกำลังจะเปิดโฉมออกมาในเดือนมีนาคมนี้
สำหรับมาสด้า 2 แบบซีดาน ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของมาสด้าภายใต้คอนเซ็ปต์ Zoom-Zoom ซึ่งในไลน์การผลิตของมาสด้า ในตลาดโลกเวลานี้มีรถใหม่หลายรุ่นเช่น มาสด้า 6 ที่เพิ่งออกมา รวมถึงมาสด้า 5 ด้วย ส่วนในบ้านเรา มาสด้า 2 แบบ 5 ประตู แฮทแบ็กก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และมาสด้า 2 แบบ 4 ประตู จะเป็นหนึ่งในรถที่ผลักดันยอดขายหลักในการทำยอด
มาสด้า 2 (มาสด้า Demio ในญี่ปุ่น) เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่จีน ต้องยอมรับมาจีนนั้นมีอิทธิพลมากต่อตลาดโลก ดังนั้นแทบจะเรียกได้ว่าบางค่ายผลิตรถให้จีนซื้อใช้ก็คุ้มแล้วไม่ต้องไปหาลูกค้าที่อื่นๆ ในปีนี้นอกจากจะแนะนำในไทยแล้วก็ยังไปเปิดตลาดที่ออสเตรเลียอีกด้วย ซึ่งก็เป็นรถที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทย
สำหรับเครื่องยนต์คงจะไม่พ้นเครื่องขนาด 1500 ซีซี บล็อกเดียวกับที่วางในมาสด้า 2 แฮทแบ็ก ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของค่ายรถในบี-เซ็กเมนท์ ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์เดียวกันในหลายรุ่นเพื่อความคุ้มค่าในการผลิต โดยเครื่อง 1500 ซีซี ก็เข้ากับตัวถังมาสด้า 2 ซีดาน โดยไม่ต้องไปดัดแปลงใดๆ
รูปร่างหน้าตาของมาสด้า 2 ถือว่าโฉบเฉี่ยว รูปแบบรถเน้นสปอร์ตซีดาน ความปราดเปรียวของเส้นสายสไตล์มาสด้า เพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสาร ด้านหน้าและด้านหลัง ด้วยการขยายฐานล้อให้ใหญ่กว่ารถในคลาสเดียวกัน
ในช่วงรอให้รถออกสู่ตลาด ผู้บริหารของมาสด้าได้อัพเดทข้อมูลต่างๆ ให้สื่อมวลชนว่า เครือข่ายการจำหน่ายมาสด้าในปีเสือนี้จะเพิ่มเป็น 130 แห่งจากเดิมที่มีแค่ 105 แห่ง นอกจากนี้จะพัฒนาคุณภาพการบริการและประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการเตรียมการรองรับประชากรรถของมาสด้าที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ยังเป็นการรองรับคู่แข่งที่จะออกมาสู่ตลาดไม่ว่ารถรุ่นใหม่ๆ ในเช็กเมนท์เดียวกันหรือว่ารถจากโครงการอีโคคาร์ ซึ่งก็แน่นอนว่านิสสันกำลังจะเปิดตัวในช่วงเดียวกับที่มาสด้า 2 ซีดานจะออก รถของนิสสันดูเหมือนเป็นเรื่องที่แน่นอนว่า อีโคคาร์ ของนิสสันจะเข้ามาในตลาดบี-เซ็กเมนท์ ที่มาสด้า 2 ซีดานและแฮทแบ็กทำตลาดอยู่ อีกราว 60 วันจากนี้ไป ตลาดรถยนต์ บี-เซ็กเมนท์ ที่เป็นตลาดใหญ่สุดของรถเก่งจะกลับมาแข่งเดือดรอบใหม่อีกรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง มาสด้า2ยอดจองพุ่งเปิดตัวมาสด้า2เจาะคนรุ่นใหม่เคาท์ดาวน์"มาสด้า2""บี คาร์ ตัวใหม่ อารมณ์ซูมซูม"
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : ปี 2553 น่าจะนับได้ว่าเป็นปีที่มาสด้า สามารถขึ้นมาผงาดเป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้เล่นที่มีอิทธิพลมากสุดในตลาด จากคำแถลงของจอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่บอกว่าปีนี้จับตาดูทีเด็ดของมาสด้าให้ดี
เพราะว่าเป้าหมาย 35000 คันต่อปี เติบโตเพิ่มขึ้น 164% จากยอดขายเดิมที่ทำได้ 1,3000 คัน ไม่ใช่ธรรมดา เพราะนั่นหมายถึงว่า มาสด้าจะมีงบประมาณมาทำตลาดมากขึ้นกับเป้าหมายการขายซึ่งเพิ่มขึ้น 50% ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงพอสมควร
การกำหนดเป้าหมายยอดขายไว้สูง ส่วนหนึ่งมาจากมาสด้ามีรถตัวใหม่เข้าตลาดนั่นคือ มาสด้า 2 ซีดาน โฉมใหม่ล่าสุด ซึ่งกำลังจะเปิดโฉมออกมาในเดือนมีนาคมนี้
สำหรับมาสด้า 2 แบบซีดาน ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของมาสด้าภายใต้คอนเซ็ปต์ Zoom-Zoom ซึ่งในไลน์การผลิตของมาสด้า ในตลาดโลกเวลานี้มีรถใหม่หลายรุ่นเช่น มาสด้า 6 ที่เพิ่งออกมา รวมถึงมาสด้า 5 ด้วย ส่วนในบ้านเรา มาสด้า 2 แบบ 5 ประตู แฮทแบ็กก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และมาสด้า 2 แบบ 4 ประตู จะเป็นหนึ่งในรถที่ผลักดันยอดขายหลักในการทำยอด
มาสด้า 2 (มาสด้า Demio ในญี่ปุ่น) เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่จีน ต้องยอมรับมาจีนนั้นมีอิทธิพลมากต่อตลาดโลก ดังนั้นแทบจะเรียกได้ว่าบางค่ายผลิตรถให้จีนซื้อใช้ก็คุ้มแล้วไม่ต้องไปหาลูกค้าที่อื่นๆ ในปีนี้นอกจากจะแนะนำในไทยแล้วก็ยังไปเปิดตลาดที่ออสเตรเลียอีกด้วย ซึ่งก็เป็นรถที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทย
สำหรับเครื่องยนต์คงจะไม่พ้นเครื่องขนาด 1500 ซีซี บล็อกเดียวกับที่วางในมาสด้า 2 แฮทแบ็ก ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของค่ายรถในบี-เซ็กเมนท์ ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์เดียวกันในหลายรุ่นเพื่อความคุ้มค่าในการผลิต โดยเครื่อง 1500 ซีซี ก็เข้ากับตัวถังมาสด้า 2 ซีดาน โดยไม่ต้องไปดัดแปลงใดๆ
รูปร่างหน้าตาของมาสด้า 2 ถือว่าโฉบเฉี่ยว รูปแบบรถเน้นสปอร์ตซีดาน ความปราดเปรียวของเส้นสายสไตล์มาสด้า เพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสาร ด้านหน้าและด้านหลัง ด้วยการขยายฐานล้อให้ใหญ่กว่ารถในคลาสเดียวกัน
ในช่วงรอให้รถออกสู่ตลาด ผู้บริหารของมาสด้าได้อัพเดทข้อมูลต่างๆ ให้สื่อมวลชนว่า เครือข่ายการจำหน่ายมาสด้าในปีเสือนี้จะเพิ่มเป็น 130 แห่งจากเดิมที่มีแค่ 105 แห่ง นอกจากนี้จะพัฒนาคุณภาพการบริการและประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการเตรียมการรองรับประชากรรถของมาสด้าที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ยังเป็นการรองรับคู่แข่งที่จะออกมาสู่ตลาดไม่ว่ารถรุ่นใหม่ๆ ในเช็กเมนท์เดียวกันหรือว่ารถจากโครงการอีโคคาร์ ซึ่งก็แน่นอนว่านิสสันกำลังจะเปิดตัวในช่วงเดียวกับที่มาสด้า 2 ซีดานจะออก รถของนิสสันดูเหมือนเป็นเรื่องที่แน่นอนว่า อีโคคาร์ ของนิสสันจะเข้ามาในตลาดบี-เซ็กเมนท์ ที่มาสด้า 2 ซีดานและแฮทแบ็กทำตลาดอยู่ อีกราว 60 วันจากนี้ไป ตลาดรถยนต์ บี-เซ็กเมนท์ ที่เป็นตลาดใหญ่สุดของรถเก่งจะกลับมาแข่งเดือดรอบใหม่อีกรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง มาสด้า2ยอดจองพุ่งเปิดตัวมาสด้า2เจาะคนรุ่นใหม่เคาท์ดาวน์"มาสด้า2""บี คาร์ ตัวใหม่ อารมณ์ซูมซูม"
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
พิมพา จันทพิมพะนักแปลวัย97รับรางวัลนราธิป
พิมพา จันทพิมพะนักแปลวัย97รับรางวัลนราธิป
คมชัดลึก :00 สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2553 และร่วม ฉลองครบรอบชาตกาล 102 ปี ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน ด้วยการจัดอภิปราย ความฝันของนักอุดมคติ-ฝันค้างของสังคมปัจจุบัน โดยสองศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ (ว.วินิจฉัยกุล, แก้วเก้า), อดุล จันทรศักดิ์ (อัคนี หฤทัย) และนักเขียนรางวัลศิลปาธรคนล่าสุด อรสม สุทธิสาคร ใน วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30-17.00 น. ณ หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี...
00 ที่สำคัญ ในงานนี้มีพิธี มอบรางวัลนราธิป ประจำปี 2552 แด่นักเขียน/นักแปล/นักหนังสือพิมพ์อาวุโส อายุ 80 ปีขึ้นไป จำนวน 17 ท่านด้วย (ดูในล้อมกรอบ) ขอเชิญนะครับ บรรดาสมาชิก มิตรรักนักเขียน ตลอดจนผู้สนใจ ไปร่วมงานและคารวะยินดี ‘ญาติน้ำหมึก’ ผู้มาก่อนกันให้คับคั่ง ชมัยภร แสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนฯ ฝากเรียนเชิญมา...
00 เบื้องต้นอยากเรียนให้ทราบว่า ‘นักเขียนรางวัลนราธิป’ อาวุโสสูงสุด ประจำปี 2552 ได้แก่ พิมพา จันทพิมพะ (เดิมชื่อ...รวม จันทพิมพะ) เพราะท่านกำลังจะ ครบ 97 ปีบริบูรณ์ ใน วันที่ 1 พฤษภาคมนี้! (เกิด 1 พ.ค. 2456) บางคนอาจสงสัยว่าท่านเป็นอะไรกับ ร. จันทพิมพะ (รวงทอง จันทพิมพะ) นักเขียนสตรีชื่อดังในอดีต (เพิ่งฉลองครบรอบชาตกาล 100 ปีไปเมื่อปีก่อน) ก็ขอตอบว่าท่านเป็น น้องสาวแท้ๆ ที่คลานตามกันมาโดยมิต้องสงสัย...
00 ส่วนใครที่นึกไม่ออกว่า พิมพา จันทพิมพะ มีผลงานอะไรบ้าง? ท่านคือเจ้าของผลงาน วรรณกรรมแปลคลาสสิก ที่พิมพ์ซ้ำหลายครั้งอย่าง “รีเบคกา” และ “วัทเตอริง ไฮทส์” (ต้นรัก ดอกโศก) ถึงตรงนี้หลายคนคงร้องอ๋อ! อ้อ...ยังมีวรรณกรรมเยาวชนแปลเรื่อง “บัลลังก์เลือด” ที่แปลจาก THE PRISONER OF ENDAZ and RUPERT OF HENTZAU ของ Anthony Hope อีกเล่มหนึ่ง พิมพ์ครั้งแรกโดย ทวพ. เมื่อ พ.ศ. 2516...
00 ต้องขอขอบคุณ ปานตา ศิริวัฒน์ อธิบดีศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมา ธิดาคนที่ 2 ของท่าน ที่เขียนจดหมายไปให้ข้อมูลแก่ สิงห์สนามหลวง ใน ‘เนชั่นสุดสัปดาห์’ และต้องขอบคุณ สิงห์สนามหลวง ที่เป็นสื่อกลางหรือสะพานเชื่อมให้ผู้อ่านทราบว่า นักแปลคุณภาพ พิมพา จันทพิมพะ ยังมีชีวิตยืนยาวเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรคุ้มลูกหลานมาจนวันนี้ และทำให้ สมาคมนักเขียนฯ ได้มีโอกาสประกาศเกียรติ มอบรางวัลนราธิป ในที่สุด!...
00 ส่วนเด็กรุ่นหลังอย่าง “วรรณฤกษ์” ก็โชคดีที่มีโอกาสได้เข้าเยี่ยมคารวะ “คุณย่าพิมพา” ถึงถิ่นพำนัก ซึ่งทั้งท่านอธิบดี “ปานตา” และ ผศ.วงศ์ทิพย์ ปิณฑะสุต ธิดาคนที่ 3 ให้การต้อนรับประทับใจ ณ หมู่บ้านใหญ่ในซอย คู้บอน 27 เยื้องๆ กับซอยบ้านกวีรัตนโกสินทร์/ศิลปินแห่งชาติ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นั่นเอง...
00 นักเขียนสตรี ภาณุมาศ ภูมิถาวร เขียนสารคดีชีวประวัติ “มนัส โอภากุล ... ช้างป่าต้น คนสุพรรณ” เป็นหนังสือดีมีคุณค่าอีกเล่มหนึ่ง ต้องไม่ลืมว่า มนัส โอภากุล หนึ่งใน นักเขียนรางวัลนราธิป ปีนี้คือ นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และ ปรามจารย์ด้านพระเครื่อง มีผลงานรวมเล่มมากมาย สำหรับชีวประวัติของท่านเล่มนี้ ปรีดา ข้าวบ่อ บก.สำนักพิมพ์มิ่งมิตร พิมพ์ออกมาประจวบเหมาะกับ สมาคมนักเขียนฯ มอบรางวัลให้ท่านพอดี และ “แอ๊ด คาราบาว” คงปลื้มปีติกับ ‘คุณพ่อ’ ผู้เป็นต้นแบบไปด้วย...
00 ส. พลายน้อย เจ้าของรางวัล ‘นักเขียนอมตะ’ 2551 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนักเขียนรางวัลนราธิป 2552 ถึงแม้สุขภาพไม่ค่อยเอื้ออำนวย แต่ท่าน ไม่เคยวางปากกา เขียนต่อเนื่องยาวนาน จนผลงาน มากกว่า 100 เล่ม! หลายเล่มพิมพ์ซ้ำหลายครั้ง ล่าสุดหนังสือเรื่อง “ตำนานผีไทย” ก็ได้รับการพิมพ์ซ้ำ ออกมาพร้อมกับ “นามานุกรมมงคลนาม” ผลงานเล่มใหม่ของ โกวิท ตั้งตรงจิตร นักเขียนรางวัลนราธิป 2551 ซึ่งทั้งสองเล่ม ‘พิมพ์คำ’ เขานำเสนอ...
00 พูดถึง พิมพ์คำ สำนักพิมพ์ แห่งค่ายสถาพรบุ๊คส์ของ “เฮียกวง” วรพันธ์ โลกิตสถาพร ปีนี้ถือเป็นปีทองก็ว่าได้ เพราะ นวนิยายรักโรแมนติก ทั้งระดับ ‘คลาสสิก’ และผลงานนักเขียน ‘รุ่นใหม่’ ที่กำลังได้รับความนิยม ต่างตบเท้า เข้าทางผู้จัดละคร เป็นทิวแถว! ไล่ตั้งแต่เรื่องคลาสสิกอย่าง “เชลยศักดิ์” ของ ดวงดาว ที่กำลังออนแอร์ และ “วนิดา” ของ วรรณสิริ กำลังถ่ายทำ...
00 ส่วนนวนิยายนักเขียนรุ่นใหม่ที่กำลังถ่ายทำ ได้แก่ “365 วันแห่งรัก” ของ ร่มแก้ว “ส้มหวาน น้ำตาลเปรี้ยว” ของ ณารา รวมถึง ละครฟอร์ยักษ์ จากนวนิยายชุด ‘บ้านไร่ปลายฝัน’ 4 เรื่อง 4 รส อย่าง “ธาราหิมาลัย” ของ ณารา “ดวงใจอัคนี” ของ ซ่อนกลิ่น “ปฐพีเล่ห์” ของ ร่มแก้ว และ “วายุภัคมนตรา” ของ แพรณัฐ ตามด้วยนวนิยาย “คุณนายสามสลึง” ของนักเขียนยอดนิยมนาม วราภา ซึ่งแต่ละเรื่องได้ ดาราแม่เหล็ก ดึงดูดเรตติ้งทั้งสิ้น...
00 เอ้าเร่เข้ามาๆ ปี่กลอง การประกวดรางวัลซีไรต์ 2553 กำลังเริ่มขึ้นแล้ว! ปีนี้เป็น ปีที่ 32 น่าจับตาอย่างยิ่ง เนื่องจากรอบ (สามช่า) ปี ‘กวีนิพนธ์’ ได้วนมาอีกครั้ง จะเอะอะมะเทิ่งดังๆ สร้างสีสันแก่วงการกวี เหมือนสามปีก่อนหรือไม่? ต้องคอยติดตาม! เขาเปิดรับ ตั้งแต่บัดนี้ - 31 มีนาคม โดยส่งผลงานที่พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกภายใน 3 ปี จำนวน 16 เล่ม ไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รร.แมนดาริน โอเรียนเต็ล 48 ถ.เจริญกรุง 40 เขตบางรัก กทม. 10500 (ทราบแล้วส่งนะจ๊ะ)...
00 ยิ่งใหญ่ และ เล่มใหญ่ เป็นประวัติการณ์ แพรวสำนักพิมพ์ ค่ายอมรินทร์ (มหาชน) และ บก.จตุพล บุญพรัด คารวะอาลัย ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ ด้วยการจัดพิมพ์ผลงาน 5 เรื่องเอก 5 เล่มดัง อย่าง“สนิมสร้อย” “เสเพลบอยชาวไร่” “ปีนตลิ่ง” “มาเฟียก้นซอย” และ “มาดเกี้ยว” รวมไว้ ในเล่มเดียวกัน! พิมพ์ปกแข็ง/หนาเกือบ 1,000 หน้า ภายใต้ชื่อ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ (หนุ่ม) นิรันดร์กาล ออกมาในช่วงงาน ‘มกราคม อำลา’ พญาอินทรีแห่งสวนอักษรสู่สรวงสวรรค์พอดี!...
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
หมายเหตุ : ท่านผู้อ่านมีความประสงค์จะส่งจดหมายหรือคำแนะนำใดๆ มายัง “ชานชาลานักเขียน” โปรดส่งตรงถึง “วรรณฤกษ์” ตู้ ปณ. 75 ปณฝ. หัวหมาก กรุงเทพฯ 10243 อีเมล : wannarerk@yahoo.com <mailto:wannarerk@yahoo.com>
นักเขียนรางวัลนราธิป ประจำปี 2552
นายจำนง เทพหัสดิน ณ อยุธยา ศาสตราจารย์ (พิเศษ) จำนง ทองประเสริฐ นางชุมสาย มีสมสืบ นายแถมสิน รัตนพันธุ์ (ลัดดา) ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ธานินทร์ กรัยวิเชียร นางนพคุณ จิตตะยโศธร (แมน สุปิติ) นางปราศรัย รัชไชยบุญ (นิดา) นายปัญญา ฤกษ์อุไร นายพิชัย วาศนาส่ง นางพิมพา ปิณฑะสุต (พิมพา จันทพิมพะ) นายมนัส โอภากุล นายเริงชัย ประภาษานนท์ (เศก ดุสิต, ศ. ดุสิต) พลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร (โก้ บางกอก) นายสมบัติ พลายน้อย (ส. พลายน้อย) นายสมพร ภูริพงศ์ (ชลันธร) นายไสวรินทร์ วิเศษสมบัติ นางอุปถัมภ์ จันทรสกุนต์ (อุปถัมภ์ กองแก้ว)
.วรรณฤกษ์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :00 สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2553 และร่วม ฉลองครบรอบชาตกาล 102 ปี ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน ด้วยการจัดอภิปราย ความฝันของนักอุดมคติ-ฝันค้างของสังคมปัจจุบัน โดยสองศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ (ว.วินิจฉัยกุล, แก้วเก้า), อดุล จันทรศักดิ์ (อัคนี หฤทัย) และนักเขียนรางวัลศิลปาธรคนล่าสุด อรสม สุทธิสาคร ใน วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30-17.00 น. ณ หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี...
00 ที่สำคัญ ในงานนี้มีพิธี มอบรางวัลนราธิป ประจำปี 2552 แด่นักเขียน/นักแปล/นักหนังสือพิมพ์อาวุโส อายุ 80 ปีขึ้นไป จำนวน 17 ท่านด้วย (ดูในล้อมกรอบ) ขอเชิญนะครับ บรรดาสมาชิก มิตรรักนักเขียน ตลอดจนผู้สนใจ ไปร่วมงานและคารวะยินดี ‘ญาติน้ำหมึก’ ผู้มาก่อนกันให้คับคั่ง ชมัยภร แสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนฯ ฝากเรียนเชิญมา...
00 เบื้องต้นอยากเรียนให้ทราบว่า ‘นักเขียนรางวัลนราธิป’ อาวุโสสูงสุด ประจำปี 2552 ได้แก่ พิมพา จันทพิมพะ (เดิมชื่อ...รวม จันทพิมพะ) เพราะท่านกำลังจะ ครบ 97 ปีบริบูรณ์ ใน วันที่ 1 พฤษภาคมนี้! (เกิด 1 พ.ค. 2456) บางคนอาจสงสัยว่าท่านเป็นอะไรกับ ร. จันทพิมพะ (รวงทอง จันทพิมพะ) นักเขียนสตรีชื่อดังในอดีต (เพิ่งฉลองครบรอบชาตกาล 100 ปีไปเมื่อปีก่อน) ก็ขอตอบว่าท่านเป็น น้องสาวแท้ๆ ที่คลานตามกันมาโดยมิต้องสงสัย...
00 ส่วนใครที่นึกไม่ออกว่า พิมพา จันทพิมพะ มีผลงานอะไรบ้าง? ท่านคือเจ้าของผลงาน วรรณกรรมแปลคลาสสิก ที่พิมพ์ซ้ำหลายครั้งอย่าง “รีเบคกา” และ “วัทเตอริง ไฮทส์” (ต้นรัก ดอกโศก) ถึงตรงนี้หลายคนคงร้องอ๋อ! อ้อ...ยังมีวรรณกรรมเยาวชนแปลเรื่อง “บัลลังก์เลือด” ที่แปลจาก THE PRISONER OF ENDAZ and RUPERT OF HENTZAU ของ Anthony Hope อีกเล่มหนึ่ง พิมพ์ครั้งแรกโดย ทวพ. เมื่อ พ.ศ. 2516...
00 ต้องขอขอบคุณ ปานตา ศิริวัฒน์ อธิบดีศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมา ธิดาคนที่ 2 ของท่าน ที่เขียนจดหมายไปให้ข้อมูลแก่ สิงห์สนามหลวง ใน ‘เนชั่นสุดสัปดาห์’ และต้องขอบคุณ สิงห์สนามหลวง ที่เป็นสื่อกลางหรือสะพานเชื่อมให้ผู้อ่านทราบว่า นักแปลคุณภาพ พิมพา จันทพิมพะ ยังมีชีวิตยืนยาวเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรคุ้มลูกหลานมาจนวันนี้ และทำให้ สมาคมนักเขียนฯ ได้มีโอกาสประกาศเกียรติ มอบรางวัลนราธิป ในที่สุด!...
00 ส่วนเด็กรุ่นหลังอย่าง “วรรณฤกษ์” ก็โชคดีที่มีโอกาสได้เข้าเยี่ยมคารวะ “คุณย่าพิมพา” ถึงถิ่นพำนัก ซึ่งทั้งท่านอธิบดี “ปานตา” และ ผศ.วงศ์ทิพย์ ปิณฑะสุต ธิดาคนที่ 3 ให้การต้อนรับประทับใจ ณ หมู่บ้านใหญ่ในซอย คู้บอน 27 เยื้องๆ กับซอยบ้านกวีรัตนโกสินทร์/ศิลปินแห่งชาติ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นั่นเอง...
00 นักเขียนสตรี ภาณุมาศ ภูมิถาวร เขียนสารคดีชีวประวัติ “มนัส โอภากุล ... ช้างป่าต้น คนสุพรรณ” เป็นหนังสือดีมีคุณค่าอีกเล่มหนึ่ง ต้องไม่ลืมว่า มนัส โอภากุล หนึ่งใน นักเขียนรางวัลนราธิป ปีนี้คือ นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และ ปรามจารย์ด้านพระเครื่อง มีผลงานรวมเล่มมากมาย สำหรับชีวประวัติของท่านเล่มนี้ ปรีดา ข้าวบ่อ บก.สำนักพิมพ์มิ่งมิตร พิมพ์ออกมาประจวบเหมาะกับ สมาคมนักเขียนฯ มอบรางวัลให้ท่านพอดี และ “แอ๊ด คาราบาว” คงปลื้มปีติกับ ‘คุณพ่อ’ ผู้เป็นต้นแบบไปด้วย...
00 ส. พลายน้อย เจ้าของรางวัล ‘นักเขียนอมตะ’ 2551 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนักเขียนรางวัลนราธิป 2552 ถึงแม้สุขภาพไม่ค่อยเอื้ออำนวย แต่ท่าน ไม่เคยวางปากกา เขียนต่อเนื่องยาวนาน จนผลงาน มากกว่า 100 เล่ม! หลายเล่มพิมพ์ซ้ำหลายครั้ง ล่าสุดหนังสือเรื่อง “ตำนานผีไทย” ก็ได้รับการพิมพ์ซ้ำ ออกมาพร้อมกับ “นามานุกรมมงคลนาม” ผลงานเล่มใหม่ของ โกวิท ตั้งตรงจิตร นักเขียนรางวัลนราธิป 2551 ซึ่งทั้งสองเล่ม ‘พิมพ์คำ’ เขานำเสนอ...
00 พูดถึง พิมพ์คำ สำนักพิมพ์ แห่งค่ายสถาพรบุ๊คส์ของ “เฮียกวง” วรพันธ์ โลกิตสถาพร ปีนี้ถือเป็นปีทองก็ว่าได้ เพราะ นวนิยายรักโรแมนติก ทั้งระดับ ‘คลาสสิก’ และผลงานนักเขียน ‘รุ่นใหม่’ ที่กำลังได้รับความนิยม ต่างตบเท้า เข้าทางผู้จัดละคร เป็นทิวแถว! ไล่ตั้งแต่เรื่องคลาสสิกอย่าง “เชลยศักดิ์” ของ ดวงดาว ที่กำลังออนแอร์ และ “วนิดา” ของ วรรณสิริ กำลังถ่ายทำ...
00 ส่วนนวนิยายนักเขียนรุ่นใหม่ที่กำลังถ่ายทำ ได้แก่ “365 วันแห่งรัก” ของ ร่มแก้ว “ส้มหวาน น้ำตาลเปรี้ยว” ของ ณารา รวมถึง ละครฟอร์ยักษ์ จากนวนิยายชุด ‘บ้านไร่ปลายฝัน’ 4 เรื่อง 4 รส อย่าง “ธาราหิมาลัย” ของ ณารา “ดวงใจอัคนี” ของ ซ่อนกลิ่น “ปฐพีเล่ห์” ของ ร่มแก้ว และ “วายุภัคมนตรา” ของ แพรณัฐ ตามด้วยนวนิยาย “คุณนายสามสลึง” ของนักเขียนยอดนิยมนาม วราภา ซึ่งแต่ละเรื่องได้ ดาราแม่เหล็ก ดึงดูดเรตติ้งทั้งสิ้น...
00 เอ้าเร่เข้ามาๆ ปี่กลอง การประกวดรางวัลซีไรต์ 2553 กำลังเริ่มขึ้นแล้ว! ปีนี้เป็น ปีที่ 32 น่าจับตาอย่างยิ่ง เนื่องจากรอบ (สามช่า) ปี ‘กวีนิพนธ์’ ได้วนมาอีกครั้ง จะเอะอะมะเทิ่งดังๆ สร้างสีสันแก่วงการกวี เหมือนสามปีก่อนหรือไม่? ต้องคอยติดตาม! เขาเปิดรับ ตั้งแต่บัดนี้ - 31 มีนาคม โดยส่งผลงานที่พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกภายใน 3 ปี จำนวน 16 เล่ม ไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รร.แมนดาริน โอเรียนเต็ล 48 ถ.เจริญกรุง 40 เขตบางรัก กทม. 10500 (ทราบแล้วส่งนะจ๊ะ)...
00 ยิ่งใหญ่ และ เล่มใหญ่ เป็นประวัติการณ์ แพรวสำนักพิมพ์ ค่ายอมรินทร์ (มหาชน) และ บก.จตุพล บุญพรัด คารวะอาลัย ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ ด้วยการจัดพิมพ์ผลงาน 5 เรื่องเอก 5 เล่มดัง อย่าง“สนิมสร้อย” “เสเพลบอยชาวไร่” “ปีนตลิ่ง” “มาเฟียก้นซอย” และ “มาดเกี้ยว” รวมไว้ ในเล่มเดียวกัน! พิมพ์ปกแข็ง/หนาเกือบ 1,000 หน้า ภายใต้ชื่อ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ (หนุ่ม) นิรันดร์กาล ออกมาในช่วงงาน ‘มกราคม อำลา’ พญาอินทรีแห่งสวนอักษรสู่สรวงสวรรค์พอดี!...
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
หมายเหตุ : ท่านผู้อ่านมีความประสงค์จะส่งจดหมายหรือคำแนะนำใดๆ มายัง “ชานชาลานักเขียน” โปรดส่งตรงถึง “วรรณฤกษ์” ตู้ ปณ. 75 ปณฝ. หัวหมาก กรุงเทพฯ 10243 อีเมล : wannarerk@yahoo.com <mailto:wannarerk@yahoo.com>
นักเขียนรางวัลนราธิป ประจำปี 2552
นายจำนง เทพหัสดิน ณ อยุธยา ศาสตราจารย์ (พิเศษ) จำนง ทองประเสริฐ นางชุมสาย มีสมสืบ นายแถมสิน รัตนพันธุ์ (ลัดดา) ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ธานินทร์ กรัยวิเชียร นางนพคุณ จิตตะยโศธร (แมน สุปิติ) นางปราศรัย รัชไชยบุญ (นิดา) นายปัญญา ฤกษ์อุไร นายพิชัย วาศนาส่ง นางพิมพา ปิณฑะสุต (พิมพา จันทพิมพะ) นายมนัส โอภากุล นายเริงชัย ประภาษานนท์ (เศก ดุสิต, ศ. ดุสิต) พลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร (โก้ บางกอก) นายสมบัติ พลายน้อย (ส. พลายน้อย) นายสมพร ภูริพงศ์ (ชลันธร) นายไสวรินทร์ วิเศษสมบัติ นางอุปถัมภ์ จันทรสกุนต์ (อุปถัมภ์ กองแก้ว)
.วรรณฤกษ์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เครื่องเบนซินกับเทคโนโลยีแบบฉีดตรง(จบ)
เครื่องเบนซินกับเทคโนโลยีแบบฉีดตรง(จบ)
คมชัดลึก :เครื่องยนต์แบบหัวฉีด (อินไดเร็ก) ในปัจจุบัน อุปกรณ์ในระบบน้ำมันที่มองเห็นจับต้องได้ก็คือ หัวฉีด(Injector) รางน้ำมัน (Rail หรือ Common rail)
ปั๊มส่งน้ำมันแรงดันประมาณ 8 บาร์ หัวฉีดจะถูกฝังไว้ที่ท่อร่วมไอดี ในเครื่องยนต์ระบบเบนซินฉีดตรง GDI จุดประสงค์หลักหรือความต้องการหลักของเครื่องยนต์แบบนี้ก็คือต้องการส่วนผสมบางกว่าในการเผาไหม้ (Lean burn)
อัตราส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศจึงต้องเปลี่ยนไปเป็น 15:1-16:1 จากเดิม 13-14 ต่อ 1 ก็หมายความว่าอากาศเข้ามากขึ้น น้ำมันเข้าน้อยลง จึงได้กำลังงานเท่ากัน เมื่ออัตราส่วนผสมต่างกัน อัตราส่วนกำลังอัดในห้องเผาไหม้ก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยจากทั่วๆ ไป 10:1 (อากาศสิบส่วนถูกอัดให้เหลือหนึ่งส่วน) ก็ต้องปรับปรุงห้องเผาไหม้ให้เป็นอย่างน้อย 12:1 (อากาศสิบสองส่วนอัดให้เหลือหนึ่งส่วน) อัตราส่วนที่มากขึ้นอากาศก็ร้อนมากขึ้นเชื้อเพลิงที่จะทำให้อากาศระเบิดก็ใช้น้อยลง
น้ำมันเชื้อเพลิงที่จะเข้าสู่ห้องเผาไหม้ก็จะต้องถูกฉีดเข้าไปรอในห้องเผาไหม้ก่อนที่จะมี การอัดอากาศ (ฉีดในจังหวะดูด) หัวฉีดจึงต้องถูกฝังที่ฝาสูบโผล่ปลายเพื่อจ่ายน้ำมันที่หน้าห้องเผาไหม้ (Direct) ที่จริงสาระสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบจากอินไดเร็กมาเป็นไดเร็กก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากถ้าถามว่า ทำไมถึงมาเริ่มกันตอนนี้
คำตอบคงมีว่าการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงห้องเผาไหม้ตามที่กล่าวมาทำได้ไม่ยากทำได้ตั้งนมนานมาแล้ว แต่ปัญหาหลักอยู่ที่ ระบบควบคุม (ระบบไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกส์) วัสดุที่ใช้ทำหัวฉีด คุณภาพของน้ำมันและที่สำคัญก็คือมลพิษจากไอเสีย ตัวอย่างก็เช่นฟอร์ดกับรุ่น Crown Victoria 100 คันในปี 70 ที่ไม่คุ้มทุนและไม่ผ่านมาตรฐานไอเสีย
จนเมื่อระบบคอมมอนเรลในเครื่องยนต์ดีเซลประสบความสำเร็จ หัวฉีดที่ทนทานความร้อน ทนทานต่อแรงระเบิดในห้องเผาไหม้ (GDI ใช้ระบบน้ำมันแบบแรงดันสูง 200 บาร์) การพัฒนาหัวฉีดด้วยระบบไฟฟ้า (จะกล่าวถึงระบบหัวฉีดของ GDI ที่แข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายของบอชและเดลไฟเมื่อมีโอกาส)
การเผาไหม้แบบ Lean burn ส่งผลเสียให้ไอเสียเพราะลด CO2 ได้จริงแต่ไปเพิ่ม ไนตรัสออกไซด์ ที่เกินกว่าที่จะควบคุมให้อยู่ในระดับมาตรฐาน หลายๆ ค่ายจึงหยุดการพัฒนา
มิตซูบิชิพัฒนาระบบ GDI ถึงขั้นสมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบันโดยลดไนตรัสออกไซด์จนอยู่ในระดับมาตรฐานได้ โดยการปรับปรุงระบบนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่จนกลายเป็นลิขสิทธิ์ของมิตซู GDI ก็กลับฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่งเพราะทุกค่ายผลิตยอมรับกันว่า ระบบนี้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับระบบอินไดเร็กในปัจจุบัน คาร์บอนก็ลดลงได้มากกว่า ไนตรัสออกไซด์ก็แก้ปัญหาได้อย่างถาวร GDI ในวันนี้จึงเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายในกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ต้องการหารถใหม่ไว้ใช้งานสักคันเดินเข้าโชว์รูมถามหารถคันที่ต้องการว่าเป็น ระบบแบบฉีดตรง หรือไม่ ถ้ายังเป็นแบบเดิมๆ อยู่ก็เลยไปโชว์รูมอื่นๆ เพราะวันนี้ผู้ขับรถมีภาระรับผิดชอบในการรักษาโลกให้พ้นหายนะจากโลกร้อน รถยนต์ที่คุณเลือกใช้ จึงต้องเป็นรถยนต์ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อรักษ์โลก
ข่าวที่เกี่ยวข้องไฟเขียวเก็บเงินเบนซินเข้ากองทุนเพิ่มปรับค่าการตลาดแก๊สโซฮอล์-บี 5 จูงใจ เครื่องเบนซินกับเทคโนโลยีแบบฉีดตรง (4)ค้านพาณิชย์คุมบริการ"ปั๊มเอ็นจีวี"พลังงานยันดูแลได้-ไฟเขียวควบคุม39รายการเครื่องเบนซินกับเทคโนโลยีแบบฉีดตรง(3)ไฟลามทุ่งจากเขายายเที่ยงกับ"เสือที่ถูกปล่อยเข้าป่า"ตัวนั้น?
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :เครื่องยนต์แบบหัวฉีด (อินไดเร็ก) ในปัจจุบัน อุปกรณ์ในระบบน้ำมันที่มองเห็นจับต้องได้ก็คือ หัวฉีด(Injector) รางน้ำมัน (Rail หรือ Common rail)
ปั๊มส่งน้ำมันแรงดันประมาณ 8 บาร์ หัวฉีดจะถูกฝังไว้ที่ท่อร่วมไอดี ในเครื่องยนต์ระบบเบนซินฉีดตรง GDI จุดประสงค์หลักหรือความต้องการหลักของเครื่องยนต์แบบนี้ก็คือต้องการส่วนผสมบางกว่าในการเผาไหม้ (Lean burn)
อัตราส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศจึงต้องเปลี่ยนไปเป็น 15:1-16:1 จากเดิม 13-14 ต่อ 1 ก็หมายความว่าอากาศเข้ามากขึ้น น้ำมันเข้าน้อยลง จึงได้กำลังงานเท่ากัน เมื่ออัตราส่วนผสมต่างกัน อัตราส่วนกำลังอัดในห้องเผาไหม้ก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยจากทั่วๆ ไป 10:1 (อากาศสิบส่วนถูกอัดให้เหลือหนึ่งส่วน) ก็ต้องปรับปรุงห้องเผาไหม้ให้เป็นอย่างน้อย 12:1 (อากาศสิบสองส่วนอัดให้เหลือหนึ่งส่วน) อัตราส่วนที่มากขึ้นอากาศก็ร้อนมากขึ้นเชื้อเพลิงที่จะทำให้อากาศระเบิดก็ใช้น้อยลง
น้ำมันเชื้อเพลิงที่จะเข้าสู่ห้องเผาไหม้ก็จะต้องถูกฉีดเข้าไปรอในห้องเผาไหม้ก่อนที่จะมี การอัดอากาศ (ฉีดในจังหวะดูด) หัวฉีดจึงต้องถูกฝังที่ฝาสูบโผล่ปลายเพื่อจ่ายน้ำมันที่หน้าห้องเผาไหม้ (Direct) ที่จริงสาระสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบจากอินไดเร็กมาเป็นไดเร็กก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากถ้าถามว่า ทำไมถึงมาเริ่มกันตอนนี้
คำตอบคงมีว่าการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงห้องเผาไหม้ตามที่กล่าวมาทำได้ไม่ยากทำได้ตั้งนมนานมาแล้ว แต่ปัญหาหลักอยู่ที่ ระบบควบคุม (ระบบไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกส์) วัสดุที่ใช้ทำหัวฉีด คุณภาพของน้ำมันและที่สำคัญก็คือมลพิษจากไอเสีย ตัวอย่างก็เช่นฟอร์ดกับรุ่น Crown Victoria 100 คันในปี 70 ที่ไม่คุ้มทุนและไม่ผ่านมาตรฐานไอเสีย
จนเมื่อระบบคอมมอนเรลในเครื่องยนต์ดีเซลประสบความสำเร็จ หัวฉีดที่ทนทานความร้อน ทนทานต่อแรงระเบิดในห้องเผาไหม้ (GDI ใช้ระบบน้ำมันแบบแรงดันสูง 200 บาร์) การพัฒนาหัวฉีดด้วยระบบไฟฟ้า (จะกล่าวถึงระบบหัวฉีดของ GDI ที่แข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายของบอชและเดลไฟเมื่อมีโอกาส)
การเผาไหม้แบบ Lean burn ส่งผลเสียให้ไอเสียเพราะลด CO2 ได้จริงแต่ไปเพิ่ม ไนตรัสออกไซด์ ที่เกินกว่าที่จะควบคุมให้อยู่ในระดับมาตรฐาน หลายๆ ค่ายจึงหยุดการพัฒนา
มิตซูบิชิพัฒนาระบบ GDI ถึงขั้นสมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบันโดยลดไนตรัสออกไซด์จนอยู่ในระดับมาตรฐานได้ โดยการปรับปรุงระบบนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่จนกลายเป็นลิขสิทธิ์ของมิตซู GDI ก็กลับฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่งเพราะทุกค่ายผลิตยอมรับกันว่า ระบบนี้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับระบบอินไดเร็กในปัจจุบัน คาร์บอนก็ลดลงได้มากกว่า ไนตรัสออกไซด์ก็แก้ปัญหาได้อย่างถาวร GDI ในวันนี้จึงเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายในกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ต้องการหารถใหม่ไว้ใช้งานสักคันเดินเข้าโชว์รูมถามหารถคันที่ต้องการว่าเป็น ระบบแบบฉีดตรง หรือไม่ ถ้ายังเป็นแบบเดิมๆ อยู่ก็เลยไปโชว์รูมอื่นๆ เพราะวันนี้ผู้ขับรถมีภาระรับผิดชอบในการรักษาโลกให้พ้นหายนะจากโลกร้อน รถยนต์ที่คุณเลือกใช้ จึงต้องเป็นรถยนต์ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อรักษ์โลก
ข่าวที่เกี่ยวข้องไฟเขียวเก็บเงินเบนซินเข้ากองทุนเพิ่มปรับค่าการตลาดแก๊สโซฮอล์-บี 5 จูงใจ เครื่องเบนซินกับเทคโนโลยีแบบฉีดตรง (4)ค้านพาณิชย์คุมบริการ"ปั๊มเอ็นจีวี"พลังงานยันดูแลได้-ไฟเขียวควบคุม39รายการเครื่องเบนซินกับเทคโนโลยีแบบฉีดตรง(3)ไฟลามทุ่งจากเขายายเที่ยงกับ"เสือที่ถูกปล่อยเข้าป่า"ตัวนั้น?
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เทรนด์ใหม่ยังเจเนอเรชั่นนครสวรรค์รวมตัวทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี
เทรนด์ใหม่ยังเจเนอเรชั่นนครสวรรค์รวมตัวทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี
คมชัดลึก : "เปิดโลกอินเทรนด์" ฉบับนี้พามาไกลออกนอกเมืองไปถึงเมืองปากน้ำโพโน่น...อ๊ะ อะ อย่าคิดว่าที่นี่เอาท์ (เทรนด์) นะจะบอกให้ มีเรื่องราวอิน (เทรนด์)
ที่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงเลยทีเดียว เพราะ คนรุ่นใหม่ที่นี่เขาไม่ไปไหนกันเจ้าค่ะ หลังเรียนจบก็กลับมาพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาบ้านของตัวเอง บางคนข้ามฟ้าข้ามทะเลไปเรียนไกลถึงต่างประเทศ แล้วก็ยังกลับมาพัฒนาบ้านตัวเอง (ซะงั้น) เห็นแล้ว ทึ่ง ๆๆ...
แต่เรื่องที่จะบอกว่า อินเทรนด์ แล้วอดไม่ได้ที่จะตามติดมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน ก็เรื่องที่หนุ่มสาวรุ่นใหม่ เลือดใหม่ของชาวนครสวรรค์ เขามารวมตัวกันเจ้าค่ะ ร่วมกันทำกิจกรรมมากมายเพื่อสังคม ทำกันมาแล้วมากกว่า 5 ปี โดยรวมกลุ่มกันเป็นทีม ซึ่งเป็นลูกหลานของชาวนครสวรรค์ ร่วมกันกับหอการค้าจังหวัด พยายามหากิจกรรมดีๆ สร้างสรรค์ และทำประโยชน์ให้จังหวัดอย่างเต็มรูปแบบ
ที่เห็นชัดๆ ในขณะนี้คือ การทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี ทำหน้าที่เป็นไกด์เพื่อพาเพื่อนพ้องน้องพี่ไปเที่ยว หรือแนะนำให้รู้จักสถานที่ต่างๆ ของเมืองนครสวรรค์ โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังจะมีเทศกาลตรุษจีนช่วงวันที่ 7-18 กุมภาพันธ์นี้ น้องๆ กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Young Executive เขาก็ทำหน้าที่เป็นไกด์ขันอาสาพาผู้คนที่มาร่วมงานได้รู้จักที่ท่องเที่ยวในจังหวัด
งานนี้ก็เลยประเดิมด้วยการพาไปชมความงามของบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ อย่างบึงบอระเพ็ดซะเลย
น้องๆ ทีมนี้ทำหน้าที่เป็นไกด์เฉพาะกิจ พาไปดูความสวยงามของ "บัวแดง" ออกกันตั้งแต่เช้ามืด เพื่อจะไปดูบัวสีชมพูบานเต็มบึงขณะที่พระอาทิตย์กำลังไต่ขึ้นท้องฟ้าในตอนเช้า ขนานไปกับขอบน้ำที่กว้างยาวสุดสายตา สาวนางหนึ่งในทีมนี้เริ่มทำหน้าที่ (ไกด์จำเป็น) เล่าว่า จากความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำจึงมีนกสายพันธุ์ต่างๆ บึงบอระเพ็ดก็เลยกลายแหล่งดูนกหายากไปโดยปริยาย
ระหว่างทางก็มีการชี้ชวนให้ดูนกนานาชนิดที่เกาะอยู่กลางน้ำและริมตลิ่ง ขณะที่เรือแล่นผ่านบินโผหายไป ก่อนที่วกกลับมาบินล้อตามไปกับเรือที่กำลังแล่น
สาวอีกคนขอทำหน้าที่เล่าบ้าง เธอบอกว่าหลายคนอาจรู้จักนครสวรรค์ว่าเป็นเพียงเมืองผ่านเมื่อเดินทางไปภาคเหนือ ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ส่งเสริมให้จังหวัดนครสวรรค์เป็นเมืองท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำคือ แก่งแม่เลวา แม่วง โดยเฉพาะช่วงตรุษจีนนี้เป็นงานที่ชาวนครสวรรค์จัดมาเป็นร้อยปี มีการไหว้เจ้า ขอพรพระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขบวนแห่ แสงสีเสียง ความรื่นเริง ปีนี้มีกวนอิมพันมือโชว์จากเมืองจีนด้วย
ฟังเธอเล่าแล้วก็อมยิ้ม ประชาสัมพันธ์งานตรุษจีนได้เก่งขนาดนี้ อดถามไม่ได้ว่า แล้วช่วงวันงานจะมีน้องๆ แนะนำนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน เพราะแค่ลำพังน้องๆ 5-6 คนนี้คงไม่พอ ฝ่ายชายหนุ่มที่มาด้วยกลัวจะน้อยหน้าเลยบอกว่า ไม่ต้องห่วง เพราะจัดทีมน้องๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมาทำหน้าที่เป็นไกด์ประมาณ 100 คน โดยทีมงาน Young Executive เป็นพี่เลี้ยงให้ความรู้ เห็นน้องๆ ที่ใส่เสื้อสีส้มที่ไหนสามารถสอบถามข้อมูลได้ตลอดเวลาครับ
อะ..อ๊ะ เห็นแล้.. แจ่มไหมล่ะ น้องๆ เขาคล่องซะขนาดนี้ เห็นเลือดใหม่ คนรุ่นใหม่กลุ่มนี้เขาทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีกันหรือยัง เห็นแล้วก็อดถามไม่ได้ว่าทำมั้ย...ทำไม ไปเรียนมาตั้งไกล เรียนมาก็สูง และบางคนก็จบวิศวะ บัญชี เศรษฐศาสตร์ ล้วนเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง แต่กลับมาทำงานที่บ้าน ก็เลยได้ความ ต้องการจะกลับมาทำธุรกิจของครอบครัว แต่เป็นในแนวทางแบบของตัวเอง เอาความรู้ที่ร่ำเรียนมาร่วมพัฒนาครอบครัว แล้วก็ออกมาช่วยพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาจังหวัด ...
โอ๊ะ...ฟังแล้วทึ่งอ่ะ !!!
ถ้าคนที่เรียนแล้วกลับมาพัฒนาบ้านตัวเองอย่างนี้ คนเมืองกรุงคงไม่ล้นเมือง (เวอร์อีกแระ)
เอ้า...ก่อนที่อวยและชื่นชมในความคิดน้องๆ กลุ่มนี้ไปมากกว่านี้ เอาเป็นว่าใครที่อยากรู้จัก Young Executive กลุ่มนี้แบบตัวเป็นๆ ก็ไปได้ในงานตรุษจีนนครสวรรค์ ตามหากลุ่มที่ใส่เสื้อสีส้ม ก็จะได้เจอ ได้เห็นว่าหน้าที่ของเจ้าบ้านที่ดีที่เขาช่วยให้คำแนะนำแขกที่ไปเที่ยวในบ้านนั้นเป็นอย่างไร
ส่วนจะถามอะไรที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้ ก็คงต้องไปถามกันเองแล้วกันจ้า....ฮา
ข่าวที่เกี่ยวข้องเพชรบูรณ์พร้อมจัด "มะขามหวานเกมส์"
ททท.พิษณุโลกปลุกจิตสำนึกเด็กเจ้าบ้านที่ดี-เก็บขยะเลาะรั้วท้องถิ่น (พฤหัสบดีที่ 27 ส.ค.52)7องค์กรเครือข่าย7สถาบันเชียงใหม่เรียกร้อง"สมานฉันท์" เม้าท์นอกจอ (ศุกร์ที่ 1 พ.ค.52)
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : "เปิดโลกอินเทรนด์" ฉบับนี้พามาไกลออกนอกเมืองไปถึงเมืองปากน้ำโพโน่น...อ๊ะ อะ อย่าคิดว่าที่นี่เอาท์ (เทรนด์) นะจะบอกให้ มีเรื่องราวอิน (เทรนด์)
ที่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงเลยทีเดียว เพราะ คนรุ่นใหม่ที่นี่เขาไม่ไปไหนกันเจ้าค่ะ หลังเรียนจบก็กลับมาพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาบ้านของตัวเอง บางคนข้ามฟ้าข้ามทะเลไปเรียนไกลถึงต่างประเทศ แล้วก็ยังกลับมาพัฒนาบ้านตัวเอง (ซะงั้น) เห็นแล้ว ทึ่ง ๆๆ...
แต่เรื่องที่จะบอกว่า อินเทรนด์ แล้วอดไม่ได้ที่จะตามติดมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน ก็เรื่องที่หนุ่มสาวรุ่นใหม่ เลือดใหม่ของชาวนครสวรรค์ เขามารวมตัวกันเจ้าค่ะ ร่วมกันทำกิจกรรมมากมายเพื่อสังคม ทำกันมาแล้วมากกว่า 5 ปี โดยรวมกลุ่มกันเป็นทีม ซึ่งเป็นลูกหลานของชาวนครสวรรค์ ร่วมกันกับหอการค้าจังหวัด พยายามหากิจกรรมดีๆ สร้างสรรค์ และทำประโยชน์ให้จังหวัดอย่างเต็มรูปแบบ
ที่เห็นชัดๆ ในขณะนี้คือ การทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี ทำหน้าที่เป็นไกด์เพื่อพาเพื่อนพ้องน้องพี่ไปเที่ยว หรือแนะนำให้รู้จักสถานที่ต่างๆ ของเมืองนครสวรรค์ โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังจะมีเทศกาลตรุษจีนช่วงวันที่ 7-18 กุมภาพันธ์นี้ น้องๆ กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Young Executive เขาก็ทำหน้าที่เป็นไกด์ขันอาสาพาผู้คนที่มาร่วมงานได้รู้จักที่ท่องเที่ยวในจังหวัด
งานนี้ก็เลยประเดิมด้วยการพาไปชมความงามของบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ อย่างบึงบอระเพ็ดซะเลย
น้องๆ ทีมนี้ทำหน้าที่เป็นไกด์เฉพาะกิจ พาไปดูความสวยงามของ "บัวแดง" ออกกันตั้งแต่เช้ามืด เพื่อจะไปดูบัวสีชมพูบานเต็มบึงขณะที่พระอาทิตย์กำลังไต่ขึ้นท้องฟ้าในตอนเช้า ขนานไปกับขอบน้ำที่กว้างยาวสุดสายตา สาวนางหนึ่งในทีมนี้เริ่มทำหน้าที่ (ไกด์จำเป็น) เล่าว่า จากความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำจึงมีนกสายพันธุ์ต่างๆ บึงบอระเพ็ดก็เลยกลายแหล่งดูนกหายากไปโดยปริยาย
ระหว่างทางก็มีการชี้ชวนให้ดูนกนานาชนิดที่เกาะอยู่กลางน้ำและริมตลิ่ง ขณะที่เรือแล่นผ่านบินโผหายไป ก่อนที่วกกลับมาบินล้อตามไปกับเรือที่กำลังแล่น
สาวอีกคนขอทำหน้าที่เล่าบ้าง เธอบอกว่าหลายคนอาจรู้จักนครสวรรค์ว่าเป็นเพียงเมืองผ่านเมื่อเดินทางไปภาคเหนือ ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ส่งเสริมให้จังหวัดนครสวรรค์เป็นเมืองท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำคือ แก่งแม่เลวา แม่วง โดยเฉพาะช่วงตรุษจีนนี้เป็นงานที่ชาวนครสวรรค์จัดมาเป็นร้อยปี มีการไหว้เจ้า ขอพรพระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขบวนแห่ แสงสีเสียง ความรื่นเริง ปีนี้มีกวนอิมพันมือโชว์จากเมืองจีนด้วย
ฟังเธอเล่าแล้วก็อมยิ้ม ประชาสัมพันธ์งานตรุษจีนได้เก่งขนาดนี้ อดถามไม่ได้ว่า แล้วช่วงวันงานจะมีน้องๆ แนะนำนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน เพราะแค่ลำพังน้องๆ 5-6 คนนี้คงไม่พอ ฝ่ายชายหนุ่มที่มาด้วยกลัวจะน้อยหน้าเลยบอกว่า ไม่ต้องห่วง เพราะจัดทีมน้องๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมาทำหน้าที่เป็นไกด์ประมาณ 100 คน โดยทีมงาน Young Executive เป็นพี่เลี้ยงให้ความรู้ เห็นน้องๆ ที่ใส่เสื้อสีส้มที่ไหนสามารถสอบถามข้อมูลได้ตลอดเวลาครับ
อะ..อ๊ะ เห็นแล้.. แจ่มไหมล่ะ น้องๆ เขาคล่องซะขนาดนี้ เห็นเลือดใหม่ คนรุ่นใหม่กลุ่มนี้เขาทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีกันหรือยัง เห็นแล้วก็อดถามไม่ได้ว่าทำมั้ย...ทำไม ไปเรียนมาตั้งไกล เรียนมาก็สูง และบางคนก็จบวิศวะ บัญชี เศรษฐศาสตร์ ล้วนเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง แต่กลับมาทำงานที่บ้าน ก็เลยได้ความ ต้องการจะกลับมาทำธุรกิจของครอบครัว แต่เป็นในแนวทางแบบของตัวเอง เอาความรู้ที่ร่ำเรียนมาร่วมพัฒนาครอบครัว แล้วก็ออกมาช่วยพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาจังหวัด ...
โอ๊ะ...ฟังแล้วทึ่งอ่ะ !!!
ถ้าคนที่เรียนแล้วกลับมาพัฒนาบ้านตัวเองอย่างนี้ คนเมืองกรุงคงไม่ล้นเมือง (เวอร์อีกแระ)
เอ้า...ก่อนที่อวยและชื่นชมในความคิดน้องๆ กลุ่มนี้ไปมากกว่านี้ เอาเป็นว่าใครที่อยากรู้จัก Young Executive กลุ่มนี้แบบตัวเป็นๆ ก็ไปได้ในงานตรุษจีนนครสวรรค์ ตามหากลุ่มที่ใส่เสื้อสีส้ม ก็จะได้เจอ ได้เห็นว่าหน้าที่ของเจ้าบ้านที่ดีที่เขาช่วยให้คำแนะนำแขกที่ไปเที่ยวในบ้านนั้นเป็นอย่างไร
ส่วนจะถามอะไรที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้ ก็คงต้องไปถามกันเองแล้วกันจ้า....ฮา
ข่าวที่เกี่ยวข้องเพชรบูรณ์พร้อมจัด "มะขามหวานเกมส์"
ททท.พิษณุโลกปลุกจิตสำนึกเด็กเจ้าบ้านที่ดี-เก็บขยะเลาะรั้วท้องถิ่น (พฤหัสบดีที่ 27 ส.ค.52)7องค์กรเครือข่าย7สถาบันเชียงใหม่เรียกร้อง"สมานฉันท์" เม้าท์นอกจอ (ศุกร์ที่ 1 พ.ค.52)
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
แฟชั่นคอนเนอร์แว่นเสริมบุคลิก
แฟชั่นคอนเนอร์แว่นเสริมบุคลิก
คมชัดลึก :มาเสริมบุคลิกให้มั่นใจไปกับอายเล็ท แบรนด์แว่นตาคุณภาพที่นำเสนอทางเลือกใหม่ด้วย กรอบแว่นตาคอลเลกชั่นล่าสุด ดีไซน์เท่ โดดเด่นด้วยขบวนการผลิตไร้รอยต่อ ด้วยการใช้วัสดุชิ้นเดียวกันในการผลิตทนทาน น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เสริมบุคลิกของผู้มีปัญหาสายตาได้ในพริบตา
เซ็กซี่เปรี้ยวจี๊ดโดนใจ
กำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อนเพลย์บอย อยากให้สาวๆ ที่รักสายน้ำได้สัมผัสกับ ชุดว่ายน้ำ เพลย์บอยสวิม ที่ดีไซน์สุดเซ็กซี่ สวยเปรี้ยว เน้นทรวดทรงโค้งเว้าแห่งความเป็นอิสตรี ทั้งการเล่นสีสันสดใส เส้นสายลายกราฟฟิก เพิ่มจีบระบายให้ดูสวยหวานมีเสน่ห์ พร้อมสะกดทุกสายตาทั้งแบบวันพีซและทูพีซ
นาฬิกาสายพันธุ์สปอร์ต
ไม่เคยมีคำว่าเชย กับนาฬิกาแบรนด์สุดฮอต เทนเดนส์ ล่าสุดส่งรุ่น 02037011 กับสไตล์สปอร์ต เหมาะกับชายหนุ่มที่หลงรักกิจกรรมผจญภัยและการกีฬาทุกรูปแบบ พร้อมๆ กับหลงรักศาสตร์แห่งแฟชั่น ด้วยการเลือกใช้สีเทาสโมคกี้สุดฮิตเป็นโทนสีหลัก และเบรกความขรึมด้วยสีเหลืองเลมอนบนพื้นหน้าปัดอย่างบาดตา บวกกับตัวเลขโอเวอร์ไซส์ที่มองเห็นชัดเพียงแวบเดียวที่มอง
สัญลักษณ์แห่งโชค
เฟนดิส่งคอลเลกชั่นฟอร์จูนให้สาวๆได้สนุกกับลายโลโก้ดับเบิ้ลเอฟ พร้อมดึงดูดโชคลาภด้วยสัญลักษณ์แห่งความโชคดีอย่าง เต่าทอง ใบโคลฟ 4 แฉก และ ก้างปลา ที่ถูกนำมาพิมพ์ลงบนกระเป๋าและพวงกุญแจ ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้จะช่วยทวีโชคลาภ ความรัก และสุขภาพอันแข็งแรงให้แก่ผู้ใช้เป็นสองเท่าเลยทีเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้องสวัสดีซีซั่น...สปริง-ซัมเมอร์ 2010เสิร์ฟข่าว...เม้าท์แตก (เสาร์ที่ 30 ม.ค.53)
มองผ่านเลนส์คม-กุหลาบเหนือเมฆ โต้วิก3เป็นตัวดูด'ประวิทย์' ออกตัวไม่รู้เรื่อง 'ป๋อ'ลูกปัด มาดใหม่ "สวองเกิร์ล"
เซ็กซี่ขี้เล่น ในเอ็มวี บรรยากาศ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :มาเสริมบุคลิกให้มั่นใจไปกับอายเล็ท แบรนด์แว่นตาคุณภาพที่นำเสนอทางเลือกใหม่ด้วย กรอบแว่นตาคอลเลกชั่นล่าสุด ดีไซน์เท่ โดดเด่นด้วยขบวนการผลิตไร้รอยต่อ ด้วยการใช้วัสดุชิ้นเดียวกันในการผลิตทนทาน น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เสริมบุคลิกของผู้มีปัญหาสายตาได้ในพริบตา
เซ็กซี่เปรี้ยวจี๊ดโดนใจ
กำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อนเพลย์บอย อยากให้สาวๆ ที่รักสายน้ำได้สัมผัสกับ ชุดว่ายน้ำ เพลย์บอยสวิม ที่ดีไซน์สุดเซ็กซี่ สวยเปรี้ยว เน้นทรวดทรงโค้งเว้าแห่งความเป็นอิสตรี ทั้งการเล่นสีสันสดใส เส้นสายลายกราฟฟิก เพิ่มจีบระบายให้ดูสวยหวานมีเสน่ห์ พร้อมสะกดทุกสายตาทั้งแบบวันพีซและทูพีซ
นาฬิกาสายพันธุ์สปอร์ต
ไม่เคยมีคำว่าเชย กับนาฬิกาแบรนด์สุดฮอต เทนเดนส์ ล่าสุดส่งรุ่น 02037011 กับสไตล์สปอร์ต เหมาะกับชายหนุ่มที่หลงรักกิจกรรมผจญภัยและการกีฬาทุกรูปแบบ พร้อมๆ กับหลงรักศาสตร์แห่งแฟชั่น ด้วยการเลือกใช้สีเทาสโมคกี้สุดฮิตเป็นโทนสีหลัก และเบรกความขรึมด้วยสีเหลืองเลมอนบนพื้นหน้าปัดอย่างบาดตา บวกกับตัวเลขโอเวอร์ไซส์ที่มองเห็นชัดเพียงแวบเดียวที่มอง
สัญลักษณ์แห่งโชค
เฟนดิส่งคอลเลกชั่นฟอร์จูนให้สาวๆได้สนุกกับลายโลโก้ดับเบิ้ลเอฟ พร้อมดึงดูดโชคลาภด้วยสัญลักษณ์แห่งความโชคดีอย่าง เต่าทอง ใบโคลฟ 4 แฉก และ ก้างปลา ที่ถูกนำมาพิมพ์ลงบนกระเป๋าและพวงกุญแจ ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้จะช่วยทวีโชคลาภ ความรัก และสุขภาพอันแข็งแรงให้แก่ผู้ใช้เป็นสองเท่าเลยทีเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้องสวัสดีซีซั่น...สปริง-ซัมเมอร์ 2010เสิร์ฟข่าว...เม้าท์แตก (เสาร์ที่ 30 ม.ค.53)
มองผ่านเลนส์คม-กุหลาบเหนือเมฆ โต้วิก3เป็นตัวดูด'ประวิทย์' ออกตัวไม่รู้เรื่อง 'ป๋อ'ลูกปัด มาดใหม่ "สวองเกิร์ล"
เซ็กซี่ขี้เล่น ในเอ็มวี บรรยากาศ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
มุมมองใหม่ผู้ชายวาววับ
มุมมองใหม่ผู้ชายวาววับ
คมชัดลึก :เป็นภาพที่ไม่ชินตานักสำหรับผู้ชายสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความแวววาวโดยเฉพาะหนุ่ม (แท้) ออฟฟิศทั้งหลาย จึงเรียกได้ว่างานนี้เป็นครั้งแรกของเมืองไทยกับเชิ้ตทำงานประดับคริสตัลหรูหรา โดยแบรนด์ที่รู้จักกันดีอย่าง
เอ็กเซลเลนซี่(EXCELLENCY) และ แอร์โรว์(ARROW) จับมือสวารอฟสกี้ เจ้าแห่งคริสตัลเจียระไนรายใหญ่ สรรค์สร้างคอลเลกชั่นเหนือระดับ ชื่อ "จีเวล ออฟ เอ็กเซลเลนซี่ แอนด์ แอโรว์" ซึ่งจัดงานเปิดตัวไปแล้วที่เซ็นทรัล ชิดลม เมื่อวันก่อน
มีลูกเล่นให้หนุ่มๆออฟฟิศได้กระชุ่มกระชวยทั้งที บรรดาเซเลบริตี้ผู้มีรสนิยมจึงตบเท้าร่วมงานเพียบ ภูผาเตชะณรงค์ มาพร้อมเพื่อนๆ"ก้อง" เกียรติก้องณ ระนอง "อวบอ้วน" วัฒนา ชุมสาย ณ อยุธยา ส่วน"ปลื้ม" สุรบถ หลีกภัย ควงเพื่อนสนิทคนเดิม "หญิงแม้น" ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล และ"น๊อต" อัครรินทร์ ชวนะนันท์ มาด้วย
"5 ปีก่อนไม่มีใครคิดว่าคริสตัลจะมาอยู่บนชั้นในสตรี แต่ก็เป็นไปแล้ว แอร์โรว์เป็นรายแรกที่กล้าทำ สร้างความฮือฮามากช่วงนั้น ครั้งนี้ทำไมคริสตัลจะมาประดับบนเสื้อผ้าผู้ชายไม่ได้ ซึ่งเสื้อผ้าแนวนี้เปิดตัวที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และได้รับการตอบรับอย่างดี คิดว่าหนุ่มไทยก็น่าจะดูดีได้ไม่แพ้หนุ่มญี่ปุ่น เพราะเราออกแบบให้ไม่มากเกินไป จนผู้ชายไม่กล้าใส่ แต่จัดวางอย่างเหมาะสมพอดี ช่วยเสริมความดูดีและมั่นใจ ที่สำคัญเลิกงานแล้วใส่ไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงก็เท่ด้วย" สมพลชัยสิริโรจน์ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่งไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความมั่นใจ
คอลเลกชั่นล่าสุดนี้เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาว ผลิตจากผ้าฝ้าย 100 เปอร์เซ็นต์ เน้นโทนสีขาวและดำ ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่การประดับประดาด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ ทั้งบริเวณปกเสื้อ สาบ ขอบแขน หรือแม้แต่ตัวเสื้อ โดยยังคงความพิถีพิถัน ประณีตในการตัดเย็บ มาพร้อมเครื่องประดับที่บ่งบอกถึงความภูมิฐานให้ผู้ชายที่ชอบความหรูหรา อย่าง เนกไท คัฟลิงค์ กระเป๋าสตางค์ และพวงกุญแจ
ข่าวที่เกี่ยวข้องเปล่งประกายเจิดจ้าล้อแสงไฟส่งกำลังใจผ่าน "ผ้าโผกศีรษะ"
เสน่ห์ "อิสตรี"ผสานสุนทรีย์แห่ง"ธรรมชาติ"ฝีมือไทยดีไซเนอร์กับผลงาน แฟชั่น จิวเวลรี่ แฟชั่นคอนเนอร์-กระเป๋าคู่กายสาว
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :เป็นภาพที่ไม่ชินตานักสำหรับผู้ชายสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความแวววาวโดยเฉพาะหนุ่ม (แท้) ออฟฟิศทั้งหลาย จึงเรียกได้ว่างานนี้เป็นครั้งแรกของเมืองไทยกับเชิ้ตทำงานประดับคริสตัลหรูหรา โดยแบรนด์ที่รู้จักกันดีอย่าง
เอ็กเซลเลนซี่(EXCELLENCY) และ แอร์โรว์(ARROW) จับมือสวารอฟสกี้ เจ้าแห่งคริสตัลเจียระไนรายใหญ่ สรรค์สร้างคอลเลกชั่นเหนือระดับ ชื่อ "จีเวล ออฟ เอ็กเซลเลนซี่ แอนด์ แอโรว์" ซึ่งจัดงานเปิดตัวไปแล้วที่เซ็นทรัล ชิดลม เมื่อวันก่อน
มีลูกเล่นให้หนุ่มๆออฟฟิศได้กระชุ่มกระชวยทั้งที บรรดาเซเลบริตี้ผู้มีรสนิยมจึงตบเท้าร่วมงานเพียบ ภูผาเตชะณรงค์ มาพร้อมเพื่อนๆ"ก้อง" เกียรติก้องณ ระนอง "อวบอ้วน" วัฒนา ชุมสาย ณ อยุธยา ส่วน"ปลื้ม" สุรบถ หลีกภัย ควงเพื่อนสนิทคนเดิม "หญิงแม้น" ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล และ"น๊อต" อัครรินทร์ ชวนะนันท์ มาด้วย
"5 ปีก่อนไม่มีใครคิดว่าคริสตัลจะมาอยู่บนชั้นในสตรี แต่ก็เป็นไปแล้ว แอร์โรว์เป็นรายแรกที่กล้าทำ สร้างความฮือฮามากช่วงนั้น ครั้งนี้ทำไมคริสตัลจะมาประดับบนเสื้อผ้าผู้ชายไม่ได้ ซึ่งเสื้อผ้าแนวนี้เปิดตัวที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และได้รับการตอบรับอย่างดี คิดว่าหนุ่มไทยก็น่าจะดูดีได้ไม่แพ้หนุ่มญี่ปุ่น เพราะเราออกแบบให้ไม่มากเกินไป จนผู้ชายไม่กล้าใส่ แต่จัดวางอย่างเหมาะสมพอดี ช่วยเสริมความดูดีและมั่นใจ ที่สำคัญเลิกงานแล้วใส่ไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงก็เท่ด้วย" สมพลชัยสิริโรจน์ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่งไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความมั่นใจ
คอลเลกชั่นล่าสุดนี้เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาว ผลิตจากผ้าฝ้าย 100 เปอร์เซ็นต์ เน้นโทนสีขาวและดำ ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่การประดับประดาด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ ทั้งบริเวณปกเสื้อ สาบ ขอบแขน หรือแม้แต่ตัวเสื้อ โดยยังคงความพิถีพิถัน ประณีตในการตัดเย็บ มาพร้อมเครื่องประดับที่บ่งบอกถึงความภูมิฐานให้ผู้ชายที่ชอบความหรูหรา อย่าง เนกไท คัฟลิงค์ กระเป๋าสตางค์ และพวงกุญแจ
ข่าวที่เกี่ยวข้องเปล่งประกายเจิดจ้าล้อแสงไฟส่งกำลังใจผ่าน "ผ้าโผกศีรษะ"
เสน่ห์ "อิสตรี"ผสานสุนทรีย์แห่ง"ธรรมชาติ"ฝีมือไทยดีไซเนอร์กับผลงาน แฟชั่น จิวเวลรี่ แฟชั่นคอนเนอร์-กระเป๋าคู่กายสาว
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
สวัสดีซีซั่น...สปริงซัมเมอร์ 2010
สวัสดีซีซั่น...สปริงซัมเมอร์ 2010
คมชัดลึก :ด้วยเกรงว่าบรรดาแฟชั่นนิสต้าชาวไทยจะตกขบวนรถไฟสายแฟชั่นช่วง "สปริง-ซัมเมอร์ 2010" ที่ใกล้จะมาถึงนี้ ทางสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพ หรือ Bangkok Fashion Society (BFS) นำโดยพี่ใหญ่แห่งวงการ ภาณุ อิงคะวัต ประธานสมาคม
ฯ และสมาชิกรวม 7 แบรนด์ดัง ได้แก่ เกรย์ฮาวด์ (GREYHOUND), เพลย์ฮาวด์ (PLAYHOUND), อซาวา (ASAVA), ดิษยา (DISAYA), คลอเส็ท (KLOSET), เซนาด้า (SENADA) และ เธียเตอร์ (THEATER) จัดงานเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ฤดูร้อนภายใต้คอนเซ็ปต์ "ธิงค์ โกลบอล เดรส โลคอล"
ภายใน H 1 ทองหล่อ อันเป็นแหล่งรวมพลคนแฟชั่นและเป็นสถานที่จัดงานในครั้งนี้ "ลี่" ชนิตา ปรีชาวิทยากุล หนึ่งในบรรดากูรูด้านเส้นสายลายผ้าจากแบรนด์เซนาด้า ออกมาพูดถึงกระแสแฟชั่นในช่วงซัมเมอร์นี้ว่า จะหวนกลับคืนสู่ธรรมชาติ (Power of Nature) อีกครั้ง ด้วยเพราะว่าวิถีชีวิตในปัจจุบันของคนเมืองที่แปรเปลี่ยนไปส่งผลให้โหยหาความเรียบง่ายอันเป็นพื้นฐานเดิมของชีวิต ดังนั้น กลิ่นอายและสีสันของเสื้อผ้าจึงเน้นไปที่การเลือกใช้สีสันสว่างสดใส อาทิ สีพาสเทล สีนู้ด สีเทา สีน้ำเงิน Navy ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ทิ้งโทนสีขาวและดำอันเป็นสีอมตะ
ขณะที่ลวดลายบนพื้นผ้าฝ้าย ลินิน คอตตอน และไหมชีฟอง ซึ่งเหมาะกับหน้าร้อนในบ้านเรา ถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาด้วยลวดลายดอกไม้เล็กๆ และลวดลายย้อนยุคอันเรียบง่าย เช่น ลายกราฟฟิก ลายเส้น ลายพิมพ์ หรือลายคลาสสิกอย่าง ลายจุดและลายหมากรุก ซึ่งนำมาผสมผสานในสไตล์โมเดิร์น โฟล์ก ที่หยิบเอารูปทรง สีสัน และเทคนิคมาดัดแปลงให้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในคอลเลกชั่นฤดูร้อนยังมีการสร้างสรรค์เทรนด์ใหม่ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองในรูปแบบของการมิกซ์แอนด์แมทช์สิ่งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ เพื่อแสดงความเป็นตัวตนในสไตล์เฟมินีนมากขึ้น รวมถึงการจับจีบ การสร้างแพทเทิร์นที่ไม่มีใครเหมือน...
เริ่มต้นที่ แบรนด์เกรย์ฮาวด์ ที่เลือกหยิบเอาแรงบันดาลใจจากความสนุกศิลปะยุคคลาสสิก ผสานกับศิลปะสมัยใหม่ไร้ขอบเขต โดยเลือกใช้ศิลปินต่างๆ เป็นแขกบนเนื้อผ้าผ่านลวดลายเส้นลายโทนสีสว่างอย่าง ฟ้าอมเขียว เขียวอมเทา และไม่ลืมใส่ลายละเอียดด้วยงานทำมือ ส่วนทางด้านแบรนด์ลูกรัก เพลย์ฮาวด์ ในคอลเลกชั่นนี้กลับเลือกหยิบความสนุกตามวิถีชีวิตคาวบอยในยุค 90 มาเป็นตรีม ทั้งเวสท์เทิร์นผสมแนวโฟล์กและพังก์ บวกเข้ากับลายกราฟฟิกโดยไม่ทิ้งเทคนิคเฉพาะตัว
ส่วนแบรนด์น้องใหม่ของสมาคมฯ อย่าง อซาวา ของ "หมู" พลพัฒน์ อัศวะประภา ซึ่งบอกว่าไม่ใช่แบรนด์ที่ทำเสื้อผ้าหวือหวาแต่เน้นการเล่นเทคเจอร์ของชิ้นงานมากกว่า และสำหรับคอลเลกชั่นนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "คุณหนูจิตหลอน" ที่มีอารมณ์หวือหวาบ้าบิ่น สื่อผ่านเสื้อสีสันแปลกตา (กว่าที่เคยทำ) ทั้งสีทอง สีเบส สีชมพู แต่ยังคงไม่ทิ้งความเรียบโก้เอาไว้ด้วยเทคนิการอัดพลีท และแนวทางโครงสร้างในเอกลักษณ์ของตัวเอง
ฟากแบรนด์ ดิษยา ได้นำความหลงใหลในรอยผ่าและรอยฉีกขาดของเสื้อผ้า และการเล่นซิป สายคาด วัสดุอันหลากหลาย มาผสมผสานกับความน่ารักไร้เดียงสาของงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อสร้างสรรค์คอลเลกชั่นอันน่าตื่นตาตื่นใจในสไตล์ "อินโนเซ้นท์ โกธ เฟทีช" (Innocent Goth Fetish) ต่างจาก "คลอเส็ท" ที่นำเสนอแฟชั่นฤดูร้อนผ่านสาวชาวเมืองผู้หลงใหลกลิ่นอายทุ่งหญ้าแห่งท้องทุ่งชนบท บนผืนผ้าลายพิมพ์ ลายดอกเดซี่ ลายขดเชือก และไม่ลืมโชว์เทคนิคการแสดงฝีมืองานแฮนด์เมดอันเป็นสไตล์ของตัวเอง ด้าน เซนาด้า มาในรูปลักษณ์ของหญิงสาวผู้ทะมัดทะแมงทว่าก็ยังติดความสะดวกสบาย ความสดใสด้วยการเล่นเทคนิคการตัดสีและการคัตติ้ง
สุดท้ายแบรนด์ที่ยังคงเอกลักษณ์ของความโรแมนติกและคลาสสิกไว้อย่างเหนียวแน่นตามแบบฉบับ เธียเตอร์ ที่คอลเลกชั่นนี้ เป็นวันที่อากาศสดใสเบาๆ สบายๆ ผ่านการมิกซ์แอนด์แมทช์ของลวดลายธรรมชาติและลายกราฟฟิก ลายจุด และตาราง โดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้ชายในชุดนี้จะสัมผัสได้ถึงความบางเบา เซ็กซี่ กับเสื้อไหล่เดี่ยว ให้อารมณ์ที่สนุกสนานกับการแต่งตัวในช่วงซัมเมอร์...ว้าววว!! สวัสดีซีซั่นแห่งความสดใส
จ้าว ก.ไก่ ณ บางนา
ข่าวที่เกี่ยวข้องดื่มด่ำเรโทร แจ๊ส ริมหาด
กับ "เดอะ ปั๊บปินี่ ซิสเตอร์ส"โรงแรมเซ็งราคาห้องพักตกวูบทต.ราไวย์เปิดรับบริจาคขยะนำไปขาย
เสิร์ฟข่าว....เม้าท์แตก (พุธที่ 27 ม.ค.53)
เปิดม่านการศึกษาประจำวันที่27ม.ค.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ด้วยเกรงว่าบรรดาแฟชั่นนิสต้าชาวไทยจะตกขบวนรถไฟสายแฟชั่นช่วง "สปริง-ซัมเมอร์ 2010" ที่ใกล้จะมาถึงนี้ ทางสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพ หรือ Bangkok Fashion Society (BFS) นำโดยพี่ใหญ่แห่งวงการ ภาณุ อิงคะวัต ประธานสมาคม
ฯ และสมาชิกรวม 7 แบรนด์ดัง ได้แก่ เกรย์ฮาวด์ (GREYHOUND), เพลย์ฮาวด์ (PLAYHOUND), อซาวา (ASAVA), ดิษยา (DISAYA), คลอเส็ท (KLOSET), เซนาด้า (SENADA) และ เธียเตอร์ (THEATER) จัดงานเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ฤดูร้อนภายใต้คอนเซ็ปต์ "ธิงค์ โกลบอล เดรส โลคอล"
ภายใน H 1 ทองหล่อ อันเป็นแหล่งรวมพลคนแฟชั่นและเป็นสถานที่จัดงานในครั้งนี้ "ลี่" ชนิตา ปรีชาวิทยากุล หนึ่งในบรรดากูรูด้านเส้นสายลายผ้าจากแบรนด์เซนาด้า ออกมาพูดถึงกระแสแฟชั่นในช่วงซัมเมอร์นี้ว่า จะหวนกลับคืนสู่ธรรมชาติ (Power of Nature) อีกครั้ง ด้วยเพราะว่าวิถีชีวิตในปัจจุบันของคนเมืองที่แปรเปลี่ยนไปส่งผลให้โหยหาความเรียบง่ายอันเป็นพื้นฐานเดิมของชีวิต ดังนั้น กลิ่นอายและสีสันของเสื้อผ้าจึงเน้นไปที่การเลือกใช้สีสันสว่างสดใส อาทิ สีพาสเทล สีนู้ด สีเทา สีน้ำเงิน Navy ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ทิ้งโทนสีขาวและดำอันเป็นสีอมตะ
ขณะที่ลวดลายบนพื้นผ้าฝ้าย ลินิน คอตตอน และไหมชีฟอง ซึ่งเหมาะกับหน้าร้อนในบ้านเรา ถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาด้วยลวดลายดอกไม้เล็กๆ และลวดลายย้อนยุคอันเรียบง่าย เช่น ลายกราฟฟิก ลายเส้น ลายพิมพ์ หรือลายคลาสสิกอย่าง ลายจุดและลายหมากรุก ซึ่งนำมาผสมผสานในสไตล์โมเดิร์น โฟล์ก ที่หยิบเอารูปทรง สีสัน และเทคนิคมาดัดแปลงให้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในคอลเลกชั่นฤดูร้อนยังมีการสร้างสรรค์เทรนด์ใหม่ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองในรูปแบบของการมิกซ์แอนด์แมทช์สิ่งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ เพื่อแสดงความเป็นตัวตนในสไตล์เฟมินีนมากขึ้น รวมถึงการจับจีบ การสร้างแพทเทิร์นที่ไม่มีใครเหมือน...
เริ่มต้นที่ แบรนด์เกรย์ฮาวด์ ที่เลือกหยิบเอาแรงบันดาลใจจากความสนุกศิลปะยุคคลาสสิก ผสานกับศิลปะสมัยใหม่ไร้ขอบเขต โดยเลือกใช้ศิลปินต่างๆ เป็นแขกบนเนื้อผ้าผ่านลวดลายเส้นลายโทนสีสว่างอย่าง ฟ้าอมเขียว เขียวอมเทา และไม่ลืมใส่ลายละเอียดด้วยงานทำมือ ส่วนทางด้านแบรนด์ลูกรัก เพลย์ฮาวด์ ในคอลเลกชั่นนี้กลับเลือกหยิบความสนุกตามวิถีชีวิตคาวบอยในยุค 90 มาเป็นตรีม ทั้งเวสท์เทิร์นผสมแนวโฟล์กและพังก์ บวกเข้ากับลายกราฟฟิกโดยไม่ทิ้งเทคนิคเฉพาะตัว
ส่วนแบรนด์น้องใหม่ของสมาคมฯ อย่าง อซาวา ของ "หมู" พลพัฒน์ อัศวะประภา ซึ่งบอกว่าไม่ใช่แบรนด์ที่ทำเสื้อผ้าหวือหวาแต่เน้นการเล่นเทคเจอร์ของชิ้นงานมากกว่า และสำหรับคอลเลกชั่นนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "คุณหนูจิตหลอน" ที่มีอารมณ์หวือหวาบ้าบิ่น สื่อผ่านเสื้อสีสันแปลกตา (กว่าที่เคยทำ) ทั้งสีทอง สีเบส สีชมพู แต่ยังคงไม่ทิ้งความเรียบโก้เอาไว้ด้วยเทคนิการอัดพลีท และแนวทางโครงสร้างในเอกลักษณ์ของตัวเอง
ฟากแบรนด์ ดิษยา ได้นำความหลงใหลในรอยผ่าและรอยฉีกขาดของเสื้อผ้า และการเล่นซิป สายคาด วัสดุอันหลากหลาย มาผสมผสานกับความน่ารักไร้เดียงสาของงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อสร้างสรรค์คอลเลกชั่นอันน่าตื่นตาตื่นใจในสไตล์ "อินโนเซ้นท์ โกธ เฟทีช" (Innocent Goth Fetish) ต่างจาก "คลอเส็ท" ที่นำเสนอแฟชั่นฤดูร้อนผ่านสาวชาวเมืองผู้หลงใหลกลิ่นอายทุ่งหญ้าแห่งท้องทุ่งชนบท บนผืนผ้าลายพิมพ์ ลายดอกเดซี่ ลายขดเชือก และไม่ลืมโชว์เทคนิคการแสดงฝีมืองานแฮนด์เมดอันเป็นสไตล์ของตัวเอง ด้าน เซนาด้า มาในรูปลักษณ์ของหญิงสาวผู้ทะมัดทะแมงทว่าก็ยังติดความสะดวกสบาย ความสดใสด้วยการเล่นเทคนิคการตัดสีและการคัตติ้ง
สุดท้ายแบรนด์ที่ยังคงเอกลักษณ์ของความโรแมนติกและคลาสสิกไว้อย่างเหนียวแน่นตามแบบฉบับ เธียเตอร์ ที่คอลเลกชั่นนี้ เป็นวันที่อากาศสดใสเบาๆ สบายๆ ผ่านการมิกซ์แอนด์แมทช์ของลวดลายธรรมชาติและลายกราฟฟิก ลายจุด และตาราง โดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้ชายในชุดนี้จะสัมผัสได้ถึงความบางเบา เซ็กซี่ กับเสื้อไหล่เดี่ยว ให้อารมณ์ที่สนุกสนานกับการแต่งตัวในช่วงซัมเมอร์...ว้าววว!! สวัสดีซีซั่นแห่งความสดใส
จ้าว ก.ไก่ ณ บางนา
ข่าวที่เกี่ยวข้องดื่มด่ำเรโทร แจ๊ส ริมหาด
กับ "เดอะ ปั๊บปินี่ ซิสเตอร์ส"โรงแรมเซ็งราคาห้องพักตกวูบทต.ราไวย์เปิดรับบริจาคขยะนำไปขาย
เสิร์ฟข่าว....เม้าท์แตก (พุธที่ 27 ม.ค.53)
เปิดม่านการศึกษาประจำวันที่27ม.ค.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ศิลปกรรม...ในวัดพระแก้ววังหน้า
ศิลปกรรม...ในวัดพระแก้ววังหน้า
คมชัดลึก :ปี2527 เป็นครั้งแรกที่ผมได้ย่างก้าวเข้าสู่สถานที่แห่งนี้ เพื่อสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับศิลปศึกษาชั้นกลางของวิทยาลัยช่างศิลป กรมศิลปากร รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีคนมาสมัครกันจำนวนมาก แต่รับได้แค่ 200 คน
กับอีกเหตุการณ์หนึ่งก็คือ การที่ผมได้เข้าพิธีครอบครูศิลปะในโบสถ์แห่งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ทราบว่ารุ่นต่อๆ มา ได้ย้ายไปครอบครูกันที่ลาดกระบังหมดแล้วครับ
เมื่อจบชั้นกลางต่อชั้นสูงสาขาศิลปะไทย ผมก็ยังคงแวะเวียนเรียนที่วังหน้าแห่งนี้มาโดยตลอด หรือแม้กระทั่งสอบบรรจุเข้ารับราชการครู สังกัดกรมศิลปากร ก็ยังใช้สถานที่แห่งนี้ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปภายในโบสถ์อีกเลยครับ (ไปทีไร...ก็ปิดทุกที)
วันส่งท้ายปีเก่าปีนี้ผมมีโอกาสได้ไปแสดงมุทิตาจิตต่อท่านอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว ผมมองไปยังประตูโบสถ์ ก็เห็นว่าเปิดอยู่ ใจผมเต้นระทึกด้วยความดีใจ นับจากครั้งแรกมาจนถึงวันนี้...ก็เป็นเวลา25 ปีไปแล้วครับ
วัดบวรสถานสุทธาวาสหรือวัดพระแก้ววังหน้า เป็นวัดในพระราชวังบวรสถานมงคล เช่นเดียวกับ วัดพระศรีรัตนศาสดารามภายในพระบรมมหาราชวังและด้วยเหตุที่เป็นวัดในวัง ดังนั้น จึงไม่มีพระภิกษุจำพรรษา
วัดนี้สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพซึ่งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่การสร้างยังไม่แล้วเสร็จ พระองค์เสด็จทิวงคตเสียก่อน การก่อสร้างวัดพระแก้ววังหน้า จึงมาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับพระราชทานนามว่า วัดบวรสถานสุทธาวาส
ปัจจุบันวัดบวรสถานสุทธาวาส ตั้งอยู่ในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป เป็นวัดที่ไม่มีการประกอบสังฆกรรมใดๆ และถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบ พิธีไหว้ครูพิธีครอบครู และพิธีมงคลต่างๆ ของบรรดา นาฏศิลปินดุริยางคศิลปิน และ กรมศิลปากร ศิลปกรรมต่างๆ ของวัดพระแก้ววังหน้า ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันนี้ มีเพียงพระอุโบสถเท่านั้น เป็นพระอุโบสถ จัตุรมุขสูงใหญ่ตั้งสูงตระหง่านอยู่บนฐานซึ่งมีบันไดขึ้นทั้งสี่ด้าน บริเวณฐานมีชานล้อมโดยรอบ
เสียดายที่พระอุโบสถหลังนี้ถูกตึกสมัยใหม่บังเสียหมด จนไม่อาจชมความงามของพระอุโบสถได้ในระยะที่เหมาะสม ในด้านรูปทรงภายนอกแล้ว ต้องนับว่าพระอุโบสถหลังนี้มีความงามสง่าแปลกตาไม่น้อย และเป็นศิลปกรรมสมัยรัชกาลที่ 3 ที่สำคัญของวังหน้าที่ทรงสร้างขึ้น
นอกจากรูปทรงภายนอกแล้วภายในพระอุโบสถยังมีศิลปกรรมสำคัญที่ควรชมคือ พระพุทธรูป ซึ่งเป็นพระประธานของพระอุโบสถตั้งอยู่สุดผนังมุขด้านตะวันตก เป็น พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางห้ามสมุทร ซึ่งสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ทรงสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานในพระอุโบสถนี้
ปัจจุบันนี้พระพุทธรูปองค์นี้ยังคงอยู่ในสภาพดี มีฐานชุกชีและบุษบกครอบ บุษบกนั้นคงเป็นฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 4 ช่วงที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ที่วังหน้า
ศิลปกรรมที่นอกเหนือไปจากพระพุทธรูปภายในพระอุโบสถคือ จิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นจิตรกรรมเรื่อง ตำนานพระพุทธสิหิงค์ ประวัติพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ซึ่งเป็นฝีมือช่างผสมกันระหว่างฝีมือช่าง ในสมัยรัชกาลที่ 3 และรัชกาลที่ 4 รวมทั้งเรื่อง ตำนานนิทานไทยโบราณ ประวัติพระคเณศและช้างอุษฏทิศ ภาพจากวรรณคดีเรื่องอุณรุท รามเกียรติ์ นารายณ์สิบปาง ตลอดจนภาพเทพเจ้า และอมนุษย์ของอินเดีย ทั้งที่ปรากฏในมหาภารตคัมภีร์และคัมภีร์ปุราณะต่างๆ
นอกจากนี้ก็มีพระราชพิธีโบราณของไทย เช่น พระราชพิธีโสกันต์ และภาพการละเล่นต่างๆ ของไทย เช่น กระตั้วแทงควาย แทงวิไสย ไต่ลวด และญวนหก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามภาพที่ปรากฏบนฝาผนังเป็นเรื่องราวต่างๆ จำนวนมากนี้ คงเป็นฝีมือช่างหลายคน เพราะผนังพระอุโบสถนี้กว้างใหญ่มาก มีพื้นที่สำหรับเขียนภาพได้มากมาย จึงปรากฏเรื่องราวต่างๆ ในลักษณะหลายเรื่อง หลายรส หลายฝีมือช่าง มีทั้งฝีมือดีและด้อยคละเคล้ากัน
ดังที่สมเด็จกรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์นิพนธ์ไว้ว่าเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังงามเยี่ยมแห่งหนึ่งเท่าที่เหลือในปัจจุบัน เจ้าฟ้าอิศราพงศ์เป็นแม่กอง จัดช่างฝีมือเข้าเขียน มีฝีมือพระอาจารย์แดงวัดหงส์รัตนาราม เขียนภาพชนช้างไว้ห้องหนึ่ง อีกห้องหนึ่งเป็นภาพฝีมือนายมั่น คือ การทิ้งทานลูกกัลปพฤกษ์
ดังกล่าวแล้วจะเห็นว่าวัดพระแก้ววังหน้า หรือวัดบวรสถานสุทธาวาส เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน เป็นวัดในพระราชวังหน้าของพระมหาอุปราชมาถึงห้ารัชกาล แม้ปัจจุบันจะเหลือเพียงพระอุโบสถเท่านั้นก็ตาม แต่คุณค่าของศิลปกรรมนับได้ว่า มีค่าควรแก่การศึกษาหาความรู้อย่างยิ่ง
โดยเฉพาะผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องราวของประวัติศาสตร์และศิลปะจึงควรหาโอกาสไปชมวัดนี้ เพราะจะได้สัมผัสหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริง ได้ลิ้มรสสุนทรียภาพจากศิลปกรรม ทั้งยังเป็นการฟื้นความทรงจำถึงวังหน้าที่สำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วยครับ...
www.oknation.net/blog/phaen
ข่าวที่เกี่ยวข้องอาชีวะเพชรให้ทุนเรียนผ้าสร้างอาชีพอยู่ได้"พอเพียง"มองผ่านเลนส์คม - กรรมการ...
ประชันไอเดียเด็กไทย รังสรรค์ชุดชั้นในสุดเก๋ มุมมองใหม่-"กีฬา"เสริมสร้างคุณธรรมบทเรียนชีวิต"จิรพัส เลี่ยงสกุล" เรียน-กิจกรรมทำพร้อมกันได้ฝึกทำงาน-ทักษะการเป็นผู้นำ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ปี2527 เป็นครั้งแรกที่ผมได้ย่างก้าวเข้าสู่สถานที่แห่งนี้ เพื่อสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับศิลปศึกษาชั้นกลางของวิทยาลัยช่างศิลป กรมศิลปากร รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีคนมาสมัครกันจำนวนมาก แต่รับได้แค่ 200 คน
กับอีกเหตุการณ์หนึ่งก็คือ การที่ผมได้เข้าพิธีครอบครูศิลปะในโบสถ์แห่งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ทราบว่ารุ่นต่อๆ มา ได้ย้ายไปครอบครูกันที่ลาดกระบังหมดแล้วครับ
เมื่อจบชั้นกลางต่อชั้นสูงสาขาศิลปะไทย ผมก็ยังคงแวะเวียนเรียนที่วังหน้าแห่งนี้มาโดยตลอด หรือแม้กระทั่งสอบบรรจุเข้ารับราชการครู สังกัดกรมศิลปากร ก็ยังใช้สถานที่แห่งนี้ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปภายในโบสถ์อีกเลยครับ (ไปทีไร...ก็ปิดทุกที)
วันส่งท้ายปีเก่าปีนี้ผมมีโอกาสได้ไปแสดงมุทิตาจิตต่อท่านอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว ผมมองไปยังประตูโบสถ์ ก็เห็นว่าเปิดอยู่ ใจผมเต้นระทึกด้วยความดีใจ นับจากครั้งแรกมาจนถึงวันนี้...ก็เป็นเวลา25 ปีไปแล้วครับ
วัดบวรสถานสุทธาวาสหรือวัดพระแก้ววังหน้า เป็นวัดในพระราชวังบวรสถานมงคล เช่นเดียวกับ วัดพระศรีรัตนศาสดารามภายในพระบรมมหาราชวังและด้วยเหตุที่เป็นวัดในวัง ดังนั้น จึงไม่มีพระภิกษุจำพรรษา
วัดนี้สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพซึ่งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่การสร้างยังไม่แล้วเสร็จ พระองค์เสด็จทิวงคตเสียก่อน การก่อสร้างวัดพระแก้ววังหน้า จึงมาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับพระราชทานนามว่า วัดบวรสถานสุทธาวาส
ปัจจุบันวัดบวรสถานสุทธาวาส ตั้งอยู่ในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป เป็นวัดที่ไม่มีการประกอบสังฆกรรมใดๆ และถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบ พิธีไหว้ครูพิธีครอบครู และพิธีมงคลต่างๆ ของบรรดา นาฏศิลปินดุริยางคศิลปิน และ กรมศิลปากร ศิลปกรรมต่างๆ ของวัดพระแก้ววังหน้า ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันนี้ มีเพียงพระอุโบสถเท่านั้น เป็นพระอุโบสถ จัตุรมุขสูงใหญ่ตั้งสูงตระหง่านอยู่บนฐานซึ่งมีบันไดขึ้นทั้งสี่ด้าน บริเวณฐานมีชานล้อมโดยรอบ
เสียดายที่พระอุโบสถหลังนี้ถูกตึกสมัยใหม่บังเสียหมด จนไม่อาจชมความงามของพระอุโบสถได้ในระยะที่เหมาะสม ในด้านรูปทรงภายนอกแล้ว ต้องนับว่าพระอุโบสถหลังนี้มีความงามสง่าแปลกตาไม่น้อย และเป็นศิลปกรรมสมัยรัชกาลที่ 3 ที่สำคัญของวังหน้าที่ทรงสร้างขึ้น
นอกจากรูปทรงภายนอกแล้วภายในพระอุโบสถยังมีศิลปกรรมสำคัญที่ควรชมคือ พระพุทธรูป ซึ่งเป็นพระประธานของพระอุโบสถตั้งอยู่สุดผนังมุขด้านตะวันตก เป็น พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางห้ามสมุทร ซึ่งสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ทรงสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานในพระอุโบสถนี้
ปัจจุบันนี้พระพุทธรูปองค์นี้ยังคงอยู่ในสภาพดี มีฐานชุกชีและบุษบกครอบ บุษบกนั้นคงเป็นฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 4 ช่วงที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ที่วังหน้า
ศิลปกรรมที่นอกเหนือไปจากพระพุทธรูปภายในพระอุโบสถคือ จิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นจิตรกรรมเรื่อง ตำนานพระพุทธสิหิงค์ ประวัติพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ซึ่งเป็นฝีมือช่างผสมกันระหว่างฝีมือช่าง ในสมัยรัชกาลที่ 3 และรัชกาลที่ 4 รวมทั้งเรื่อง ตำนานนิทานไทยโบราณ ประวัติพระคเณศและช้างอุษฏทิศ ภาพจากวรรณคดีเรื่องอุณรุท รามเกียรติ์ นารายณ์สิบปาง ตลอดจนภาพเทพเจ้า และอมนุษย์ของอินเดีย ทั้งที่ปรากฏในมหาภารตคัมภีร์และคัมภีร์ปุราณะต่างๆ
นอกจากนี้ก็มีพระราชพิธีโบราณของไทย เช่น พระราชพิธีโสกันต์ และภาพการละเล่นต่างๆ ของไทย เช่น กระตั้วแทงควาย แทงวิไสย ไต่ลวด และญวนหก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามภาพที่ปรากฏบนฝาผนังเป็นเรื่องราวต่างๆ จำนวนมากนี้ คงเป็นฝีมือช่างหลายคน เพราะผนังพระอุโบสถนี้กว้างใหญ่มาก มีพื้นที่สำหรับเขียนภาพได้มากมาย จึงปรากฏเรื่องราวต่างๆ ในลักษณะหลายเรื่อง หลายรส หลายฝีมือช่าง มีทั้งฝีมือดีและด้อยคละเคล้ากัน
ดังที่สมเด็จกรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์นิพนธ์ไว้ว่าเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังงามเยี่ยมแห่งหนึ่งเท่าที่เหลือในปัจจุบัน เจ้าฟ้าอิศราพงศ์เป็นแม่กอง จัดช่างฝีมือเข้าเขียน มีฝีมือพระอาจารย์แดงวัดหงส์รัตนาราม เขียนภาพชนช้างไว้ห้องหนึ่ง อีกห้องหนึ่งเป็นภาพฝีมือนายมั่น คือ การทิ้งทานลูกกัลปพฤกษ์
ดังกล่าวแล้วจะเห็นว่าวัดพระแก้ววังหน้า หรือวัดบวรสถานสุทธาวาส เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน เป็นวัดในพระราชวังหน้าของพระมหาอุปราชมาถึงห้ารัชกาล แม้ปัจจุบันจะเหลือเพียงพระอุโบสถเท่านั้นก็ตาม แต่คุณค่าของศิลปกรรมนับได้ว่า มีค่าควรแก่การศึกษาหาความรู้อย่างยิ่ง
โดยเฉพาะผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องราวของประวัติศาสตร์และศิลปะจึงควรหาโอกาสไปชมวัดนี้ เพราะจะได้สัมผัสหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริง ได้ลิ้มรสสุนทรียภาพจากศิลปกรรม ทั้งยังเป็นการฟื้นความทรงจำถึงวังหน้าที่สำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วยครับ...
www.oknation.net/blog/phaen
ข่าวที่เกี่ยวข้องอาชีวะเพชรให้ทุนเรียนผ้าสร้างอาชีพอยู่ได้"พอเพียง"มองผ่านเลนส์คม - กรรมการ...
ประชันไอเดียเด็กไทย รังสรรค์ชุดชั้นในสุดเก๋ มุมมองใหม่-"กีฬา"เสริมสร้างคุณธรรมบทเรียนชีวิต"จิรพัส เลี่ยงสกุล" เรียน-กิจกรรมทำพร้อมกันได้ฝึกทำงาน-ทักษะการเป็นผู้นำ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ไออาร์ซี ดอก ลายไฟ เทรนด์ใหม่เอาใจสิงห์นักบิด
ไออาร์ซี ดอก ลายไฟ เทรนด์ใหม่เอาใจสิงห์นักบิด
คมชัดลึก : เปิดศักราชได้ไม่ถึงเดือน บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี จับมือ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด แนะนำยางรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ กับลายดอกยาง ลายไฟ หรือมีชื่อเรียกว่า ไวด์ แฟลร์ (Wild Flare) โดยชี้กลุ่มเป้าหมายไปยังรถออโตเมติกและกลุ่มผู้ชื่นชอบความแปลกใหม่
ในงานเปิดตัว มีผู้บริหารระดับสูง ทั้ง พิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล เหล่าจินดา ประธานกรรมบริหาร ทาเคชิ อารากาว่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ซาโตชิ อากาสึกา กรรมการ บริษัท ไออาร์ซี เอเซีย รีเสิร์ช จำกัด พร้อมด้วย พิเชฐ ตังคไชยนันท์ ผู้จัดการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ 2 บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างพร้อมเพรียง
การเปิดตัวยางรถจักรยานยนต์ครั้งนี้ได้ 2 นักแต่งรถจักรยานยนต์มือพระกาฬ อย่าง "เฮียตี๋ มหาชัย" หรือสมบูรณ์ แห่ง SRY และ “เสี่ยบาส” แห่งร้าน ลิขิต เรซซิ่ง เข้ามาเล่าถึงแนวทางการตกแต่งรถจักรยานยนต์ที่นอกเหนือจากรูปแบบของแฟริ่งต่างๆ แล้ว ยางรถจักรยานยนต์เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันในยุคสมัย
“ลายไฟ” ที่ถูกแกะเป็นลายดอกยาง รุ่นไวด์ แฟลร์ เป็นอีกมิติของผู้ชื่นชอบการตกแต่งรถจักรยานยนต์ ที่ไม่ต้องการลงทุนมาก เพียงแค่ลายดอกยาง ก็เพียงพอที่จะดึงดูดสายตาทุกคู่บนท้องถนนได้แล้ว
ซาโตชิ อากาสึกา กล่าวว่า ในประเทศญี่ปุ่น WF-910 (Wild Flare) เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปี 2536 ซึ่งช่วงเวลานั้น “ลายไฟ” ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ประเภทครุยเซอร์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัท อีโนเว รับเบอร์จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการพิจารณาว่าจะใช้ลายไฟกับยางได้อย่างไร
ครั้งแรกได้มีการออกแบบลายไฟสำหรับยางหลังเท่านั้น เนื่องจากยางหน้ามีขนาดเล็กแคบ
แล้วยางรหัส WF-920 ก็ได้เปิดตัวอีกครั้งในปี 2539 กับซูซูกิ (Desperado) พร้อมได้มีการปรับเปลี่ยนการออกแบบจากลาย WF-910 เป็น WF-920 เนื่องจากรถซูซูกิรุ่นนี้ ยางหน้ามีลักษณะทรงอ้วน IRC จึงได้มีการปรับปรุงการออกแบบให้เกิดความสมดุลของร่องยางเพื่อความเสถียรของยาง
ส่วน WF-930 เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2548 ซึ่งลายไฟได้รับความนิยมมากในรถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ในประเทศญี่ปุ่น ไออาร์ซีจึงเริ่มใช้ลายไฟกับยางรถสกู๊ตเตอร์ สำหรับรถสกู๊ตเตอร์ตกแต่งและการออกแบบลายของ WF-930 ได้ปรับปรุงพัฒนาจาก WF-920 ในส่วนของการขับเคลื่อน เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับผู้ใช้รถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ขอบยางมีการออกแบบเป็นลายไฟเช่นกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถทาสีบริเวณขอบยางที่เป็นลายไฟได้
“ยางรุ่นใหม่นี้เราเลือกโครงสร้างและเนื้อยางแบบคอมเปาว์คุณภาพสูง เพราะต้องการตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในเรื่องของความสมดุลและสมรรถนะในการขับขี่ โดยเฉพาะการเกาะถนน ทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง มีความนุ่มนวลในการขับขี่ และการควบคุมทำได้อย่างมั่นใจ เราเชื่อว่ายางลายไฟจะถูกใจผู้ใช้และได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับรถจักรยานยนต์ออโตเมติกทุกประเภท” นายซาโตชิ กล่าว
ขณะที่ พิเชฐ ตังคไชยนันท์ ผู้จัดการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ 2 บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด กล่าวว่า บริษัทในฐานะตัวแทนจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี คิดว่ายางลายไฟจะเพิ่มยอดขายได้อย่างแน่นอน ด้วยคุณสมบัติที่ดีมีคุณภาพ รูปลักษณ์ที่สวยงาม โดนใจวัยรุ่นขาโจ๋ที่ใช้รถจักรยานยนต์ออโตเมติกทุกประเภท และสามารถเป็นอุปกรณ์ตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้
สำหรับยางไออาร์ซี ไวด์ แฟลร์ รหัส WF-920 มี 3 ขนาด ประกอบด้วย ขนาด 80/90-14 WF-920F TL ขนาด 90/80 14WF-920R TL และขนาด 100/70-14 WF-920R TL วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 และจะมีขนาดเพิ่มเติมสำหรับรถออโตเมติกเมืองไทย ครบทุกรุ่น เร็วๆ นี้
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : เปิดศักราชได้ไม่ถึงเดือน บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี จับมือ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด แนะนำยางรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ กับลายดอกยาง ลายไฟ หรือมีชื่อเรียกว่า ไวด์ แฟลร์ (Wild Flare) โดยชี้กลุ่มเป้าหมายไปยังรถออโตเมติกและกลุ่มผู้ชื่นชอบความแปลกใหม่
ในงานเปิดตัว มีผู้บริหารระดับสูง ทั้ง พิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล เหล่าจินดา ประธานกรรมบริหาร ทาเคชิ อารากาว่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ซาโตชิ อากาสึกา กรรมการ บริษัท ไออาร์ซี เอเซีย รีเสิร์ช จำกัด พร้อมด้วย พิเชฐ ตังคไชยนันท์ ผู้จัดการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ 2 บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างพร้อมเพรียง
การเปิดตัวยางรถจักรยานยนต์ครั้งนี้ได้ 2 นักแต่งรถจักรยานยนต์มือพระกาฬ อย่าง "เฮียตี๋ มหาชัย" หรือสมบูรณ์ แห่ง SRY และ “เสี่ยบาส” แห่งร้าน ลิขิต เรซซิ่ง เข้ามาเล่าถึงแนวทางการตกแต่งรถจักรยานยนต์ที่นอกเหนือจากรูปแบบของแฟริ่งต่างๆ แล้ว ยางรถจักรยานยนต์เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันในยุคสมัย
“ลายไฟ” ที่ถูกแกะเป็นลายดอกยาง รุ่นไวด์ แฟลร์ เป็นอีกมิติของผู้ชื่นชอบการตกแต่งรถจักรยานยนต์ ที่ไม่ต้องการลงทุนมาก เพียงแค่ลายดอกยาง ก็เพียงพอที่จะดึงดูดสายตาทุกคู่บนท้องถนนได้แล้ว
ซาโตชิ อากาสึกา กล่าวว่า ในประเทศญี่ปุ่น WF-910 (Wild Flare) เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปี 2536 ซึ่งช่วงเวลานั้น “ลายไฟ” ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ประเภทครุยเซอร์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัท อีโนเว รับเบอร์จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการพิจารณาว่าจะใช้ลายไฟกับยางได้อย่างไร
ครั้งแรกได้มีการออกแบบลายไฟสำหรับยางหลังเท่านั้น เนื่องจากยางหน้ามีขนาดเล็กแคบ
แล้วยางรหัส WF-920 ก็ได้เปิดตัวอีกครั้งในปี 2539 กับซูซูกิ (Desperado) พร้อมได้มีการปรับเปลี่ยนการออกแบบจากลาย WF-910 เป็น WF-920 เนื่องจากรถซูซูกิรุ่นนี้ ยางหน้ามีลักษณะทรงอ้วน IRC จึงได้มีการปรับปรุงการออกแบบให้เกิดความสมดุลของร่องยางเพื่อความเสถียรของยาง
ส่วน WF-930 เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2548 ซึ่งลายไฟได้รับความนิยมมากในรถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ในประเทศญี่ปุ่น ไออาร์ซีจึงเริ่มใช้ลายไฟกับยางรถสกู๊ตเตอร์ สำหรับรถสกู๊ตเตอร์ตกแต่งและการออกแบบลายของ WF-930 ได้ปรับปรุงพัฒนาจาก WF-920 ในส่วนของการขับเคลื่อน เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับผู้ใช้รถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ขอบยางมีการออกแบบเป็นลายไฟเช่นกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถทาสีบริเวณขอบยางที่เป็นลายไฟได้
“ยางรุ่นใหม่นี้เราเลือกโครงสร้างและเนื้อยางแบบคอมเปาว์คุณภาพสูง เพราะต้องการตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในเรื่องของความสมดุลและสมรรถนะในการขับขี่ โดยเฉพาะการเกาะถนน ทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง มีความนุ่มนวลในการขับขี่ และการควบคุมทำได้อย่างมั่นใจ เราเชื่อว่ายางลายไฟจะถูกใจผู้ใช้และได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับรถจักรยานยนต์ออโตเมติกทุกประเภท” นายซาโตชิ กล่าว
ขณะที่ พิเชฐ ตังคไชยนันท์ ผู้จัดการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ 2 บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด กล่าวว่า บริษัทในฐานะตัวแทนจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี คิดว่ายางลายไฟจะเพิ่มยอดขายได้อย่างแน่นอน ด้วยคุณสมบัติที่ดีมีคุณภาพ รูปลักษณ์ที่สวยงาม โดนใจวัยรุ่นขาโจ๋ที่ใช้รถจักรยานยนต์ออโตเมติกทุกประเภท และสามารถเป็นอุปกรณ์ตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้
สำหรับยางไออาร์ซี ไวด์ แฟลร์ รหัส WF-920 มี 3 ขนาด ประกอบด้วย ขนาด 80/90-14 WF-920F TL ขนาด 90/80 14WF-920R TL และขนาด 100/70-14 WF-920R TL วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 และจะมีขนาดเพิ่มเติมสำหรับรถออโตเมติกเมืองไทย ครบทุกรุ่น เร็วๆ นี้
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
มุมหนังสือประจำวันที่ 31 ม.ค.
มุมหนังสือประจำวันที่ 31 ม.ค.
คมชัดลึก :The Ticket ตีตั๋วดูตัวตน เคล็ดลับและศิลปะการใช้ชีวิต ที่หลายคน "เปลี่ยน" ไปอย่างเหลือเชื่อ เป็นต้นทางให้เราเข้าใจตัวเอง เห็นตัวตน และไขปริศนาของชีวิตได้ "อนันตกาล" ชวนเปิดใจ แล้วจะรู้ว่า ทำไมคนถึงอยากได้ที่นั่งหมายเลข A15 กันนัก ใยไหมจัดพิมพ์ ราคา 155 บาท...0
หมอชาวบ้าน แนะ รู้กินรู้โรค โดยนักกำหนดอาหารอย่าง ผศ.ดร.วันทนีย์ เกรียงสินยศ เพื่อให้กินถูกให้เหมาะ เพราะนอกจากสุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังบรรเทาอาการป่วย ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยได้อีกด้วย ไม่ต้องพึ่งยาเลยแหละ ราคา 165 บาท...0
มาที่ บลิสพับลิชชิ่ง กับ พิษรัก ของ นามาโตะ ฟุมิโอะ ที่จะพาสำรวจหัวใจ ทั้งความสุข ความทุกข์ แต่ท้ายที่สุดเราจะเห็นแง่งามของความรัก หากรู้จักรักให้เป็น พัชราพร แก้วกฤษฎางค์ แปล ราคา 200 บาท...0
ส่วน นานมีบุ๊ค ยังส่งเสริมความรู้อย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดส่ง เปิดกรุสิ่งประดิษฐ์ยุคแรก ที่พลิกโฉมโลก ว่ากันตั้งแต่ยุคหิน จนถึงยุคเริ่มศึกษาวิทยาศาสตร์ Gerry Bailley เขียน วาวไพลิน ช่อวิเชียร แปล ราคา 245 บาท...0
อีกเล่ม THINK สารานุกรมชวนคิด วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มี 4 หมวดใหญ่ อย่าง การอธิบายหน้าที่ และการทำงานของอวัยวะต่างๆ ของ "ร่างกาย" ต่อด้วยเรื่องการกำเนิดของ "สัตว์" โลก ยังมีเรื่องเกี่ยวกับ "โลกของเรา" มาจบที่ "วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" ที่จะทำให้รู้อนาคตได้ ราคา 395 บาท...0
ผศ.รัชนีวรรณ เพ็งปรีชา และ อ.สายใจ เจริญรื่น สอน ศิลปะการจัดทรายสีในแก้วใส นอกจากโชว์ไอเดีย แล้ว ยังเชื่อได้ว่าทุกจินตนาการสามารถเป็นจริงได้ ถ้ามีความพยายาม แล้วของขวัญชิ้นนี้จะพิเศษสุดสำหรับผู้รับ เพชรการเรือนจัดพิมพ์ ราคา 150 บาท...0
ทุกคนล้วนต้องพบเจอปัญหา แต่ไม่ทุกคนหรอกที่จะเอาเศษผงที่เข้าตาออกได้เอง จุฑามาศ ณ สงขลา เป็นคนหนึ่งที่รับปรึกษาปัญหาหนักอก ด้วยคำแนะนำดีๆ เป็นตัวช่วย และตัวอย่างที่รวบรวมใน ถ้าหัวใจร้องไห้ไม่ต้องฝืนยิ้มหรอก อาจตรงกับใครบางคนก็ได้ more of life จัดพิมพ์ ราคา 140 บาท...0
ไม่มีพื้นฐานการทำธุรกิจ แต่อยากรู้กลยุทธ์การตลาด เพื่อพัฒนาสินค้าให้คุ้นเคย ทิปส์ลับสร้างแบรนด์เอสเอ็มอี โดย จรรย์จารี ธรรมา จะช่วยให้ง่ายขึ้น พร้อมตัวอย่างการพัฒนาสินค้าดังๆ เป็นแรงจูงใจ จัดพิมพ์โดยดับเบิ้ลคลิ๊ก ราคา 150 บาท...0
สำหรับคนรักรถ car max พบกับเจ้าเขียวเปรี้ยวจี๊ด มาสด้า 2 จะแร้งงแค่ไหนกันเชียว ยังมีเจ้าสปอร์ตมิตซู ประกบเข้าไปอีก มันแน่ๆ อ้อ อยากรู้ว่า รถแบบไหนน่า "ลัก" มีลิสต์รายชื่อเป็นหวงว่าวเลย เฮ้อ! ราคา 90 บาท...0
ส่วน HAMBERGER ที่ไม่น่าเกี่ยวไรกับรถ แต่ทำไมหนุ่มเป้ ถึงมายืน "เสลอร์" คู่กับสปอร์ตเขียวได้ เฮ้อ ถูกปล้นอีกแล้ว ดีที่เนื้อในยังพอมีเรื่องน่าอ่านอยู่บ้าง ราคา 80 บาท...0
ข่าวที่เกี่ยวข้องกูเกิลข่าวไทยคมเลนส์ส่องพระประจำวันอาทิตย์ที่31ม.ค.53ไกด์มือถือ..บริการนำเที่ยวทั่วไทยแชะ แชะ แชะประจำวันอาทิตย์ที่31มกราคมรับผิดชอบสังคมหัวใจนิเทศมมส.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :The Ticket ตีตั๋วดูตัวตน เคล็ดลับและศิลปะการใช้ชีวิต ที่หลายคน "เปลี่ยน" ไปอย่างเหลือเชื่อ เป็นต้นทางให้เราเข้าใจตัวเอง เห็นตัวตน และไขปริศนาของชีวิตได้ "อนันตกาล" ชวนเปิดใจ แล้วจะรู้ว่า ทำไมคนถึงอยากได้ที่นั่งหมายเลข A15 กันนัก ใยไหมจัดพิมพ์ ราคา 155 บาท...0
หมอชาวบ้าน แนะ รู้กินรู้โรค โดยนักกำหนดอาหารอย่าง ผศ.ดร.วันทนีย์ เกรียงสินยศ เพื่อให้กินถูกให้เหมาะ เพราะนอกจากสุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังบรรเทาอาการป่วย ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยได้อีกด้วย ไม่ต้องพึ่งยาเลยแหละ ราคา 165 บาท...0
มาที่ บลิสพับลิชชิ่ง กับ พิษรัก ของ นามาโตะ ฟุมิโอะ ที่จะพาสำรวจหัวใจ ทั้งความสุข ความทุกข์ แต่ท้ายที่สุดเราจะเห็นแง่งามของความรัก หากรู้จักรักให้เป็น พัชราพร แก้วกฤษฎางค์ แปล ราคา 200 บาท...0
ส่วน นานมีบุ๊ค ยังส่งเสริมความรู้อย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดส่ง เปิดกรุสิ่งประดิษฐ์ยุคแรก ที่พลิกโฉมโลก ว่ากันตั้งแต่ยุคหิน จนถึงยุคเริ่มศึกษาวิทยาศาสตร์ Gerry Bailley เขียน วาวไพลิน ช่อวิเชียร แปล ราคา 245 บาท...0
อีกเล่ม THINK สารานุกรมชวนคิด วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มี 4 หมวดใหญ่ อย่าง การอธิบายหน้าที่ และการทำงานของอวัยวะต่างๆ ของ "ร่างกาย" ต่อด้วยเรื่องการกำเนิดของ "สัตว์" โลก ยังมีเรื่องเกี่ยวกับ "โลกของเรา" มาจบที่ "วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" ที่จะทำให้รู้อนาคตได้ ราคา 395 บาท...0
ผศ.รัชนีวรรณ เพ็งปรีชา และ อ.สายใจ เจริญรื่น สอน ศิลปะการจัดทรายสีในแก้วใส นอกจากโชว์ไอเดีย แล้ว ยังเชื่อได้ว่าทุกจินตนาการสามารถเป็นจริงได้ ถ้ามีความพยายาม แล้วของขวัญชิ้นนี้จะพิเศษสุดสำหรับผู้รับ เพชรการเรือนจัดพิมพ์ ราคา 150 บาท...0
ทุกคนล้วนต้องพบเจอปัญหา แต่ไม่ทุกคนหรอกที่จะเอาเศษผงที่เข้าตาออกได้เอง จุฑามาศ ณ สงขลา เป็นคนหนึ่งที่รับปรึกษาปัญหาหนักอก ด้วยคำแนะนำดีๆ เป็นตัวช่วย และตัวอย่างที่รวบรวมใน ถ้าหัวใจร้องไห้ไม่ต้องฝืนยิ้มหรอก อาจตรงกับใครบางคนก็ได้ more of life จัดพิมพ์ ราคา 140 บาท...0
ไม่มีพื้นฐานการทำธุรกิจ แต่อยากรู้กลยุทธ์การตลาด เพื่อพัฒนาสินค้าให้คุ้นเคย ทิปส์ลับสร้างแบรนด์เอสเอ็มอี โดย จรรย์จารี ธรรมา จะช่วยให้ง่ายขึ้น พร้อมตัวอย่างการพัฒนาสินค้าดังๆ เป็นแรงจูงใจ จัดพิมพ์โดยดับเบิ้ลคลิ๊ก ราคา 150 บาท...0
สำหรับคนรักรถ car max พบกับเจ้าเขียวเปรี้ยวจี๊ด มาสด้า 2 จะแร้งงแค่ไหนกันเชียว ยังมีเจ้าสปอร์ตมิตซู ประกบเข้าไปอีก มันแน่ๆ อ้อ อยากรู้ว่า รถแบบไหนน่า "ลัก" มีลิสต์รายชื่อเป็นหวงว่าวเลย เฮ้อ! ราคา 90 บาท...0
ส่วน HAMBERGER ที่ไม่น่าเกี่ยวไรกับรถ แต่ทำไมหนุ่มเป้ ถึงมายืน "เสลอร์" คู่กับสปอร์ตเขียวได้ เฮ้อ ถูกปล้นอีกแล้ว ดีที่เนื้อในยังพอมีเรื่องน่าอ่านอยู่บ้าง ราคา 80 บาท...0
ข่าวที่เกี่ยวข้องกูเกิลข่าวไทยคมเลนส์ส่องพระประจำวันอาทิตย์ที่31ม.ค.53ไกด์มือถือ..บริการนำเที่ยวทั่วไทยแชะ แชะ แชะประจำวันอาทิตย์ที่31มกราคมรับผิดชอบสังคมหัวใจนิเทศมมส.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ในปีที่ผ่านมาคุณประทับใจศิลปินคนไหนมากที่สุด
ในปีที่ผ่านมาคุณประทับใจศิลปินคนไหนมากที่สุด
คมชัดลึก : ถึงจะมีศิลปินเกิดขึ้นมาทุกวัน แต่เชื่อเถอะ หลายคนจะรักแล้วรักเลย อย่างไรรักชอบศิลปินคนไหน ก็ขอให้อยู่ในดวงใจไปตลอดกาล...ไปดูกันดีกว่าว่าศิลปินในดวงใจของน้องๆ เขามีใครกันบ้างงง...
1.กิติยา ศรีห่าน อายุ 23 ปี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ "ป๊อด โมเดิร์นด็อก" ขวัญใจเหมือนกัน
2.ธนกร สมมิตร อายุ 23 ปี มหาวิทยาลัยวไลอลงกรณ์ "โซคูล, ไอน้ำ" นี่ก็สุดๆ เหมือนกัน
3.ปาริฉัตร เผื่อแผ่ อายุ 18 ปี โรงเรียนสายปัญญา "แดน" วรเวช หล่อโดนใจดิ
4.วรพงษ์ กวีนันทชัย อายุ 25 ปี มหาวิทยาลัยรังสิต "นภ พรชำนิ" เขานี่แหละขวัญใจสาวตัวจริง
5.วรัญญา คุ้มมณฑล อายุ 21 ปี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ "แทททู คัลเลอร์" นี่ก็โดน...
6.สุอัมพา เกตปรีชาสวัสดิ์ อายุ 19 ปี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา "EXILE" ชอบๆ ชอบอ่ะ
โห...แต่ละคนนี่แนวแบบสุดๆ เห็นแล้วต้องยอมรับประเภทรักแล้วรักเลยจริงๆ เอาเป็นว่ารักใครชอบใคร ก็เชียร์กันไปแล้วกันนะครับ ว่าแล้วก็ไปเชียร์ของตัวเองบ้างดีกว่า เย้ๆ...
ข่าวที่เกี่ยวข้องสวัสดีซีซั่น...สปริง-ซัมเมอร์ 2010ศิลปกรรม...ในวัดพระแก้ววังหน้าโซนรักสัตว์ประจำวันที่31ม.ค. พิมพา จันทพิมพะนักแปลวัย97รับรางวัลนราธิปไก่ โพธิ์ทองทั้งเก่งทั้งเฮง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : ถึงจะมีศิลปินเกิดขึ้นมาทุกวัน แต่เชื่อเถอะ หลายคนจะรักแล้วรักเลย อย่างไรรักชอบศิลปินคนไหน ก็ขอให้อยู่ในดวงใจไปตลอดกาล...ไปดูกันดีกว่าว่าศิลปินในดวงใจของน้องๆ เขามีใครกันบ้างงง...
1.กิติยา ศรีห่าน อายุ 23 ปี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ "ป๊อด โมเดิร์นด็อก" ขวัญใจเหมือนกัน
2.ธนกร สมมิตร อายุ 23 ปี มหาวิทยาลัยวไลอลงกรณ์ "โซคูล, ไอน้ำ" นี่ก็สุดๆ เหมือนกัน
3.ปาริฉัตร เผื่อแผ่ อายุ 18 ปี โรงเรียนสายปัญญา "แดน" วรเวช หล่อโดนใจดิ
4.วรพงษ์ กวีนันทชัย อายุ 25 ปี มหาวิทยาลัยรังสิต "นภ พรชำนิ" เขานี่แหละขวัญใจสาวตัวจริง
5.วรัญญา คุ้มมณฑล อายุ 21 ปี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ "แทททู คัลเลอร์" นี่ก็โดน...
6.สุอัมพา เกตปรีชาสวัสดิ์ อายุ 19 ปี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา "EXILE" ชอบๆ ชอบอ่ะ
โห...แต่ละคนนี่แนวแบบสุดๆ เห็นแล้วต้องยอมรับประเภทรักแล้วรักเลยจริงๆ เอาเป็นว่ารักใครชอบใคร ก็เชียร์กันไปแล้วกันนะครับ ว่าแล้วก็ไปเชียร์ของตัวเองบ้างดีกว่า เย้ๆ...
ข่าวที่เกี่ยวข้องสวัสดีซีซั่น...สปริง-ซัมเมอร์ 2010ศิลปกรรม...ในวัดพระแก้ววังหน้าโซนรักสัตว์ประจำวันที่31ม.ค. พิมพา จันทพิมพะนักแปลวัย97รับรางวัลนราธิปไก่ โพธิ์ทองทั้งเก่งทั้งเฮง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ลองของใหม่ประจำวันที่31ม.ค.
ลองของใหม่ประจำวันที่31ม.ค.
คมชัดลึก :** ให้ริมฝีปากอิ่มเอิมตลอดเวลา เอต์ตูเซ่ส์เผยโฉมลิปเอสเซ้นต์ ผลิตภัณฑ์บำรุงฝีปากชนิดเนื้อที่มีมอยซ์เจอไรเซอร์สูงให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้นปกป้องรังสียูวีด้วยค่า เอสพีเอฟ 18 พีเอ++ และ ลิปเอสเซ้นต์ สติก ชนิดแท่งที่เพิ่มประกายมุกให้ริมฝีปากดูแวววาว และชมพูระเรื่อแบบธรรมชาติ
** อาวียองซ์เพอร์เฟคติ้ง - เอฟเฟค ดีฟ เคล็นซิ่ง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ให้การดูแลผิวอย่างสะอาดล้ำลึกและอ่อนโยนกับผิว ไม่ว่าจะเคล็นซิ่งสูตรน้ำมันธรรมชาติ เมคอัพ รีมูฟ สำหรับผิวรอบดวงตาและริมฝีปาก สครับสำหรับผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ
** สาวๆ ที่มีปัญหาสิวไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเมื่อเจอกับ ฟิโลโซฟีออน อะ เคลียร์ เดย์ ออย-ฟรี มอยซ์เจอไรเซอร์ เจลเนื้อเบาบางชนิดออย-ฟรีที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและให้ความกระจ่างใสแก่ผิวหน้า และเจลแต้มสิวที่ช่วยต่อต้านแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิวและริ้วรอย
** ริ้วรอยรอบดวงตาจะหายไปเมื่อได้เจอกับ ไทม์โซน แอนตี้-ไลน์/ริงเคิล อาย ครีม จาก เอสเต ลอเดอร์ ที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างชัดเจนเสมือนได้ย้อนวัยสู่ผิวอ่อนเยาว์เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
** สาวๆ ที่กลุ้มใจหน้าอกศูนย์วิจัยของ ทาลิก้า แนะนำ บูสท์เซรั่ม ผลิตภัณฑ์ที่จะมอบความกระชับ เต่งตึง และขนาดของทรวงอกให้เพิ่มขึ้น แบบนี้สาวอกเล็กก็หายห่วงแล้วล่ะสิ
** โจมาโลน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ชุดวิตามินอีมีส่วนผสมของอะโวคาโด น้ำมันจมูกข้าว น้ำมันสวีท อัลมอนด์ และ น้ำมันเมล็ดแอปริคอท ที่สำคัญวิตามินอีนี้มีสารสกัดจากดอกดาวเรืองอีกด้วย โดยชุดนี้มีทั้งวิตามินอี เจล วิตามินอี นูริสชิง แฮนด์ ครีม และ ลิป คอนดิชั่นเนอร์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :** ให้ริมฝีปากอิ่มเอิมตลอดเวลา เอต์ตูเซ่ส์เผยโฉมลิปเอสเซ้นต์ ผลิตภัณฑ์บำรุงฝีปากชนิดเนื้อที่มีมอยซ์เจอไรเซอร์สูงให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้นปกป้องรังสียูวีด้วยค่า เอสพีเอฟ 18 พีเอ++ และ ลิปเอสเซ้นต์ สติก ชนิดแท่งที่เพิ่มประกายมุกให้ริมฝีปากดูแวววาว และชมพูระเรื่อแบบธรรมชาติ
** อาวียองซ์เพอร์เฟคติ้ง - เอฟเฟค ดีฟ เคล็นซิ่ง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ให้การดูแลผิวอย่างสะอาดล้ำลึกและอ่อนโยนกับผิว ไม่ว่าจะเคล็นซิ่งสูตรน้ำมันธรรมชาติ เมคอัพ รีมูฟ สำหรับผิวรอบดวงตาและริมฝีปาก สครับสำหรับผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ
** สาวๆ ที่มีปัญหาสิวไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเมื่อเจอกับ ฟิโลโซฟีออน อะ เคลียร์ เดย์ ออย-ฟรี มอยซ์เจอไรเซอร์ เจลเนื้อเบาบางชนิดออย-ฟรีที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและให้ความกระจ่างใสแก่ผิวหน้า และเจลแต้มสิวที่ช่วยต่อต้านแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิวและริ้วรอย
** ริ้วรอยรอบดวงตาจะหายไปเมื่อได้เจอกับ ไทม์โซน แอนตี้-ไลน์/ริงเคิล อาย ครีม จาก เอสเต ลอเดอร์ ที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างชัดเจนเสมือนได้ย้อนวัยสู่ผิวอ่อนเยาว์เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
** สาวๆ ที่กลุ้มใจหน้าอกศูนย์วิจัยของ ทาลิก้า แนะนำ บูสท์เซรั่ม ผลิตภัณฑ์ที่จะมอบความกระชับ เต่งตึง และขนาดของทรวงอกให้เพิ่มขึ้น แบบนี้สาวอกเล็กก็หายห่วงแล้วล่ะสิ
** โจมาโลน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ชุดวิตามินอีมีส่วนผสมของอะโวคาโด น้ำมันจมูกข้าว น้ำมันสวีท อัลมอนด์ และ น้ำมันเมล็ดแอปริคอท ที่สำคัญวิตามินอีนี้มีสารสกัดจากดอกดาวเรืองอีกด้วย โดยชุดนี้มีทั้งวิตามินอี เจล วิตามินอี นูริสชิง แฮนด์ ครีม และ ลิป คอนดิชั่นเนอร์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ทานตะวันบานที่เขื่อนป่าสัก
ทานตะวันบานที่เขื่อนป่าสัก
ทุ่งทานตะวันความงามของทุ่งทานตะวันลพบุรี สระบุรี ทำให้ผู้คนหลั่ง ไหลมาชมความงามตามธรรมชาติอย่าง ล้นหลาม นอกจากทุ่งทานตะวันยังได้ไปชมทะเลสาบที่เขื่อนป่าสักอันกว้างใหญ่ เหมือน ยกทะเลมาไว้ท่ามกลางท้องทุ่งสวยงามสุดที่จะพรรณนา...ทุกปีทานตะวันจะบานสะพรั่งแถวเขื่อนป่าสักในตอนปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนต่อเดือนธันวาคม ทั่วท้องทุ่งจะเต็มไปด้วยสีเหลืองสดไปจนถึงภูเขาสีหม่นที่อยู่สุดสายตาป้ายชื่อเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์์ ผู้เขียนกับ คุณยงยุทธ (ยี่) กิจวัฒนานุสนธ์ เลือกซื้อปลาที่ตลาดปลาความงามของทุ่งทานตะวันลพบุรี สระบุรี ทำให้ผู้คนหลั่ง ไหลมาชมความงามตามธรรมชาติอย่าง ล้นหลาม นอกจากทุ่งทานตะวันยังได้ไปชมทะเลสาบที่เขื่อนป่าสักอันกว้างใหญ่ เหมือน ยกทะเลมาไว้ท่ามกลางท้องทุ่งสวยงามสุดที่จะพรรณนา ถ่ายกับคุณนพพร ชัยพิชิต ผอ.สำนัก ชลประทานที่ 10 ในบ้านพักรับรอง ผมเป็นคนหนึ่งที่จะต้องไปชมทานตะวันที่เขื่อนป่าสักทุกๆปี เมื่อเขื่อนป่าสักสร้างสำเร็จมีทางรถไฟเลียบเขื่อน บางตอนมีระดับเดียวกับผืนน้ำมองไกลๆเหมือนขบวนรถไฟวิ่งอยู่บนผิวน้ำ เป็นภาพที่งดงามจนจำได้ไม่มีวันลืมทานตะวันบานปีนี้ผมไม่มีโอกาสไป ชมเพราะตัวเองไปชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ที่ญี่ปุ่น กลับมาเมื่อทานตะวันร่วงโรยไปเสียแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะทานตะวันจะบานทุกปี คอยปีหน้าฟ้าใหม่ก็ได้ ทิวทัศน์บริเวณสันเขื่อน มองจากหอเฉลิมพระเกียรติ แต่ยังไม่ถึงปีหน้าผมก็ได้ไปเขื่อนป่าสักมาแล้ว คราวนี้ไปถ่ายรายการครอบจักรวาล เรื่อง ตลาดปลา ที่ ท่าหลวง ติดต่อกับเขื่อนป่าสัก ซึ่งมีกุ้ง ปลา จากเขื่อนป่าสักมาจำหน่ายทุกวัน ล้วนแต่สดๆ เพิ่งขึ้นจากน้ำ ส่วนกุ้งก้าม กรามจะขังไว้ในบ่อให้ มาซื้อไปตั้งแต่ยังเป็นๆเขื่อนป่าสักทุกวันนี้มีผู้ไปชมถึงล้านคน ทุกปี เป็นแหล่งพักผ่อนท่องเที่ยวที่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ นัก ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสองชั่วโมง ดังนั้นในวันหยุดสุดสัปดาห์จะคึกคักมากที่สุด ไปสัมผัสบรรยากาศทะเลสาบน้ำจืดที่กว้างใหญ่ เหมือนอยู่ริมทะเล ขึ้นหอสูงที่ทางจังหวัดจัดสร้างไว้ให้ขึ้นไปชมทัศนียภาพรอบเขื่อนด้วยสายตา ของนก กินอาหารอร่อยที่ร้านสวัสดิการเขื่อนป่าสัก แวะซื้อปลาร้า ปลาสด กุ้งสด ปลาตะเพียนตากแห้ง ปลาเล็กปลาน้อยกลับไปกินที่บ้านเหมือนไปจ่ายตลาดกลางแจ้งที่แสนสบาย หอเฉลิมพระเกียรติ ในบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ท่านจะหาความสุขด้วยการไปเที่ยวเขื่อนป่าสักได้ในวันเดียว จะไปวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ก็ได้ ถ้าอยากจะค้างอ้างแรม ก็มีบ้านพักในเขื่อนหลายหลังซึ่งทางสำนักงานชลประทานที่ 10 เป็นผู้ดูแลและให้บริการน่าเสียดายที่บ้านพักหลายหลังนี้มีผู้จองเต็มในวันหยุด ถ้าท่านวางแผนจะไปนอนเขื่อนจะต้องจองล่วงหน้านานๆเล่า เรื่องเขื่อนป่าสักมาเป็นเวลานานยังไม่ ได้กล่าวถึงที่มาของเขื่อนป่าสักเลย จึงขออนุญาตนำเรื่องราวของเขื่อนป่าสักมาประดับความรู้แก่ท่านทั้งหลายเลย จึงขอปวารณาตัวเป็นผู้แนะนำเขื่อนป่าสักถึงที่มาแห่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ณ บัดนี้ ปลาแม่น้ำมีทั้งสดๆ และแดดเดียว เช่น ปลาบึก ปลาเนื้ออ่อน ปลาตะเพียน ปลารากกล้วย เชิงปลากราย ปลาคัง ปลาตะโกก และกุ้งก้ามกราม เขื่อนป่าสัก เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานมาให้กรมชลประทานศึกษาการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำและบรรเทา อุทกภัยในพื้นที่เขตลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง กรุงเทพฯ และปริมณฑล พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ นั่นเอง ทางกรม ชลประทานจึงดำเนินการสร้างเขื่อนป่าสักเป็นแก้มลิงขนาดใหญ่เก็บน้ำไว้ไม่ให้ ท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งต้องใช้เงินเป็นจำนวนมหาศาลโครงการนี้ได้รับการ วิพากษ์วิจารณ์ว่าสร้างแล้วจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ไม่ได้ แต่โครงการตามพระราชดำริก็ดำเนินการสร้างต่อไปเป็นเวลาเกือบ 5 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์เมื่อ 30 กันยายน 2542หลังจากเขื่อนสร้างเสร็จ เก็บกักน้ำบรรเทาน้ำท่วมกรุงเทพฯ แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการตามพระราชดำริ ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ก็เงียบเป็นปลิดทิ้ง เพราะเขื่อนป่าสักแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริงผมขอนำท่านลุยตัวเลขสักหน่อย ไม่ต้องละเอียดนักเพื่อท่านจะ ได้ไม่เวียนหัว ภายในตลาดปลาท่าหลวง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นห้าพันไร่ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดลพบุรีและสระบุรี มีความจุของอ่างเก็บน้ำ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเท่ากับ 48,000 ล้านปี๊บ (หนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่ากับน้ำ 50 ปี๊บ) เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่กว้าง ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง เป็นอ่างเก็บน้ำและสถานที่ ท่องเที่ยวที่สวยงาม ตลอดจนการทำมาหากินของชาวบ้านที่อยู่บริเวณเขื่อน ซึ่งทุกคนกลายเป็นชาวประมงน้ำจืด จับกุ้ง จับปลา ที่ทางการนำมาปล่อยไว้เมื่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำไว้จนเป็นทะเลสาบให้กุ้ง ปลาหลายชนิดได้แพร่พันธุ์ เติบโต จนมีจำนวนมากพอที่จะจับมาจำหน่ายได้ทุกวันกุ้ง ปลาในเขื่อนนั้น มีกุ้งก้ามกรามซึ่งมีขนาดเฉลี่ย 4-5 ตัวต่อหนึ่งกิโล ขายกันในราคากิโลละ 600 ถึง 650 บาท ถูกกว่ากุ้งแม่น้ำซึ่งมีราคาถึง 800-900 บาทและหายากเข้าทุกทีปลาสดมีปลาใหญ่อย่างปลาบึกที่เป็นปลา แม่น้ำโขงแต่ก็เติบโตดี มีขนาดใหญ่ถึงตัวละ 200 กิโลเศษ ปลาคังตัวใหญ่หนังหนาเนื้ออร่อย โตขนาดหลายกิโล (แล่เอาเนื้อติดหนังลวกจิ้มน้ำจิ้มแซบ) หรือจะทำแกงส้มหน่อไม้ดองแบบลาวพวนอร่อยจนฝันถึงทีเดียว รถพ่วงชมสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ผมไปเขื่อนป่าสักคราวที่แล้วมีโอกาสได้ไปตลาดปลาท่าหลวง เขตอำเภอชัยบาดาล ซึ่งตลาดนี้อยู่ริมเขื่อนป่าสัก มีปลาสด ปลาแห้ง ปลาร้าจากเขื่อนจำหน่ายในตลาดแห่งนี้การไปตลาดท่าหลวงนั้นจะไปทาง ถนนสระบุรี-ลพบุรี หรือจากลพบุรี เมื่อถึงสี่แยกม่วงค่อมตรงไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงตลาดปลาท่าหลวงที่สะอาดสะอ้าน มีปลาต่างๆให้เลือกซื้อในราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ วันที่ผมไปตลาด ท่าหลวงตั้งใจจะซื้อกุ้งก้าม กรามมาเผากินกับน้ำปลาหวาน สะเดา แต่มีคนจองกุ้งไว้หมดแล้ว ทางแม่ค้าเห็นใจที่มาไกลเลยแบ่งให้ 2 กิโล ได้กินกุ้งเผาน้ำปลาหวานสะเดาสมปรารถนา ร้านขายของที่ระลึก เรื่องนี้ต้องขอเตือนท่านที่จะไปซื้อกุ้งที่ตลาดท่าหลวงต้องทำใจไว้ก่อน ถ้าท่านไม่มีพรรคพวกที่จองกุ้งไว้ก่อน ท่านอาจจะผิดหวังก็ได้วัน นั้นนอกจากจะซื้อกุ้งก้ามกรามมาแล้ว ผมยังได้ซื้อปลาตากแห้งมาหลายอย่าง ปลาซิวตัวเล็กๆ ปลาตะเพียนตัวเล็กๆ 3 ถาดร้อย ปลาร้าปลาช่อนทั้งตัวเอามาทอดไฟอ่อนจนสุก ซอยหอม พริกขี้หนู บีบมะนาว คลุกกับข้าวสวย มันอร่อยในปากจนเห็นสวรรค์รำไรจะบอกให้ที่เล่ามานี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในวันหยุดที่อยากให้ท่านได้ไปเที่ยว รับรองว่าจะติดใจต้องไปบ่อยๆ อย่างแน่นอน. ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ทุ่งทานตะวันความงามของทุ่งทานตะวันลพบุรี สระบุรี ทำให้ผู้คนหลั่ง ไหลมาชมความงามตามธรรมชาติอย่าง ล้นหลาม นอกจากทุ่งทานตะวันยังได้ไปชมทะเลสาบที่เขื่อนป่าสักอันกว้างใหญ่ เหมือน ยกทะเลมาไว้ท่ามกลางท้องทุ่งสวยงามสุดที่จะพรรณนา...ทุกปีทานตะวันจะบานสะพรั่งแถวเขื่อนป่าสักในตอนปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนต่อเดือนธันวาคม ทั่วท้องทุ่งจะเต็มไปด้วยสีเหลืองสดไปจนถึงภูเขาสีหม่นที่อยู่สุดสายตาป้ายชื่อเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์์ ผู้เขียนกับ คุณยงยุทธ (ยี่) กิจวัฒนานุสนธ์ เลือกซื้อปลาที่ตลาดปลาความงามของทุ่งทานตะวันลพบุรี สระบุรี ทำให้ผู้คนหลั่ง ไหลมาชมความงามตามธรรมชาติอย่าง ล้นหลาม นอกจากทุ่งทานตะวันยังได้ไปชมทะเลสาบที่เขื่อนป่าสักอันกว้างใหญ่ เหมือน ยกทะเลมาไว้ท่ามกลางท้องทุ่งสวยงามสุดที่จะพรรณนา ถ่ายกับคุณนพพร ชัยพิชิต ผอ.สำนัก ชลประทานที่ 10 ในบ้านพักรับรอง ผมเป็นคนหนึ่งที่จะต้องไปชมทานตะวันที่เขื่อนป่าสักทุกๆปี เมื่อเขื่อนป่าสักสร้างสำเร็จมีทางรถไฟเลียบเขื่อน บางตอนมีระดับเดียวกับผืนน้ำมองไกลๆเหมือนขบวนรถไฟวิ่งอยู่บนผิวน้ำ เป็นภาพที่งดงามจนจำได้ไม่มีวันลืมทานตะวันบานปีนี้ผมไม่มีโอกาสไป ชมเพราะตัวเองไปชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ที่ญี่ปุ่น กลับมาเมื่อทานตะวันร่วงโรยไปเสียแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะทานตะวันจะบานทุกปี คอยปีหน้าฟ้าใหม่ก็ได้ ทิวทัศน์บริเวณสันเขื่อน มองจากหอเฉลิมพระเกียรติ แต่ยังไม่ถึงปีหน้าผมก็ได้ไปเขื่อนป่าสักมาแล้ว คราวนี้ไปถ่ายรายการครอบจักรวาล เรื่อง ตลาดปลา ที่ ท่าหลวง ติดต่อกับเขื่อนป่าสัก ซึ่งมีกุ้ง ปลา จากเขื่อนป่าสักมาจำหน่ายทุกวัน ล้วนแต่สดๆ เพิ่งขึ้นจากน้ำ ส่วนกุ้งก้าม กรามจะขังไว้ในบ่อให้ มาซื้อไปตั้งแต่ยังเป็นๆเขื่อนป่าสักทุกวันนี้มีผู้ไปชมถึงล้านคน ทุกปี เป็นแหล่งพักผ่อนท่องเที่ยวที่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ นัก ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสองชั่วโมง ดังนั้นในวันหยุดสุดสัปดาห์จะคึกคักมากที่สุด ไปสัมผัสบรรยากาศทะเลสาบน้ำจืดที่กว้างใหญ่ เหมือนอยู่ริมทะเล ขึ้นหอสูงที่ทางจังหวัดจัดสร้างไว้ให้ขึ้นไปชมทัศนียภาพรอบเขื่อนด้วยสายตา ของนก กินอาหารอร่อยที่ร้านสวัสดิการเขื่อนป่าสัก แวะซื้อปลาร้า ปลาสด กุ้งสด ปลาตะเพียนตากแห้ง ปลาเล็กปลาน้อยกลับไปกินที่บ้านเหมือนไปจ่ายตลาดกลางแจ้งที่แสนสบาย หอเฉลิมพระเกียรติ ในบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ท่านจะหาความสุขด้วยการไปเที่ยวเขื่อนป่าสักได้ในวันเดียว จะไปวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ก็ได้ ถ้าอยากจะค้างอ้างแรม ก็มีบ้านพักในเขื่อนหลายหลังซึ่งทางสำนักงานชลประทานที่ 10 เป็นผู้ดูแลและให้บริการน่าเสียดายที่บ้านพักหลายหลังนี้มีผู้จองเต็มในวันหยุด ถ้าท่านวางแผนจะไปนอนเขื่อนจะต้องจองล่วงหน้านานๆเล่า เรื่องเขื่อนป่าสักมาเป็นเวลานานยังไม่ ได้กล่าวถึงที่มาของเขื่อนป่าสักเลย จึงขออนุญาตนำเรื่องราวของเขื่อนป่าสักมาประดับความรู้แก่ท่านทั้งหลายเลย จึงขอปวารณาตัวเป็นผู้แนะนำเขื่อนป่าสักถึงที่มาแห่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ณ บัดนี้ ปลาแม่น้ำมีทั้งสดๆ และแดดเดียว เช่น ปลาบึก ปลาเนื้ออ่อน ปลาตะเพียน ปลารากกล้วย เชิงปลากราย ปลาคัง ปลาตะโกก และกุ้งก้ามกราม เขื่อนป่าสัก เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานมาให้กรมชลประทานศึกษาการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำและบรรเทา อุทกภัยในพื้นที่เขตลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง กรุงเทพฯ และปริมณฑล พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ นั่นเอง ทางกรม ชลประทานจึงดำเนินการสร้างเขื่อนป่าสักเป็นแก้มลิงขนาดใหญ่เก็บน้ำไว้ไม่ให้ ท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งต้องใช้เงินเป็นจำนวนมหาศาลโครงการนี้ได้รับการ วิพากษ์วิจารณ์ว่าสร้างแล้วจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ไม่ได้ แต่โครงการตามพระราชดำริก็ดำเนินการสร้างต่อไปเป็นเวลาเกือบ 5 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์เมื่อ 30 กันยายน 2542หลังจากเขื่อนสร้างเสร็จ เก็บกักน้ำบรรเทาน้ำท่วมกรุงเทพฯ แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการตามพระราชดำริ ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ก็เงียบเป็นปลิดทิ้ง เพราะเขื่อนป่าสักแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริงผมขอนำท่านลุยตัวเลขสักหน่อย ไม่ต้องละเอียดนักเพื่อท่านจะ ได้ไม่เวียนหัว ภายในตลาดปลาท่าหลวง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นห้าพันไร่ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดลพบุรีและสระบุรี มีความจุของอ่างเก็บน้ำ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเท่ากับ 48,000 ล้านปี๊บ (หนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่ากับน้ำ 50 ปี๊บ) เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่กว้าง ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง เป็นอ่างเก็บน้ำและสถานที่ ท่องเที่ยวที่สวยงาม ตลอดจนการทำมาหากินของชาวบ้านที่อยู่บริเวณเขื่อน ซึ่งทุกคนกลายเป็นชาวประมงน้ำจืด จับกุ้ง จับปลา ที่ทางการนำมาปล่อยไว้เมื่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำไว้จนเป็นทะเลสาบให้กุ้ง ปลาหลายชนิดได้แพร่พันธุ์ เติบโต จนมีจำนวนมากพอที่จะจับมาจำหน่ายได้ทุกวันกุ้ง ปลาในเขื่อนนั้น มีกุ้งก้ามกรามซึ่งมีขนาดเฉลี่ย 4-5 ตัวต่อหนึ่งกิโล ขายกันในราคากิโลละ 600 ถึง 650 บาท ถูกกว่ากุ้งแม่น้ำซึ่งมีราคาถึง 800-900 บาทและหายากเข้าทุกทีปลาสดมีปลาใหญ่อย่างปลาบึกที่เป็นปลา แม่น้ำโขงแต่ก็เติบโตดี มีขนาดใหญ่ถึงตัวละ 200 กิโลเศษ ปลาคังตัวใหญ่หนังหนาเนื้ออร่อย โตขนาดหลายกิโล (แล่เอาเนื้อติดหนังลวกจิ้มน้ำจิ้มแซบ) หรือจะทำแกงส้มหน่อไม้ดองแบบลาวพวนอร่อยจนฝันถึงทีเดียว รถพ่วงชมสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ผมไปเขื่อนป่าสักคราวที่แล้วมีโอกาสได้ไปตลาดปลาท่าหลวง เขตอำเภอชัยบาดาล ซึ่งตลาดนี้อยู่ริมเขื่อนป่าสัก มีปลาสด ปลาแห้ง ปลาร้าจากเขื่อนจำหน่ายในตลาดแห่งนี้การไปตลาดท่าหลวงนั้นจะไปทาง ถนนสระบุรี-ลพบุรี หรือจากลพบุรี เมื่อถึงสี่แยกม่วงค่อมตรงไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงตลาดปลาท่าหลวงที่สะอาดสะอ้าน มีปลาต่างๆให้เลือกซื้อในราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ วันที่ผมไปตลาด ท่าหลวงตั้งใจจะซื้อกุ้งก้าม กรามมาเผากินกับน้ำปลาหวาน สะเดา แต่มีคนจองกุ้งไว้หมดแล้ว ทางแม่ค้าเห็นใจที่มาไกลเลยแบ่งให้ 2 กิโล ได้กินกุ้งเผาน้ำปลาหวานสะเดาสมปรารถนา ร้านขายของที่ระลึก เรื่องนี้ต้องขอเตือนท่านที่จะไปซื้อกุ้งที่ตลาดท่าหลวงต้องทำใจไว้ก่อน ถ้าท่านไม่มีพรรคพวกที่จองกุ้งไว้ก่อน ท่านอาจจะผิดหวังก็ได้วัน นั้นนอกจากจะซื้อกุ้งก้ามกรามมาแล้ว ผมยังได้ซื้อปลาตากแห้งมาหลายอย่าง ปลาซิวตัวเล็กๆ ปลาตะเพียนตัวเล็กๆ 3 ถาดร้อย ปลาร้าปลาช่อนทั้งตัวเอามาทอดไฟอ่อนจนสุก ซอยหอม พริกขี้หนู บีบมะนาว คลุกกับข้าวสวย มันอร่อยในปากจนเห็นสวรรค์รำไรจะบอกให้ที่เล่ามานี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในวันหยุดที่อยากให้ท่านได้ไปเที่ยว รับรองว่าจะติดใจต้องไปบ่อยๆ อย่างแน่นอน. ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เบนซ์ทองหล่อซ็อกตลาดรถหรู แจกเมมเบอร์เรียนกอล์ฟมูลค่านับแสน
เบนซ์ทองหล่อซ็อกตลาดรถหรู แจกเมมเบอร์เรียนกอล์ฟมูลค่านับแสน
บิ๊ก วสันต์ โพธิพิมพานนท์ ประธานเบนซ์ทองหล่อกรุ๊ป ได้เรียกเสียงกรี๊ดสลบ จัดแคมเปญแจกเมมเบอร์เรียนกอล์ฟฟรี 1 ปี มูลค่าถึง 130,000 บาท...เพื่อรับกับกระแสกีฬากอล์ฟที่กำลังบูมสนั่น และเพื่อจับกลุ่มนักกอล์ฟให้แห่มาซื้อรถเบนซ์ที่เบนซ์ทองหล่อให้บะละฮึ่มบิ๊ก วสันต์ โพธิพิมพานนท์ ประธานเบนซ์ทองหล่อกรุ๊ป หนึ่งในดีลเลอร์ขาใหญ่ค่ายเมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) ตัวแทนจำหน่ายรถเบนซ์อย่างเป็นทางการ ได้เรียกเสียงกรี๊ดสลบ จัดแคมเปญแจกเมมเบอร์เรียนกอล์ฟฟรี 1 ปี มูลค่าถึง 130,000 บาทตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค.นี้ โดย เบนซ์ทองหล่อ ร่วมกับ ไวล์ดิ้ง กอล์ฟ เพอร์ฟอร์แมนซ์ เซ็นเตอร์ (Wilding Golf Performance Center) ศูนย์ฝึกซ้อมและการเรียนกอล์ฟในร่มแบบครบวงจรและทันสมัย (เตรียมจะเปิดสาขาที่ 3 ในเดือน มี.ค.นี้ ตั้งอยู่หลังโชว์รูมเบนซ์ทองหล่อ โดยมีถึง 22 เบย์ ใหญ่สุดในเอเชีย)ลงทุนสร้างสนามกอล์ฟจำลองสุดทันสมัยชั่วคราวที่โชว์รูมเบนซ์ทองหล่อที่ถนนทองหล่อ ให้ผู้สนใจกีฬากอล์ฟ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าเบนซ์ทองหล่อ และไม่ต้องมาจับจองรถเบนซ์ ได้ลองมาตีกอล์ฟฟรีๆ ที่เบนซ์ทองหล่อหากสามารถตีเพียง 3 ครั้งลงหลุม ก็จะได้เป็นเมมเบอร์เรียนกอล์ฟฟรีถึง 1 ปีที่ไวล์ดิ้ง กอล์ฟ สาขาถนนทองหล่อหรือหากสนใจจับจองรถเบนซ์รุ่นไหนก็ได้ที่เบนซ์ทองหล่อช่วงนี้จะได้รับเมม-เบอร์เรียนกอล์ฟฟรีๆ 1 ปี แต่หากต้องการจะสมัครเป็นสมาชิกเมมเบอร์เรียนกอล์ฟ 1 ปีที่สาขาถนนทองหล่อ ทั้งบิ๊กวสันต์และไวล์ดิ้ง กอล์ฟ ก็ใจดีจัดแคมเปญลดราคาให้เฉพาะช่วงนี้เหลือเพียง 41,999 บาทสำหรับ ไวล์ดิ้ง กอล์ฟ มีจุดเด่นที่ใช้เทคโนโลยี Simulators (เครื่องจำลองภาพสนามเสมือนจริง) จากสนามชั้นนำของโลก รวมทั้งเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนาการตีกอล์ฟ พร้อมทีมโปรมาให้คำแนะนำที่ สำคัญ ช่วงนี้บิ๊กวสันต์ยังปรุงแต่งโชว์รูมให้หรูเฟี้ยวแสดงเบนซ์ อีคลาสใหม่รุ่นประกอบในประเทศ คือ อี 300 อวานการ์ด ซาลูน ราคา 4.999 ล้านบาท และเบนซ์ เอสคลาสใหม่รุ่นประกอบในประเทศขณะเดียวกัน ในฐานะที่เป็นเจ้าพ่อตลาดรถตู้เบนซ์ ยังอวดโฉมเบนซ์ วีโต้ใหม่ ปี 2010 รุ่น Extra Long พร้อมชุดแต่งซุปเปอร์วีไอพีและชุดสปอร์ตให้นักเลงรถหรูตะลึง โดยรูปลักษณ์เพิ่มความกิ๊บเก๋ด้วยชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน ไม่ว่าจะชุดแต่งสเกิร์ตรอบคัน ชุดแต่งสปอยเลอร์ท้ายขอบหลังคาด้านบน ไฟตัดหมอกที่กันชนหน้า และปลายท่อไอเสียสเตนเลสขณะที่เบาะนั่งให้เป็นแบบเฟิร์สคลาสหุ้มหนังแท้ เบาะแถวกลางกว้างใหญ่เลื่อนสไลด์ขึ้น-ลงและที่พักขาด้วยระบบไฟฟ้า ทั้ง ยังมีพาทีชั่นกระจกพร้อมระบบไฟฟ้ากั้นระหว่างคนขับกับห้องโดยสารเพิ่มความ เป็นส่วนตัว และระบบเครื่องเสียงใหม่ พร้อมเครื่องเล่น DVD และจอแอลซีดีขนาดใหญ่ สนนราคา 3.45 ล้านบาทสุดคุ้ม!!!อัลคาโปนmotorwars@thairath.co.th
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
บิ๊ก วสันต์ โพธิพิมพานนท์ ประธานเบนซ์ทองหล่อกรุ๊ป ได้เรียกเสียงกรี๊ดสลบ จัดแคมเปญแจกเมมเบอร์เรียนกอล์ฟฟรี 1 ปี มูลค่าถึง 130,000 บาท...เพื่อรับกับกระแสกีฬากอล์ฟที่กำลังบูมสนั่น และเพื่อจับกลุ่มนักกอล์ฟให้แห่มาซื้อรถเบนซ์ที่เบนซ์ทองหล่อให้บะละฮึ่มบิ๊ก วสันต์ โพธิพิมพานนท์ ประธานเบนซ์ทองหล่อกรุ๊ป หนึ่งในดีลเลอร์ขาใหญ่ค่ายเมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) ตัวแทนจำหน่ายรถเบนซ์อย่างเป็นทางการ ได้เรียกเสียงกรี๊ดสลบ จัดแคมเปญแจกเมมเบอร์เรียนกอล์ฟฟรี 1 ปี มูลค่าถึง 130,000 บาทตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค.นี้ โดย เบนซ์ทองหล่อ ร่วมกับ ไวล์ดิ้ง กอล์ฟ เพอร์ฟอร์แมนซ์ เซ็นเตอร์ (Wilding Golf Performance Center) ศูนย์ฝึกซ้อมและการเรียนกอล์ฟในร่มแบบครบวงจรและทันสมัย (เตรียมจะเปิดสาขาที่ 3 ในเดือน มี.ค.นี้ ตั้งอยู่หลังโชว์รูมเบนซ์ทองหล่อ โดยมีถึง 22 เบย์ ใหญ่สุดในเอเชีย)ลงทุนสร้างสนามกอล์ฟจำลองสุดทันสมัยชั่วคราวที่โชว์รูมเบนซ์ทองหล่อที่ถนนทองหล่อ ให้ผู้สนใจกีฬากอล์ฟ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าเบนซ์ทองหล่อ และไม่ต้องมาจับจองรถเบนซ์ ได้ลองมาตีกอล์ฟฟรีๆ ที่เบนซ์ทองหล่อหากสามารถตีเพียง 3 ครั้งลงหลุม ก็จะได้เป็นเมมเบอร์เรียนกอล์ฟฟรีถึง 1 ปีที่ไวล์ดิ้ง กอล์ฟ สาขาถนนทองหล่อหรือหากสนใจจับจองรถเบนซ์รุ่นไหนก็ได้ที่เบนซ์ทองหล่อช่วงนี้จะได้รับเมม-เบอร์เรียนกอล์ฟฟรีๆ 1 ปี แต่หากต้องการจะสมัครเป็นสมาชิกเมมเบอร์เรียนกอล์ฟ 1 ปีที่สาขาถนนทองหล่อ ทั้งบิ๊กวสันต์และไวล์ดิ้ง กอล์ฟ ก็ใจดีจัดแคมเปญลดราคาให้เฉพาะช่วงนี้เหลือเพียง 41,999 บาทสำหรับ ไวล์ดิ้ง กอล์ฟ มีจุดเด่นที่ใช้เทคโนโลยี Simulators (เครื่องจำลองภาพสนามเสมือนจริง) จากสนามชั้นนำของโลก รวมทั้งเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนาการตีกอล์ฟ พร้อมทีมโปรมาให้คำแนะนำที่ สำคัญ ช่วงนี้บิ๊กวสันต์ยังปรุงแต่งโชว์รูมให้หรูเฟี้ยวแสดงเบนซ์ อีคลาสใหม่รุ่นประกอบในประเทศ คือ อี 300 อวานการ์ด ซาลูน ราคา 4.999 ล้านบาท และเบนซ์ เอสคลาสใหม่รุ่นประกอบในประเทศขณะเดียวกัน ในฐานะที่เป็นเจ้าพ่อตลาดรถตู้เบนซ์ ยังอวดโฉมเบนซ์ วีโต้ใหม่ ปี 2010 รุ่น Extra Long พร้อมชุดแต่งซุปเปอร์วีไอพีและชุดสปอร์ตให้นักเลงรถหรูตะลึง โดยรูปลักษณ์เพิ่มความกิ๊บเก๋ด้วยชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน ไม่ว่าจะชุดแต่งสเกิร์ตรอบคัน ชุดแต่งสปอยเลอร์ท้ายขอบหลังคาด้านบน ไฟตัดหมอกที่กันชนหน้า และปลายท่อไอเสียสเตนเลสขณะที่เบาะนั่งให้เป็นแบบเฟิร์สคลาสหุ้มหนังแท้ เบาะแถวกลางกว้างใหญ่เลื่อนสไลด์ขึ้น-ลงและที่พักขาด้วยระบบไฟฟ้า ทั้ง ยังมีพาทีชั่นกระจกพร้อมระบบไฟฟ้ากั้นระหว่างคนขับกับห้องโดยสารเพิ่มความ เป็นส่วนตัว และระบบเครื่องเสียงใหม่ พร้อมเครื่องเล่น DVD และจอแอลซีดีขนาดใหญ่ สนนราคา 3.45 ล้านบาทสุดคุ้ม!!!อัลคาโปนmotorwars@thairath.co.th
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ลีลาฝ่ามือสะท้านใจ ยำแหนมข้าวทอด พี่อ้อ ศรีย่าน น้ำลายสอแค่รอคิว!!
ลีลาฝ่ามือสะท้านใจ ยำแหนมข้าวทอด พี่อ้อ ศรีย่าน น้ำลายสอแค่รอคิว!!
ยำแหนมจี๊ดจ๊าด..สะท้านใจ ยำแหนมข้าวทอด แบบบ้านๆ ไม่ได้ วิจิตรพิสดารแต่สะอาดสะอ้านน่าโซ้ย รถเข็นจอดอยู่บนฟุตปาท พี่อ้อ คนยำนั่งหันหลังขยำแหนมอย่างเพลิดเพลิน ดูจากลีลาการเคลื่อนไหวของฝ่ามือที่พลิ้วไหว การันตีว่าถึงแม้ไม่มีหน้าร้าน แต่มีความชำนาญระดับมืออาชีพ...ขาหม่ำ ขาโซ้ย ที่เคยขับรถหรือเดินผ่านบริเวณหน้าตลาดศรีย่าน ประมาณปากซอยศรีย่าน 1 ช่วงบ่ายๆ จนถึงเย็นๆ เป็นต้องสะดุดตากับบรรดาขาโซ้ยรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ที่รุมล้อมอยู่รอบรถเข็นคันขนาดกลาง บนรถอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องปรุงของ ยำแหนมข้าวทอด แบบบ้านๆ ไม่ได้ วิจิตรพิสดารแต่สะอาดสะอ้านน่าโซ้ย รถเข็นจอดอยู่บนฟุตปาท ถ้าขับรถผ่านจะเห็นลูกค้า (นั่งบ้างยืนบ้าง) หันหน้าหาถนน ส่วน พี่อ้อ คนยำนั่งหันหลังขยำแหนมอย่างเพลิดเพลิน ดูจากลีลาการเคลื่อนไหวของฝ่ามือที่พลิ้วไหว การันตีว่าถึงแม้ไม่มีหน้า ร้าน แต่มีความชำนาญระดับมืออาชีพก่อนหน้านี้แม่ขายมาก่อน ขายมา 20 ปีแล้วค่ะ เราเพิ่งมาทำได้ 10 ปีหลังนี่เอง ช่วยกันขายกับสามี (พี่โหน่ง) ทุกอย่างเรา ทำกันเองหมด ทั้งตัวแหนมสด ข้าวทอด พริกแห้งทำเอง เคยซื้อของเขามาขาย แต่มันไม่ได้อร่อย ไม่ถูกใจ ก็เลยต้องกลับมาทำเอง มันก็จุกจิกนะ เหนื่อยเหมือนกันตอนเตรียมของ แต่เราก็ต้องทำ เพราะมันอร่อยกว่า ส่วนสูตรนี่ก็ไม่รู้ว่าแม่เขา เอามาจากไหน แต่เขาบอกว่าแอบดูคนข้างบ้านที่อุดรมา เพราะยำแหนมนี่แถวอุดร หนองคายมีเจ้าอร่อยๆ เยอะ พี่อ้อกับพี่โหน่ง สองสามีภรรยาเจียดเวลาจากความวุ่นวายหน้ากะละมังยำแหนมมาบอกเล่าเท้าความ ถึงที่มาที่ไปของความแซบ เจ๊แซบ เป็นหนึ่งในแฟนพันธุ์แท้ของยำแหนมข้าวทอด ไม่ว่าไปโซ้ยที่ไหน เหนือ ใต้ ออก ตก ถ้าเห็นเป็นต้องลอง ของที่ไหนเค้าลือว่าเริ่ด ต้องรีบไปโซ้ย ยำแหนมพี่อ้อ คือหนึ่งในลิสต์ติดโผมาเนิ่นนาน แต่ไม่มีเวลาผ่านไปหม่ำสักที วันนี้เจ๊แซบแอนด์สหาย จึงชักชวนกันไปลองของเด็ดของดีที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น ยืนยันได้จากบัตรคิวอย่างดีที่ติดอยู่หน้ารถเข็น!! ที่เราต้องมี บัตรคิว เพราะตอนเย็นๆคนจะเยอะมากค่ะ จำไม่ได้ว่าใครมาก่อน พี่อ้อติดบัตรคิวไว้ในตำแหน่งที่สะดุดตา ช่างท้าทายสำหรับขาโซ้ยหน้าใหม่ ใครใจไม่ถึงจะได้ไม่ต้องรอให้เสียอารมณ์ แต่ถ้าใครอยากลองของดี ต้องมีความอดทน นอกจากทนรอคิวแล้วยังต้องทนต่อความหิว เพราะกลิ่นของพริกป่น มะนาว และข้าวทอด ช่างหอมกรุ่นกระตุ้นต่อม เจริญอาหารอย่างแรง (ฮา) นอกจากกลิ่นที่ยั่วยวนชวนน้ำลายสอแล้ว รสชาติของยำแหนมพี่อ้อยังจี๊ดจ๊าดโดนใจ เคล็ดลับ ความแซบ อยู่ที่ ความสด โดย เฉพาะ ข้าวทอด และ หนังหมู ต้องทำใหม่ๆทุกเช้ารสชาติถึงจะเร้าใจ ข้าวทอด ของร้านนี้มีความหอมเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจ แค่ยืนใกล้ๆก็ได้กลิ่น พี่อ้อใช้ข้าวหอมมะลิผสมกับข้าวเสาไห้ในอัตราส่วนที่พอเหมาะพอดี เพราะถ้าหอมมะลิมากเกินไปข้าวทอดจะเละ ถ้าเสาไห้มากเกินไปจะทำให้กระด้าง หลังจากหุงข้าวแล้วนำมาคลุกกับพริกแกงและเกลือ ปั้นเป็นก้อนชุบกับแป้งสูตรพิเศษของแม่ จากนั้นนำไปทอดจนเหลือง วางให้สะเด็ดน้ำมัน นำตะเกียบมาจิ้มข้าวทอด 2-3 รู แล้วนำไปทอดอีกรอบให้กรอบกว่าเดิม น้ำมันจะซึมเข้าไปในด้านในทำให้ข้าวไม่เละและไม่อมน้ำมัน นำขึ้นจากกระทะวางทิ้งไว้ให้แห้ง จึงนำมาตำพอหยาบๆ ใส่ถาดพร้อมขาย ลูกค้าขาโซ้ยที่มายืนรอคิวแรกๆจะสัมผัสได้ถึงไออุ่นและกลิ่นที่หอมกรุ่น ยั่วยวนชวนน้ำลายไหล ใครอยากรู้ว่าหอมแค่ไหน ต้องรีบไปลอง (ดม) ด้วยตัวเอง (หุหุ)ตัวแหนมของพี่อ้อไม่ใช่แหนมเปรี้ยวจากโรงงาน แต่คุณพี่ใช้หนังหมู และหมูรวนมาทำเป็นแหนมสด รสเปรี้ยวที่ได้มาจากนํ้ามะนาว อย่างดีที่คั้นสดๆทุกวัน พี่อ้อจะเลือกใช้หนังหมูแผ่นทั้งแผ่น คัดแบบสดใหม่ไม่มีเมือก นำมาล้าง ถอนขน ทำความสะอาด แล้วต้มให้เด้งดึ๋ง ซอยเป็นเส้นๆ ใส่ลงไปในเนื้อหมูล้วนๆบดหยาบๆที่ผ่านการรวนและปรุงรสด้วยเกลือกับกระเทียม จนสุก หลังจากนั้นต้องรีบเข้าช่องแช่แข็งทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วนำออกจากตู้เย็นใส่กะละมังเตรียมพร้อมรอยำ พี่โหน่งกับพี่อ้อ นอกจากตัวแหนมสดและข้าวทอดที่สุดยอดพิถีพิถันแล้ว เครื่องปรุงรายล้อมก็ไม่ยอมน้อยหน้า ไม่ว่าจะเป็นพริกแห้งที่ทอดเอง พริกป่นก็คั่วเอง น้ำมะนาว น้ำปลา ใช้แต่ ของดี ไม่มีชุ่ย รวมกับลีลาการยำที่ขยำด้วยความชำนาญทำให้ยำแหนมข้าวทอดของพี่อ้อตระหง่าน อยู่ในวงการอย่างหนักแน่น แฟนๆเต็มใจยืนรอขอให้ได้หม่ำ ใครที่อยากลองของเด็ดของดีที่ไม่มีหน้าร้าน แต่มีประสบการณ์และลีลาการันตีความอร่อย ให้รีบมารอพี่อ้อและพี่โหน่งได้ที่หน้าตลาดศรีย่านรถเข็นจะจอดอยู่ใกล้ๆศรี ย่านซอย 1 ถ้ามาจากราชวัตรจะเห็นพี่อ้อนั่งหันหลังอยู่ทางซ้ายมือ โทร.มาสั่งล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 08-4926 -0178 และ 08-4944-1770 พี่ๆทั้งสองรับสั่ง แต่ไม่รับส่ง กรุณามารับด้วยตัวเอง เริ่ม บริการความแซบตั้งแต่เวลาบ่ายสองถึงสี่โมงครึ่ง หลังจากนั้นจะเปลี่ยนมือยำเป็นครอบครัวน้องของคุณพี่อ้อเริ่มขยำตั้งแต่ 5 โมงครึ่ง จนถึงของหมด! ก่อนจบก่อนจาก...เจ๊แซบ แอบสารภาพว่าระหว่างที่กำลังเขียนต้นฉบับ ต้องคอยซับน้ำลายที่เอ่อไหลบริเวณมุมปากเพราะอยากหม่ำ เป็นการทำงานที่สุดแสนทรมานใจ!!! (ฮา) เจ๊แซบ หัวเขียว
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ยำแหนมจี๊ดจ๊าด..สะท้านใจ ยำแหนมข้าวทอด แบบบ้านๆ ไม่ได้ วิจิตรพิสดารแต่สะอาดสะอ้านน่าโซ้ย รถเข็นจอดอยู่บนฟุตปาท พี่อ้อ คนยำนั่งหันหลังขยำแหนมอย่างเพลิดเพลิน ดูจากลีลาการเคลื่อนไหวของฝ่ามือที่พลิ้วไหว การันตีว่าถึงแม้ไม่มีหน้าร้าน แต่มีความชำนาญระดับมืออาชีพ...ขาหม่ำ ขาโซ้ย ที่เคยขับรถหรือเดินผ่านบริเวณหน้าตลาดศรีย่าน ประมาณปากซอยศรีย่าน 1 ช่วงบ่ายๆ จนถึงเย็นๆ เป็นต้องสะดุดตากับบรรดาขาโซ้ยรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ที่รุมล้อมอยู่รอบรถเข็นคันขนาดกลาง บนรถอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องปรุงของ ยำแหนมข้าวทอด แบบบ้านๆ ไม่ได้ วิจิตรพิสดารแต่สะอาดสะอ้านน่าโซ้ย รถเข็นจอดอยู่บนฟุตปาท ถ้าขับรถผ่านจะเห็นลูกค้า (นั่งบ้างยืนบ้าง) หันหน้าหาถนน ส่วน พี่อ้อ คนยำนั่งหันหลังขยำแหนมอย่างเพลิดเพลิน ดูจากลีลาการเคลื่อนไหวของฝ่ามือที่พลิ้วไหว การันตีว่าถึงแม้ไม่มีหน้า ร้าน แต่มีความชำนาญระดับมืออาชีพก่อนหน้านี้แม่ขายมาก่อน ขายมา 20 ปีแล้วค่ะ เราเพิ่งมาทำได้ 10 ปีหลังนี่เอง ช่วยกันขายกับสามี (พี่โหน่ง) ทุกอย่างเรา ทำกันเองหมด ทั้งตัวแหนมสด ข้าวทอด พริกแห้งทำเอง เคยซื้อของเขามาขาย แต่มันไม่ได้อร่อย ไม่ถูกใจ ก็เลยต้องกลับมาทำเอง มันก็จุกจิกนะ เหนื่อยเหมือนกันตอนเตรียมของ แต่เราก็ต้องทำ เพราะมันอร่อยกว่า ส่วนสูตรนี่ก็ไม่รู้ว่าแม่เขา เอามาจากไหน แต่เขาบอกว่าแอบดูคนข้างบ้านที่อุดรมา เพราะยำแหนมนี่แถวอุดร หนองคายมีเจ้าอร่อยๆ เยอะ พี่อ้อกับพี่โหน่ง สองสามีภรรยาเจียดเวลาจากความวุ่นวายหน้ากะละมังยำแหนมมาบอกเล่าเท้าความ ถึงที่มาที่ไปของความแซบ เจ๊แซบ เป็นหนึ่งในแฟนพันธุ์แท้ของยำแหนมข้าวทอด ไม่ว่าไปโซ้ยที่ไหน เหนือ ใต้ ออก ตก ถ้าเห็นเป็นต้องลอง ของที่ไหนเค้าลือว่าเริ่ด ต้องรีบไปโซ้ย ยำแหนมพี่อ้อ คือหนึ่งในลิสต์ติดโผมาเนิ่นนาน แต่ไม่มีเวลาผ่านไปหม่ำสักที วันนี้เจ๊แซบแอนด์สหาย จึงชักชวนกันไปลองของเด็ดของดีที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น ยืนยันได้จากบัตรคิวอย่างดีที่ติดอยู่หน้ารถเข็น!! ที่เราต้องมี บัตรคิว เพราะตอนเย็นๆคนจะเยอะมากค่ะ จำไม่ได้ว่าใครมาก่อน พี่อ้อติดบัตรคิวไว้ในตำแหน่งที่สะดุดตา ช่างท้าทายสำหรับขาโซ้ยหน้าใหม่ ใครใจไม่ถึงจะได้ไม่ต้องรอให้เสียอารมณ์ แต่ถ้าใครอยากลองของดี ต้องมีความอดทน นอกจากทนรอคิวแล้วยังต้องทนต่อความหิว เพราะกลิ่นของพริกป่น มะนาว และข้าวทอด ช่างหอมกรุ่นกระตุ้นต่อม เจริญอาหารอย่างแรง (ฮา) นอกจากกลิ่นที่ยั่วยวนชวนน้ำลายสอแล้ว รสชาติของยำแหนมพี่อ้อยังจี๊ดจ๊าดโดนใจ เคล็ดลับ ความแซบ อยู่ที่ ความสด โดย เฉพาะ ข้าวทอด และ หนังหมู ต้องทำใหม่ๆทุกเช้ารสชาติถึงจะเร้าใจ ข้าวทอด ของร้านนี้มีความหอมเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจ แค่ยืนใกล้ๆก็ได้กลิ่น พี่อ้อใช้ข้าวหอมมะลิผสมกับข้าวเสาไห้ในอัตราส่วนที่พอเหมาะพอดี เพราะถ้าหอมมะลิมากเกินไปข้าวทอดจะเละ ถ้าเสาไห้มากเกินไปจะทำให้กระด้าง หลังจากหุงข้าวแล้วนำมาคลุกกับพริกแกงและเกลือ ปั้นเป็นก้อนชุบกับแป้งสูตรพิเศษของแม่ จากนั้นนำไปทอดจนเหลือง วางให้สะเด็ดน้ำมัน นำตะเกียบมาจิ้มข้าวทอด 2-3 รู แล้วนำไปทอดอีกรอบให้กรอบกว่าเดิม น้ำมันจะซึมเข้าไปในด้านในทำให้ข้าวไม่เละและไม่อมน้ำมัน นำขึ้นจากกระทะวางทิ้งไว้ให้แห้ง จึงนำมาตำพอหยาบๆ ใส่ถาดพร้อมขาย ลูกค้าขาโซ้ยที่มายืนรอคิวแรกๆจะสัมผัสได้ถึงไออุ่นและกลิ่นที่หอมกรุ่น ยั่วยวนชวนน้ำลายไหล ใครอยากรู้ว่าหอมแค่ไหน ต้องรีบไปลอง (ดม) ด้วยตัวเอง (หุหุ)ตัวแหนมของพี่อ้อไม่ใช่แหนมเปรี้ยวจากโรงงาน แต่คุณพี่ใช้หนังหมู และหมูรวนมาทำเป็นแหนมสด รสเปรี้ยวที่ได้มาจากนํ้ามะนาว อย่างดีที่คั้นสดๆทุกวัน พี่อ้อจะเลือกใช้หนังหมูแผ่นทั้งแผ่น คัดแบบสดใหม่ไม่มีเมือก นำมาล้าง ถอนขน ทำความสะอาด แล้วต้มให้เด้งดึ๋ง ซอยเป็นเส้นๆ ใส่ลงไปในเนื้อหมูล้วนๆบดหยาบๆที่ผ่านการรวนและปรุงรสด้วยเกลือกับกระเทียม จนสุก หลังจากนั้นต้องรีบเข้าช่องแช่แข็งทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วนำออกจากตู้เย็นใส่กะละมังเตรียมพร้อมรอยำ พี่โหน่งกับพี่อ้อ นอกจากตัวแหนมสดและข้าวทอดที่สุดยอดพิถีพิถันแล้ว เครื่องปรุงรายล้อมก็ไม่ยอมน้อยหน้า ไม่ว่าจะเป็นพริกแห้งที่ทอดเอง พริกป่นก็คั่วเอง น้ำมะนาว น้ำปลา ใช้แต่ ของดี ไม่มีชุ่ย รวมกับลีลาการยำที่ขยำด้วยความชำนาญทำให้ยำแหนมข้าวทอดของพี่อ้อตระหง่าน อยู่ในวงการอย่างหนักแน่น แฟนๆเต็มใจยืนรอขอให้ได้หม่ำ ใครที่อยากลองของเด็ดของดีที่ไม่มีหน้าร้าน แต่มีประสบการณ์และลีลาการันตีความอร่อย ให้รีบมารอพี่อ้อและพี่โหน่งได้ที่หน้าตลาดศรีย่านรถเข็นจะจอดอยู่ใกล้ๆศรี ย่านซอย 1 ถ้ามาจากราชวัตรจะเห็นพี่อ้อนั่งหันหลังอยู่ทางซ้ายมือ โทร.มาสั่งล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 08-4926 -0178 และ 08-4944-1770 พี่ๆทั้งสองรับสั่ง แต่ไม่รับส่ง กรุณามารับด้วยตัวเอง เริ่ม บริการความแซบตั้งแต่เวลาบ่ายสองถึงสี่โมงครึ่ง หลังจากนั้นจะเปลี่ยนมือยำเป็นครอบครัวน้องของคุณพี่อ้อเริ่มขยำตั้งแต่ 5 โมงครึ่ง จนถึงของหมด! ก่อนจบก่อนจาก...เจ๊แซบ แอบสารภาพว่าระหว่างที่กำลังเขียนต้นฉบับ ต้องคอยซับน้ำลายที่เอ่อไหลบริเวณมุมปากเพราะอยากหม่ำ เป็นการทำงานที่สุดแสนทรมานใจ!!! (ฮา) เจ๊แซบ หัวเขียว
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ปารีส โอต์ กูตูร์ สปริง-ซัมเมอร์ 2010 สุดบรรเจิดล้ำจินตนาการ
ปารีส โอต์ กูตูร์ สปริง-ซัมเมอร์ 2010 สุดบรรเจิดล้ำจินตนาการ
เหล่าดีไซเนอร์แถวหน้าพร้อมใจกันสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นคอลเลกชั่นล่าสุด สำหรับรันเวย์หรู ปารีส โอต์ กูตูร์ ซีซั่นสปริง-ซัมเมอร์ 2010 อย่างฟู่ฟ่าอลังการ งานสร้าง...เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของกรุงปารีส ในฐานะนครหลวงแห่งโลกแฟชั่นให้กลับคืนมาอีกครั้ง เหล่าดีไซเนอร์แถวหน้าจึงพร้อมใจกันสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นคอลเลกชั่นล่าสุด สำหรับรันเวย์หรู ปารีส โอต์ กูตูร์ ซีซั่นสปริง-ซัมเมอร์ 2010 อย่างฟู่ฟ่าอลังการ งานสร้าง ชนิดไม่ยอมออมฝีมือเหมือนซีซั่นที่ผ่านมา ขนมาครบอาวุธที่ บ่งบอกความเป็นแฟชั่นโอต์ กูตูร์ ไม่ว่าจะเป็นความพิถีพิถันของงานช่าง ฝีมือชั้นสูง ไอเดียสร้างสรรค์สุดบรรเจิดล้ำจินตนาการ ตลอดจนคอนเซปต์ลึกล้ำที่ผ่านการ กลั่นกรองมาแล้วอย่างดี เรียกว่าทั้งคิดมาก คิดลึก และละเมียด ละไมทุกรายละเอียด ทุ่มทุนสร้างหนักมือเป็นพิเศษ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรี ต้องยกให้ดีไซเนอร์จอมป่วนแห่งฝรั่งเศส ฌอง ปอล โกลติเยร์ ที่โดนติงมาหลายซีซั่นว่า ขาดแคลนไอเดียสร้างสรรค์ เพราะดีแต่ หยิบของเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ มาถึงซีซั่นนี้ อดีตแบดบอยแห่งวงการแฟชั่นโลก ไม่ยอมนิ่งเฉย ออกเดินทางค้นหาแรงบันดาลใจ ใหม่ๆเพื่อครีเอตคอลเลกชั่นโอต์ กูตูร์ โดยเฉพาะ ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ แฟชั่นโชว์สุดตระการตาที่ขนมาหมดทุกอารมณ์จากทุกมุมโลก เป็นการ ประชันกันระหว่างสไตล์โดดเด่นของนักดนตรีมาริอาชีแห่งเม็กซิกัน, มาดแกร่งกร้าวของนักรบหญิงโบราณ และพาท่องโลกล้ำจินตนาการไปกับ Avatar ภาพยนตร์เรื่องดังที่ทำเงินถล่มทลายทั่วโลก ผลงาน กำกับของ เจมส์ คาเมรอน เพื่อร่วมปลุกกระแสรักษ์โลกสีเขียว ด้านดีไซเนอร์รุ่นใหญ่ขวัญใจพรมแดงออสการ์ จิออร์จิโอ อาร์มานี หยิบยืมรูปทรงโค้งเว้างดงามของพระจันทร์เสี้ยว มาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานคอลเลกชั่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ Armani Prive ปลุกเร้าให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าหวนไปสู่อดีตอันแสนหวาน ชวนฝัน และสุดโรแมนติก เพื่อให้ลืมความจริงที่แสนหดหู่ บนรันเวย์โอต์ กูตูร์ คึกคักไปด้วยคัตติ้งโค้งเว้าแบบ พระจันทร์เสี้ยว เนื้อผ้านวลสวยเปล่งประกายดุจแสงจันทร์ และยังอบอุ่นด้วยกลิ่นอายเล็กๆจากชุดยูนิฟอร์มในหนังอวกาศเรื่องคลาสสิก 2001 :A Space Odyssey เป็นการตีโจทย์ความหรูหราแบบคนช่างคิดและมากประสบการณ์ สำหรับ ริคคาร์โด ทิสชี ดีไซเนอร์มือฉมังแห่งห้องเสื้อ Givenchy เข้ามารับหน้าที่ กุมบังเหียนเป็นปีที่ 5 แล้ว แต่ยังคงถ่อมเนื้อถ่อมตัวเหมือนเคย เขาพิสูจน์ ให้เห็นฝีมือจากแคตวอล์ก เรดี้-ทู-แวร์ มาหลายซีซั่น แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ดีไซเนอร์คนเก่งได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานระดับโอต์ กูตูร์เทียบชั้นกับดีไซเนอร์บรมครูระดับโลก เขาสารภาพว่ารู้สึกหวาดกลัวโลกแฟชั่นชั้นสูงมาตลอด ก็เลยพยายามไม่ดูผลงานอ้างอิงเก่าๆ แต่ตอนนี้เริ่มมีความมั่นใจขึ้นแล้ว และจับทิศทางถูกว่าเสน่ห์แท้จริงของผู้หญิง ปารีเซียงคือความแกร่งกล้า สง่างาม และลึกลับอีโรติก ขณะที่คอลเลกชั่นล่าสุดของห้องเสื้อ VALENTINO ดูสดใหม่ทันสมัยและอ่อนเยาว์กว่าเดิม เพราะได้ฝีมือสร้างสรรค์ของคู่หูดีไซเนอร์เลือดใหม่ มาเรีย กราเซีย ชิวริ กับ ปิแอร์ เปาโล ปิซิโอลิ อดีตดีไซเนอร์แอกเซสเซอรี่ของแบรนด์วาเลนติโน ควบคุมทิศทางใหม่แทนบรมครูโลกแฟชั่นเพื่อเพิ่มยอดขาย!! แม้ผลงานซีซั่นก่อนบนรันเวย์โอต์ กูตูร์ จะถูกวิจารณ์ติดลบ เนื่องจากยังจับแนวไม่ถูก แต่สำหรับซีซั่นนี้ได้รับเสียงปรบมือกราวใหญ่ เพราะนำเสนอแฟชั่นโชว์ออกมาได้ล้ำเทรนด์ จำลองเป็นสวนอีเดนแห่งโลกไซเบอร์ โดยได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเรื่องฮิต Avatar เพียงแต่นำมาตีความใหม่ ให้ดูฟิวเจอริสติกมากขึ้น ไม่หลงเหลือกลิ่นอายความกูตูร์คลาสสิกตามแบบฉบับวาเลนติโน ดีไซเนอร์บ้าพลัง จอห์น กัลเลียโน แห่ง คริสเตียน ดิออร์ พาแฟนๆชาวดิออร์หวนกลับคืนสู่ความหรูหราเฟื่องฟูในยุคอดีต สมัยที่เหล่าสุภาพสตรีพร้อมใจแต่งชุดหรูยาวกรุยกรายรัดรูป กับหมวกทรงสูง กระโดดขึ้นหลังม้า โดยดีไซเนอร์คนดังให้เหตุผลว่า คอลเลกชั่นล่าสุดได้อินสไปเรชั่นจากแฟชั่นโชว์ของดี-ไซเนอร์อเมริกัน ชาร์ลส์ เจมส์ จุดประกายให้ มงซิเออร์ดิออร์ สร้างสรรค์คอลเลกชั่นระดับตำนาน New Look ในช่วงต้นปี 1947 ซึ่งเป็นการปฏิวัติการแต่งกายของผู้หญิงในยุคหลังสงครามโลก ให้ดูมีส่วนเว้า ส่วนโค้ง รัดรูป และโชว์สัดส่วนชัดเจนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อเร็วๆนี้ กัลเลียโน ยังสร้างสรรค์คอลเลกชั่นเสื้อผ้า เรดี้-ทู-แวร์ สำหรับผู้ชาย บนรันเวย์แฟชั่น ปารีส ซีซั่นฟอลล์-วินเทอร์ 2010-2011 ได้สุดดรามาติก โดยผสมผสานลุคนักสืบของเชอร์ล็อกโฮล์มเข้ากับลีลาสุดห้าวของนักมวยแชมเปียนโลก...บอกได้คำเดียวว่าแรงเหลือใจ!! ทีมข่าวหน้าสตรี
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เหล่าดีไซเนอร์แถวหน้าพร้อมใจกันสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นคอลเลกชั่นล่าสุด สำหรับรันเวย์หรู ปารีส โอต์ กูตูร์ ซีซั่นสปริง-ซัมเมอร์ 2010 อย่างฟู่ฟ่าอลังการ งานสร้าง...เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของกรุงปารีส ในฐานะนครหลวงแห่งโลกแฟชั่นให้กลับคืนมาอีกครั้ง เหล่าดีไซเนอร์แถวหน้าจึงพร้อมใจกันสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นคอลเลกชั่นล่าสุด สำหรับรันเวย์หรู ปารีส โอต์ กูตูร์ ซีซั่นสปริง-ซัมเมอร์ 2010 อย่างฟู่ฟ่าอลังการ งานสร้าง ชนิดไม่ยอมออมฝีมือเหมือนซีซั่นที่ผ่านมา ขนมาครบอาวุธที่ บ่งบอกความเป็นแฟชั่นโอต์ กูตูร์ ไม่ว่าจะเป็นความพิถีพิถันของงานช่าง ฝีมือชั้นสูง ไอเดียสร้างสรรค์สุดบรรเจิดล้ำจินตนาการ ตลอดจนคอนเซปต์ลึกล้ำที่ผ่านการ กลั่นกรองมาแล้วอย่างดี เรียกว่าทั้งคิดมาก คิดลึก และละเมียด ละไมทุกรายละเอียด ทุ่มทุนสร้างหนักมือเป็นพิเศษ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรี ต้องยกให้ดีไซเนอร์จอมป่วนแห่งฝรั่งเศส ฌอง ปอล โกลติเยร์ ที่โดนติงมาหลายซีซั่นว่า ขาดแคลนไอเดียสร้างสรรค์ เพราะดีแต่ หยิบของเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ มาถึงซีซั่นนี้ อดีตแบดบอยแห่งวงการแฟชั่นโลก ไม่ยอมนิ่งเฉย ออกเดินทางค้นหาแรงบันดาลใจ ใหม่ๆเพื่อครีเอตคอลเลกชั่นโอต์ กูตูร์ โดยเฉพาะ ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ แฟชั่นโชว์สุดตระการตาที่ขนมาหมดทุกอารมณ์จากทุกมุมโลก เป็นการ ประชันกันระหว่างสไตล์โดดเด่นของนักดนตรีมาริอาชีแห่งเม็กซิกัน, มาดแกร่งกร้าวของนักรบหญิงโบราณ และพาท่องโลกล้ำจินตนาการไปกับ Avatar ภาพยนตร์เรื่องดังที่ทำเงินถล่มทลายทั่วโลก ผลงาน กำกับของ เจมส์ คาเมรอน เพื่อร่วมปลุกกระแสรักษ์โลกสีเขียว ด้านดีไซเนอร์รุ่นใหญ่ขวัญใจพรมแดงออสการ์ จิออร์จิโอ อาร์มานี หยิบยืมรูปทรงโค้งเว้างดงามของพระจันทร์เสี้ยว มาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานคอลเลกชั่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ Armani Prive ปลุกเร้าให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าหวนไปสู่อดีตอันแสนหวาน ชวนฝัน และสุดโรแมนติก เพื่อให้ลืมความจริงที่แสนหดหู่ บนรันเวย์โอต์ กูตูร์ คึกคักไปด้วยคัตติ้งโค้งเว้าแบบ พระจันทร์เสี้ยว เนื้อผ้านวลสวยเปล่งประกายดุจแสงจันทร์ และยังอบอุ่นด้วยกลิ่นอายเล็กๆจากชุดยูนิฟอร์มในหนังอวกาศเรื่องคลาสสิก 2001 :A Space Odyssey เป็นการตีโจทย์ความหรูหราแบบคนช่างคิดและมากประสบการณ์ สำหรับ ริคคาร์โด ทิสชี ดีไซเนอร์มือฉมังแห่งห้องเสื้อ Givenchy เข้ามารับหน้าที่ กุมบังเหียนเป็นปีที่ 5 แล้ว แต่ยังคงถ่อมเนื้อถ่อมตัวเหมือนเคย เขาพิสูจน์ ให้เห็นฝีมือจากแคตวอล์ก เรดี้-ทู-แวร์ มาหลายซีซั่น แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ดีไซเนอร์คนเก่งได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานระดับโอต์ กูตูร์เทียบชั้นกับดีไซเนอร์บรมครูระดับโลก เขาสารภาพว่ารู้สึกหวาดกลัวโลกแฟชั่นชั้นสูงมาตลอด ก็เลยพยายามไม่ดูผลงานอ้างอิงเก่าๆ แต่ตอนนี้เริ่มมีความมั่นใจขึ้นแล้ว และจับทิศทางถูกว่าเสน่ห์แท้จริงของผู้หญิง ปารีเซียงคือความแกร่งกล้า สง่างาม และลึกลับอีโรติก ขณะที่คอลเลกชั่นล่าสุดของห้องเสื้อ VALENTINO ดูสดใหม่ทันสมัยและอ่อนเยาว์กว่าเดิม เพราะได้ฝีมือสร้างสรรค์ของคู่หูดีไซเนอร์เลือดใหม่ มาเรีย กราเซีย ชิวริ กับ ปิแอร์ เปาโล ปิซิโอลิ อดีตดีไซเนอร์แอกเซสเซอรี่ของแบรนด์วาเลนติโน ควบคุมทิศทางใหม่แทนบรมครูโลกแฟชั่นเพื่อเพิ่มยอดขาย!! แม้ผลงานซีซั่นก่อนบนรันเวย์โอต์ กูตูร์ จะถูกวิจารณ์ติดลบ เนื่องจากยังจับแนวไม่ถูก แต่สำหรับซีซั่นนี้ได้รับเสียงปรบมือกราวใหญ่ เพราะนำเสนอแฟชั่นโชว์ออกมาได้ล้ำเทรนด์ จำลองเป็นสวนอีเดนแห่งโลกไซเบอร์ โดยได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเรื่องฮิต Avatar เพียงแต่นำมาตีความใหม่ ให้ดูฟิวเจอริสติกมากขึ้น ไม่หลงเหลือกลิ่นอายความกูตูร์คลาสสิกตามแบบฉบับวาเลนติโน ดีไซเนอร์บ้าพลัง จอห์น กัลเลียโน แห่ง คริสเตียน ดิออร์ พาแฟนๆชาวดิออร์หวนกลับคืนสู่ความหรูหราเฟื่องฟูในยุคอดีต สมัยที่เหล่าสุภาพสตรีพร้อมใจแต่งชุดหรูยาวกรุยกรายรัดรูป กับหมวกทรงสูง กระโดดขึ้นหลังม้า โดยดีไซเนอร์คนดังให้เหตุผลว่า คอลเลกชั่นล่าสุดได้อินสไปเรชั่นจากแฟชั่นโชว์ของดี-ไซเนอร์อเมริกัน ชาร์ลส์ เจมส์ จุดประกายให้ มงซิเออร์ดิออร์ สร้างสรรค์คอลเลกชั่นระดับตำนาน New Look ในช่วงต้นปี 1947 ซึ่งเป็นการปฏิวัติการแต่งกายของผู้หญิงในยุคหลังสงครามโลก ให้ดูมีส่วนเว้า ส่วนโค้ง รัดรูป และโชว์สัดส่วนชัดเจนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อเร็วๆนี้ กัลเลียโน ยังสร้างสรรค์คอลเลกชั่นเสื้อผ้า เรดี้-ทู-แวร์ สำหรับผู้ชาย บนรันเวย์แฟชั่น ปารีส ซีซั่นฟอลล์-วินเทอร์ 2010-2011 ได้สุดดรามาติก โดยผสมผสานลุคนักสืบของเชอร์ล็อกโฮล์มเข้ากับลีลาสุดห้าวของนักมวยแชมเปียนโลก...บอกได้คำเดียวว่าแรงเหลือใจ!! ทีมข่าวหน้าสตรี
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ม.ล.เนื่องเจ้าของตำรับอาหารชาววังสิ้นใจแล้ว
ม.ล.เนื่องเจ้าของตำรับอาหารชาววังสิ้นใจแล้ว
คมชัดลึก :ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญตำรับอาหารชาววัง เจ้าของผลงานหนังสือ "ชีวิตในวัง-ตำรากับข้าวในวัง" ถึงแก่กรรมแล้วด้วยโรคชรา รวมอายุ 97 ปี
ช็อกวงการอาหารไทย เมื่อกูรูด้านอาหารชาววัง ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคชรา ขณะมีอายุ 97 ปี เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.มาลินี ณ นคร ซึ่งเป็นหลานสาว ว่าเมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 29 มกราคม 2553 ม.ล.เนื่องจากไปอย่างสงบ และได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานน้ำหลวงอาบศพ
น.ส.มาลินี เล่าถึงอาการป่วยของ ม.ล.เนื่อง จนกลายเป็นที่มาของความสูญเสียในครั้งนี้ว่า "เมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้ว คุณย่ามีอาการท้องอืด จึงเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร ก่อนจะย้ายไปที่โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่ามีก้อนเนื้อร้ายอยู่ในลำไส้ ส่งผลให้ลำไส้อุดตัน แต่ไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ เพราะคุณย่าอายุเยอะแล้วจึงใช้วิธีการทำบอลลูนลำไส้แทน แต่ก็มีอาการหายใจไม่สะดวกจึงต้องเจาะบริเวณคอ เพื่อใส่เครื่องหายใจช่วยมาโดยตลอด ซึ่งจากเดิมตั้งใจว่าจะพาคุณย่ากลับบ้านในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ แต่ปรากฏว่าคุณย่ามาสิ้นใจเสียก่อน"
ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร และเป็นอีกคนที่มีความผูกพันด้วยว่ามีศักดิ์เป็นพี่น้องกับ ม.ล.เนื่อง กล่าวว่า "ผมจะเรียกว่า "พี่เนื่อง" เพราะอายุห่างกัน 30 ปี สำหรับพี่เนื่องซึ่งได้อยู่พระตำหนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ซึ่งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ทุกวันนี้จึงถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องทำเครื่องถวาย เพราะที่ตำหนักนี้ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารทั้งคาวและหวาน จึงเรียกได้ว่าเป็นชาววังตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยเฉพาะความรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากในวังแห่งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นของสูงที่มีทั้งความเอร็ดอร่อย ด้วยรสชาติต่างๆ นานา มีการประดิดประดอยกันมาก ต่างจากอาหารพื้นบ้านทั่วๆ ไป เมื่อสิ้นพี่เนื่องไปคนก็เท่ากับสิ้นตำรับอาหารชาววัง แต่โชคดีที่พี่เนื่องถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างให้ลูกหลาน จึงเชื่ออาหารตำรับพระวิมาดาจะอยู่ต่อไป"
ขณะเดียวกัน กูรูด้านอาหารไทยอย่าง อาจารย์ศรีสมร คงพันธุ์ เมื่อทราบข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ ม.ล.เนื่อง ถึงกับร้องด้วยความตกใจและเสียใจที่วงการอาหารไทยต้องสูญเสียบุคคลสำคัญ โดยกล่าวว่า ม.ล.เนื่องไม่เฉพาะแต่จะมีฝีมือมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในวังอย่างแท้จริงอีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นนักถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยน่าสนใจได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย
"ด้วยส่วนตัวเคยมีโอกาสพบท่านแม้จะนานมาแล้ว แต่ยังจำได้ว่าท่านเป็นคนคุยสนุก เป็นผู้ใหญ่ที่มีนิสัยทันสมัย ปรับตัวเข้ากับสังคมได้เป็นอย่างดี จึงถือว่าเป็นการสูญเสียบุคคลที่มีความรู้รอบด้านไปอย่างน่าเสียดาย เพราะท่านทำประโยชน์ให้แก่คนรุ่นหลังไว้มากมายโดยเฉพาะเรื่องอาหาร ถึงตอนนี้ก็คงต้องไปคารวะท่านเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายพาให้ท่านไปสู่สุคติ ในฐานะที่อย่างน้อยก็ได้ความรู้จากท่าน จึงขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของท่านด้วย" อาจารย์ศรีสมร กล่าว
ทั้งนี้ชื่อเสียงของ ม.ล.เนื่อง เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปจากการเป็นนักเขียน ตั้งต้นเขียนหนังสือในนิตยสารลดา (ปิดกิจการไปแล้ว) และมาเขียนเล่าเรื่องราวย้อนยุคให้พลอยแกมเพชร ซึ่งเขียนได้สนุกสนาน โดยเฉพาะผลงานการเขียนหนังสือชีวิตในวัง 2 เล่ม ชีวิตนอกวัง 17 เล่ม และหนังสือรวมเล่ม “ตำรากับข้าวในวัง ของหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์” จนมีชื่อเสียงโด่งดัง กระทั่งมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย เป็นการเชิดชูเกียรติ และต่อมาก็ได้รับ "รางวัลนราธิป" ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติคุณที่มอบแก่นักเขียนและบรรณาธิการอาวุโส โดยมีหลักเกณฑ์ที่จะมอบรางวัลให้แก่ผู้ซึ่งมีอายุมากกว่า 80 ปี มีผลงานเป็นที่ยกย่องกว้างขวาง จัดโดยสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ชีวประวัติของ ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2456 เป็นบุตร ม.ร.ว.อั้น และนางเผือก นิลรัตน์ ณ อยุธยา ข้าหลวงของพระชายาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ม.ล.เนื่อง มีน้อง 6 คน เมื่ออายุได้ 32 ปี ได้สมรสกับนายวิชัย ไวชนะ (ถึงแก่กรรมแล้ว) และมีบุตรชาย 2 คน (ถึงแก่กรรมแล้ว) และมีบุตรบุญธรรมคือ น.ส.นิจ เหลี่ยมอุไร เป็นผู้สืบทอดการทำอาหารตำรับชาววัง และปัจจุบันสอนทำอาหารชาววังและเขียนคอลัมน์ ชีวิตนิจ-นิจ ในนิตยสาร “พลอยแกมเพชร” โดยมี น.ส.มาลินี ณ นคร หลานสาว เป็นผู้ดูแลกิจการโดยรวม และมีหลานอีก 3 คน คือ นายขันพงษ์ น.ส.กระมลลมัย และนายสมุทรไทย ไวชนะ
ทั้งนี้จะจัดสวดพระอภิธรรมศพ ม.ล.เนื่อง ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553 และพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 17.00 น. ณ วัดทินกรนิมิตร จ.นนทบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง4.5โซไซตี้ประจำวันที่3ก.พ.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญตำรับอาหารชาววัง เจ้าของผลงานหนังสือ "ชีวิตในวัง-ตำรากับข้าวในวัง" ถึงแก่กรรมแล้วด้วยโรคชรา รวมอายุ 97 ปี
ช็อกวงการอาหารไทย เมื่อกูรูด้านอาหารชาววัง ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคชรา ขณะมีอายุ 97 ปี เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.มาลินี ณ นคร ซึ่งเป็นหลานสาว ว่าเมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 29 มกราคม 2553 ม.ล.เนื่องจากไปอย่างสงบ และได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานน้ำหลวงอาบศพ
น.ส.มาลินี เล่าถึงอาการป่วยของ ม.ล.เนื่อง จนกลายเป็นที่มาของความสูญเสียในครั้งนี้ว่า "เมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้ว คุณย่ามีอาการท้องอืด จึงเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร ก่อนจะย้ายไปที่โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่ามีก้อนเนื้อร้ายอยู่ในลำไส้ ส่งผลให้ลำไส้อุดตัน แต่ไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ เพราะคุณย่าอายุเยอะแล้วจึงใช้วิธีการทำบอลลูนลำไส้แทน แต่ก็มีอาการหายใจไม่สะดวกจึงต้องเจาะบริเวณคอ เพื่อใส่เครื่องหายใจช่วยมาโดยตลอด ซึ่งจากเดิมตั้งใจว่าจะพาคุณย่ากลับบ้านในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ แต่ปรากฏว่าคุณย่ามาสิ้นใจเสียก่อน"
ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร และเป็นอีกคนที่มีความผูกพันด้วยว่ามีศักดิ์เป็นพี่น้องกับ ม.ล.เนื่อง กล่าวว่า "ผมจะเรียกว่า "พี่เนื่อง" เพราะอายุห่างกัน 30 ปี สำหรับพี่เนื่องซึ่งได้อยู่พระตำหนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ซึ่งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ทุกวันนี้จึงถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องทำเครื่องถวาย เพราะที่ตำหนักนี้ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารทั้งคาวและหวาน จึงเรียกได้ว่าเป็นชาววังตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยเฉพาะความรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากในวังแห่งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นของสูงที่มีทั้งความเอร็ดอร่อย ด้วยรสชาติต่างๆ นานา มีการประดิดประดอยกันมาก ต่างจากอาหารพื้นบ้านทั่วๆ ไป เมื่อสิ้นพี่เนื่องไปคนก็เท่ากับสิ้นตำรับอาหารชาววัง แต่โชคดีที่พี่เนื่องถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างให้ลูกหลาน จึงเชื่ออาหารตำรับพระวิมาดาจะอยู่ต่อไป"
ขณะเดียวกัน กูรูด้านอาหารไทยอย่าง อาจารย์ศรีสมร คงพันธุ์ เมื่อทราบข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ ม.ล.เนื่อง ถึงกับร้องด้วยความตกใจและเสียใจที่วงการอาหารไทยต้องสูญเสียบุคคลสำคัญ โดยกล่าวว่า ม.ล.เนื่องไม่เฉพาะแต่จะมีฝีมือมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในวังอย่างแท้จริงอีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นนักถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยน่าสนใจได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย
"ด้วยส่วนตัวเคยมีโอกาสพบท่านแม้จะนานมาแล้ว แต่ยังจำได้ว่าท่านเป็นคนคุยสนุก เป็นผู้ใหญ่ที่มีนิสัยทันสมัย ปรับตัวเข้ากับสังคมได้เป็นอย่างดี จึงถือว่าเป็นการสูญเสียบุคคลที่มีความรู้รอบด้านไปอย่างน่าเสียดาย เพราะท่านทำประโยชน์ให้แก่คนรุ่นหลังไว้มากมายโดยเฉพาะเรื่องอาหาร ถึงตอนนี้ก็คงต้องไปคารวะท่านเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายพาให้ท่านไปสู่สุคติ ในฐานะที่อย่างน้อยก็ได้ความรู้จากท่าน จึงขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของท่านด้วย" อาจารย์ศรีสมร กล่าว
ทั้งนี้ชื่อเสียงของ ม.ล.เนื่อง เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปจากการเป็นนักเขียน ตั้งต้นเขียนหนังสือในนิตยสารลดา (ปิดกิจการไปแล้ว) และมาเขียนเล่าเรื่องราวย้อนยุคให้พลอยแกมเพชร ซึ่งเขียนได้สนุกสนาน โดยเฉพาะผลงานการเขียนหนังสือชีวิตในวัง 2 เล่ม ชีวิตนอกวัง 17 เล่ม และหนังสือรวมเล่ม “ตำรากับข้าวในวัง ของหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์” จนมีชื่อเสียงโด่งดัง กระทั่งมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย เป็นการเชิดชูเกียรติ และต่อมาก็ได้รับ "รางวัลนราธิป" ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติคุณที่มอบแก่นักเขียนและบรรณาธิการอาวุโส โดยมีหลักเกณฑ์ที่จะมอบรางวัลให้แก่ผู้ซึ่งมีอายุมากกว่า 80 ปี มีผลงานเป็นที่ยกย่องกว้างขวาง จัดโดยสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ชีวประวัติของ ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2456 เป็นบุตร ม.ร.ว.อั้น และนางเผือก นิลรัตน์ ณ อยุธยา ข้าหลวงของพระชายาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ม.ล.เนื่อง มีน้อง 6 คน เมื่ออายุได้ 32 ปี ได้สมรสกับนายวิชัย ไวชนะ (ถึงแก่กรรมแล้ว) และมีบุตรชาย 2 คน (ถึงแก่กรรมแล้ว) และมีบุตรบุญธรรมคือ น.ส.นิจ เหลี่ยมอุไร เป็นผู้สืบทอดการทำอาหารตำรับชาววัง และปัจจุบันสอนทำอาหารชาววังและเขียนคอลัมน์ ชีวิตนิจ-นิจ ในนิตยสาร “พลอยแกมเพชร” โดยมี น.ส.มาลินี ณ นคร หลานสาว เป็นผู้ดูแลกิจการโดยรวม และมีหลานอีก 3 คน คือ นายขันพงษ์ น.ส.กระมลลมัย และนายสมุทรไทย ไวชนะ
ทั้งนี้จะจัดสวดพระอภิธรรมศพ ม.ล.เนื่อง ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553 และพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 17.00 น. ณ วัดทินกรนิมิตร จ.นนทบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง4.5โซไซตี้ประจำวันที่3ก.พ.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
พบ5โรคเรื้อรังคุกคามคนไทยป่วยเพิ่มนาทีละคน
พบ5โรคเรื้อรังคุกคามคนไทยป่วยเพิ่มนาทีละคน
คมชัดลึก :ปลัดสาธารณสุขเผยผลการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอันตราย 5 โรค คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมองตีบ/แตก และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มีคนไทยป่วยสะสมกว่า 2 ล้านคน ป่วยเพิ่มเฉลี่ยนาทีละคน เร่งทุกจังหวัดสำรวจสุขภาพประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป เพื่อวางแผนลดผู้ป่วยรายใหม่
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าสธ.ได้ให้สำนักระบาดวิทยา ติดตามเฝ้าระวังปัญหาการเจ็บป่วยของคนไทยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 5 โรค ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเรื้อรังระบบทางเดินหายใจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรู้ขนาดปัญหาและความรุนแรง โดยเก็บข้อมูลในโรงพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศ ผลการเฝ้าระวังตลอดปี 2551 พบว่ามีผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 5 โรค ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 44 จังหวัดรวมทั้งสิ้น 2,179,504 ราย โดยเป็นผู้ป่วยเบาหวาน 645,620 ราย ความดันโลหิตสูง 1,145,557 ราย โรคหัวใจขาดเลือด 148,206 ราย โรคหลอดเลือดสมอง 107,709 ราย และโรคเรื้อรังทางเดินหายใจ 32,412 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยรายใหม่ เมื่อเปรียบอัตราป่วยจากทั้ง 5 โรคดังกล่าวต่อประชากรทุก 100,000 คน พบ 10 จังหวัดแรกที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และลำปาง ซึ่งจากผู้ป่วยทั้งหมดนี้ เป็นผู้ที่เริ่มป่วยในปี 2551 จำนวน 718,297 ราย เฉลี่ยเดือนละเกือบ 60,000 ราย หรือป่วยเพิ่มขึ้นนาทีละ 1 คน
นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่ากลุ่มผู้สูงอายุทั้งหญิงและชาย ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 56 ของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้หญิงป่วยเป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้ชายเกือบ 2 เท่า โดยเฉพาะคนกลุ่มวัยทำงานอายุน้อยกว่า 40 ปี มีแนวโน้มป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้น ในการแก้ไขปัญหา สธ.ได้เร่งให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด (สสจ.) สำรวจสุขภาพประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปให้ครบทุกคน เพื่อวางแผนดูแลสุขภาพ ลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ส่วนในรายที่ป่วยแล้ว จะต้องมีการดูแลสุขภาพต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน ซึ่งจะทำให้เกิดความพิการ หรือเสียชีวิต
ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าหากป่วยเป็นโรคเรื้อรังแล้ว สิ่งที่ประชาชนต้องดูแลเป็นพิเศษมี 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ อาหาร การออกกำลังกาย และกินยาเพื่อควบคุมอาการอย่างต่อเนื่อง หากพึ่งยาอย่างเดียวแต่ไม่ปรับพฤติกรรมการกินหรือออกกำลังกาย ก็อาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ในปี 2551 พบผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีอาการแทรกซ้อนทั้งหมด 224,506 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยโรคแทรกซ้อนที่พบมากที่สุดในผู้ป่วยเบาหวาน ประมาณร้อยละ 30 เกิดที่หลอดเลือดแดง ไตวาย โรคแทรกซ้อนที่พบในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมากที่สุดร้อยละ 50 คือโรคหัวใจและไตวาย ส่วนผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมอง และโรคเรื้อรังทางเดินหายใจส่วนล่าง โรคแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดคือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมอง และปอดอุดกั้นเรื้อรัง.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้องสธ.ระบุอาการหลังฉีดวัคซีนไข้หวัดมีรายงานทั่วโลก สั่งสอบงแม่ฉีดวัคซีนหวัดลูกตายในครรภ์ที่สตูลสาธารณสุขไทยบทเรียนจากกรณี"ป้าเช็ง"ความดันโลหิตสูงฆาตกรเงียบ!คุกคามชีวิตชนิดเรื้อรัง ทม.อ่างทองตั้งศูนย์แพทย์ชุมชนผุดรพ.อ่างทอง2-3แห่ง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ปลัดสาธารณสุขเผยผลการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอันตราย 5 โรค คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมองตีบ/แตก และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มีคนไทยป่วยสะสมกว่า 2 ล้านคน ป่วยเพิ่มเฉลี่ยนาทีละคน เร่งทุกจังหวัดสำรวจสุขภาพประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป เพื่อวางแผนลดผู้ป่วยรายใหม่
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าสธ.ได้ให้สำนักระบาดวิทยา ติดตามเฝ้าระวังปัญหาการเจ็บป่วยของคนไทยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 5 โรค ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเรื้อรังระบบทางเดินหายใจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรู้ขนาดปัญหาและความรุนแรง โดยเก็บข้อมูลในโรงพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศ ผลการเฝ้าระวังตลอดปี 2551 พบว่ามีผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 5 โรค ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 44 จังหวัดรวมทั้งสิ้น 2,179,504 ราย โดยเป็นผู้ป่วยเบาหวาน 645,620 ราย ความดันโลหิตสูง 1,145,557 ราย โรคหัวใจขาดเลือด 148,206 ราย โรคหลอดเลือดสมอง 107,709 ราย และโรคเรื้อรังทางเดินหายใจ 32,412 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยรายใหม่ เมื่อเปรียบอัตราป่วยจากทั้ง 5 โรคดังกล่าวต่อประชากรทุก 100,000 คน พบ 10 จังหวัดแรกที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และลำปาง ซึ่งจากผู้ป่วยทั้งหมดนี้ เป็นผู้ที่เริ่มป่วยในปี 2551 จำนวน 718,297 ราย เฉลี่ยเดือนละเกือบ 60,000 ราย หรือป่วยเพิ่มขึ้นนาทีละ 1 คน
นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่ากลุ่มผู้สูงอายุทั้งหญิงและชาย ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 56 ของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้หญิงป่วยเป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้ชายเกือบ 2 เท่า โดยเฉพาะคนกลุ่มวัยทำงานอายุน้อยกว่า 40 ปี มีแนวโน้มป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้น ในการแก้ไขปัญหา สธ.ได้เร่งให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด (สสจ.) สำรวจสุขภาพประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปให้ครบทุกคน เพื่อวางแผนดูแลสุขภาพ ลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ส่วนในรายที่ป่วยแล้ว จะต้องมีการดูแลสุขภาพต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน ซึ่งจะทำให้เกิดความพิการ หรือเสียชีวิต
ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าหากป่วยเป็นโรคเรื้อรังแล้ว สิ่งที่ประชาชนต้องดูแลเป็นพิเศษมี 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ อาหาร การออกกำลังกาย และกินยาเพื่อควบคุมอาการอย่างต่อเนื่อง หากพึ่งยาอย่างเดียวแต่ไม่ปรับพฤติกรรมการกินหรือออกกำลังกาย ก็อาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ในปี 2551 พบผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีอาการแทรกซ้อนทั้งหมด 224,506 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยโรคแทรกซ้อนที่พบมากที่สุดในผู้ป่วยเบาหวาน ประมาณร้อยละ 30 เกิดที่หลอดเลือดแดง ไตวาย โรคแทรกซ้อนที่พบในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมากที่สุดร้อยละ 50 คือโรคหัวใจและไตวาย ส่วนผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมอง และโรคเรื้อรังทางเดินหายใจส่วนล่าง โรคแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดคือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมอง และปอดอุดกั้นเรื้อรัง.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้องสธ.ระบุอาการหลังฉีดวัคซีนไข้หวัดมีรายงานทั่วโลก สั่งสอบงแม่ฉีดวัคซีนหวัดลูกตายในครรภ์ที่สตูลสาธารณสุขไทยบทเรียนจากกรณี"ป้าเช็ง"ความดันโลหิตสูงฆาตกรเงียบ!คุกคามชีวิตชนิดเรื้อรัง ทม.อ่างทองตั้งศูนย์แพทย์ชุมชนผุดรพ.อ่างทอง2-3แห่ง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
The Riviera Cuisine @ Casablanca
The Riviera Cuisine @ Casablanca
วิลล่า มาร็อก รีสอร์ท ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทรศัพท์ 0-3263-0771เวลาบริการ 06.30-22.30 น.ราคา 120-1,800 บาทบัตรเครดิต VISA และ Master Card อาหารโมร็อกกันอาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นเคยของคนไทยมาก่อน แต่จะว่าไปแล้วก็เป็นอาหารที่แทบไม่แตกต่างกับบ้านเราที่เน้นการใช้เครื่องเทศสมุนไพรปรุงอาหารเหมือนกัน แต่ของโมร็อกกันจะออกรสและกลิ่นเข้มข้นกว่า ซึ่งน่าจะทำให้คนไทยสามารถกินอาหารตำรับโมร็อกกันได้อย่างสบายๆ และนี่จึงเป็นที่มาของห้องอาหารคาซาบลังกา (Casablanca) ห้องอาหารแบบ All Day Dining ของวิลล่า มาร็อก รีสอร์ทคาซาบลังกาตกแต่งหรูหราตามแบบราชอาณาจักรแอฟริกาเหนือ เน้นประตูโค้งและกระเบื้อง Zillij หลากสีสันที่บรรจงติดลงบนกำแพงชิ้นต่อชิ้น นอกจากนี้ยังเน้นสีสันสดใสอย่างสีส้มอิฐ สีเหลือง ที่ช่วยให้เกิดความอยากอาหารเป็นพิเศษ ที่สำคัญห้องอาหารนี้ตั้งติดทะเล จึงยิ่งเพิ่มบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนได้เป็นอย่างดีสำหรับเมนูอาหารนอกจากความโดดเด่นเรื่องอาหารโมร็อกกันแล้ว ยังเน้นอาหารแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่มีทั้งอาหารฝรั่งเศสและอิตาเลียนให้เลือกชิมในสไตล์ The Riviera Cuisine ที่สร้างสรรค์โดยเชฟซูซี่ นิลกลัด ผู้เชี่ยวชาญอาหารสไตล์นี้เป็นอย่างดี เมนูแรกที่เชฟแนะนำเป็น Cream of Young Broccoli ปรุงจากบรอกโคลีต้มกับเกลือและน้ำสต๊อกไก่ ปั่นละเอียดแล้วกรองเฉพาะน้ำให้ได้เนื้อครีมสีเขียวข้น เสิร์ฟพร้อมยอคกี่ทำจากชีสริคอตตา จานต่อมาเป็น Grilled Tasmanian Salmon Fillet เลือกใช้ปลาแซลมอนจากทัสมาเนียน เนื่องจากเป็นปลาธรรมชาติที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีสิ่งปนเปื้อน และอากาศที่เย็นจึงทำให้ได้ชั้นของไขมันชั้นเยี่ยม นำไปย่างแล้วเสิร์ฟพร้อมซอสบัตเตอร์บราวน์ โรยด้วยเห็ดทรัฟเฟิล จานต่อมา Australian Lamb Cutlets นำเนื้อแกะซึ่งนับเป็นวัตถุดิบสำคัญของอาหารโมร็อกกันมาปรุงผสมผสานด้วยวิธีปรุงแบบอิตาเลียนและฝรั่งเศส จานสุดท้ายเป็น Duck Leg Confit with Orange Vanilla Sauce ขาเป็ดต้มกับน้ำมันส้มและวานิลลาที่ทั้งหอมทั้งอร่อย กลิ่นอายแบบ The Riviera Cuisine ของ Casablanca พร้อมให้คุณมาสัมผัสได้ทุกวันข้อมูลและภาพจากนิตยสารกูรเมท์www.gourmetthai.com
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
