Wednesday, March 31, 2010

ม.ล.เนื่องเจ้าของตำรับอาหารชาววังสิ้นใจแล้ว

ม.ล.เนื่องเจ้าของตำรับอาหารชาววังสิ้นใจแล้ว



คมชัดลึก :ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญตำรับอาหารชาววัง เจ้าของผลงานหนังสือ "ชีวิตในวัง-ตำรากับข้าวในวัง" ถึงแก่กรรมแล้วด้วยโรคชรา รวมอายุ 97 ปี






 ช็อกวงการอาหารไทย เมื่อกูรูด้านอาหารชาววัง ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคชรา ขณะมีอายุ 97 ปี เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.มาลินี ณ นคร ซึ่งเป็นหลานสาว ว่าเมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 29 มกราคม 2553 ม.ล.เนื่องจากไปอย่างสงบ และได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานน้ำหลวงอาบศพ
 น.ส.มาลินี เล่าถึงอาการป่วยของ ม.ล.เนื่อง จนกลายเป็นที่มาของความสูญเสียในครั้งนี้ว่า "เมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้ว คุณย่ามีอาการท้องอืด จึงเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร  ก่อนจะย้ายไปที่โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่ามีก้อนเนื้อร้ายอยู่ในลำไส้ ส่งผลให้ลำไส้อุดตัน แต่ไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ เพราะคุณย่าอายุเยอะแล้วจึงใช้วิธีการทำบอลลูนลำไส้แทน แต่ก็มีอาการหายใจไม่สะดวกจึงต้องเจาะบริเวณคอ เพื่อใส่เครื่องหายใจช่วยมาโดยตลอด ซึ่งจากเดิมตั้งใจว่าจะพาคุณย่ากลับบ้านในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ แต่ปรากฏว่าคุณย่ามาสิ้นใจเสียก่อน"
 ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร และเป็นอีกคนที่มีความผูกพันด้วยว่ามีศักดิ์เป็นพี่น้องกับ ม.ล.เนื่อง กล่าวว่า "ผมจะเรียกว่า "พี่เนื่อง" เพราะอายุห่างกัน 30 ปี สำหรับพี่เนื่องซึ่งได้อยู่พระตำหนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ซึ่งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ทุกวันนี้จึงถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องทำเครื่องถวาย เพราะที่ตำหนักนี้ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารทั้งคาวและหวาน จึงเรียกได้ว่าเป็นชาววังตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยเฉพาะความรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากในวังแห่งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นของสูงที่มีทั้งความเอร็ดอร่อย ด้วยรสชาติต่างๆ นานา มีการประดิดประดอยกันมาก ต่างจากอาหารพื้นบ้านทั่วๆ ไป เมื่อสิ้นพี่เนื่องไปคนก็เท่ากับสิ้นตำรับอาหารชาววัง แต่โชคดีที่พี่เนื่องถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างให้ลูกหลาน จึงเชื่ออาหารตำรับพระวิมาดาจะอยู่ต่อไป"
 ขณะเดียวกัน กูรูด้านอาหารไทยอย่าง อาจารย์ศรีสมร คงพันธุ์ เมื่อทราบข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ ม.ล.เนื่อง ถึงกับร้องด้วยความตกใจและเสียใจที่วงการอาหารไทยต้องสูญเสียบุคคลสำคัญ โดยกล่าวว่า ม.ล.เนื่องไม่เฉพาะแต่จะมีฝีมือมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในวังอย่างแท้จริงอีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นนักถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยน่าสนใจได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย 
 "ด้วยส่วนตัวเคยมีโอกาสพบท่านแม้จะนานมาแล้ว แต่ยังจำได้ว่าท่านเป็นคนคุยสนุก เป็นผู้ใหญ่ที่มีนิสัยทันสมัย ปรับตัวเข้ากับสังคมได้เป็นอย่างดี จึงถือว่าเป็นการสูญเสียบุคคลที่มีความรู้รอบด้านไปอย่างน่าเสียดาย เพราะท่านทำประโยชน์ให้แก่คนรุ่นหลังไว้มากมายโดยเฉพาะเรื่องอาหาร ถึงตอนนี้ก็คงต้องไปคารวะท่านเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายพาให้ท่านไปสู่สุคติ ในฐานะที่อย่างน้อยก็ได้ความรู้จากท่าน จึงขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของท่านด้วย" อาจารย์ศรีสมร กล่าว
 ทั้งนี้ชื่อเสียงของ ม.ล.เนื่อง เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปจากการเป็นนักเขียน ตั้งต้นเขียนหนังสือในนิตยสารลดา (ปิดกิจการไปแล้ว) และมาเขียนเล่าเรื่องราวย้อนยุคให้พลอยแกมเพชร ซึ่งเขียนได้สนุกสนาน โดยเฉพาะผลงานการเขียนหนังสือชีวิตในวัง 2 เล่ม ชีวิตนอกวัง 17 เล่ม และหนังสือรวมเล่ม “ตำรากับข้าวในวัง ของหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์” จนมีชื่อเสียงโด่งดัง กระทั่งมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย เป็นการเชิดชูเกียรติ และต่อมาก็ได้รับ "รางวัลนราธิป" ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติคุณที่มอบแก่นักเขียนและบรรณาธิการอาวุโส โดยมีหลักเกณฑ์ที่จะมอบรางวัลให้แก่ผู้ซึ่งมีอายุมากกว่า 80 ปี มีผลงานเป็นที่ยกย่องกว้างขวาง จัดโดยสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
 ชีวประวัติของ ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2456 เป็นบุตร ม.ร.ว.อั้น และนางเผือก นิลรัตน์ ณ อยุธยา ข้าหลวงของพระชายาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ม.ล.เนื่อง มีน้อง 6 คน เมื่ออายุได้ 32 ปี ได้สมรสกับนายวิชัย ไวชนะ (ถึงแก่กรรมแล้ว) และมีบุตรชาย 2 คน (ถึงแก่กรรมแล้ว) และมีบุตรบุญธรรมคือ น.ส.นิจ เหลี่ยมอุไร เป็นผู้สืบทอดการทำอาหารตำรับชาววัง และปัจจุบันสอนทำอาหารชาววังและเขียนคอลัมน์ ชีวิตนิจ-นิจ ในนิตยสาร “พลอยแกมเพชร” โดยมี น.ส.มาลินี ณ นคร หลานสาว เป็นผู้ดูแลกิจการโดยรวม และมีหลานอีก 3 คน คือ นายขันพงษ์ น.ส.กระมลลมัย และนายสมุทรไทย ไวชนะ
 ทั้งนี้จะจัดสวดพระอภิธรรมศพ ม.ล.เนื่อง ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553 และพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 17.00 น. ณ วัดทินกรนิมิตร จ.นนทบุรี








ข่าวที่เกี่ยวข้อง4.5โซไซตี้ประจำวันที่3ก.พ.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive