Natural IVF/IVM ทางเลือกใหม่ ผู้มีบุตรยาก

Natural IVF/IVM ทางเลือกใหม่ ผู้มีบุตรยาก

ทางเลือกใหม่ล่าสุด ในการช่วยแก้ไขปัญหาภาวะผู้มีบุตรยากที่มีข้อจำกัด Natural IVF/IVM หรือ เด็กหลอดแก้วในรอบธรรมชาติ ช่วยเพิ่มโอกาสให้คู่สมรสประสบความสำเร็จในการมีบุตรปัจจุบันพบว่าคู่สมรสที่ต้องเผชิญกับปัญหามีบุตรยากมีอยู่จำนวนมากขึ้น และถึงแม้ว่าวิทยาการทางการแพทย์จะพัฒนาจนสามารถคิดค้นสารพัดเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ได้ เช่น การกระตุ้นรังไข่และการฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก การทำเด็กหลอดแก้ว การทำอิ๊กซี่ การทำพีซ่าและการทำเทเซ่ เป็นต้น แต่วิธีเหล่านี้ล้วนแล้วต้องอาศัยการใช้ฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นรังไข่ให้ได้ไข่หลายๆ ใบ  กระบวนการนี้ยังเป็นข้อจำกัดสำหรับคนบางกลุ่มที่ต้องการมีบุตรแต่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่ หรือไม่ต้องการได้รับฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่ล่าสุด มีวิธีที่นับว่าเป็นทางเลือกใหม่ในการช่วยแก้ไขปัญหาภาวะผู้มีบุตรยากที่มีข้อจำกัดดังกล่าว นั่นก็คือ Natural IVF/IVM หรือ เด็กหลอดแก้วในรอบธรรมชาติอาจารย์แพทย์หญิง ชุติมา โตพิพัฒน์ ที่ปรึกษาศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตรโรงพยาบาลเวชธานี เปิดเผยถึงเทคโนโลยีเด็กหลอดแก้วในรอบธรรมชาติ หรือ Natural IVF/IVM ว่าเป็นกระบวนการหนึ่งในการทำเด็กหลอดแก้ว  แตกต่างจากการทำเด็กหลอดแก้วทั่วไปในกระบวนการกระตุ้นรังไข่ โดยการทำเด็กหลอดแก้วทั่วไปฝ่ายหญิงจำเป็นต้องได้รับการฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้ได้ไข่หลายๆ ใบ ส่วนวิธี Natural IVF/IVM จะรอเวลาให้ไข่เจริญเติบโตเองจนถึงระยะเวลาหนึ่งแล้วจึงทำการเจาะเก็บไข่ออกมา โดยไข่ที่ได้พอจะแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ไข่กลุ่มที่สุกแล้วหรือเจริญเติบโตเต็มที่แล้วสามารถนำไปผสมกับเชื้ออสุจิและเพาะเลี้ยงให้เป็นตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการได้เลย ส่วนอีกกลุ่มคือไข่กลุ่มที่ยังไม่สุกหรือยังเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์เต็มที่ จะต้องนำมาเพาะเลี้ยงให้สุกสมบูรณ์ก่อนแล้วจึงนำมาผสมกับเชื้ออสุจิเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิต่อไปวิธี Natural IVF/IVM นี้เหมาะสำหรับกรณีที่ฝ่ายหญิงมีข้อจำกัดในการใช้ฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่ ได้แก่ กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป ได้แก่โรคถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (Polycystic Ovary Syndrome: PCOS) เนื่องจากจะมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่มากกว่าคนทั่วไป จนเกิดอาการบวมน้ำขึ้น กลุ่มที่เคยฉีดกระตุ้นรังไข่แล้วเกิดภาวะแทรกซ้อน กลุ่มนี้เคยรักษาภาวะมีบุตรยากมาแล้วและเกิดภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากจนเกินไป ก็เป็นอีกกลุ่มที่เหมาะสมที่จะใช้การรักษาวิธีนี้เช่นเดียวกัน กลุ่มผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างรอการรักษาด้วยเคมีบำบัด รอการผ่าตัด หรือการฉายแสง  เนื่องจากการรักษามะเร็งวิธีการต่างๆ อาจส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ได้ กลุ่มผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากการรักษาโรคมะเร็ง แต่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นต้น เนื่องจากฮอร์โมนดังกล่าวอาจส่งผลให้ควบคุมโรคไม่ได้ หรือการกลับเป็นซ้ำของโรคมากขึ้นนอกจากนี้ยังมีรายงานการใช้วิธีนี้ในกลุ่มที่ปฏิเสธการฉีดยากระตุ้น บางคนอาจเคยได้รับการฉีดฮอร์โมนมาก่อน และรู้สึกทรมานกับการที่ต้องฉีดยากระตุ้นหลายๆ วันติดต่อกัน วิธี Natural IVF/IVM ก็อาจเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ส่วนในกลุ่มที่เคยมีตัวอ่อนคุณภาพไม่ดีจากการกระตุ้นด้วยฮอร์โมน ก็อาจเป็นอีกกลุ่มที่เลือกใช้วิธีนี้ได้ แต่ข้อมูลที่ได้ยังมีจำนวนรายงานค่อนข้างจำกัด    พญ.ชุติมา กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีนี้สามารถกลับมาทำซ้ำได้ภายใน 1 เดือน  จะช่วยลดความกังวลของคุณแม่ได้ เพราะหากใช้ยากระตุ้นฮอร์โมน จะต้องรอให้ฮอร์โมนลดลงก่อนถึงจะกลับมาทำใหม่ได้  ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน และข้อดีอีกประการคือช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการให้ฮอร์โมนได้อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า เป็นการรักษาโดยการใช้ฮอร์โมนจากภายในร่างกายเป็นตัวกระตุ้นเอง จำนวนไข่ที่ได้จะไม่มากเหมือนกรณีฉีดยาฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่ เพราะฉะนั้นผู้ที่เหมาะสมจะต้องเป็นผู้ที่รังไข่ยังทำงานปกติดี ถ้ารังไข่เสื่อม หรืออายุมากกว่า 35 ปี อาจไม่เหมาะสมที่จะใช้วิธี Natural IVF/IVMจากรายงานอัตราความสำเร็จในต่างประเทศพบว่า กลุ่มที่รังไข่ยังทำงานดีอยู่ ผลการรักษาจะไม่แตกต่างจากกลุ่มที่ได้รับการกระตุ้นรังไข่ด้วยการรักษาเด็กหลอดแก้วแบบเดิมทั่วๆ ไป วิธีนี้จะมีอัตราการตั้งครรภ์อยู่ที่ประมาณร้อยละ 35 แต่ในกลุ่มที่รังไข่เสื่อมการทำงานแล้ว วิธีการรักษาแบบเดิมคงเหมาะสมมากกว่า การรักษาด้วยวิธีเด็กหลอดแก้วในรอบธรรมชาติ หรือ Natural IVF/IVM จึงนับเป็นอีกทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้คู่สมรสประสบความสำเร็จในการมีบุตรและสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญปัญหามีบุตรยากอย่าเพิ่งหมดความหวัง ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ หากได้รับการรักษาตั้งแต่อายุยังไม่มากและรักษาอย่างถูกวิธี โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็มีมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่ลังเลและรอเวลาจนกระทั่งอายุมาก เพราะเมื่อถึงเวลานั้นไข่อาจจะคุณภาพไม่สมบูรณ์และทำให้โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็ยากขึ้นตามไปด้วย พญ.ชุติมา กล่าว

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6