Sunday, March 31, 2013

SHELL เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติก

SHELL เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติก
มร. เอ็มมานูเอล มิญโญต์ ผู้จัดการใหญ่ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น กลุ่มประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และเกาหลี บริษัท Shell Thailand co,ltd. กล่าวว่า “ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคนี้ เนื่องจากความคล่องตัวของรถจักรยานยนต์และสภาพการจราจร ทำให้คนไทยนิยมใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง โดยในปี 2555 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์จดทะเบียนแล้วกว่า 19 ล้านคัน ซึ่งในแต่ละปีรถจักรยานยนต์ต้องใช้น้ำมันเครื่องมากกว่า 100 ล้านลิตร โดยเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะทั้งหมดประมาณครึ่งหนึ่ง รถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติกกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในปีที่ผ่านมารถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติกมีอัตราส่วนต่อการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะทั้งหมดถึง 50% ในฐานะผู้นำนวัตกรรมน้ำมันหล่อลื่นระดับโลก Shell ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเติบโตในกลุ่มตลาดรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติก จึงได้คิดค้นพัฒนานวัตกรรมน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติกคุณภาพสูงใหม่ล่าสุด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างครบวงจร” ทั้งนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติก 4 จังหวะประกอบไปด้วย Shell Advance AX7 4-AT น้ำมันเครื่องเทคโนโลยีสังเคราะห์สำหรับรถจักรยานยนต์ออโตเมติกใหม่ ช่วยปกป้องและทำความสะอาดเครื่องยนต์ ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนาน พัฒนาขึ้นสำหรับระบบเกียร์ออโตเมติกโดยเฉพาะ ช่วยให้การควบคุมการขับขี่เป็นไปได้ดียิ่งขึ้น ให้การออกตัวและเร่งความเร็วเป็นไปอย่างนุ่มนวล พร้อมลดแรงสั่นสะเทือน และเสียงดังของเครื่องยนต์ขณะขับขี่  Shell Advance AX5 4-AT น้ำมันเครื่องเกรดรวมสำหรับรถจักรยานยนต์ออโตเมติกทั่วไปให้ประสิทธิภาพที่ไว้วางใจได้ ช่วยปกป้อง ทำความสะอาดเครื่องยนต์ และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ รองรับทุกสภาวะการขับขี่ประจำวันที่ต้องมีการหยุดรถ สตาร์ท บ่อยครั้ง เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ สกูตเตอร์ เกียร์ ออยล์ น้ำมันเฟืองท้ายสำหรับรถจักรยานยนต์ออโตเมติก พัฒนาขึ้นด้วยสูตรพิเศษสำหรับชุดเกียร์ของจักรยานยนต์ออโตเมติก เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลและลดการสึกหรอ สำหรับช่องทางการบริหารการจัดจำหน่าย Shell สานต่อความสำเร็จด้านพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Shell โดยมีช่องทางที่เข้าถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์ได้โดยตรงและรวดเร็วที่สุด ผ่านร้านในโครงข่ายของ ดีเคเอสเอช กว่า 16,000 ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายอะไหล่และน้ำมันเครื่อง อู่ซ่อมรถอิสระ รวมไปถึงศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง Shell Advance และสถานีบริการน้ำมันเชลล์กว่า 550 สถานีในปีนี้ Shell Advance ได้จัดสรรงบประมาณการตลาดและการส่งเสริมการขายกว่า 30 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Shell Advance ผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ภายใต้แนวคิด “ENJOY EVERY RIDE - บิดสนุกทุกเส้นทาง” โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับผู้บริโภคผ่านแคมเปญ “ลุ้น...บิดสนุกในสไตล์คุณกับเชลล์ แอ๊ดว้านซ์” ให้ผู้บริโภคได้ลุ้นรับจักรยานยนต์ในฝัน 3 คัน 3 สไตล์ ตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน - 30 กันยายน 2556 Shell มั่นใจว่าด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ ตลอดจนกลยุทธ์ด้านการตลาดและการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่จะตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติก 4 คุณภาพสูง ให้ความมั่นใจในทุกการบิด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Shell Advance AXจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคทั่วประเทศ มั่นใจผลิตภัณฑ์ใหม่จะช่วยดันยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์  Shell Advance โตกว่า 50% ภายในสิ้นปีนี้น้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์  Shell Advance AX7 4-AT,  Shell Advance AX5 4-AT และ  Shell Advance Scooter Gear Oil วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ ณ สถานีบริการน้ำมันเชลล์ และร้านจำหน่ายอะไหล่หรือน้ำมันเครื่อง Shell อาคม รวมสุวรรณE-mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

เห็นงานเป็นลม เห็นนม...สู้ตาย

เห็นงานเป็นลม เห็นนม...สู้ตาย
แม่เจ้ากู้เงิน 2.2 ล้าน มูลค่านี้ถ้าทำจริงไม่มีกินกัน คงสร้างทางรถไฟไปถึงปังกิ่ง แต่นี่สร้างได้แค่โคราช จะสร้างแล้วไปหนองคายเสียเลยดีไหมครับ ถ้าจะเป็นหนี้ก็เอากันให้สุด เหมือนกับเครื่องไม้เครื่องมือของ TOT ที่ส่วนใหญ่ มีโครงการที่ดีแต่ซื้อของไม่ได้เรื่อง ใช้ได้บ้าง ใช้ไม่ได้บ้าง แต่ถ้าซื้อมาใช้ได้สัก 80% ผมว่า ปานนี้ไม่มีใครสามารถแซง TOT ได้แล้ว ส่วนที่เลวร้ายกว่านั้น ข้างในมีแต่พวกสนิมที่คอยกันกินองค์กรนี้ จนไม่มีโอกาสที่จะลืมตาอ้าปากได้เลย...วันนี้ขอเบาๆ หน่อยไหมครับ ร้านมนต์นมสด เป็นร้านยอดนิยมของคนกรุง โดยเฉพาะเด็กธรรมศาสตร์ และน้องๆในละแวกนั้น ร้านนี้เปิดขายจากซอกเล็กๆข้างคลองก่อนที่จะย้ายมาอยู่ข้างๆศาลากลางกรุงเทพ ร้านนี้เปิดตั้งแต่ปี 2507 เจ้าของร้านฝ่าฟันต้งแต่เปิดร้าน โดยไล่ที่ ใช้รถกระบะเป็นร้าน จนมีร้านในทุกวันนี้ เป็นอีกร้านที่คนกรุงชอบมาเยือน และเป็นสัญญาลักษณ์ของกรุงเทพวันนี้เข้าร้านไปที่ปรับโฉมใหม่ แปลกตาไปมาก ทั้งวิธีการปิ้งขนมปัง วิธีทำเครื่องดื่ม แก้วที่ใส่ ของฝากอีกมากมายที่มีขายและจัดเป็นระเบียบ มาวันนี้ขอกินที่เป็นต้นตำหรับอย่าง ขนมปังเนยนมน้ำตาล แย้มส้ม ช็อกโกแลตเนย ส่วนเครื่องดื่ม แน่นอนครับต้องเป็นนมเย็น ส่วนเพื่อนผมนมร้อน รสอ่อนหวามไม่มากนัก ส่วนที่เหลือจะชอบอะไรสั่งเลยครับร้านอยู่ที่ 160/1-3 อาคาร ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200  โทรศัพท์ 022241989 , 022241989 , 022241147 , 022241147Rating : ที่สุดในแผ่นดินLatitude :13.75192Longitude : 100.50175เรื่องและภาพโดยดร.ธนา ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส)www.facebook.com/baypalace 

MINI ทำเก๋ กับฟังก์ชั่นใหม่ Connect Us เพื่อหาคู่เดทที่มีรสนิยมในการขับขี่เหมือนกัน

MINI ทำเก๋ กับฟังก์ชั่นใหม่ Connect Us เพื่อหาคู่เดทที่มีรสนิยมในการขับขี่เหมือนกัน
การเชื่อมต่อบนโลกออนไลน์ไม่เป็นอุปสรรค์ด้านความรักอีกต่อไป Connect Us ของ MINI เพื่อหาคู่เดทที่มีรสนิยมในการขับขี่เหมือนกัน แนวซะจนไม่อยากจะเชื่อ...MINI แอพพลิเคชั่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อโลกออนไลน์ให้ผู้ขับขี่ได้โดย ผ่านหน้าจอของรถ และในเวอร์ชั่นล่าสุดที่มีชื่อเรียกว่า “Connect Us” นี้ ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเชื่อมต่อผู้ขับขี่ MINI ให้ได้เจอคนที่มีรสนิยมคล้ายกันได้อย่างไม่เหมือนใคร เพื่อ ”จับคู่เดท” ผ่านการวิเคราะห์จากฐานข้อมูลของเจ้าของรถยนต์ MINI ไม่ว่าจะเป็นรสนิยมในด้านการเลือกฟังดนตรี, การเลือกรับฟังช่องข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต, การโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก และสไตล์ในการขับขี่ซึ่งวิเคราะห์ผ่านทางโปรแกรม MINI Driving Excitement Analyser ที่มีอยู่แล้วใน MINI แอพพลิเคชั่น ทั้งนี้โปรแกรมใหม่ล่าสุดของ MINI แอพพลิเคชั่นจะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ภายในวันที่ 1 เมษายน 2556 เพียงวันเดียวเท่านั้น!สำหรับเวอร์ชั่นใหม่ ล่าสุดของ MINI แอพพลิเคชั่น Connect Us ทำงานร่วมกัน MINI Connected นี้ ช่วยสร้างความฝันให้เป็นความจริงเพื่อหาคู่เดทที่มีรสนิยมคล้ายกันที่สุด และทำงานผ่านหน้าจอของผู้ขับขี่รถยนต์มินิที่มีฟังก์ชั่น MINI Connected เท่านั้น โดยในรายละเอียดนั้น Connect Us จะทำหน้าที่ประมวลผลเพื่อเปรียบเทียบสไตล์การขับขี่ของเจ้าของรถ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการใช้อัตราเร่ง การบังคับพวงมาลัยและการให้น้ำหนักในการเบรค ผ่านทางโปรแกรม MINI Driving Excitement Analyser เพื่อหาผู้ขับขี่ที่มีสไตล์การขับขี่คล้ายคลึงกันมากที่สุดเช่นเดียวกันกับมินิแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว Connect Us นับเป็นอีกขั้นแห่งวิวัฒนาการในโลกออนไลน์ เพียงผู้ขับขี่เลือกคู่เดทที่ต้องการทำการค้นหาโดยระบุว่าเป็นหญิงหรือชาย และระบุความใกล้-ไกลของรัศมีที่ต้องการค้นหา ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของ Connect Us ที่จะทำการประมวลผลเพื่อค้นหาคู่เดทที่มีรสนิยมคล้ายกันที่สุด*หมายเหตุ : ขอให้มีความสุขกับวัน April Fool’s Day ครับทุกท่าน อาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

Saturday, March 30, 2013

อะบุ๊ก! จัดหนัก หนังสือดี ต้อนรับ สัปดาห์หนังสือ ปีงู...!

อะบุ๊ก! จัดหนัก หนังสือดี ต้อนรับ สัปดาห์หนังสือ ปีงู...!