วิลล่า มาร็อก รีสอร์ท ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทรศัพท์ 0-3263-0771เวลาบริการ 06.30-22.30 น.ราคา 120-1,800 บาทบัตรเครดิต VISA และ Master Card อาหารโมร็อกกันอาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นเคยของคนไทยมาก่อน แต่จะว่าไปแล้วก็เป็นอาหารที่แทบไม่แตกต่างกับบ้านเราที่เน้นการใช้เครื่องเทศสมุนไพรปรุงอาหารเหมือนกัน แต่ของโมร็อกกันจะออกรสและกลิ่นเข้มข้นกว่า ซึ่งน่าจะทำให้คนไทยสามารถกินอาหารตำรับโมร็อกกันได้อย่างสบายๆ และนี่จึงเป็นที่มาของห้องอาหารคาซาบลังกา (Casablanca) ห้องอาหารแบบ All Day Dining ของวิลล่า มาร็อก รีสอร์ทคาซาบลังกาตกแต่งหรูหราตามแบบราชอาณาจักรแอฟริกาเหนือ เน้นประตูโค้งและกระเบื้อง Zillij หลากสีสันที่บรรจงติดลงบนกำแพงชิ้นต่อชิ้น นอกจากนี้ยังเน้นสีสันสดใสอย่างสีส้มอิฐ สีเหลือง ที่ช่วยให้เกิดความอยากอาหารเป็นพิเศษ ที่สำคัญห้องอาหารนี้ตั้งติดทะเล จึงยิ่งเพิ่มบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนได้เป็นอย่างดีสำหรับเมนูอาหารนอกจากความโดดเด่นเรื่องอาหารโมร็อกกันแล้ว ยังเน้นอาหารแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่มีทั้งอาหารฝรั่งเศสและอิตาเลียนให้เลือกชิมในสไตล์ The Riviera Cuisine ที่สร้างสรรค์โดยเชฟซูซี่ นิลกลัด ผู้เชี่ยวชาญอาหารสไตล์นี้เป็นอย่างดี เมนูแรกที่เชฟแนะนำเป็น Cream of Young Broccoli ปรุงจากบรอกโคลีต้มกับเกลือและน้ำสต๊อกไก่ ปั่นละเอียดแล้วกรองเฉพาะน้ำให้ได้เนื้อครีมสีเขียวข้น เสิร์ฟพร้อมยอคกี่ทำจากชีสริคอตตา จานต่อมาเป็น Grilled Tasmanian Salmon Fillet เลือกใช้ปลาแซลมอนจากทัสมาเนียน เนื่องจากเป็นปลาธรรมชาติที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีสิ่งปนเปื้อน และอากาศที่เย็นจึงทำให้ได้ชั้นของไขมันชั้นเยี่ยม นำไปย่างแล้วเสิร์ฟพร้อมซอสบัตเตอร์บราวน์ โรยด้วยเห็ดทรัฟเฟิล จานต่อมา Australian Lamb Cutlets นำเนื้อแกะซึ่งนับเป็นวัตถุดิบสำคัญของอาหารโมร็อกกันมาปรุงผสมผสานด้วยวิธีปรุงแบบอิตาเลียนและฝรั่งเศส จานสุดท้ายเป็น Duck Leg Confit with Orange Vanilla Sauce ขาเป็ดต้มกับน้ำมันส้มและวานิลลาที่ทั้งหอมทั้งอร่อย กลิ่นอายแบบ The Riviera Cuisine ของ Casablanca พร้อมให้คุณมาสัมผัสได้ทุกวันข้อมูลและภาพจากนิตยสารกูรเมท์www.gourmetthai.com
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
สวย สุขภาพดีได้ง่ายๆ จากภายใน
สวย สุขภาพดีได้ง่ายๆ จากภายใน
ขึ้นชื่อว่าสุขภาพดี ใครๆ ก็อยากมี แต่จะทำอย่างไรจึงจะได้เป็นเจ้าของหุ่นสวย แถมสุขภาพดีตามที่ปรารถนา ดังนั้นในโอกาสเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ “แอคทีเวีย” เมื่อเร็วๆนี้ จึงชวนกูรูสุขภาพ มาเผยเคล็ดลับการจัดระเบียบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก ซึ่งเป็นบันไดขั้นแรกที่ทั้งง่ายและสามารถทำได้ด้วยตัวเองรศ. พญ. บุษบา วิวัฒน์เวคิน หัวหน้าหน่วยโรคทางเดินอาหารภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าทุกวันนี้ 1 ใน 3 ของผู้หญิงไทยเผชิญกับปัญหาท้องผูก เพราะความเครียดและวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้ไม่สามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยเพียงพอ หรือรับประทานอาหารผิดหลักโภชนาการ ทั้งที่การรักษาระบบขับถ่ายให้ดีเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะทำให้อึดอัดไม่สบายตัว และไม่มั่นใจในรูปร่างแล้ว ยังอาจนำไปสู่โรคอื่นๆได้อีก อาทิ ริดสีดวง โรคระบบทางเดินอาหาร กระเพาะปัสสาวะอักเสบรศ. พญ. บุษบา วิวัฒน์เวคิน“ปัจจุบันนี้ผู้หญิงไทยจำนวนไม่น้อยเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือมีอาการปวดปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย ส่วนหนึ่งเกิดจากการอั้นปัสสาวะและกลั้นอุจจาระ การที่มีอุจจาระค้างในลำไส้ตรงและลำไส้ใหญ่ส่วนปลายนานๆ จะทำให้ลำไส้ส่วนที่มีอุจจาระค้างโค้งงอไปกดเบียดบนกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ และถ้ากระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังก็จะลามไปถึงกรวยไตอักเสบอีกด้วย” รศ. พญ. บุษบากล่าวกูรูสุขภาพยังกล่าวอีกว่า โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาการเดินทางของอาหารของแต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน แต่โดยเฉลี่ยกว่าอาหารจะผ่านมาที่ลำไส้ใหญ่ต้องใช้เวลา 5 ชม. และอีก 14 ชม.กว่าลำไส้ใหญ่จะขับออกมาเป็นอุจจาระ ดังนั้นหากใครที่ใใช้เวลานานกว่า 48 ชั่วโมงแล้วไม่ขับถ่าย ถือว่ามีอาการท้องผูก สังเกตง่ายๆคือ ท้องจะบวมใหญ่ อืด อึดอัด ถ่ายยาก บางรายอาจถึงขั้นต้องไปพบแพทย์กันทีเดียวสำหรับวิธีง่ายๆในการป้องกันตัวเองจากอาการท้องผูกนั้น รศ. พญ. บุษบา แนะนำว่า นอกจากรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ออกกำลังเป็นประจำ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และให้ลองเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีให้กับร่างกายด้วยการรับประทานโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่มีผลวิจัยทางการแพทย์รับรองว่ามีความทนทานและช่วยระบบขับถ่าย โดยรับประทานวันละ 1 ถ้วยติดต่อกัน 2 สัปดาห์ก็จะเห็นผล เพราะจุลินทรีย์ชนิดนี้ในโยเกิร์ตจะช่วยปรับสมดุลในระบบขับถ่ายให้กลับมาเป็นปกติ ด้านเซเลบสาวมั่น แพร-ดวงกมล เวปุลละ ซึ่งเคยมีประสบการณ์ท้องผูกจนต้องไปหาหมอมาแล้วเมื่อสมัยเด็ก ยืนยันว่าทรมานจริงๆ เวลาท้องผูก ดังนั้นจึงพยายามป้องกันและจัดระเบียบระบบขับถ่ายของตัวเอง โดยการรับประทานโยเกิร์ตทุกวันมาตั้งแต่สมัยอยู่่ต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะทำให้สุขภาพดีแล้ว หุ่นก็สวยไปด้วย โดยไม่ต้องลดน้ำหนัก ลดอาหารอย่างเอาเป็นเอาตาย จนทำให้้ร่างกายขาดกากอาหาร ระบบขับถ่ายมีปัญหา
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ขึ้นชื่อว่าสุขภาพดี ใครๆ ก็อยากมี แต่จะทำอย่างไรจึงจะได้เป็นเจ้าของหุ่นสวย แถมสุขภาพดีตามที่ปรารถนา ดังนั้นในโอกาสเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ “แอคทีเวีย” เมื่อเร็วๆนี้ จึงชวนกูรูสุขภาพ มาเผยเคล็ดลับการจัดระเบียบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก ซึ่งเป็นบันไดขั้นแรกที่ทั้งง่ายและสามารถทำได้ด้วยตัวเองรศ. พญ. บุษบา วิวัฒน์เวคิน หัวหน้าหน่วยโรคทางเดินอาหารภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าทุกวันนี้ 1 ใน 3 ของผู้หญิงไทยเผชิญกับปัญหาท้องผูก เพราะความเครียดและวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้ไม่สามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยเพียงพอ หรือรับประทานอาหารผิดหลักโภชนาการ ทั้งที่การรักษาระบบขับถ่ายให้ดีเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะทำให้อึดอัดไม่สบายตัว และไม่มั่นใจในรูปร่างแล้ว ยังอาจนำไปสู่โรคอื่นๆได้อีก อาทิ ริดสีดวง โรคระบบทางเดินอาหาร กระเพาะปัสสาวะอักเสบรศ. พญ. บุษบา วิวัฒน์เวคิน“ปัจจุบันนี้ผู้หญิงไทยจำนวนไม่น้อยเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือมีอาการปวดปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย ส่วนหนึ่งเกิดจากการอั้นปัสสาวะและกลั้นอุจจาระ การที่มีอุจจาระค้างในลำไส้ตรงและลำไส้ใหญ่ส่วนปลายนานๆ จะทำให้ลำไส้ส่วนที่มีอุจจาระค้างโค้งงอไปกดเบียดบนกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ และถ้ากระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังก็จะลามไปถึงกรวยไตอักเสบอีกด้วย” รศ. พญ. บุษบากล่าวกูรูสุขภาพยังกล่าวอีกว่า โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาการเดินทางของอาหารของแต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน แต่โดยเฉลี่ยกว่าอาหารจะผ่านมาที่ลำไส้ใหญ่ต้องใช้เวลา 5 ชม. และอีก 14 ชม.กว่าลำไส้ใหญ่จะขับออกมาเป็นอุจจาระ ดังนั้นหากใครที่ใใช้เวลานานกว่า 48 ชั่วโมงแล้วไม่ขับถ่าย ถือว่ามีอาการท้องผูก สังเกตง่ายๆคือ ท้องจะบวมใหญ่ อืด อึดอัด ถ่ายยาก บางรายอาจถึงขั้นต้องไปพบแพทย์กันทีเดียวสำหรับวิธีง่ายๆในการป้องกันตัวเองจากอาการท้องผูกนั้น รศ. พญ. บุษบา แนะนำว่า นอกจากรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ออกกำลังเป็นประจำ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และให้ลองเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีให้กับร่างกายด้วยการรับประทานโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่มีผลวิจัยทางการแพทย์รับรองว่ามีความทนทานและช่วยระบบขับถ่าย โดยรับประทานวันละ 1 ถ้วยติดต่อกัน 2 สัปดาห์ก็จะเห็นผล เพราะจุลินทรีย์ชนิดนี้ในโยเกิร์ตจะช่วยปรับสมดุลในระบบขับถ่ายให้กลับมาเป็นปกติ ด้านเซเลบสาวมั่น แพร-ดวงกมล เวปุลละ ซึ่งเคยมีประสบการณ์ท้องผูกจนต้องไปหาหมอมาแล้วเมื่อสมัยเด็ก ยืนยันว่าทรมานจริงๆ เวลาท้องผูก ดังนั้นจึงพยายามป้องกันและจัดระเบียบระบบขับถ่ายของตัวเอง โดยการรับประทานโยเกิร์ตทุกวันมาตั้งแต่สมัยอยู่่ต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะทำให้สุขภาพดีแล้ว หุ่นก็สวยไปด้วย โดยไม่ต้องลดน้ำหนัก ลดอาหารอย่างเอาเป็นเอาตาย จนทำให้้ร่างกายขาดกากอาหาร ระบบขับถ่ายมีปัญหา
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ผวาโรคกิแลงแบเร...ผลข้างเคียง วัคซีนหวัด
ผวาโรคกิแลงแบเร...ผลข้างเคียง วัคซีนหวัด
คมชัดลึก :เมื่อความเคลือบแคลงคลุมเครือเข้าครอบงำ ข่าวคนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ตาย-ได้รับผลข้างเคียงจากโรค "กิแลงแบเร" คนส่วนใหญ่เลยกึ่งกล้ากึ่งกลัวไปจนถึงลังเลว่าจะรับการฉีดดีหรือไม่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยไขข้อข้องใจเหล่านี้ และระดับของผลข้างเคียงที่เกิดจากวัคซีน
ผวาโรค "กิแลงแบเร"...ผลข้างเคียง "วัคซีนหวัดใหญ่ 2009"
"ฉีดวัคซีนหวัดใหญ่ 2009 หรือยัง ควรฉีดหรือไม่ฉีดดี?" กำลังเป็นคำถามยอดฮิตของผู้คนในกลุ่มเสี่ยง
สืบเนื่องจากปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 มีรายงานข่าวไปทั่วโลกเกี่ยวกับบริษัทยายักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ขอให้แพทย์ในแคนาดาหยุดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของบริษัทชุดหนึ่ง ที่มีอยู่ประมาณ 1.7 แสนชุด หลังพบอาการข้างเคียงรุนแรงในคนไข้ 6 ราย บางคนหายใจติดขัด หัวใจเต้นเร็ว และเป็นผื่นตามผิวหนัง เช่นเดียวกับในประเทศจีน ที่พบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย หลังฉีดวัคซีนของรัฐบาลจีน แม้รัฐบาลจีนจะออกมายืนยันว่าไม่เกี่ยวกันก็ตาม
การฉีดวัคซีนทุกชนิดมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้...แต่ที่ควรระวังคือกระบวนการผลิตวัคซีนต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัย เนื่องจาก 30 กว่าปีที่แล้วมีบทเรียนจากอเมริกา ซึ่งรีบร้อนผลิตวัคซีนไข้หวัดหมู (Swine flu) เมื่อปี 2519 แล้วฉีดให้ชาวอเมริกันทันที ปรากฏว่ารัฐบาลอเมริกาถูกประชาชน 1,571 ราย เรียกร้องค่าเสียหายถึง 3.5 หมื่นล้านบาท เพราะชาวบ้าน 33 คนเสียชีวิต และอีก 500 คนป่วยเป็นอัมพาตจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ "โรคกิแลงแบเร" (Gullain-Barre Syndrome) ที่ยืนยันชัดเจนว่าเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนตัวนี้
โรคกิแลงแบเร หรือเรียกย่อว่า "GBS" เป็นโรคที่เกี่ยวกับเส้นประสาทส่วนปลายทำงานผิดปกติ สาเหตุเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันเข้าไปทำลายเส้นประสาทส่วนปลาย เมื่อเส้นประสาททำงานผิดปกติ ร่างกายเกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง อวัยวะแขนขาจะรู้สึกชา หรือเดินเซ ฯลฯ จนถึงวันนี้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญทั่วโลกก็ยังไม่พบเหตุผลที่ชัดแจ้งว่า ทำไมจึงเกิดอาการของโรคกิแลงแบเรขึ้นมาได้
เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ยอมรับว่า หลังฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่สั่งซื้อมาจากฝรั่งเศสในกลุ่มเสี่ยงไปประมาณ 3 หมื่นกว่าคน ได้รับรายงานผู้เกิดอาการข้างเคียงแล้ว 12 ราย อาการหนัก 4 ราย รายที่ 1 มีอาการไตวาย รายที่ 2 คลอดบุตรแล้วบุตรเสียชีวิต รายที่ 3 มีอาการหน้าเบี้ยว และรายที่ 4 เกิดภาวะหายใจติดขัด จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า 3 รายแรกอาจไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่รายที่ 4 เป็นอาการข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น จึงขอให้แพทย์ทุกโรงพยาบาลตรวจสุขภาพผู้ต้องการฉีดก่อน หากไม่มีสิ่งผิดปกติจึงค่อยฉีดวัคซีน และให้พักที่โรงพยาบาล 30 นาที เพื่อดูภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นก่อนอนุญาตให้กลับบ้าน
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ หนึ่งในคณะทำงาน "ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ 2009" วิเคราะห์ให้ฟังว่า รายที่มีอาการไตวายถือเป็นโรคเจ็บป่วยดั้งเดิมของคนไข้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับวัคซีนที่ฉีดเข้าไป ส่วนผู้ที่คลอดบุตรแล้วบุตรเสียชีวิตก็เป็นปัญหาการคลอดบุตรของคนไข้ ไม่เกี่ยวกับวัคซีนเช่นกัน แต่ที่ยืนยันว่าเป็นผลข้างเคียงหรือไซด์เอฟเฟคของวัคซีนตัวนี้ คือ ผู้ที่มีอาการหายใจติดขัด ที่เกิดอาการหลังฉีดวัคซีนได้เพียง 30 นาที ซึ่งทีมแพทย์ช่วยรักษาเยียวยาจนอาการดีขึ้นเรียบร้อยแล้ว
"อาการฉีดแล้วหายใจติดขัดถือเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ในผู้ฉีดวัคซีนประมาณ 1 ต่อแสนคน ไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงอะไร บางคนก็เป็นผื่นคันแดง สักพักก็จะหายไป แต่รายที่น่าเป็นห่วงคือ คนไข้ที่หน้าเบี้ยวหลังฉีดวัคซีนได้เพียง 4 ชั่วโมง ขอยืนยันว่าไม่ใช่โรคกิแลงแบเรอย่างแน่นอน เพราะอาการข้างเคียงของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จะไม่เกิดรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง ตอนนี้ตรวจสอบได้แล้วว่าคนไข้มีอาการของโรคหน้าเบี้ยว หรือที่เรียกว่าเบลล์พัลซี่ (Bell's palsy) หรือมีอาการอักเสบที่เส้นประสาทสมองเส้นที่ 7 ตอนนี้อยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์แล้ว"
นพ.คำนวณ กล่าวถึงผลการทำงานที่ผ่านมาว่า รัฐบาลตั้งเป้าให้ฉีดวัคซีนในคนไทยกลุ่มเสี่ยง 2 ล้านคน ปรากฏว่ามารับการฉีดเพียง 3 หมื่นกว่าคน เนื่องจาก 1.คนไทยเริ่มรู้สึกว่าการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จบลงแล้วหรือไม่อันตรายอีกต่อไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาฉีดวัคซีนก็ได้ 2.มีความกังวลว่าวัคซีนที่ฉีดให้จะไม่ปลอดภัย เพราะได้ยินข่าวตามสื่อมวลชนว่า หลายประเทศส่งวัคซีนคืนให้บริษัทผู้ผลิต จึงขอยืนยันอีกครั้งว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังระบาดในเมืองไทย ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ดังนั้น กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อควรมาฉีด ส่วนเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนนั้นไม่ควรเป็นกังวล เพราะมีเพียงอเมริกาและแคนาดาที่ส่งวัคซีนคืนให้บริษัทผู้ผลิต สาเหตุที่ส่งคืนก็เพราะจำนวนเชื้อในวัคซีนต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด ไม่ได้เกิดจากผลข้างเคียงของโรคกิแลงแบเรหรือโรคอื่นๆ
ด้าน ศ.ดร.วันเพ็ญ ชัยคำภา ที่ปรึกษางานวิจัยวัคซีนไข้หวัดข้ามสายพันธุ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายเพิ่มเติมว่า อาการข้างเคียงของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มี 3 ระดับ คือ 1.มีอาการเจ็บคัน บวมแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน บางรายมีไข้ต่ำหรืออาเจียน ใช้เวลาประมาณ 1-2 วันร่างกายจะกลับเป็นปกติ 2.ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข้าไปสักระยะแล้วมีอาการคล้ายผู้ป่วยหอบหืด คือ หายใจติดขัด เพราะหลอดลมบีบตัว บางรายดูอาการสักพักก็หาย บางรายต้องฉีดยาขยายหลอดลม ส่วนระดับสุดท้ายเป็นระดับที่รุนแรง คือ ผู้ฉีดมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือที่เรียกว่าโรคกิแลงแบเร ต้องใช้วิธีทำกายภาพบำบัดเพื่อรักษา
"วัคซีนทุกชนิดมีโอกาสทำให้ร่างกายแพ้หรือเกิดผลข้างเคียงได้ และผู้ที่ฉีดวัคซีนเข้าไปก็ไม่ได้ยืนยันว่า ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันทุกคน มีการรับรองผลเพียงร้อยละ 90 เท่านั้น หมายความว่าฉีด 100 คน จะมีประมาณ 10 คนที่วัคซีนไม่ได้ผล ที่ผ่านมาเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ตัวนี้ทำให้คนเสียชีวิตมาก และไม่เคยมีวัคซีนมาก่อน การฉีดในคนทั่วโลกถือเป็นการทดลองของวงการแพทย์ครั้งใหญ่ วัคซีนที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของเมืองไทยก็น่าจะปลอดภัยในระดับหนึ่ง อาจพบคนเกิดอาการข้างเคียงบ้าง เพราะฉะนั้นแต่ละคนต้องใช้วิจารณญาณเองว่าอยากฉีดหรือไม่ มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน" ศ.ดร.วันเพ็ญ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ จำกัด ที่ขายวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 2 ล้านโดส โดสละประมาณ 200 บาทให้แก่รัฐบาลไทย ได้ระบุรายละเอียดในสัญญาสั่งซื้อว่า บริษัทจะไม่รับผิดชอบกรณีที่เกิดผลข้างเคียงในการใช้วัคซีนนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้องคาราวานเส้นทางรัก"หุ่นพี่ทหารใจดี"เรียกรอยยิ้มสคบ.ชี้จุดต่าง"ขายตรง-แชร์ลูกโซ่"ห่วงปลุกเร้าลูกค้าระดมทุนบิดเบือนธุรกิจจ่าเฉยชั่วโมงเซียน-หลวงพ่อปู่ หลวงปู่กรับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์-พระเกจิอาจารย์เข้มขลัง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :เมื่อความเคลือบแคลงคลุมเครือเข้าครอบงำ ข่าวคนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ตาย-ได้รับผลข้างเคียงจากโรค "กิแลงแบเร" คนส่วนใหญ่เลยกึ่งกล้ากึ่งกลัวไปจนถึงลังเลว่าจะรับการฉีดดีหรือไม่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยไขข้อข้องใจเหล่านี้ และระดับของผลข้างเคียงที่เกิดจากวัคซีน
ผวาโรค "กิแลงแบเร"...ผลข้างเคียง "วัคซีนหวัดใหญ่ 2009"
"ฉีดวัคซีนหวัดใหญ่ 2009 หรือยัง ควรฉีดหรือไม่ฉีดดี?" กำลังเป็นคำถามยอดฮิตของผู้คนในกลุ่มเสี่ยง
สืบเนื่องจากปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 มีรายงานข่าวไปทั่วโลกเกี่ยวกับบริษัทยายักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ขอให้แพทย์ในแคนาดาหยุดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของบริษัทชุดหนึ่ง ที่มีอยู่ประมาณ 1.7 แสนชุด หลังพบอาการข้างเคียงรุนแรงในคนไข้ 6 ราย บางคนหายใจติดขัด หัวใจเต้นเร็ว และเป็นผื่นตามผิวหนัง เช่นเดียวกับในประเทศจีน ที่พบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย หลังฉีดวัคซีนของรัฐบาลจีน แม้รัฐบาลจีนจะออกมายืนยันว่าไม่เกี่ยวกันก็ตาม
การฉีดวัคซีนทุกชนิดมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้...แต่ที่ควรระวังคือกระบวนการผลิตวัคซีนต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัย เนื่องจาก 30 กว่าปีที่แล้วมีบทเรียนจากอเมริกา ซึ่งรีบร้อนผลิตวัคซีนไข้หวัดหมู (Swine flu) เมื่อปี 2519 แล้วฉีดให้ชาวอเมริกันทันที ปรากฏว่ารัฐบาลอเมริกาถูกประชาชน 1,571 ราย เรียกร้องค่าเสียหายถึง 3.5 หมื่นล้านบาท เพราะชาวบ้าน 33 คนเสียชีวิต และอีก 500 คนป่วยเป็นอัมพาตจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ "โรคกิแลงแบเร" (Gullain-Barre Syndrome) ที่ยืนยันชัดเจนว่าเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนตัวนี้
โรคกิแลงแบเร หรือเรียกย่อว่า "GBS" เป็นโรคที่เกี่ยวกับเส้นประสาทส่วนปลายทำงานผิดปกติ สาเหตุเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันเข้าไปทำลายเส้นประสาทส่วนปลาย เมื่อเส้นประสาททำงานผิดปกติ ร่างกายเกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง อวัยวะแขนขาจะรู้สึกชา หรือเดินเซ ฯลฯ จนถึงวันนี้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญทั่วโลกก็ยังไม่พบเหตุผลที่ชัดแจ้งว่า ทำไมจึงเกิดอาการของโรคกิแลงแบเรขึ้นมาได้
เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ยอมรับว่า หลังฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่สั่งซื้อมาจากฝรั่งเศสในกลุ่มเสี่ยงไปประมาณ 3 หมื่นกว่าคน ได้รับรายงานผู้เกิดอาการข้างเคียงแล้ว 12 ราย อาการหนัก 4 ราย รายที่ 1 มีอาการไตวาย รายที่ 2 คลอดบุตรแล้วบุตรเสียชีวิต รายที่ 3 มีอาการหน้าเบี้ยว และรายที่ 4 เกิดภาวะหายใจติดขัด จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า 3 รายแรกอาจไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่รายที่ 4 เป็นอาการข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น จึงขอให้แพทย์ทุกโรงพยาบาลตรวจสุขภาพผู้ต้องการฉีดก่อน หากไม่มีสิ่งผิดปกติจึงค่อยฉีดวัคซีน และให้พักที่โรงพยาบาล 30 นาที เพื่อดูภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นก่อนอนุญาตให้กลับบ้าน
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ หนึ่งในคณะทำงาน "ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ 2009" วิเคราะห์ให้ฟังว่า รายที่มีอาการไตวายถือเป็นโรคเจ็บป่วยดั้งเดิมของคนไข้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับวัคซีนที่ฉีดเข้าไป ส่วนผู้ที่คลอดบุตรแล้วบุตรเสียชีวิตก็เป็นปัญหาการคลอดบุตรของคนไข้ ไม่เกี่ยวกับวัคซีนเช่นกัน แต่ที่ยืนยันว่าเป็นผลข้างเคียงหรือไซด์เอฟเฟคของวัคซีนตัวนี้ คือ ผู้ที่มีอาการหายใจติดขัด ที่เกิดอาการหลังฉีดวัคซีนได้เพียง 30 นาที ซึ่งทีมแพทย์ช่วยรักษาเยียวยาจนอาการดีขึ้นเรียบร้อยแล้ว
"อาการฉีดแล้วหายใจติดขัดถือเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ในผู้ฉีดวัคซีนประมาณ 1 ต่อแสนคน ไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงอะไร บางคนก็เป็นผื่นคันแดง สักพักก็จะหายไป แต่รายที่น่าเป็นห่วงคือ คนไข้ที่หน้าเบี้ยวหลังฉีดวัคซีนได้เพียง 4 ชั่วโมง ขอยืนยันว่าไม่ใช่โรคกิแลงแบเรอย่างแน่นอน เพราะอาการข้างเคียงของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จะไม่เกิดรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง ตอนนี้ตรวจสอบได้แล้วว่าคนไข้มีอาการของโรคหน้าเบี้ยว หรือที่เรียกว่าเบลล์พัลซี่ (Bell's palsy) หรือมีอาการอักเสบที่เส้นประสาทสมองเส้นที่ 7 ตอนนี้อยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์แล้ว"
นพ.คำนวณ กล่าวถึงผลการทำงานที่ผ่านมาว่า รัฐบาลตั้งเป้าให้ฉีดวัคซีนในคนไทยกลุ่มเสี่ยง 2 ล้านคน ปรากฏว่ามารับการฉีดเพียง 3 หมื่นกว่าคน เนื่องจาก 1.คนไทยเริ่มรู้สึกว่าการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จบลงแล้วหรือไม่อันตรายอีกต่อไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาฉีดวัคซีนก็ได้ 2.มีความกังวลว่าวัคซีนที่ฉีดให้จะไม่ปลอดภัย เพราะได้ยินข่าวตามสื่อมวลชนว่า หลายประเทศส่งวัคซีนคืนให้บริษัทผู้ผลิต จึงขอยืนยันอีกครั้งว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังระบาดในเมืองไทย ถือเป็นการระบาดระลอก 2 ดังนั้น กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อควรมาฉีด ส่วนเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนนั้นไม่ควรเป็นกังวล เพราะมีเพียงอเมริกาและแคนาดาที่ส่งวัคซีนคืนให้บริษัทผู้ผลิต สาเหตุที่ส่งคืนก็เพราะจำนวนเชื้อในวัคซีนต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด ไม่ได้เกิดจากผลข้างเคียงของโรคกิแลงแบเรหรือโรคอื่นๆ
ด้าน ศ.ดร.วันเพ็ญ ชัยคำภา ที่ปรึกษางานวิจัยวัคซีนไข้หวัดข้ามสายพันธุ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายเพิ่มเติมว่า อาการข้างเคียงของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มี 3 ระดับ คือ 1.มีอาการเจ็บคัน บวมแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน บางรายมีไข้ต่ำหรืออาเจียน ใช้เวลาประมาณ 1-2 วันร่างกายจะกลับเป็นปกติ 2.ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข้าไปสักระยะแล้วมีอาการคล้ายผู้ป่วยหอบหืด คือ หายใจติดขัด เพราะหลอดลมบีบตัว บางรายดูอาการสักพักก็หาย บางรายต้องฉีดยาขยายหลอดลม ส่วนระดับสุดท้ายเป็นระดับที่รุนแรง คือ ผู้ฉีดมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือที่เรียกว่าโรคกิแลงแบเร ต้องใช้วิธีทำกายภาพบำบัดเพื่อรักษา
"วัคซีนทุกชนิดมีโอกาสทำให้ร่างกายแพ้หรือเกิดผลข้างเคียงได้ และผู้ที่ฉีดวัคซีนเข้าไปก็ไม่ได้ยืนยันว่า ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันทุกคน มีการรับรองผลเพียงร้อยละ 90 เท่านั้น หมายความว่าฉีด 100 คน จะมีประมาณ 10 คนที่วัคซีนไม่ได้ผล ที่ผ่านมาเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ตัวนี้ทำให้คนเสียชีวิตมาก และไม่เคยมีวัคซีนมาก่อน การฉีดในคนทั่วโลกถือเป็นการทดลองของวงการแพทย์ครั้งใหญ่ วัคซีนที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของเมืองไทยก็น่าจะปลอดภัยในระดับหนึ่ง อาจพบคนเกิดอาการข้างเคียงบ้าง เพราะฉะนั้นแต่ละคนต้องใช้วิจารณญาณเองว่าอยากฉีดหรือไม่ มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน" ศ.ดร.วันเพ็ญ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ จำกัด ที่ขายวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 2 ล้านโดส โดสละประมาณ 200 บาทให้แก่รัฐบาลไทย ได้ระบุรายละเอียดในสัญญาสั่งซื้อว่า บริษัทจะไม่รับผิดชอบกรณีที่เกิดผลข้างเคียงในการใช้วัคซีนนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้องคาราวานเส้นทางรัก"หุ่นพี่ทหารใจดี"เรียกรอยยิ้มสคบ.ชี้จุดต่าง"ขายตรง-แชร์ลูกโซ่"ห่วงปลุกเร้าลูกค้าระดมทุนบิดเบือนธุรกิจจ่าเฉยชั่วโมงเซียน-หลวงพ่อปู่ หลวงปู่กรับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์-พระเกจิอาจารย์เข้มขลัง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
โซไซตี้ประจำวันที่ 1 ก.พ.53
โซไซตี้ประจำวันที่ 1 ก.พ.53
คมชัดลึก :**สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงเปิดงานเกษตรแฟร์ ประจำปี 2553 พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการและร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ ที่อยู่ภายในบริเวณจัดงานด้วยความสนพระทัย ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
**พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวนเงิน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศสาธารณรัฐเฮติ โดยมี แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้รับสนองพระดำริ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2553 ณ ห้องรับรอง อาคารเทิดพระเกียรติฯ สภากาชาดไทย
**พล.ร.อ. ม.ล.อัศนี ปราโมช องคมนตรี นำคณะนักดนตรีจัดแสดงคอนเสิร์ตการกุศลประจำปีเพื่อนำรายได้ทั้งหมดจากการจัดงานสมทบทุนแก่สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ เมื่อวานก่อน
** ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานสัมภาษณ์พิเศษเรื่องการถักร้อย สร้อยรัก ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์ เพื่อโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งผู้ยากไร้ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ณ พระตำหนักจักรีบงกช เวลา 16.00 น.