เผิง ลี่หยวน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งโดดเด่นที่สุด ในประวัติศาสตร์จีน

เผิง ลี่หยวน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งโดดเด่นที่สุด ในประวัติศาสตร์จีน
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะแสดงบทบาทสำคัญบนเวทีระหว่างประเทศ โดยความงามสง่าของ “นางเผิง ลี่หยวน” ภริยา วัย 50 ปี ของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นที่โดดเด่นสะดุดตาอย่างมาก ถึงขนาดได้รับการยกย่องให้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่ดูดีมีสไตล์ที่สุดของแดนมังกรในรอบ 6 ทศวรรษออร่าที่เปล่งประกายของ “นางเผิง” เป็นที่โจษจันไปทั่วโลก ระหว่างที่นางติดตามสามีเดินทางเยือนกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อปลายเดือนมีนาคม ก่อนจะเดินทางต่อไปยังแทนซาเนีย และแอฟริกาใต้ ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติภารกิจเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเป็นทางการ ตลอดทริป การเยือนแดนหมีขาว “นางเผิง” ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจีนและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฉากที่นางควงแขนสามีก้าวเดินลงจากเครื่องบิน ยิ้มและโบกมือทักทายอย่างมีไมตรีจิตท่ามกลางความเบื่อหน่ายต่อปัญหาทุจริตคอรัปชันของนักการเมืองและผู้มีอำนาจปกครองประเทศ สื่อแดนมังกรวิเคราะห์ว่า ความโดดเด่นของ “นางเผิง” จะช่วยเสริมสร้างอิมเมจอันดีงามของ “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” ในฐานะผู้นำคนใหม่ของแดนมังกร ขณะเดียวกัน ความอ่อนหวานมีเสน่ห์ของเฟิร์สต์เลดี้ ก็น่าจะช่วยปรับภาพลักษณ์อันแข็งกร้าวของจีนบนเวทีโลกให้ดูนุ่มนวลขึ้น หลังจากที่พยายามมานานแต่ไม่เคยสำเร็จบล็อกเกอร์แฟชั่นและแมกกาซีนดังหลายต่อหลายสำนักของจีน ต่างพากันยกย่องสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งซะใหญ่โต โดยชื่นชมว่า “นางเผิง” คือเฟิร์สต์เลดี้ที่เก๋ไก๋มีสไตล์ที่สุด  นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นมา นางดูคลาสสิกและโก้หรูมีระดับสมกับฐานะภริยาผู้นำชาติมหาอำนาจขณะที่กูรูด้านแฟชั่นของแดนมังกร “ฮอง หวง” ประสาน เสียงยกย่องว่า เฟิร์สต์เลดี้ถือเป็นทูตทางวัฒนธรรมของประเทศ ฉะนั้น การที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่ของจีน เลือกปรากฏกายต่อสายตาชาวโลก ด้วยแฟชั่นเสื้อผ้าของดีไซเนอร์ชาวจีน ย่อมถือว่าได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมบูรณ์แบบ ที่ผ่านมาภริยาผู้นำจีนมักบ้าเห่อแบรนด์นอก และชอบซ่อนตัวอยู่หลังเงาสามี เพราะไม่คุ้นชินกับการตกเป็นเป้าสายตาของสาธารณชน แต่สำหรับ “นางเผิง” ซึ่งเคยชินกับสปอตไลต์ ได้สร้างความแตกต่าง ด้วยการเดินเคียงบ่าเคียงไหล่สามีเฉิดฉายบนเวทีโลก น่ายินดีเหลือเกินที่โลกทั้งโลกจะได้รู้ซะทีว่า แดนมังกรก็มีเฟิร์สต์เลดี้ที่สวยสง่างามและทันสมัย ไม่แพ้สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของชาติมหาอำนาจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น มิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา หรือ คาร์ล่า บรูนี ซาร์โกซี อดีตเฟิร์สต์เลดี้คนสวยแห่งฝรั่งเศส โดยสื่อจีนต่างเฝ้ารอวันที่เฟิร์สต์เลดี้ของจีนและแดนมะกันจะโคจรมาพบกันด้าน “จาง หยู” บรรณาธิการนิตยสารโว้ค ประเทศจีน ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการแฟชั่นแดนมังกร ยังยอมรับว่า นี่เป็นครั้งแรกที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของจีนมีสไตล์การแต่งตัวที่ทันสมัย โก้หรู เปี่ยมด้วยรสนิยม และความมั่นใจ ในที่สุด ชาวจีนก็ได้เฟิร์สต์เลดี้ที่สามารถเป็นตัวแทนของผู้หญิงจีนอย่างน่าภาคภูมิใจ ถือเป็นเรื่องน่ายินดี และต้องจดจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของจีน ตลอดเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา ไม่เคยมีภริยาผู้นำคนใดของจีน ที่จะปรากฏกายโดดเด่นเคียงข้างประธานาธิบดี และได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลกเช่นนี้การตัดสินใจปรับลุคจากนักร้องดังที่แต่งหน้าเข้ม ดัดผมเป็นลอน และสวมใส่เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดตัดเย็บจากผ้าไหม มาเป็นลุคคุณนายมาดเนี้ยบ เดินเคียงข้างสามีออกงานใหญ่ ทำให้นางโกยเรตติ้งไปอื้อซ่าส์ ในฐานะดาวเด่นของวงการทูตจีน และภริยาผู้งามสง่าก็เพราะความโด่งดังและสวยสง่าของ “นางเผิง” ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ของจีนแผ่นดินใหญ่ ต่างพากันเสิร์ชหาคำว่า สไตล์ของ “เผิง ลี่หยวน” กันจ้าละหวั่น โดยเฉพาะเสื้อเทรนช์โค้ทสีดำและกระเป๋าถือสีดำ ซึ่งเป็นลุคที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของจีนเลือกใช้ตอนเดินลงจากเครื่องบินพร้อมสามี ระหว่างการเยือนกรุงมอสโก จากการสืบค้นแบบเจาะลึกค้นพบว่า เจ้าของดีไซน์สุดคลาสสิกที่เฟิร์สต์เลดี้ให้ความไว้วางใจคือ แบรนด์แฟชั่นชื่อดังของจีน Exception ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กวางโจว และมีสาขาเกือบ 100 แห่งทั่วประเทศ ถือเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ที่นิยมมากในหมู่ไฮโซเมืองจีน สนนราคาตกชุดละ 300-400 ดอลลาร์สหรัฐฯนักวิเคราะห์การเมืองของจีนส่งสัญญาณว่า ด้วยความที่ “นางเผิง” เป็นศิลปินดังระดับประเทศ ทำให้นางมีภาพลักษณ์ที่ดีเลิศในสายตาของสาธารณชนอยู่แล้ว กระนั้น ไม่อยากให้นางทุ่มความสนใจกับเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมจนเกินไป แม้จะได้รับเสียงชื่นชมท่วมท้น หวังว่าการเยือนแอฟริกาใต้ในทริปถัดไป “นางเผิง” จะขึ้นเวทีรณรงค์เรื่องเอดส์อย่างจริงจัง ในฐานะที่เป็นทูตพิเศษขององค์การอนามัยโลก ช่วยรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์และวัณโรค เพื่อตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ความเป็นนักเคลื่อนไหวที่ต่อสู้เพื่อคนยากคนจนมายาวนานนับตั้งแต่สามีขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี เมื่อปี 2007 “นางเผิง” ได้ตัดสินใจอำลาเวทีการแสดงเด็ดขาด เพื่อเตรียมทำหน้าที่หลังบ้านผู้นำจีนอย่างเต็มที่ โดยหนึ่งในบทบาทสำคัญที่สร้างภาพลักษณ์อันดีให้นางก็คือ การรับหน้าที่เป็นทูตพิเศษขององค์การอนามัยโลก ในปี 2011 เพื่อช่วยรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์และวัณโรค นอกจากนี้ ยังทำงานด้านสังคมสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้มาอย่างต่อเนื่อง นางโด่งดังบนเวทีโลกตอนที่แชะภาพคู่กับ “บิล เกตส์” มหาเศรษฐีใจบุญผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ เพื่อรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศจีนสำหรับประวัติความเป็นมาของ “นางเผิง” เป็นชาวมณฑลซานตง นางเข้าสังกัดเป็นนักร้องของกองทัพปลดแอกประชาชน ตั้งแต่อายุ 18 ปี และภายในเวลาไม่นานก็กลายเป็นดาวรุ่งประจำกองทัพ ติดยศพลตรีหญิงในกองดนตรี ถ้าเอ่ยถึงชื่อของนาง จะรู้จักในฐานะนักร้องเพลงพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ โดยทุกเทศกาลตรุษจีน ผู้ชมทั่วประเทศจะเฝ้ารอดูนางขับขานบทเพลงทางหน้าจอโทรทัศน์ กระนั้น เนื่องจาก “นางเผิง” เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวจีนมากกว่าสามี ในระยะแรกๆที่สามีขึ้นเป็นใหญ่ในพรรคคอมมิวนิสต์ นางจึงพยายามหลีกเลี่ยงการปรากฏกายพร้อมสามี เพราะเกรงว่ารัศมีความดังจะบดบังสามีให้อับแสงทั้งนี้ “นางเผิง” เป็นภริยาคนที่สองของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยภรรยาคนแรก ซึ่งหย่าขาดและไม่มีทายาทร่วมกัน เป็นลูกสาวทูตจีนประจำอังกฤษ “นางเผิง” กับสามีมีอายุห่างกัน 10 ปี ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อปี 1987 และมักได้รับการขนานนามจากสื่อท้องถิ่นว่าเป็นคู่ขวัญดาวรุ่งของวงการเมือง ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ชื่อว่า “สี หมิงเจ๋อ” กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ย้อนกลับไปในวันแรกที่คู่นี้เจอกัน เกิดขึ้นจากการแนะนำของเพื่อน ขณะนั้น ฝ่ายชายเป็นสมาชิกหนุ่มไฟแรงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเดินทางไปทำงานที่เมืองเซียเหมิน ขณะที่ฝ่ายหญิงเป็นนักร้องดาวรุ่งเสน่ห์แรงประจำกองทัพสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่ของจีนบอกเล่าถึงตัวตนของสามีผู้เป็นที่รักว่า เขาเป็นคนเอาจริงเอาจัง ทุ่มเททำงานหนักมาก เป็นนักปฏิบัติตัวยง เป็นคนละเอียดรอบคอบ ขณะเดียวกัน ก็มีนิสัยติดดิน ไม่ชอบอยู่ท่ามกลางสปอตไลต์ และเป็นนักแก้ ปัญหาที่เก่งฉกาจเธอเล่าถึงโมเมนต์แรกที่สบตากันว่า เพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ฉันรู้จักคุณสี ซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกเทศมนตรีของเมืองเซียเหมิน ตอนพบกันครั้งแรกไม่ประทับใจเลย เพราะรู้สึกว่า เขาดูแก่และออกจะเชยๆ แต่ เมื่อคุยกันแล้ว กลับค้นพบว่า คุณสีเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องมาก ทำให้ตกหลุมรักทันทีนอกจากจะฉลาดและมีความเป็นผู้นำแล้ว ต้องยอมรับว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังมีวิสัยทัศน์ยาวไกลอีกด้วย เพราะฉลาดเลือกภริยาที่ทั้งสวยทั้งเก่ง และพร้อมจะเดินเคียงข้างเฉิดฉายสู่เวทีระดับโลก เพื่อโกยเรตติ้งความนิยมให้ผู้นำคนใหม่ของจีน นับเป็นอีกหนึ่งคู่ขวัญที่น่าจับตามองที่สุดในวินาทีนี้.ทีมข่าวหน้าสตรี

มองไม่เบื่อ....!

มองไม่เบื่อ....!
ผู้หญิงเซ็กซี่มองอย่างไรก็ไม่เบื่อ ถ้าไม่งี่เง่า... ชายนิรนามกล่าวสัพยอกเอาไว้ทำนองนั้น...!แน่นอนว่ากันถูกสาวๆ รุมสกรัม ก็ต้องบอกว่าข้อความข้างต้นมีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ที่เห็นด้วยมากๆ ก็คือ คำว่าเซ็กซี่ที่มองอย่างไรก็ไม่เบื่อ เซ็กซี่ไม่ได้หมายถึงการแต่งตัวเท่านั้น เพราะนั่นจะทำให้คำนี้แคบลงไปถนัดตา เซ็กซี่มีได้ทั้งจากข้างในและข้างนอกภาพเล่าเรื่องไทยรัฐออนไลน์สัปดาห์นี้ว่าด้วยเรื่อง ผู้หญิงเซ็กซี่ที่บอกตรงๆ ว่ามองอย่างไรก็ไม่เคยเบื่อ! 

Friday, March 29, 2013

โต๊ะเดียว สังขละสวรรค์ของนักเดินทางหัวใจสุนทรีย์

โต๊ะเดียว สังขละสวรรค์ของนักเดินทางหัวใจสุนทรีย์
สะพานไม้ ด่านเจดีย์ นทีสามประสบ มรดกทุ่งใหญ่ ไทยกะเหรี่ยงรามัญ สารพันธรรมชาติ อภิวาทหลวงพ่ออุตตมะ เมืองสังขละชายแดน สุดแคว้นตะวันตก” เป็นคำขวัญของอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แต่ของดีของสังขละบุรีไม่ได้มีเพียงเท่านี้ และหนึ่งใน Unseen ที่นักเดินทางไม่ควรพลาดคือ การได้พักในโฮมสเตย์ที่อบอุ่นเป็นกันเองแบบวีไอพี เพียงกรุ๊ปเดียวเท่านั้น นั่งทานอาหารโต๊ะเดียวรสเลิศจากฝีมือแม่ครัวชั้นครู เคล้ากับบรรยากาศอันงดงาม ณ จุดบรรจบที่สวยที่สุดของแม่น้ำสามสาย “สามประสบ” ในราคาสบายกระเป๋าทั้งหมดที่บรรยายมามีรวมไว้เป็นหนึ่งเดียวที่ “โต๊ะเดียว สังขละ” ร้านอาหารและโฮมสเตย์ของ “น้านู–เกษม ลมัยกุล” เจ้าพ่อออฟโรดของเมืองไทย ที่ทิ้งความวุ่นวายมาใช้ชีวิตเรียบง่ายที่สังขละบุรี แรกเริ่มตั้งใจเปิดบ้านให้เพื่อนฝูงและผู้ใหญ่ที่นับถือได้มาสังสรรค์พักผ่อนทานอาหารอร่อยๆ ฝีมือภรรยา “คุณน้อย-ภาวนี ลมัยกุล” ที่ใครได้ชิมฝีมือแล้วมักยกนิ้วให้ในความอร่อยล้ำ สุดท้ายเพื่อนๆลงความเห็นว่า ควรเปิดร้านอาหารเพื่อให้คนทั่วไปได้มีโอกาสลิ้มรสอาหารไทยแบบโบราณที่มีรสชาติเข้มข้น ซึ่งหาทานยากในยุคปัจจุบัน“โต๊ะเดียว สังขละ” จึงเกิดขึ้นโดย “น้านู” วางคอนเซปต์ว่า จะให้บริการแบบวีไอพี เพียงวันละ 1 โต๊ะ เพื่อให้ผู้ที่มารับประทานอาหารรู้สึกว่า เป็นแขกที่พิเศษสุดๆ เช่นเดียวกับบริการโฮมสเตย์ของที่นี่ ก็จะรับแขกเข้าพักเพียงครั้งละ 1 กรุ๊ป โดยไม่มีแขกกรุ๊ปอื่นมารบกวนความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นสบายตาสบายใจ สามารถมองเห็นผืนน้ำที่เกิดจากแม่น้ำสามสาย คือ แม่น้ำซองกาเรีย แม่น้ำการันตี และแม่น้ำบีคลี่ มาบรรจบกันสำหรับเมนูเด็ดของที่นี่ต้องยกให้ “ยำผักกูดกับกุ้งแม่น้ำ” ใช้ผักกูดของเมืองกาญจน์ที่สดอร่อย เคล้ากับน้ำยำสูตรพิเศษหอมกะทิและน้ำพริกเผา วางเคียงด้วยกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่สดเนื้อหนึบหวาน หรือจะลอง “ตับผัดพริกไทยดำ” หมักด้วยเครื่องปรุงอย่างดีล่วงหน้า 1 คืน นำมาทอดด้วยความชำนาญ เนื้อตับจึงนุ่มและหวานเป็นพิเศษ อีกเมนูที่ต้องลอง คือ “เนื้อเซอร์ลอยน์ย่างจิ้มแจ่ว” หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ทำให้เวลาเคี้ยวจะได้สัมผัสกับความฉ่ำของเนื้อเพิ่มขึ้น ยิ่งอร่อยยกกำลังสองเมื่อจิ้มแจ่วรสจัดสูตรพิเศษ ปิดท้ายด้วย “ขนมปังหรือเฉาก๊วยกับน้ำแข็งไสเกล็ดละเอียด” ราดด้วยน้ำเขียว น้ำแดง และนมข้นหวาน  แล้วแต่งหน้าด้วยเยลลี่หลากสี  อยากทานอาหารอร่อยๆในบรรยากาศเย็นสบายร่มรื่นเป็นกันเอง ติดต่อจองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่ โทร.0-3459-5638, 08-1002-1908 ถ้าเป็นอาหารเปิดบริการเพียง 1 โต๊ะต่อวัน ขั้นต่ำอย่างน้อย 6 ท่านขึ้นไป และถ้าเป็นโฮมสเตย์เปิดบริการเพียงครั้งละ 1 กรุ๊ป เท่านั้น ขั้นต่ำอย่างน้อย 8 ท่านขึ้นไป หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://sangkhlatohdiew.com

ไจโรโทนิคเทรนด์ออกกำลังกายแนวใหม่เพื่อชีวิตฟิตกว่าเดิม

ไจโรโทนิคเทรนด์ออกกำลังกายแนวใหม่เพื่อชีวิตฟิตกว่าเดิม
“ไจโรโทนิค”  ถือเป็นการรวมศาสตร์การออกกำลังกายทุกแขนงเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น โยคะ, บัลเลต์, ยิมนาสติก, ไทชิ และว่ายน้ำ โดยเน้นการเคลื่อนไหวของข้อต่อและกล้ามเนื้อให้เป็นจังหวะขึ้นลงคล้ายแนวคลื่นผลลัพธ์ที่ได้รับจากการฝึกไจโรโทนิคก็คือ นอกจากร่างกายจะแข็งแกร่งแล้ว ยังช่วยปั้นรูปร่างและเหลาหุ่นให้เพรียวกระชับขึ้นทันตาเห็น โดยแกนกลางร่างกายจะแข็งแรง กระดูกสันหลังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น  สามารถโค้งงอได้ง่ายขึ้น  ข้อต่อหมุนได้ดีและเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพในฐานะกูรูด้านโยคะและไจโรโทนิคของเมืองไทย  “ป้าจิ๊–อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ” ผู้ก่อตั้ง Yoga & Me เผยถึงที่มาของศาสตร์แขนงใหม่ “ไจโรโทนิค” ที่นำเข้ามาฝึกสอนเป็นแห่งแรกในประเทศไทยว่า คิดค้นขึ้นโดย “จูลิอู โฮร์วาธ” นักบัลเลต์ชาวฮังกาเรียน เขาเกิดในโรมาเนีย ต่อมามีปัญหาที่เอ็นร้อยหวาย ทำให้ต้องหยุดเต้น และขอลี้ภัยมาอยู่ที่อเมริกาในปี 1960 เพื่อหาวิธีเยียวยาตัวเอง เขาได้คิดค้นไจโรโทนิคขึ้น จากการสังเกตทักษะการเคลื่อนไหวแบบไร้ขีดจำกัดของลิง, ปลาหมึก และแมว จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์อุปกรณ์ และคิดค้นเทคนิคที่จะทำให้ร่างกายมนุษย์สามารถเคลื่อนไหวแบบไม่มีขีดจำกัด โดยผสมผสานเข้ากับหลักการของโยคะ, บัลเลต์, ยิมนาสติก, ไทชิ และว่ายน้ำคำว่า Gyro เป็นคำกรีก หมายถึงเคลื่อนไหวเป็นวงกลม ขณะที่คำว่า Tonic แปลว่าความสนุกสนานของชีวิต ฉะนั้น “ไจโรโทนิค” จึงเป็นการออกกำลังกายพร้อมด้วยอุปกรณ์ ที่จะทำให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระเป็นวงกลมรอบทิศ  และสามารถเหยียดยืดได้ 360 องศา โดยการฝึกไจโรโทนิคจะไม่ก่อให้เกิดแรงกระแทก เพราะใช้แรงต้านจากสปริงและรอกของเครื่องสำหรับประโยชน์ของการฝึกไจโรโทนิค “ป้าจิ๊” โชว์ต้นแขนสวยเพรียว และหุ่นฟิตเปรี๊ยะ ราวกับสาวรุ่น อันเป็นผลพวงมาจากการเล่นไจโรโทนิค  พร้อมบอกเล่าว่า  การฝึกไจโรโทนิค เน้นการเคลื่อนไหวเป็นวงกลม จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายทุกส่วน โดยเฉพาะแกนกลางร่างกายจะแข็งแรง เนื่องจากกระดูกสันหลังได้เคลื่อนไหวรอบทิศ  ทำให้มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้น สามารถโค้งงอได้ง่าย สรีระร่างกายก็สง่างามยิ่งขึ้น  เวลาฝึกกล้ามเนื้อจะค่อยๆเหยียดยืดไปเรื่อยๆตามที่ทำได้ ไม่ฝืนร่างกายจนรู้สึกตึงเกร็ง  ขณะเดียวกัน ลมหายใจก็ต้องเชื่อมโยงกับร่างกาย ต้องมีสมาธิกับการฝึกฝนจึงเกิดประสิทธิภาพสูงสุด.

หรูเลิศมีสไตล์รับซัมเมอร์

หรูเลิศมีสไตล์รับซัมเมอร์
ความร่าเริงสดใสของ ฤดูร้อน กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้าง สรรค์กระเป๋าสุดหรูจากอเมริกา “JUDITH  LEIBER”  คอลเลกชั่นล่าสุด  ซีซั่น สปริง/ซัมเมอร์ 2013 ระยิบระยับไปด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้หลากสีสัน มีให้เลือกทั้งรุ่น “William Prince  Minaudiere”  เจ้าชายกบประดับคริสตัลไล่เฉดสี, “ไอศกรีมซันเดย์”  มีให้เลือกทั้ง “ฮอต ฟัดจ์ ซันเดย์” และ  “ซอร์เบต ซันเดย์”  ประดับคริสตัลสีสันสดใส,  รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นรูป  “งู”  ประดับคริสตัล มีให้เลือก 4 สี 4 สไตล์ เหมาะสำหรับเป็นอีฟนิ่งคลัช และรุ่น “Rotary Phone” โทรศัพท์คลาสสิกเหมาะกับสาววินเทจ ใครเป็นสาวก “จูดิธ  ลีเบอร์”  ตามไปช็อปได้ ที่บิวตี้  เจมส์  เซ็นเตอร์  ซ.ศาลาแดง  หรือ ร้านจูดิธ ลีเบอร์  สาขาพาร์คเลน เอกมัย.