** เห็นเจ้าพ่อวงการเพชร "หนึ่ง" สุริยน ศรีอรทัยกุล ใส่แว่นตากันแดดแต่เช้าตรู่ นึกว่าส่งเพชรมากเกินไปตาอักเสบ ที่ไหนได้เจ้าตัวบอกว่าเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศแล้วได้นอนน้อยมาก แล้วต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาจัดงานการกุศล ตาจึงบวมเป่งเลยต้องอาศัยแว่นกันแดดปกปิดกันนิ้ดก็เท่านั้นเอง...
** ดร.สมนึก สงวนสิน ผอมเพรียวจนทำเอาต๊กกะจัย นึกว่าไม่สบาย สุดท้ายได้คำเฉลยตอนนี้ผอมลงกว่า 12 กิโล เพราะช่วงปีที่ผ่านมาต้องเดินทางไปโน่นนี่ตลอด สำคัญทุกทริปการเดินทางต้องเดินตามภรรยาสุดเลิฟช็อปปิ้งแล้วหิ้วข้าวของ พอถึงเวลาจะรับประทานอาหารก็เหนื่อยหมดแรงขอนอนดีกว่า เป็นอย่างนี้มาอย่างต่อเนื่อง...จนผอมอย่างที่เห็นเนี่ยแหละคร้าบบบ...
** ใครๆ ก็พากันทักว่าหน้าตาอ่อนกว่าวัยกันยกใหญ่ ทำเอา "ผึ้ง" สิริยส เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยิ้มแก้มแทบปริ ด้วยเธอเพิ่งจะไปเปลี่ยนทรงผมมาหมาดๆ แถมเจ้าตัวยังบอกด้วยว่า เปลี่ยนทรงผมรับปีใหม่ รับตรุษจีน วาเลนไทน์ รับแฟนใหม่ เรียกว่ารับทุกเทศกาลที่กำลังจะมาถึงว่างั้น แต่เทศกาลหลังนี้มันยังไงๆ อยู่นา...
** ถ้าไม่มีอีเวนท์ไหนเกี่ยวกับเครื่องเพชรที่เจ้าตัวดูแล ก็คงยากที่จะได้เห็นหน้าอันหล่อเหลาของ "ท๊อป" พีรยสถ์ ศิริเกียรติสูง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีซิชั่น คอนเซ็ปต์ จำกัด หรือที่รู้จักกันในนามเครื่องเพชร เดอ พรีโก้ เป็นแน่ แต่เพราะได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 16 หนุ่มในฝันของสาวๆ ของนิตยสารไฮ! แล้วต้องเปิดตัวต่อหน้าสาธารณชนเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ก็ดังสนั่นเลยทีเดียว เท่านั้นแหละอาการประหม่าปนตื่นเต้นของหนุ่มท๊อปก็เผยออกมาให้เห็นทันที แบบนี้คงต้องจับออกงานบ่อยๆ แล้วล่ะค่ะจะได้ชิน...
ข่าวที่เกี่ยวข้องนาฬิกาเรือนหรูเพื่อ"พ่อหลวง" หรูหราล่าสุดยี่ห้อชลาชล"วิถีชีวิต-ลายไทย" คว้าชัยเวทีเครื่องประดับ
โซไซตี้ประจำวันที่14 ธ.ค. โซไซตี้ประจำวันที่9ธ.ค.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :**สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงเปิดงานเกษตรแฟร์ ประจำปี 2553 พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการและร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ ที่อยู่ภายในบริเวณจัดงานด้วยความสนพระทัย ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
**พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวนเงิน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศสาธารณรัฐเฮติ โดยมี แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้รับสนองพระดำริ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2553 ณ ห้องรับรอง อาคารเทิดพระเกียรติฯ สภากาชาดไทย
**พล.ร.อ. ม.ล.อัศนี ปราโมช องคมนตรี นำคณะนักดนตรีจัดแสดงคอนเสิร์ตการกุศลประจำปีเพื่อนำรายได้ทั้งหมดจากการจัดงานสมทบทุนแก่สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ เมื่อวานก่อน
** ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานสัมภาษณ์พิเศษเรื่องการถักร้อย สร้อยรัก ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์ เพื่อโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งผู้ยากไร้ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ณ พระตำหนักจักรีบงกช เวลา 16.00 น.
** เห็นเจ้าพ่อวงการเพชร "หนึ่ง" สุริยน ศรีอรทัยกุล ใส่แว่นตากันแดดแต่เช้าตรู่ นึกว่าส่งเพชรมากเกินไปตาอักเสบ ที่ไหนได้เจ้าตัวบอกว่าเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศแล้วได้นอนน้อยมาก แล้วต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาจัดงานการกุศล ตาจึงบวมเป่งเลยต้องอาศัยแว่นกันแดดปกปิดกันนิ้ดก็เท่านั้นเอง...
** ดร.สมนึก สงวนสิน ผอมเพรียวจนทำเอาต๊กกะจัย นึกว่าไม่สบาย สุดท้ายได้คำเฉลยตอนนี้ผอมลงกว่า 12 กิโล เพราะช่วงปีที่ผ่านมาต้องเดินทางไปโน่นนี่ตลอด สำคัญทุกทริปการเดินทางต้องเดินตามภรรยาสุดเลิฟช็อปปิ้งแล้วหิ้วข้าวของ พอถึงเวลาจะรับประทานอาหารก็เหนื่อยหมดแรงขอนอนดีกว่า เป็นอย่างนี้มาอย่างต่อเนื่อง...จนผอมอย่างที่เห็นเนี่ยแหละคร้าบบบ...
** ใครๆ ก็พากันทักว่าหน้าตาอ่อนกว่าวัยกันยกใหญ่ ทำเอา "ผึ้ง" สิริยส เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยิ้มแก้มแทบปริ ด้วยเธอเพิ่งจะไปเปลี่ยนทรงผมมาหมาดๆ แถมเจ้าตัวยังบอกด้วยว่า เปลี่ยนทรงผมรับปีใหม่ รับตรุษจีน วาเลนไทน์ รับแฟนใหม่ เรียกว่ารับทุกเทศกาลที่กำลังจะมาถึงว่างั้น แต่เทศกาลหลังนี้มันยังไงๆ อยู่นา...
** ถ้าไม่มีอีเวนท์ไหนเกี่ยวกับเครื่องเพชรที่เจ้าตัวดูแล ก็คงยากที่จะได้เห็นหน้าอันหล่อเหลาของ "ท๊อป" พีรยสถ์ ศิริเกียรติสูง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีซิชั่น คอนเซ็ปต์ จำกัด หรือที่รู้จักกันในนามเครื่องเพชร เดอ พรีโก้ เป็นแน่ แต่เพราะได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 16 หนุ่มในฝันของสาวๆ ของนิตยสารไฮ! แล้วต้องเปิดตัวต่อหน้าสาธารณชนเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ก็ดังสนั่นเลยทีเดียว เท่านั้นแหละอาการประหม่าปนตื่นเต้นของหนุ่มท๊อปก็เผยออกมาให้เห็นทันที แบบนี้คงต้องจับออกงานบ่อยๆ แล้วล่ะค่ะจะได้ชิน...
ข่าวที่เกี่ยวข้องนาฬิกาเรือนหรูเพื่อ"พ่อหลวง" หรูหราล่าสุดยี่ห้อชลาชล"วิถีชีวิต-ลายไทย" คว้าชัยเวทีเครื่องประดับ
โซไซตี้ประจำวันที่14 ธ.ค. โซไซตี้ประจำวันที่9ธ.ค.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ใครอะไรที่ไหนประจำวันที่ 1 ก.พ.
ใครอะไรที่ไหนประจำวันที่ 1 ก.พ.
คมชัดลึก : เจ้ากระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ชินวรณ์ บุญยเกียรติ เป็นประธานเปิดโครงการ "กล่องวิเศษ ปี2 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมมอบรางวัลแก่โรงเรียนที่ส่งแผนการรณรงค์การจัดเก็บกล่องยูเอชที สู่กระบวนการรีไซเคิลเข้าประกวด วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 13.00 - 15.00 น. ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ
ถือฤกษ์เริ่มต้นเดือนแห่งความรัก แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย จัดแถลงข่าวโครงการ "ปวงประชาชาวไทย ทำความดีบริจาคโลหิต ถวายพ่อของแผ่นดินฯ" เพื่อรณรงค์ให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมแสดงความจงรักภักดี ทำความดีพ่อ อีกทั้งกระตุ้นให้ร่วมบริจาคโลหิตเพียงปีละครั้ง จันทร์ที่ 1 ก.พ.นี้ บ่าย 2 โมงตรง ห้องจุมภฎ 2-3 ชั้น 9 อ.เฉลิมพระเกียรติฯ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จับมือเขตบางรัก และสภาวัฒนธรรมเขตบางรัก ชวนคู่รักร่วมแต่งงานฟรี! ในงาน “บางรัก...มรดกรักแห่งแผ่นดิน 2553 ” ตอน รัตนโกสินทร์แผ่นดินแห่งความรัก ในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ.นี้ โดยจัดแบบประเพณีไทยยุคกรุงรัตนโกสินทร์ สนใจส่งใบสมัคร รูปถ่าย พร้อมรายละเอียด และเล่าเรื่องราวความประทับใจในความรัก สอบถามโทร.0-2630-0700 ภายในวันที่ 4 ก.พ.นี้ เพียง 12 คู่เท่านั้น !!!
ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติโคกขาม จัดงานเทศกาลอนุรักษ์นกชายเลน ครั้งที่ 9 พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมการให้ความรู้ต่างๆ เช่น การให้ความรู้เรื่องความสำคัญของอ่าวไทยตอนในกับนกชายเลน ระบบนิเวศของน้ำ ป่าชายเลน และโลมาในอ่าวไทย ที่แหล่งดูนกชายเลน ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ โทร.0-3475-2847-8
ข่าวที่เกี่ยวข้องโซไซตี้ประจำวันที่ 1 ก.พ.53 โซไซตี้ประจำวันที่ 29 ม.ค.สังคมราชภัฏประจำวันที่29ม.ค.โซไซตี้ประจำวันที่27 ม.ค.ใครอะไรที่ไหนประจำวันที่27 ม.ค.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : เจ้ากระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ชินวรณ์ บุญยเกียรติ เป็นประธานเปิดโครงการ "กล่องวิเศษ ปี2 ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมมอบรางวัลแก่โรงเรียนที่ส่งแผนการรณรงค์การจัดเก็บกล่องยูเอชที สู่กระบวนการรีไซเคิลเข้าประกวด วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 13.00 - 15.00 น. ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ
ถือฤกษ์เริ่มต้นเดือนแห่งความรัก แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย จัดแถลงข่าวโครงการ "ปวงประชาชาวไทย ทำความดีบริจาคโลหิต ถวายพ่อของแผ่นดินฯ" เพื่อรณรงค์ให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมแสดงความจงรักภักดี ทำความดีพ่อ อีกทั้งกระตุ้นให้ร่วมบริจาคโลหิตเพียงปีละครั้ง จันทร์ที่ 1 ก.พ.นี้ บ่าย 2 โมงตรง ห้องจุมภฎ 2-3 ชั้น 9 อ.เฉลิมพระเกียรติฯ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จับมือเขตบางรัก และสภาวัฒนธรรมเขตบางรัก ชวนคู่รักร่วมแต่งงานฟรี! ในงาน “บางรัก...มรดกรักแห่งแผ่นดิน 2553 ” ตอน รัตนโกสินทร์แผ่นดินแห่งความรัก ในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ.นี้ โดยจัดแบบประเพณีไทยยุคกรุงรัตนโกสินทร์ สนใจส่งใบสมัคร รูปถ่าย พร้อมรายละเอียด และเล่าเรื่องราวความประทับใจในความรัก สอบถามโทร.0-2630-0700 ภายในวันที่ 4 ก.พ.นี้ เพียง 12 คู่เท่านั้น !!!
ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติโคกขาม จัดงานเทศกาลอนุรักษ์นกชายเลน ครั้งที่ 9 พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมการให้ความรู้ต่างๆ เช่น การให้ความรู้เรื่องความสำคัญของอ่าวไทยตอนในกับนกชายเลน ระบบนิเวศของน้ำ ป่าชายเลน และโลมาในอ่าวไทย ที่แหล่งดูนกชายเลน ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ โทร.0-3475-2847-8
ข่าวที่เกี่ยวข้องโซไซตี้ประจำวันที่ 1 ก.พ.53 โซไซตี้ประจำวันที่ 29 ม.ค.สังคมราชภัฏประจำวันที่29ม.ค.โซไซตี้ประจำวันที่27 ม.ค.ใครอะไรที่ไหนประจำวันที่27 ม.ค.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
หวานได้อีก
หวานได้อีก
คมชัดลึก : น้ำตาลจ้า น้ำตาลหวานๆ มาแร้วว...คริ คริ ไม่ใช่มาประกาศใส่โทรโข่งขายน้ำตาลหรอกนะ แต่งานนี้บรรดามดใหญ่ มดเล็กยังต้องอาย เพราะคู่รัก คู่สวีทอย่าง "น้องเล็ก" ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร และพ่อหนุ่มลูกครึ่งสูงยาวเข่าดี โอลิเวอร์ น่ะ แว่วว่าเตรียมควงกันมาอินเลิฟ เติมความหวานให้เห็นแบบเต็มๆ ตา ให้คนเขาอิจฉาเล่นบนแคทวอล์กงานหวานและหรูซะ "เกสร วาเลนไทน์ เลิฟ คาร์นิวัล" ที่จะจัดขึ้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้
พอรู้ว่าจะมีงานให้โชว์หวานหนุ่มโอลิเวอร์ก็แอบซุ่มวางแผนเซอร์ไพรส์หวานใจ!!! ด้วยการเหมายกชุดเครื่องประดับที่น้องเล็กจะใส่ขึ้นเวทีเดินแบบ แต่แผนการที่กำลังไปได้สวย บังเอิ๊ญสาวเจ้าผู้มีหูตาเป็นสับปะรดดั๊นแพลมๆ มาได้ยินบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่ว่าซะก่อน พ่อหนุ่มเลยออกอาการเซ็งไปชุดใหญ่
แหม...แฟนหนุ่มตั้งใจทั้งที มาจบเห่แบบนี้ก็ไม่สนุกสิ น้องเล็กเลยยื่นข้อเสนอเพื่อเป็นการปลอบใจ ด้วยการอ้อนขอให้พาช็อปต่อหลังงานแบบครบทุกร้านค่ะคุณขา...โอ๊ย พ่อหนุ่มได้ยินแบบนี้ ก็หงายเก๋งสิคะ
ม่ายรู้ว่างานนี้จะ "หวานหยด" หรือ "หวานอมขมกลืน" อืมม...บอกไม่ถูก (ฮา)
ข่าวที่เกี่ยวข้องโซไซตี้ประจำวันที่ 24 ธ.ค. พระองค์ทีทรงร่วมขบวนซานต้าประจำวันที่1ธ.ค.ละลานตางานมหัศจรรย์พรรณไม้ คนดังรวมพลังช่วยปฐมพยาบาลโลก
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : น้ำตาลจ้า น้ำตาลหวานๆ มาแร้วว...คริ คริ ไม่ใช่มาประกาศใส่โทรโข่งขายน้ำตาลหรอกนะ แต่งานนี้บรรดามดใหญ่ มดเล็กยังต้องอาย เพราะคู่รัก คู่สวีทอย่าง "น้องเล็ก" ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร และพ่อหนุ่มลูกครึ่งสูงยาวเข่าดี โอลิเวอร์ น่ะ แว่วว่าเตรียมควงกันมาอินเลิฟ เติมความหวานให้เห็นแบบเต็มๆ ตา ให้คนเขาอิจฉาเล่นบนแคทวอล์กงานหวานและหรูซะ "เกสร วาเลนไทน์ เลิฟ คาร์นิวัล" ที่จะจัดขึ้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้
พอรู้ว่าจะมีงานให้โชว์หวานหนุ่มโอลิเวอร์ก็แอบซุ่มวางแผนเซอร์ไพรส์หวานใจ!!! ด้วยการเหมายกชุดเครื่องประดับที่น้องเล็กจะใส่ขึ้นเวทีเดินแบบ แต่แผนการที่กำลังไปได้สวย บังเอิ๊ญสาวเจ้าผู้มีหูตาเป็นสับปะรดดั๊นแพลมๆ มาได้ยินบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่ว่าซะก่อน พ่อหนุ่มเลยออกอาการเซ็งไปชุดใหญ่
แหม...แฟนหนุ่มตั้งใจทั้งที มาจบเห่แบบนี้ก็ไม่สนุกสิ น้องเล็กเลยยื่นข้อเสนอเพื่อเป็นการปลอบใจ ด้วยการอ้อนขอให้พาช็อปต่อหลังงานแบบครบทุกร้านค่ะคุณขา...โอ๊ย พ่อหนุ่มได้ยินแบบนี้ ก็หงายเก๋งสิคะ
ม่ายรู้ว่างานนี้จะ "หวานหยด" หรือ "หวานอมขมกลืน" อืมม...บอกไม่ถูก (ฮา)
ข่าวที่เกี่ยวข้องโซไซตี้ประจำวันที่ 24 ธ.ค. พระองค์ทีทรงร่วมขบวนซานต้าประจำวันที่1ธ.ค.ละลานตางานมหัศจรรย์พรรณไม้ คนดังรวมพลังช่วยปฐมพยาบาลโลก
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
สายเลือดมังกรเผยเคล็ดลับเสริมความเฮง
สายเลือดมังกรเผยเคล็ดลับเสริมความเฮง
คมชัดลึก : ในช่วงวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนหรือช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นคนไทยเชื้อสายจีนหรือคนไทยแท้ๆ ต่างก็จะมีเคล็ด (ไม่) ลับสำหรับเสริมความเฮง เพิ่มความโชคดีตลอดปีและตลอดไป ก็ดูอย่างเซ็นทรัลเวิลด์ ยังจำลองบรรยากาศและโชว์วัฒนธรรมจีนสุดอลังการมาไว้ที่กลางใจเมือง พร้อมชวนเหล่าคนดังที่มีเคล็ดลับส่วนตัวที่จะนำมาเปิดเผย ซึ่งใครอยากนำไปปฏิบัติตามก็ไม่ว่ากัน
เริ่มกันที่ "แกะ" อิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เผยเคล็ดลับสู่ความเฮงและความโชคดีตลอดทั้งปีว่า ให้มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง
“ตระกูลผมเป็นคนจีน ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ มีกันทั้งหมด 180 คน วันตรุษจีนก็จะมารวมตัวกันที่บ้านคุณย่า ที่ศาลาแดง ก็จะรับประทานอาหารร่วมกันทั้งมื้อกลางวันและเย็น วันนั้นก็จะมีพิธีไหว้บรรพบุรุษ ที่บ้านจะทำเช่นนี้กันทุกปี และจะมีช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือช่วงแจกซองอั่งเปา แต่ปีนี้ก็คงจะไม่มีใครให้เราแล้ว รอถึงเวลาแต่งงานแล้วก็จะต้องให้คนอื่นบ้าง” ผู้จัดฝ่ายการตลาด แจง
ส่วน "ซินแสช้าง" ทศพร ศรีตุลา ได้ให้คำแนะนำถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติในช่วงตรุษจีนเพื่อต้อนรับความเฮงว่า คนจีนเชื่อว่าวันตรุษจีนก็ต้องหาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เช่น เสื้อผ้าใหม่ ของตกแต่งบ้านใหม่ เพราะว่าอะไรใหม่ๆ จะทำให้เราโชคดีตลอดทั้งปี ธรรมเนียมจีนจะเริ่มต้นทำกันตั้งแต่ก่อนปีใหม่ด้วยซ้ำไปในเรื่องปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดบ้าน เพื่อเป็นการล้างสิ่งไม่ดีออกไป และเตรียมรับกระแสโชคดีของปีใหม่เข้ามา เช่น สวมเสื้อผ้าสีสันเป็นมงคล ใส่เครื่องประดับที่เป็นมงคล และไม่พูดคำหยาบใส่กัน กินอาหารดีๆ ทุกอย่างจะต้องเต็มที่ ถ้าเราอยากมีเงินมีทองมากๆในปีนี้ เราก็ต้องเริ่มต้นด้วยการทำสิ่งดีๆ ก่อน
“ปี 2553 นี้เป็นปีเสือธาตุทอง ส่งผลในเรื่องของเงินทองโชคลาภ หลายคนกังวลว่าเสือจะดุหรือเปล่า เสือมีหลายแบบ แต่สำหรับปีเสือธาตุทองตามหลักโหราศาสตร์ถือว่าไม่ได้น่ากลัว แต่เป็นเสือที่นำโชคลาภเงินทองมาให้ ใครที่สามารถเกาะกระแสของโชคลาภเงินทองได้ดี ก็จะถือว่าความร่ำรวยก็จะเข้ามาในปีนี้ด้วยเหมือนกัน” ซินแสช้าง กล่าว
ด้าน บัณฑิต อึ้งรังษี วาทยกรระดับโลกชาวไทย กล่าวว่า ปกติในช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ และจะพยายามไม่ทำงาน และจะมีวิธีคิดที่ทำให้ตัวเองโชคดีไปตลอดทั้งปีคือ เชื่อว่าการที่จะโชคดีนั้นอยู่ที่ตัวเราเอง เราเป็นคนสร้างโชคให้ตัวเราเอง เพียงแต่ว่าเราต้องคิดให้ถูก คิดให้ดี ซึ่งทั้งหมดอยู่ในหนังสือกฎแห่งความโชคดี สามารถหาอ่านเพื่อเพิ่มความโชคดีให้แก่ตัวเองได้
ปิดท้ายที่ เซเลบสาวสวยอย่าง "กวาง" กุญช์ณิชา (พรประภา) พึ่งบุญพระ กันบ้าง ที่เจ้าตัวบอกว่า ช่วงตรุษจีนก็จะอยู่กับครอบครัว ซึ่งที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่ตอนเย็นก็จะออกไปทานข้าวกันทั้งหมด เป็นการรวมญาติ เด็กๆ ก็จะรอคอยที่จะรับซองอั่งเปา แต่ปีนี้ก็จะเป็นปีที่ต้องแจกซองเป็นปีแรก แต่ที่บ้านจะไม่ค่อยไปเที่ยวในวันเที่ยวเท่าไหร่ แต่จะอาศัยการไปรับประทานอาหารร่วมกัน และออกไปซื้อของเพื่อนำกลับเข้ามาไหว้เจ้าตามประเพณีที่สืบต่อกันมา อย่างปีนี้ก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะออกมาจับจ่ายของกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ เพราะที่นี่มีจัดงานฉลองตรุษจีนด้วย ซึ่งที่นี่ได้รวมรวบร้านดังกว่า 50 ร้านจากเยาวราช, มีไชนีส ฟู้ด ทาวน์ ที่จำหน่ายไม้มงคลด้วย และส่วนตัวก็จะมีเคล็ดลับที่จะทำให้สิ่งดีๆ เข้ามาตลอดทั้งปีคือ เริ่มต้นด้วยการทำดี ไม่ว่าจะเป็นการพูดดี คิดดี และทำดี ไม่ใช่เฉพาะวันตรุษจีนเท่านั้น แต่จะต้องทำสิ่งดีตลอดทั้งปี เท่านี้เรื่องดีๆ ก็จะกลับเข้ามาหาตัวเรา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เซ็นทรัลเวิลด์ยังจัดการแสดงจาก 10 มณฑลของจีน เรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ของไทยก็ได้ที่สามารถรวบรวมได้เยอะขนาดนี้ นอกจากนี้ยังได้จำลองบรรยากาศและโชว์วัฒนธรรมจีนสุดอลังการกลางใจเมือง ที่มาในคอนเซ็ปต์ “เดอะ เวิลด์ ออฟ ไชนีส อาร์ต แอนด์ คัลเจอร์” อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้องแจกฟรี!...เสือรุ่น๕วัดตะเคียนชั่วโมงเซียน-หลวงพ่อปู่ หลวงปู่กรับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์-พระเกจิอาจารย์เข้มขลังโซไซตี้ประจำวันที่ 1 ก.พ.53 วิจารณ์ป้ายคู่"สุวัจน์-ลูกเจ๊เกียว"ทอ.ถามเสื้อแดงบุกฐานทัพเพื่ออะไร
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : ในช่วงวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนหรือช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นคนไทยเชื้อสายจีนหรือคนไทยแท้ๆ ต่างก็จะมีเคล็ด (ไม่) ลับสำหรับเสริมความเฮง เพิ่มความโชคดีตลอดปีและตลอดไป ก็ดูอย่างเซ็นทรัลเวิลด์ ยังจำลองบรรยากาศและโชว์วัฒนธรรมจีนสุดอลังการมาไว้ที่กลางใจเมือง พร้อมชวนเหล่าคนดังที่มีเคล็ดลับส่วนตัวที่จะนำมาเปิดเผย ซึ่งใครอยากนำไปปฏิบัติตามก็ไม่ว่ากัน
เริ่มกันที่ "แกะ" อิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เผยเคล็ดลับสู่ความเฮงและความโชคดีตลอดทั้งปีว่า ให้มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง
“ตระกูลผมเป็นคนจีน ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ มีกันทั้งหมด 180 คน วันตรุษจีนก็จะมารวมตัวกันที่บ้านคุณย่า ที่ศาลาแดง ก็จะรับประทานอาหารร่วมกันทั้งมื้อกลางวันและเย็น วันนั้นก็จะมีพิธีไหว้บรรพบุรุษ ที่บ้านจะทำเช่นนี้กันทุกปี และจะมีช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือช่วงแจกซองอั่งเปา แต่ปีนี้ก็คงจะไม่มีใครให้เราแล้ว รอถึงเวลาแต่งงานแล้วก็จะต้องให้คนอื่นบ้าง” ผู้จัดฝ่ายการตลาด แจง
ส่วน "ซินแสช้าง" ทศพร ศรีตุลา ได้ให้คำแนะนำถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติในช่วงตรุษจีนเพื่อต้อนรับความเฮงว่า คนจีนเชื่อว่าวันตรุษจีนก็ต้องหาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เช่น เสื้อผ้าใหม่ ของตกแต่งบ้านใหม่ เพราะว่าอะไรใหม่ๆ จะทำให้เราโชคดีตลอดทั้งปี ธรรมเนียมจีนจะเริ่มต้นทำกันตั้งแต่ก่อนปีใหม่ด้วยซ้ำไปในเรื่องปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดบ้าน เพื่อเป็นการล้างสิ่งไม่ดีออกไป และเตรียมรับกระแสโชคดีของปีใหม่เข้ามา เช่น สวมเสื้อผ้าสีสันเป็นมงคล ใส่เครื่องประดับที่เป็นมงคล และไม่พูดคำหยาบใส่กัน กินอาหารดีๆ ทุกอย่างจะต้องเต็มที่ ถ้าเราอยากมีเงินมีทองมากๆในปีนี้ เราก็ต้องเริ่มต้นด้วยการทำสิ่งดีๆ ก่อน
“ปี 2553 นี้เป็นปีเสือธาตุทอง ส่งผลในเรื่องของเงินทองโชคลาภ หลายคนกังวลว่าเสือจะดุหรือเปล่า เสือมีหลายแบบ แต่สำหรับปีเสือธาตุทองตามหลักโหราศาสตร์ถือว่าไม่ได้น่ากลัว แต่เป็นเสือที่นำโชคลาภเงินทองมาให้ ใครที่สามารถเกาะกระแสของโชคลาภเงินทองได้ดี ก็จะถือว่าความร่ำรวยก็จะเข้ามาในปีนี้ด้วยเหมือนกัน” ซินแสช้าง กล่าว
ด้าน บัณฑิต อึ้งรังษี วาทยกรระดับโลกชาวไทย กล่าวว่า ปกติในช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ และจะพยายามไม่ทำงาน และจะมีวิธีคิดที่ทำให้ตัวเองโชคดีไปตลอดทั้งปีคือ เชื่อว่าการที่จะโชคดีนั้นอยู่ที่ตัวเราเอง เราเป็นคนสร้างโชคให้ตัวเราเอง เพียงแต่ว่าเราต้องคิดให้ถูก คิดให้ดี ซึ่งทั้งหมดอยู่ในหนังสือกฎแห่งความโชคดี สามารถหาอ่านเพื่อเพิ่มความโชคดีให้แก่ตัวเองได้
ปิดท้ายที่ เซเลบสาวสวยอย่าง "กวาง" กุญช์ณิชา (พรประภา) พึ่งบุญพระ กันบ้าง ที่เจ้าตัวบอกว่า ช่วงตรุษจีนก็จะอยู่กับครอบครัว ซึ่งที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่ตอนเย็นก็จะออกไปทานข้าวกันทั้งหมด เป็นการรวมญาติ เด็กๆ ก็จะรอคอยที่จะรับซองอั่งเปา แต่ปีนี้ก็จะเป็นปีที่ต้องแจกซองเป็นปีแรก แต่ที่บ้านจะไม่ค่อยไปเที่ยวในวันเที่ยวเท่าไหร่ แต่จะอาศัยการไปรับประทานอาหารร่วมกัน และออกไปซื้อของเพื่อนำกลับเข้ามาไหว้เจ้าตามประเพณีที่สืบต่อกันมา อย่างปีนี้ก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะออกมาจับจ่ายของกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ เพราะที่นี่มีจัดงานฉลองตรุษจีนด้วย ซึ่งที่นี่ได้รวมรวบร้านดังกว่า 50 ร้านจากเยาวราช, มีไชนีส ฟู้ด ทาวน์ ที่จำหน่ายไม้มงคลด้วย และส่วนตัวก็จะมีเคล็ดลับที่จะทำให้สิ่งดีๆ เข้ามาตลอดทั้งปีคือ เริ่มต้นด้วยการทำดี ไม่ว่าจะเป็นการพูดดี คิดดี และทำดี ไม่ใช่เฉพาะวันตรุษจีนเท่านั้น แต่จะต้องทำสิ่งดีตลอดทั้งปี เท่านี้เรื่องดีๆ ก็จะกลับเข้ามาหาตัวเรา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เซ็นทรัลเวิลด์ยังจัดการแสดงจาก 10 มณฑลของจีน เรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ของไทยก็ได้ที่สามารถรวบรวมได้เยอะขนาดนี้ นอกจากนี้ยังได้จำลองบรรยากาศและโชว์วัฒนธรรมจีนสุดอลังการกลางใจเมือง ที่มาในคอนเซ็ปต์ “เดอะ เวิลด์ ออฟ ไชนีส อาร์ต แอนด์ คัลเจอร์” อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้องแจกฟรี!...เสือรุ่น๕วัดตะเคียนชั่วโมงเซียน-หลวงพ่อปู่ หลวงปู่กรับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์-พระเกจิอาจารย์เข้มขลังโซไซตี้ประจำวันที่ 1 ก.พ.53 วิจารณ์ป้ายคู่"สุวัจน์-ลูกเจ๊เกียว"ทอ.ถามเสื้อแดงบุกฐานทัพเพื่ออะไร
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Subscribe to:
Posts (Atom)