Thursday, March 28, 2013

สภาสตรีฝากรัฐบาลเร่งพัฒนาสตรี ให้มีความรอบรู้ก้าวทันโลก

สภาสตรีฝากรัฐบาลเร่งพัฒนาสตรี ให้มีความรอบรู้ก้าวทันโลก
รศ.ดร.วีณา เชิดบุญชาติ และ ม.ร.ว.เบญจาภา ไกรฤกษ์ จากสภาสตรีแห่งชาติฯ พร้อมข้าราชการ ก.การพัฒนาสังคมฯ และ ก.ต่างประเทศ ร่วมสนับสนุน บทบาทสตรีก้าวสู่อาเซียน.ร่วมผลักดันสตรีไทยให้ก้าวทันและเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการต่างประเทศ จัดเสวนาในหัวข้อ “สตรีไทยก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียน” ที่ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเร็วๆนี้ภายในงาน รศ.ดร.วีณา  เชิดบุญชาติ ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวว่า การจัดงานนี้เพื่อส่งเสริมให้สตรีไทย มีความตระหนักรู้ถึงบทบาทของตนเองในการก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งชาวไทยและชาวอาเซียนจะติดต่อสื่อสาร ตลอดจนเดินทางไปมาหาสู่กันเพิ่มมากขึ้น เมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน สตรีไทยจึงควรมีบทบาทสำคัญในการธำรงรักษาวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ไทยที่งดงาม ในขณะเดียวกันก็ควรทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมของชาติอาเซียน ที่ประกอบด้วยหลายเชื้อชาติศาสนาด้วยสำหรับการเสวนาครั้งนี้สรุปได้ว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมสถานภาพและบทบาทของสตรีเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเร่งสร้างขีดความสามารถของสตรี ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนองค์กรสตรีให้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ให้มากขึ้นด้วย ในส่วนของการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี นอกจากการพัฒนาอาชีพแล้ว ต่อไปควรมุ่งเน้นการพัฒนาสตรีให้มีความรอบรู้ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วย.

ท่องโลกหนังสือ

ท่องโลกหนังสือ
เติมอาหารสมองด้วยการอ่าน “หนังสือ” ซึ่งสามารถแวะหาขุมทรัพย์ทางปัญญานี้ได้ในงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 41” และงาน “สัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 11” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.ถึง 8 เม.ย.56 สำหรับหนังสือน่าอ่านในช่วงนี้มีหลากหลาย อย่างหนังสือเติมพลังชีวิต อาทิ พลังการชื่นชม ของ วุฒิพงศ์ ถายะพิงค์ ที่สะท้อนให้เห็นว่า เปลี่ยนทุกเรื่องให้กลายเป็นดี ล้วนเริ่มต้น จากพลังการชื่นชมทั้งสิ้น....นิทานธรรมะ ตอน ความสุขอยู่ตรงนี้ ของ ชุติปัญโญ ชี้ให้เห็นถึงความสุขในชีวิต ซึ่งอยู่ใกล้ตัว...อ่านเพลินๆ กับ วิถีดาบวิถีเซน ของ ณัชร สยามวาลา ที่นำเสนอไดอารี่ของซามูไรจำเป็น ที่เรียงร้อยให้เห็นว่า เซน การฝึกสติ และวิถีดาบญี่ปุ่นเป็นเรื่องเดียวกัน..... เปลี่ยนมุมคิด ด้วยจิตวิทยาภาคพิสดาร ของ ริชาร์ด ไวส์แมน นักจิตวิทยาชาวอังกฤษ เป็นเรื่องที่ให้เข้าใจความคิดและพฤติกรรมของคน ทำให้เราเข้าใจตัวเองและคนรอบตัวในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเนชั่นบุ๊คส์ ยกขบวนหนังสือใหม่มาร่วมเปิดตัวในงานสัปดาห์หนังสือด้วยมีทั้ง The Shock 3 ตอนประสบการณ์ผี โดย ดีเจป๋อง–กพล ทองพลับ ที่มาร่วมเปิดตำนานขนหัวลุก, กวี ชูกิจเกษม ถ่ายทอดประสบการณ์การลงทุนผ่านตัวหนังสือ ในเรื่อง เพาะหุ้นเป็น เห็นผลยั่งยืน ให้ผู้คิดจะลงทุนในตลาดหุ้นได้ศึกษาและลงทุนอย่างประสบ ความสำเร็จและมีความสุข......ส่วนเครืออัมรินทร์ เปิดตัว Boxed Set ชุดหนังสือ 5 เล่ม ใน  1  ทศวรรษ ธรรมะประยุกต์ โดย ท่าน ว.วชิรเมธี มีทั้ง ธรรมะติดปีก, ธรรมะทอรัก, ธรรมะคลายใจ, ธรรมะสุขใจ และ สบตา กับความตาย...สำหรับคนชอบเข้าครัวและรักสุขภาพ สำนักพิมพ์แสงแดด จัดเต็มตำรา Modern มังสวิรัติ อาหารไร้เนื้อสัตว์สมัยใหม่ อร่อยง่ายได้สุขภาพ ส่วน นิตยสารครัว ฉบับเดือนมีนาคมนี้ นำเสนอเรื่องราเม็งได้อย่างน่าสนใจจริงๆ....หนังสือเอาใจน้องหนู Happy every day ของสำนักพิมพ์ใยไหม นำเสนอเรื่องราวแสนแฮปปี้จากมุมมองของ งิงิ นักวาดการ์ตูน....ตามด้วย ยูนิเวอร์เศร้า ของ ทีปกร วุฒิพัทยามงคล ที่นำเสนอเรื่องราวของเด็กชายที่ไม่ได้เศร้าคนเดียวในจักรวาล....ปิดท้ายด้วย หนังสือการ์ตูนสุดฮิต จอมโจร นักวิทย์ 5....ชื่นชอบแบบไหนลองหามาอ่านดูนะคะ.

ศุกร์สบาย 29/03/56

ศุกร์สบาย 29/03/56
เสพงานศิลปะสยามเซ็นเตอร์ จัดนิทรรศการแสดงศิลปะมิติใหม่ “Siam Center Idea Avenue : Deconstruction” นำเสนอผลงานศิลปะสะท้อนมุมมองโครงสร้างของสิ่งต่างๆรอบตัว ผ่านรูปแบบของศิลปะ แฟชั่น ดนตรี เทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วย นิทรรศการแนะนำคอนเซปต์ศิลปะ Deconstruction, นิทรรศการ Art Deconstruction, นิทรรศการแฟชั่นมุมมองใหม่, นิทรรศการสร้างสรรค์ “ศิลป์” ด้วย “แสง” เป็นต้น ชมงานนี้ได้ที่บริเวณชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ จนถึงวันที่ 5 พ.ค.ศกนี้.....ช่วง มูลพินิจศิลปินอาวุโส จัดนิทรรศการงานศิลปกรรมชุด “แดน สนธยา” ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชิงสะพานผ่านฟ้า ราชดำเนินกลาง จนถึงวันที่ 30 เม.ย.56....อาร์ทเทอรี่ โพสต์โมเดิร์น แกลเลอรี่ สีลมซอย 19 จัดนิทรรศการจิตรกรรมชุด “Peaceful Wrath” ของศิลปินชาวจีน “เบยนี่” จนถึงวันที่ 10 เม.ย.56 สอบถามทางที่ 0-2635-3133.ช็อปปิ้ง-กิจกรรมช็อปปิ้งหลบแดดในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล ทุกสาขาคัดสรรชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ กางเกงขาสั้น รวมทั้งแว่นตา, หมวกและเครื่องประดับ มาให้เลือกพร้อมมอบสิทธิพิเศษให้แก่สมาชิก The 1 Card นำคะแนนมาแลกคูปองส่วนลดสูงสุด 40% ถึงวันที่ 22 เม.ย.56... พร้อมกันนี้ยังจัดรายการ “Summer Fest (The Uncensored Runway)” พบข้อเสนอพิเศษ เคาน์เตอร์ปกติลด 15-30% แผนกเครื่องสำอาง ลด 10-15% จนถึงวันที่ 2 เม.ย.56 โปรโมชั่นนี้รวมทั้งช็อปในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9, ลาดพร้าว และศูนย์การค้าสีลม คอมเพล็กซ์....Payless Shose-Source ฉลองเปิดสาขาใหม่ด้วยโปรโมชั่น ซื้อรองเท้า 1 คู่ รับส่วนลด 50% ทันทีสำหรับ คู่ที่ 2 จนถึงวันที่ 8 เม.ย.56 ที่สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และสาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และวันที่ 5-18 เม.ย. ที่เซ็นทรัล สาขาอุบลราชธานี เฉพาะวันที่ 5 เม.ย. ตั้งแต่ห้าโมงเย็นเป็นต้นไปแจกฟรี 100 คู่ทั้ง 3 สาขา....ลองฌอมป์ (Longchamp) ต้อนรับ Spring-Summer ด้วยคอลเลกชั่นล่าสุด “LM CUIR” กระเป๋าเดินทางแบบหิ้ว 8 เฉดสีสุดเก๋ และกระเป๋าเดินทางแบบ Trolley ทุกชิ้นประดับซิกเนเจอร์ LM CUIR แวะดูได้ที่ Longchamp Flagship Store ชั้น 1 สยามพารากอน ..... ISSEY MIYAKE ชวนสัมผัสกลิ่นหอมใหม่ สำหรับฤดูร้อน 2013 I’Eau d’Issey มาให้สาวๆได้หอมสดชื่นแบบหวานอมเปรี้ยวถึง 2 กลิ่นหอม......กิจกรรมรับหน้าร้อน เดอะ มอลล์ ร่วมกับชมรมผู้นิยมปลาสวยงามประเทศไทยและเมืองไทยประกันชีวิต จัดงาน “ประมงน้อมใจ ไทยทั่วหล้า ครั้งที่ 12” ระหว่าง 30 มี.ค.-7 เม.ย.56 ที่ห้อง MCC HALL ชั้น 4 เดอะ มอลล์ บางกะปิ มีการประกวดปลาสวยงาม อาทิ ปลาปอมปาดัวร์, ปลาบิเชีย พร้อมทั้งสัตว์ที่หาชมได้ยากจากป่าอะเมซอน อาทิ กิ้งก่าบาซิลิสก์, จระเข้เคแมน, เรดอีกัวน่า และงูอีกหลายพันธุ์ ฯลฯ.

หวนคืนสู่ เมืองแห่งสายน้ำ ...!

หวนคืนสู่ เมืองแห่งสายน้ำ ...!
สารคดีสัปดาห์นี้ไทยรัฐออนไลน์พาไปลุยเย็นๆ กับเมืองแห่งสายน้ำ...เมืองฝูหลิงตั้งอยู่ ณ จุดบรรจบของแม่น้ำแยงซีเกียงกับแม่น้ำอู่  ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 เมืองนี้ทั้งเงียบเหงาและโดดเดี่ยว ไม่มีทางหลวงหรือทางรถไฟ เรือเฟอร์รีล่องแม่น้ำแยงซีเกียงใช้เวลาร่วมเจ็ดชั่วโมงกว่าจะถึงฉงชิ่ง เมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุดผมพำนักในฝูหลิงระหว่างปี 1996 ถึง 1998 ตอนเป็นอาสาสมัครพีซคอร์ปส์อยู่ที่วิทยาลัยในท้องถิ่น เวลานั้นทั้งเมืองมีประชากรราว 200,000 คน  ซึ่งถือว่าน้อยสำหรับมาตรฐานของจีน คนส่วนใหญ่สนับสนุนการสร้างเขื่อนสามผา (Three Gorges Dam) อย่างแข็งขัน แม้พวกเขาจะไม่พูดคุยถึงเรื่องนี้กันเท่าไรนัก เขื่อนมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2009 ยุคปฏิรูปของ จีนเปิดฉากขึ้นเมื่อปี 1978 แต่ก็ต้องรอถึงกลางทศวรรษ 1990 กว่าที่แนวคิดตลาดเสรีจะส่งผลกระทบต่อเมืองเล็กๆ อย่างฝูหลิง นั่นหมายถึงอวสานของงานที่ภาครัฐว่าจ้าง และที่อยู่อาศัยซึ่งแปรสภาพกลายเป็นของเอกชนในชั่วพริบตา ในเวลานั้น วิทยาลัยครูฝูหลิงยังเป็นเพียงสถาบันที่สอนหลักสูตรสามปี จึงจัดว่าอยู่รั้งท้ายในระบบอุดมศึกษาของจีน แต่บรรดาลูกศิษย์ของผมก็พึงพอใจกับโอกาสที่ได้รับ เพราะเกือบทั้งหมดมาจากครอบครัวชนบทที่แทบไม่มีธรรมเนียมส่งลูกหลานให้เล่าเรียน กระนั้น พวกเขาก็เลือกวิชาเอกภาษาอังกฤษ  ซึ่งถือเป็นก้าวที่น่าทึ่งมากสำหรับประเทศที่ปิดตัวเองมาตลอดช่วงเวลาส่วนใหญ่ของศตวรรษที่ยี่สิบลูกศิษย์สอนอะไรผมหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงนัยหรือความหมายของการมาจากชนบท ที่ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ของจีนอาศัยอยู่ในช่วงเริ่มต้นของยุคปฏิรูป  นับจากนั้นเป็นต้นมา ประชากรราว 155 ล้านคนได้โยกย้ายไปยังเมืองใหญ่ๆ และลูกศิษย์ของผมพากันเขียนเรียงความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับญาติมิตรที่ต้องดิ้นรนกับการเปลี่ยนผ่านนี้ พวกเขายังสอนผมถึง        ความซับซ้อนของความยากจนในประเทศจีนอีกด้วย นักเรียนของผมไม่ได้มีเงินทองอะไรมากมาย แต่พวกเขายังมองโลกในแง่ดีและได้รับโอกาส เขื่อนสามผาไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยในประเทศที่ยากจน ทางการปักกิ่งรายงานว่า อภิมหาโครงการนี้ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าตัวเลขประมาณการอย่างไม่เป็นทางการระบุว่าสูงกว่านั้นมากหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการเป็นอาสาสมัครพีซคอร์ปส์ ผมเดินทางกลับบ้านในสหรัฐฯ  และพยายามบันทึกช่วงเวลาในฝูหลิง หลังจากร่างต้นฉบับหนา 400 หน้าที่ผมตั้งชื่อว่า เมืองแห่งสายน้ำ (River Town) ผมส่งต้นฉบับดังกล่าวไปตามตัวแทนและสำนักพิมพ์ต่างๆ เกือบทุกแห่งปฏิเสธกลับมา บรรณาธิการคนหนึ่งพูดตรงๆว่า “เราไม่คิดว่าจะมีใครอยากอ่านหนังสือเกี่ยวกับประเทศจีน” (อย่าลืมว่าตอนนั้นเป็นทศวรรษ 1990 และชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังไม่รับรู้เรื่องราวความเป็นไปในประเทศจีน) แต่ในที่สุดผมก็หาสำนักพิมพ์จนได้ และตอนนั้นเองที่ผมเริ่มกังวลว่า ชาวเมืองฝูหลิงจะตอบรับหนังสือเล่มนี้อย่างไรแต่ไหนแต่ไรมา ชาวจีนอ่อนไหวอย่างมากต่อภาพลักษณ์ประเทศที่ชาวต่างชาตินำเสนอ ผมส่งร่างต้นฉบับให้ลูกศิษย์คนหนึ่งชื่อ เอมิลี ความเห็นส่วนใหญ่ของเธอออกมาในเชิงบวก แม้บางครั้งจะแฝงนัยของความผิดหวังอยู่บ้าง เป็นต้นว่า “หนูว่าคงไม่มีใครชอบเมืองฝูหลิง หลังจากอ่านเรื่องที่อาจารย์เขียน แต่ก็บ่นไม่ได้หรอกค่ะ เพราะทุกอย่างที่อาจารย์เขียนล้วนเป็นข้อเท็จจริงทั้งนั้น หนูหวังว่าเมื่อเวลาผ่านไป เมืองนี้จะมีอะไรน่าสนใจมากขึ้นค่ะ”การจะทำให้ทุกคนถูกใจแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ผมอยากแสดงออกซึ่งความรักและความผูกพันกับเมืองฝูหลิง แต่ขณะเดียวกัน ผมก็ต้องพูดตรงๆ เรื่องมลพิษ เขื่อน และปัญหาที่บางครั้งผมต้องเผชิญในฐานะชาวต่างชาติ ท้ายที่สุด ผมจำต้องยอมรับความเป็นไปได้ที่ตัวเองอาจไม่เป็นที่ต้อนรับในเมืองนั้นอีกต่อไป แต่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปได้เร็วขนาดนี้ ตอนที่หนังสือ เมืองแห่งสายน้ำ ได้รับการตีพิมพ์เมื่อต้นปี 2001 ทางหลวงสายแรกของเมืองก็สร้างเสร็จแล้ว ทำให้เรือเฟอร์รีล่องแม่น้ำแยงซีเกียงหมดความจำเป็น ทางหลวงอีกสองสายพร้อมกับทางรถไฟสามสายกำลังตามมาติดๆ โครงการเขื่อนสามผาทำให้เม็ดเงินจากรัฐบาลกลางหลั่งไหลมายังฝูหลิง รวมทั้งผู้คนที่อพยพมาจากเมืองริมฝั่งแม่น้ำที่อยู่ต่ำลงไปและกำลังกลายเป็นเมืองใต้บาดาล (รวมแล้วมีผู้คนกว่า 1.4 ล้านคนต้องย้ายถิ่นฐาน) ภายในช่วงเวลาทศวรรษเดียว ประชากรในเขตเมืองของฝูหลิงเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และวิทยาลัยครูที่ผมเคยสอนก็ได้รับการยกฐานะเป็นสถาบันสอนหลักสูตรสี่ปี ซึ่งมาพร้อมกับวิทยาเขตแห่งใหม่และชื่อใหม่ว่า มหาวิทยาลัยครูแยงซีเกียง (Yangtze Normal University) จำนวนนักศึกษาเติบโตจาก 2,000 คนเป็นกว่า 17,000 คน ในเวลาเดียวกัน ชาวอเมริกันเริ่มหันมาสนใจประเทศจีน ทำให้ เมืองแห่งสายน้ำ กลายเป็นหนังสือขายดีอย่างไม่น่าเชื่อนี่เป็นครั้งแรกที่ผมกลับมาเยือนเมืองนี้ในรอบกว่าห้าปี  ลูกศิษย์ราว 15 คนมารวมตัวกันเพื่อเลี้ยงรุ่นโดยไม่ได้นัดหมายกันล่วงหน้า พวกเขาเล่าถึงความเป็นไปของเพื่อนร่วมชั้นที่ไม่ต่างจากชาวจีนส่วนใหญ่ในช่วงอายุเดียวกัน นั่นคือต้องอพยพโยกย้ายไปไกลบ้าน หลายคนอยู่ตามเมืองชายฝั่งที่กำลังเติบโต คนหนึ่งทำการค้าในอินเดีย อีกคนถูกจำคุกข้อหาคอรัปชัน วิลเลียม เจฟเฟอร์สัน ฟอสเตอร์ ซึ่งตั้งชื่อภาษาอังกฤษสวยหรูให้ตัวเอง มีรายได้สูงมากจากการสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ ของบรรดาเจ้าของโรงงานที่ร่ำรวยทางภาคตะวันออก ส่วนเอมิลีตอนนี้ทำงานในโรงเรียนประถมของฝูหลิงทัศนคติใหม่ๆ ทำให้ผมประทับใจยิ่งกว่าการเปลี่ยนแปลงทางวัตถุเสียอีก เย็นวันหนึ่งระหว่างที่ผมบรรยายให้นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยครูแยงซีเกียง ในช่วงถาม-ตอบ นักศึกษาปีหนึ่งคนหนึ่งลุกขึ้นถามว่า “อาจารย์คิดว่าประเทศจีนจะสามารถแซงหน้าอเมริกาในด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพได้ไหมครับ”  ตอนที่ผมเป็นอาจารย์อยู่ที่นี่ ไม่มีนักศึกษาคนไหนกล้าถามคำถามแบบนี้ในที่สาธารณะ คำตอบของผมฟังดูออกแนวนักการทูตหน่อยๆ แต่จริงใจว่า “นั่นขึ้นอยู่กับคุณและ คนรุ่นคุณแล้วละครับ”ผมยังพบว่าชาวจีนที่มีการศึกษาดูจะสนใจที่จะวิเคราะห์สังคมของตนเองมากขึ้นด้วย เอมิลีบอกผมว่า ญาติเธอ อาจรวย แต่เธอเห็นว่าเงินทองไม่ได้ทำให้เขามีความสุขขึ้นเลย เมื่อไม่นานมานี้ วิลเลียมและภรรยาตัดสินใจฝ่าฝืนนโยบาย  “ลูกคนเดียว” ของทางการจีน ด้วยการมีลูกคนที่สอง เขาตัดสินใจเช่นนี้หลังจากไปร่วมงานศพของชายที่มีลูกคนเดียว               วิลเลียมเล่าว่า “ผมต้องช่วยลูกชายเขายกหีบศพ ทำให้ผมได้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนที่พวกเราจากไปแล้ว และลูกสาวผมต้องอยู่ตัวคนเดียวในโลก การมีพี่น้องน่าจะดีกว่าครับ”โมมันนี เพื่อนร่วมชั้นของเขา เป็นเด็กยากจนอีกคนที่ตั้งชื่อภาษาอังกฤษให้ตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เขาประสบความสำเร็จในฐานะครูที่โรงเรียนชั้นนำแห่งหนึ่งในฉงชิ่ง แต่ยังรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ กับแรงกดดันอันไม่หยุดหย่อนของวิถีชีวิตในเมืองใหญ่ของจีน เขายอมรับว่า “ชีวิตต้องแก่งแย่งแข่งขันกันครับ ผมว่านี่คือช่วงเวลาสำคัญของประเทศเรา ที่ผ่านมา ชาวจีนอาจเคยวิพากษ์วิจารณ์ประเทศอื่น ตอนที่ประเทศเหล่านั้นก้าวผ่านช่วงเวลาแบบเดียวกัน สมัยก่อนเราวิจารณ์ลัทธิทุนนิยมของอเมริกาอย่างหนักหน่วง แต่ทุกวันนี้ เรากำลังก้าวผ่านกระบวนการเดียวกันครับ”                เรื่อง ปีเตอร์ เฮสส์เลอร์ ภาพถ่าย แอนาสเตเชีย เทย์เลอร์-ลินด์ ข้อมูลจากนิตยสารเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย http://www.ngthai.com/ngm/1303/default.asp 

อีเลคโทรลักซ์จัดงานมหกรรมนวัตกรรม “The Inspiration”

อีเลคโทรลักซ์จัดงานมหกรรมนวัตกรรม “The Inspiration”
อีเลคโทรลักซ์จัดงานมหกรรมนวัตกรรม “The Inspiration” ฉลองการเติบโตสูงสุดในรอบ 8 ปีผ่านพ้นไปแล้ว ก็ร่วมแสดงความยินดีด้วย กับ บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด นำโดย นาย สุทธิ มโนกิจจรูญมั่น ผู้จัดการทั่วไป ได้จัดงานมหกรรมนวัตกรรม และแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของบริษัท ภายใต้แนวคิด “The Inspiration” ด้วยผลิตภัณฑ์กว่า 100 รายการ เพื่อฉลองความสำเร็จของบริษัทที่เติบโตสูงสุดในรอบ 8 ปีนอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ล่าสุด ที่ชื่อว่า “แรงบันดาลใจของคุณ” ซึ่งสะท้อนเรื่องราวการใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยมีแรงบันดาลใจมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอีเลคโทรลักซ์ พร้อมเปิดตัวรถ “Inspiration Mobile” แสดงผลิตภัณฑ์อีเลคโทรลักซ์เคลื่อนที่ ที่จะเดินสายจัดแสดงผลิตภัณฑ์อีเลคโทรลักซ์ที่ครบครันไปยังศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งย่านธุรกิจตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศภายในงานยังได้รับเกียรติจาก มร.ซูเรช บาลัน ประธานกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลัก อีเลคโทรลักซ์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก ตลอดจนนักแสดงชั้นนำอย่าง ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล และ มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง พร้อมแขกผู้มีเกียรติในแวดวงสังคม ธุรกิจ ผู้แทนจัดจำหน่าย และโมเดิร์นเทรด มาร่วมสัมผัสที่สุดแห่งนวัตกรรมการออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้า ณ เซ็นเตอร์พ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กันอย่างคับคั่ง. 

ระเบิดความชิค อาร์ตตัวแม่กับ CMRR BOMB clutch

ระเบิดความชิค อาร์ตตัวแม่กับ CMRR BOMB clutch
ผนึกกำลังระหว่างดีไซเนอร์ตัวแม่ของไทย ดวง-วรรณพร โปษยานนท์ กับแบรนด์ดังสัญชาติอิตาลี Corto Moltedo สร้างสรรค์กระเป๋าสุดอาร์ตสีสันสะดุดตา รูปลักษณ์สะกดใจCorto Moltedo เกิดในครอบครัวดีไซเนอร์และเติบโตมากับวงการเครื่องหนังและแฟชั่น เขาใช้ชีวิตอยู่ที่ Venice และ NewYork บวกกับความรักในการเดินทางท่องเที่ยวทำให้เขาได้เก็บเกี่ยวความประทับใจในวัฒนธรรมแฟชั่นของผู้คนและความสวยงามเฉพาะตัวของแต่ละสถานที่ที่เขาได้ไปเยือน กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสรรสร้างกระเป๋าที่เป็นเลิศทั้งวัสดุและดีไซน์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ผู้หญิงที่เหมาะกับกระเป๋า Corto Moteldo จึงเป็นผู้หญิงที่สามารถนิยามและถ่ายทอดสไตล์ของตัวเองออกมาได้อย่างชัดเจนโดยไม่จำกัดว่าเธออยู่ที่ใดในโลกและหลังจากจัดงาน Trunk Show ที่เมืองไทยและได้พบกับ ดวง-วรรณพร โปษยานนท์ แฟชั่นนิสต้าระดับเอลิสต์ด้วยแนวคิดและศิลปะที่ตรงกัน Corto Moltedo จึงจับมือกับแบรนด์กระเป๋าสุดอาร์ตอย่าง RougeRouge สร้างคอลลาบอเรชั่น โปรเจกต์ ภายใต้ชื่อ “RougeRouge for Corto Moltedo“ เปิดตัวกระเป๋าและพวงกุญแจลิมิเตด อิดิชั่น CMRR BOMB clutch และ CMRR BOMB Key Chain ที่เรียกได้ว่าอาร์ตสุดๆ แบบอันลิมิตด้วยการนำศิลปะแนวเซอร์เรียลที่มีลูกเล่นกับวัตถุและมิติมาใช้มิกซ์กับสีสันฉูดฉาดตามแบบฉบับของศิลปะแนวป๊อปอาร์ต CMRR BOMB clutch เป็นกระเป๋าหนังคัตติ้งเนี้ยบทรงกลมรูปลูกระเบิดแบบสามมิติ ทำจากหนังวัวเนื้อนิ่มชั้นดีนำเข้าจากอิตาลี ตกแต่งประกายไฟของลูกระเบิดด้วยหนังแก้วสีเหลืองและแดงสด มาพร้อมกับแถบหนังคล้องข้อมือสีดำและฮาร์ดแวร์สีเงินเท่ๆ เพิ่มดีกรีความเฟียซแบบยกกำลังสองด้วยพวงกุญแจ CMRR BOMB” รูปลูกระเบิดแบบสองมิติเข้าคู่กับกระเป๋าคลัตช์ 

Tuesday, March 26, 2013

เปิด ร.ร.เสริมสวยชลาชล พัฒนาวิชาชีพช่างผม

เปิด ร.ร.เสริมสวยชลาชล พัฒนาวิชาชีพช่างผม
จิตรามณฑน์–สรัญทร เตชะไพบูลย์ ,ทิพาพร อัชนันท์ ก็มาร่วมยินดีกับความสำเร็จของ“ชลาชล” ครั้งนี้ด้วย.ทำความใฝ่ฝันให้เป็นจริงจนสำเร็จ ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ประธานกรรมการบริษัท ชลาชล จำกัด เจ้าของธุรกิจซาลอนแบรนด์ชั้นนำ “ชลาชล” ได้รับพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นจาก  พระเจ้าวรวงศ์ เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิด “โรงเรียนเสริมสวยชลาชล” (CHALACHOL Hairdressing School) อย่างเป็นทางการ ที่โครงการบิซทาวน์ ลาดพร้าว 79-81 วังทองหลาง เมื่อเร็วๆนี้ลี พึ่งบุญพระ, บัณพร เอี่ยมอมรพันธุ์, วรจันทร์ วิญญรัตน์, คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช และวี มาร์ มาร่วมยินดีกับ ดร.สมศักดิ์ ชลาชล อย่างพร้อมหน้า.บรรยากาศในงานคึกคักไปด้วยเพื่อนฝูงที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ซึ่ง ดร.สมศักดิ์ เจ้าภาพ กล่าวถึงงานชิ้นใหม่ที่เป็นความภาคภูมิใจว่า ตนทำธุรกิจซาลอนนี้มานานกว่า 20 ปี โดยมีทั้งหมด 4 แบรนด์คือ Salon Du Guru, CHALACHOL, Salon De BKK และ Q-Cut รวมทั้งหมด 25 สาขา และการตั้งโรงเรียนสอนเป็นความคิดที่มีมาและเป็นความตั้งใจใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต บวกกับการทำดุษฎีนิพนธ์เรื่อง “การพัฒนามาตรฐานวิชาชีพช่างทำผมไทย” จึงเป็นโมเดลในการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียนเสริมสวยชลาชล ที่จะเป็นหลักสูตรการเรียนทำผมแบบใหม่มีโครงสร้างเนื้อหาครอบคลุมทั้ง 4 ด้านคือ ด้านทัศนคติ, ความรู้และทักษะ, การบริหารและบริการ ซึ่งถือเป็นแก่นของความสำเร็จในธุรกิจซาลอน อีกทั้งยังเป็นการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน การเรียนการสอนจะเป็นรูปแบบ Learning by Doing นอกจากนี้ เรายังหวังว่าโรงเรียนแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการพัฒนาช่างทำผมในภูมิภาคอาเซียน  เนื่องจากมีชาวต่างชาติได้เข้ามาสมัครเรียนบ้างแล้ว เลยหวังว่า โรงเรียนแห่ง นี้จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมช่างทำผมให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล. 

อณิชา อรรถสกุลชัย เดินตามฝัน Lovebird จากโลกออนไลน์ สู่โชว์รูมเต็มตัว

อณิชา อรรถสกุลชัย เดินตามฝัน Lovebird จากโลกออนไลน์ สู่โชว์รูมเต็มตัว
จากความชื่นชอบในเรื่องแฟชั่น นำพาให้ แพม-อณิชา อรรถสกุลชัย เดินตามความใฝ่ฝันในการมีแฟชั่นแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งสาวคนนี้ได้พิสูจน์ความสามารถจนเป็นที่ยอมรับจากทางบ้าน และได้รับอนุญาตให้ไปสร้างความฝันในการปลุกปั้นแบรนด์ Lovebird แฟชั่นเรดี้ ทู แวร์ ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ออกมาสู่โชว์รูมอย่างจริงจังแพม-อณิชา สาวรุ่นใหม่ไฟแรงคนนี้เป็นลูกสาวเจ้าของธุรกิจบีทาเก้น ได้เล่าว่า แพมชอบแต่งตัว ชอบแฟชั่นมาตั้งแต่เด็ก เคยขอที่บ้านเรียนด้านแฟชั่น แต่เมื่อก่อนคุณพ่อคุณแม่ไม่อนุญาต เพราะท่านอาจจะยังไม่เข้าใจและการเป็นดีไซเนอร์ยังไม่เป็นที่ยอมรับเหมือนในปัจจุบัน พอเรียนจบปริญญาตรีคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งแพมเรียนเอกด้านภาษาฝรั่งเศส จบมาได้เกียรตินิยมอันดับ 2 ก็ไปเรียนต่อปริญญาโทเลยในสาขาการสื่อสารชั้นสูง ที่ The University of Sydney ประเทศออสเตรเลีย และเรียนต่อปริญญาโทใบที่ 2 ในสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ The University of New South Wales ออสเตรเลียเช่นกันหลังจากที่เรียนจบ แพม บอกว่า ได้ทำงานที่ห่างไกลความฝันที่อยากเป็นดีไซเนอร์ คือ ได้ทำงานเป็น AE หรือ Account Executive บริษัทเอเจนซี่โฆษณา BBDO Bangkok ทำงานอยู่ได้ 2 ปี ก็ลาออกมาตามหาความฝันโดยไปเรียนต่อหลักสูตรแฟชั่นดีไซน์ ที่ Raffles Institute Bangkok ก่อน 1 ปี ก่อนที่จะไปเรียนต่อหลักสูตรระยะสั้นด้านแฟชั่นที่ Central Saint Martins ประเทศอังกฤษแพมรู้ตัวมาตลอดว่า ชอบแฟชั่น แต่ตอนเด็กอาจไม่แน่ใจว่าชอบถึงขนาดมาเป็นดีไซเนอร์หรือเปล่า   เลยไม่ได้เรียนด้านการออกแบบมาตั้งแต่ต้น แล้วคุณพ่อก็อยากให้แพมเป็นอาจารย์ เพราะรู้นิสัยดีว่าแพมเป็นคนไม่ชอบการแข่งขัน ออกแนวรักสงบ จึงเลือกเรียนภาษาและการสื่อสาร แพมเคยมาเป็นอาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะไปทำงานที่เอเจนซี่ ซึ่งตอนทำงานที่เอเจนซี่ก็สนุกและท้าทายมาก ได้ประสบการณ์เยอะ แต่ในใจก็อยากที่จะทำงานเกี่ยวกับแฟชั่นเสื้อผ้ามากกว่า จึงตัดสินใจไปเรียนต่อด้านแฟชั่นให้เป็นเรื่องเป็นราว แล้วได้มาลองทำแบรนด์ของตัวเอง เลิฟเบิร์ด เป็นการทดสอบตัวเอง”เส้นทางการทำงานที่รักของสาวคนนี้ แพม เล่าว่า เราเริ่มต้นจากทีมงาน 2-3 คน คอนเซปต์และรูปแบบทั้งหมดมาจากตัวเองที่ชื่นชอบและมองว่า ผู้หญิงจะดูสวยที่สุด เมื่อเวลามีความรัก จึงใช้คำว่า “เลิฟเบิร์ด” มาสะท้อนความเป็นแฟมินีน สไตล์เสื้อผ้าจึงเน้นสไตล์หวานซ่อนเปรี้ยว สวมใส่แล้วเผยรูปทรงของผู้หญิง ซึ่งทำเสื้อผ้าครั้งแรกทำขายผ่านเว็บไซต์ www.shopatlovebird.com เราขายผ่านเว็บไซต์มา 2 ปี แต่ปรากฏว่าลูกค้าบุกมาที่ออฟฟิศบ้าง โทร.มาบ้าง เลยคิดว่าลูกค้าอยากจะติดต่อเราโดยตรง อยากลองของจริง ไม่คิดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีขนาดนี้ เลยทำให้ต้องเปิดโชว์รูม“การที่เราได้ก้าวมาถึงจุดนี้ จากโลกออนไลน์มาสู่โชว์รูมเต็มรูปแบบ ทั้งหมดอาจจะเป็นเพราะทุกคนสัมผัสได้ถึงความตั้งใจและความรักในการทำงาน ผ่านผลงานที่มีคุณภาพของเรา เลยทำให้เราประสบความสำเร็จในเวลาอันสั้น”..... เพราะฝีมือและความตั้งใจของเธอที่ปรากฏผ่านผลงานเป็นบทพิสูจน์นั่นเอง.

พาเหรดแฟชั่นแบรนด์นอก เพิ่มสีสัน ให้หนุ่มสาวเทรนดี้

พาเหรดแฟชั่นแบรนด์นอก เพิ่มสีสัน ให้หนุ่มสาวเทรนดี้
อลัน นามชัยศิริ บิ๊กบอสห้างเซน ชวนดับร้อนด้วยแบรนด์แฟชั่นระดับโลก ที่พาเหรดกันมาอวดโฉมในคอลเลกชั่นล่าสุดสปริง/ซัมเมอร์ 2013 ที่โซนดีไซเนอร์ ลักซ์ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซน โดยทัพแบรนด์เนมยอดนิยม  อาทิ  Galliano, Juicy Couture, Just Cavalli, Karl by Karl Lagerfeld, Love Moschino, M Missoni, Maje, Manoush, Pierre Balmain, RED Valentino, Sandro, Tadashi, Shoji, Versus, Vivienne Westwood ฯลฯ แต่ละแบรนด์ต่างหอบทีเด็ดมาปลุกสีสัน เอาใจหนุ่มสาวเทรนดี้ที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง ให้เจิดจรัสท้าทายสายลมและแสงแดดกันแบบสนุกสุดเหวี่ยงนำขบวนโดยแบรนด์สุดฮอต KENZO จากฝรั่งเศสที่ได้ฤกษ์เปิดแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกในไทย ประเดิมคอลเลกชั่นล่าสุดด้วยการหยิบสีสันแห่งธรรมชาติและความสง่างามของลายเสือมาออกแบบอย่างมีชั้นเชิง ด้วยลวดลายพิมพ์แบบภาพลวงตาในโทนสีส้มแทนเจอรีน สีฟ้าเทอร์ควอยซ์ สีเหลืองมัสตาร์ด ผสมผสานอย่างลงตัวกับเนื้อผ้าโทนสียืนพื้นอย่างสีเขียวและสีเหลืองอมน้ำตาล ขณะที่แบรนด์น้องใหม่อนาคตไกลอย่าง Karl by Karl Lagerfeld ต้อนรับซัมเมอร์แบบเรียบโก้ในโทนสีคลาสสิกตลอด กาล อย่างขาวและดำ สำหรับชายหนุ่มสร้างความเด่นชัดมากขึ้นด้วยเสื้อผ้าสปอร์ตแวร์แนวคลาสสิก ภายใต้ลูกเล่นลายอำพราง ลายกราฟฟิก เป็นต้น.

Monday, March 25, 2013

อัพเดทแฟชั่นแว่นตา 2013

อัพเดทแฟชั่นแว่นตา 2013
สุทธิพงษ์ อัมพุช (กลาง) ผู้บริหารเดอะ มอลล์ กรุ๊ป แนะนำแว่นตาคอลเลกชั่นรับซัมเมอร์นี้  จากการนำเสนอ ของอั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์  และเจนี่  เทียนโพธิ์สุวรรณ.ถึงเวลาหยิบ “แว่นตากันแดด” มาช่วยกรองแสงอันแรงกล้าในหน้าร้อนเพื่อถนอมสายตา เดอะ มอลล์ จึงร่วมกับร้านแว่นตาชั้นนำ จัดงาน “The Mall Bangkok Optical Fair 2013” ภายใต้คอนเซปต์  “The Imagination of Futuristic” เอาใจบรรดาแฟชั่นนิส ด้วยการรวบรวมแว่นตาดีไซน์ล้ำกว่า 100 แบรนด์ดังทั่วโลก มาให้คัดสรรในงานที่อีเว้นท์ ฮอลล์ ชั้น G เดอะ มอลล์ บางกะปิบรรยากาศในงานคึกคักไปด้วยคนดังที่มาร่วมอัพเดทแฟชั่นแว่นตาจากร้านแว่นชั้นนำ อาทิ OPTICAL 88, หอแว่น, INFINITE EYEWEAR, EYE LAB, GOLDEN OPTIC,THE NEXT เป็นต้น ที่ได้คัดสรรแว่นตาแฟชั่นมาไว้ในงานอย่างครบวงจร พร้อมด้วยส่วนลดสูงสุด 80% และที่ตื่นตาตื่นใจเป็นไฮไลต์ของงานคือ การโชว์แว่นตาทองคำฝังเพชรจาก Lindberg มูลค่าถึง 800,000 บาท รวมทั้งแว่นตาดีไซน์แปลกๆ จาก LINDA FARROW และแว่นตา IC! BERLIN COLLECTION FOR WINTER 2013 ที่มาเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียที่งานนี้ ซึ่งจะจัดไปจนถึงวันที่ 27 มี.ค.ศกนี้. 

4สาวใจใหญ่ เปิดสถาบัน ความงามไฮเอนด์

4สาวใจใหญ่ เปิดสถาบัน ความงามไฮเอนด์
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ มาเป็นประธานเปิด “เดอะ สการ์เล็ตต์ คลินิก” ให้กับ 4 เถ้าแก่เนี้ยรุ่นใหม่ ปลา–อัจฉรา, มาช่า วัฒนพานิช, หน่อย–ธีรดา และกิ๊บ–วริษา.4 สาวสวยต่างสไตล์แต่มีใจรักเรื่องความสวยงามอย่าง ปลา–อัจฉรา บุรารักษ์, กิ๊บ–วริษา ภาสกรนที, หน่อย–ธีรดา อำพันวงษ์ และ มาช่า วัฒนพานิช ร่วมลงขันกันเปิดสถาบันความงามแบบครบวงจรระดับไฮเอนด์ “เดอะ สการ์เล็ตต์ คลินิก” (The Scarlett Clinic) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆนี้ ที่ชั้น 2 โซนนอร์ธ ศูนย์การค้าสยามพารากอนปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ (ที่ 2 จากซ้าย) และหน่อย-ธีรดา อำพันวงษ์ (ขวาสุด) ร่วมต้อนรับ วิภาวี คอมันตร์, นวลพรรณ ล่ำซำ และเจนนิส สินธวาชีวะ ที่มาร่วมยินดี.ในงานเต็มไปด้วยแขกวีไอพี ที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง อาทิ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ, นวลพรรณ ล่ำซำ, กมลสุทธิ์  ทัพพะรังสี, ณพาภรณ์ ณรงค์เดช, ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง  ยุคล, เกล็ดดาว พานิชสมัย, วิภาวี คอมันตร์ ฯลฯ โดย 4 บอสสาวได้ช่วยกันอธิบายถึงที่มาของการรวมตัวกันครั้งนี้ว่า  สถาบันความงามแห่งนี้เกิดขึ้นจากการที่พวกเราชอบความสวยงามและมีความสนิทกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว จึงได้ร่วมหุ้นกันเปิดสถานความงามไว้สำหรับดูแลพวกเราเอง และคุณผู้ชายผู้หญิง ทุกเพศทุกวัยให้ดูดีด้วย ซึ่งเดอะ สการ์เล็ตต์ คลินิก เปิดให้บริการภายใต้คอนเซปต์ Holistic and Laser Center เป็นคลินิกเวชกรรมด้านความงามที่มีเป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับผลลัพธ์ในการทำความงามที่แตกต่าง โดยมุ่งเน้นคัดสรรนวัตกรรมในการประยุกต์ศาสตร์และศิลป์รูปแบบใหม่ของการนำเทคโนโลยีอุปกรณ์ผลิตภัณฑ์และเลเซอร์ที่ได้มาตรฐานและคุณภาพสูงมาให้บริการ ซึ่งผสมผสานการรักษาสุขภาพและชะลอวัยด้วยการ แพทย์แบบองค์รวม และตรวจสุขภาพเชิงลึกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและละเอียดถี่ถ้วนจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ.มาดามอิง-ตัน ภาสกรนที มาเป็นกำลังใจให้อาหมวย กิ๊บ-วริษา ภาสกรนที. 

ศิลปะบนตัวปลา จากเศษวัสดุ สู่ประติมากรรมใหญ่ใจกลางกรุง

ศิลปะบนตัวปลา จากเศษวัสดุ สู่ประติมากรรมใหญ่ใจกลางกรุง
โรงเรียนบางบัว กับผลงานที่ชนะเลิศวัยเด็ก เป็นวัยแห่งการสร้างสรรค์อย่างไร้พรมแดนและเปิดรับสิ่ง ใหม่ๆ หากได้รับการส่งเสริมพัฒนาการและความพร้อมทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญาจากพ่อแม่  ผู้ปกครองอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องของจินตนาการ ซึ่งศิลปะก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทำให้เด็กสามารถเปิดโลกแห่งจินตนาการของตัวเองได้อย่างไร้ขอบเขต สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน อาหาร และไอศกรีม บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด จึงจัดโครงการ “คนอร์ อาร์ตอควาเรียม” ประกวดศิลปะบนตัวปลา สร้างสรรค์โดยศิลปินรุ่นเยาว์ระดับประถมศึกษา กว่า 200 คน จาก 20 โรงเรียนทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “The Most Creative Fish” ฉลองเปิดตัว “คนอร์ โจ๊กปลาใหม่” โดยได้รับเกียรติจาก ม.ล.จิราธร จิรประวัติ และ สุพรทิพย์ ช่วงรังษี ร่วมเป็นกรรมการเฟ้นหา 4 สุดยอด “The Most Creative Fish” ในสาขาต่างๆโรงเรียนนครนนท์วิทยา 2 ภูมิใจกับผลงานที่ชนะงานสร้างสรรค์ศิลปะบนตัวปลาครั้งนี้ ถือเป็นอควาเรียมขนาดใหญ่ใจกลางเมืองกับประติมากรรมรูปปลาขนาดใหญ่สูงเกือบ 2 เมตร ทั้งหมด 20 ตัว ที่เด็กๆต่างนำเศษวัสดุเหลือใช้มาร่วมกันแต่งแต้มตกแต่งตัวปลาตามจินตนาการ โดยทีมชนะเลิศ ประเภทวัสดุสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม ได้แก่ โรงเรียนวัดปากน้ำ (พิบูลสงคราม) ในชื่อผลงาน “สีสันแห่งโภชนาการ” ประเภทประณีตสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม ได้แก่ โรงเรียนบางบัว ชื่อผลงาน “ปลาสดใสคนอร์คัพโจ๊ก” ประเภทแนวคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม ได้แก่ โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ ชื่อผลงาน “Smart Fish” และประเภทสร้างสรรค์เพื่อสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม ได้แก่ โรงเรียนนครนนท์วิทยา 2 ชื่อผลงาน “มัจฉา น่ารู้” นอกจากนี้ คนอร์ยังได้จัดให้มีรางวัลขวัญใจ มหาชน โดยผลงานศิลปะบนตัวปลาทั้ง 20 ผลงาน จะถูกนำ ไปจัดแสดงตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พร้อมเปิดให้ผู้สนใจส่งกำลังใจร่วมโหวตให้กับผลงานที่ชื่นชอบทาง www.facebook.com/knorrthailand ระหว่างนี้ถึง 18 เม.ย. สำหรับทีมที่ได้รางวัลขวัญใจมหาชน จะได้รับรางวัลทัศนศึกษา ณ Underwater World ประเทศสิงคโปร์. 

Thursday, March 14, 2013

กางเกงเก่า มีประโยชน์ C&D นำปรับโฉม ช่วยการกุศล

กางเกงเก่า มีประโยชน์ C&D นำปรับโฉม ช่วยการกุศล
ประวรา เอครพานิช (กลาง) ผู้บริหารบูติคนิวซิตี้ ต้อนรับ อรชุมา ดุรงค์เดช และ ศรัยฉัตร จีระแพทย์ สองสาวหวานที่มาร่วมงาน.สร้างสรรค์กิจกรรมแฟชั่นช่วยสังคม ประวรา เอครพานิช ผู้บริหาร บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) เจ้าของแฟชั่นแบรนด์ดัง C&D Classic & Difference จัดโครงการ “C&D Charity” รับบริจาคกางเกงเก่าจากลูกค้าและประชาชน เพื่อส่งต่อให้มูลนิธิกระจกเงาไปใช้ประโยชน์ด้านการกุศล โดยได้มอบลอตแรกจำนวน 600 ตัวในงานเปิด C&D สาขาใหม่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆนี้สฤษดิ์ ถิระชาญชัย ตัวแทนจากมูลนิธิกระจกเงา รับมอบกางเกงบริจาคในโครงการ C&D Charity จาก ประวรา เอครพานิช.“ประวรา” กล่าวว่า โครงการนี้มีแนวคิดจาก Reuse Reduce Recycle เป็นการเอากางเกงเก่า มาเล่าใหม่ โดยการรณรงค์ให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไป นำกางเกงที่ไม่ได้ใช้แล้ว แต่ยังคงมีสภาพดีใช้งานได้ มาบริจาคซึ่งเราจะนำมา Reuse ใน 2 รูปแบบคือ นำมาปรับโฉมให้เป็นกางเกงตัวใหม่ ที่มีความสวยงามน่าสนใจ หรือนำมาปรับเป็นสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ ที่ก่อให้เกิดการใช้งานอีกครั้ง ซึ่งโครงการ C&D Charity ได้รวบรวมกางเกงได้จำนวน 600 ตัว มอบให้กับมูลนิธิกระจกเงา นำไปส่งต่อให้กับผู้ขาดแคลน และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปที่ร้านแบ่งปัน ที่จำหน่ายสิ่งของสภาพดีราคาถูกที่มาจากการบริจาค เพื่อนำรายได้ทั้งหมดเข้ากองทุนแบ่งปัน สำหรับนำไปใช้ในภารกิจการติดตามคนหาย ภารกิจของอาสาสมัครในโรงพยาบาล รวมถึงอาสาสมัครข้างถนน และเพื่อเป็นการสนับสนุนกิจกรรมนี้ต่อไป โครงการ C&D Charity จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.56 โดยกางเกงเก่าจะมีมูลค่า 500 บาททันที เมื่อผู้บริจาคนำมาเลือกกางเกงตัวใหม่รุ่นใส่แล้วผอม ที่ C&D ทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ในงานยังได้แนะนำการปรับโฉมกางเกงตัวเก่าให้เป็นตัวใหม่ พร้อมแสดงแฟชั่นโชว์ C&D Summer Collection 2013 ที่โดนใจสาวรักธรรมชาติด้วยแฟชั่นเสื้อผ้าลายพิมพ์ดอกไม้สวยสดงดงาม และพิมพ์ลายกราฟฟิกสวยเก๋.

หอยแมลงภู่อบซอสเขียวหวาน

หอยแมลงภู่อบซอสเขียวหวาน
อาหารฝรั่งปนไทยเมนูนี้มาไกลจากชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยการดัดแปลงนำหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ๆ มาราดด้วยซอสแกงเขียวหวานของไทยเรา แถมยังโรยชีสก่อนเอาไปอบจนเหลืองสวย รสหวานมันของชีสตัดกับรสเครื่องแกงเป็นเสน่ห์ที่ลงตัวทีเดียวค่ะคุณน้อย–ภาวินี ลมัยกุล เจ้าของไอเดียในการแปลงสูตรจากหอยแมลงภู่อบชีส มาเป็นหอยแมลงภู่อบซอสเขียวหวาน ต้องถือว่ามีฝีมือไม่ธรรมดาทีเดียว ปกติแล้วบรรดาเพื่อนฝูงที่รู้จักมักคุ้นกับ “น้านู” หรือคุณเกษม ลมัยกุล กับคุณน้อย สามีภริยาคู่นี้ ก็จะทราบกันดีว่า คุณน้อยมีฝีมือในการทำอาหารรสชาติอร่อยไม่มีที่ติ และยังมีเทคนิคในการพลิกแพลงอีกด้วย ทั้งนี้เพราะคุณน้อยเกิดและโตมาในครอบครัวที่มีคุณแม่เป็นแม่ค้าขายข้าวแกง เธอจึงซึมซับวิชาความรู้ในการปรุงอาหารแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด จากการช่วยแม่ทำข้าวแกงขายมาตั้งแต่เด็กๆ ได้ดูได้เห็นอยู่ทุกวันและหลังๆยังต้องลงมือทำเอง จนเกิดความรักในการทำอาหาร และยึดเป็นอาชีพจนสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้เมื่อมาเปิดร้านข้าวแกงของตัวเองขายดิบขายดีถึงขีดสูงสุดในกระทรวงสาธารณสุข คุณน้อยเล่าว่า วันหนึ่งๆต้องทำกับข้าวขายถึง 50 อย่าง หุงข้าววันละ 1 กระสอบ มียอดขายตกวันละ 30,000 กว่าบาท เคยทำสถิติสูงสุดถึงวันละ 40,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว แต่เมื่อสุขภาพไม่อำนวย เธอจึงตัดสินใจเลิกและไปใช้ชีวิตบั้นปลายแบบสงบเพียง 2 คนกับสามี ที่ อ.สังขละบุรี แต่ก็ยังได้โชว์ฝีมือทำอาหารเลี้ยงเพื่อนฝูงที่มาเยี่ยมเยียนในบางครั้ง ซึ่งหลายๆคนก็เสียดายฝีมือทำอาหารระดับบรมครูของคุณน้อย รบเร้าให้เปิดร้านขึ้นใหม่ จึงเป็นที่มาของ ร้านโต๊ะเดียว สังขละ ซึ่งเปิดบริการลูกค้าแบบวีไอพี เพียงวันละ 1 โต๊ะ ใครที่จะมารับประทานต้องโทร.จองคิว และสั่งอาหารไว้ก่อน ที่โทร.0-3459-5638 หรือ 08-1002-1908 คุณน้อยยังมีที่พักไว้รับรองสำหรับผู้มาไกลจากกรุงเทพฯด้วย ซึ่งมีบรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงามมาก ชวนให้ต้องกลับไปเยือนอีกเมื่อมีโอกาสสำหรับเมนูอาหารของร้านฯ คุณน้อยบอกว่า ลูกค้าที่มาทานเหมือนคนพิเศษสุดในมื้อนั้นๆ สไตล์อาหารจึงเปลี่ยนไป แต่เธอก็ยังเน้นพื้นฐานการทำกับข้าวแบบโบราณ จากวัตถุดิบที่มีคุณภาพของพื้นบ้านมาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็ใช้วัตถุดิบที่หาไม่ได้ที่ อ.สังขละ อย่างเนื้อปู เนื้อเซอร์ลอยด์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ มาปรุงเป็นเมนูอร่อยๆที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ อย่างเช่น “หอยแมลงภู่อบซอสเขียวหวาน”เครื่องปรุง : หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ 15 ตัว/เครื่องแกงเขียวหวาน 1/4–1/2 ถ้วย/กะทิกล่อง 250 มล. นมข้นจืดคาร์เนชั่น 3 ชต./น้ำตาลทราย 1 ชช./น้ำปลานิดหน่อย/เหล้าเชอรี่บรั่นดี 1/2ชต./มอสซาเรลล่าชีสขูด 1 ถ้วย (โปร่งๆ)/พาร์มาซานขูด 1/2 ถ้วย(โปร่งๆ)/ใบโหระพา/ใบมะกรูดซอย/พริกแดงหั่นเป็นเส้น......วิธีทำ 1) หอยที่ใช้ส่วนใหญ่จะใช้แบบที่เปิดฝาข้างหนึ่งและต้องสดมากๆ ให้เอาหอยแช่น้ำ ขูดเปลือกให้สะอาด จากนั้นใช้มีดคมๆเฉือนเนื้อหอยให้หลุดจากเปลือก เอาเนื้อหอยวางในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ 2) เปิดเตาอบไว้ที่ 180 ํc 3)ตั้งกระทะบนไฟกลาง ตักหัวกะทิแยกออกไว้ 3/4 ใส่กะทิที่เหลือลงในกระทะ ผัดให้เดือด คนบ่อยๆ อย่าให้เป็นลูก 4)ใส่เครื่องแกงลงผัดปริมาณขึ้นอยู่กับว่าชอบเผ็ดขนาดไหน น้ำพริก 1/2 ถ้วยหรือประมาณ 100 กรัมเป็นความเข้มข้นสูงสุด น้อยกว่าได้ แต่อย่ามากกว่า ผัดไปเรื่อยๆจนถึงขั้นคนผัดจาม แต่อย่าให้แตกมัน ปรุงรสด้วยเหล้า น้ำตาลและน้ำปลา ควรชิมก่อนเพราะพริกแกงมักจะเค็ม หรือจะใส่รสดีนิดหน่อยก็ได้ แต่ไม่จำเป็น 5)พอเครื่องแกงหอมได้ที่ใส่หัวกะทิลงไปทั้งหมด ใส่นมคาร์เนชั่นตามลงไปเท่าที่ชอบ ชิมรสดูอีกครั้ง 6)หยิบเปลือกหอยขึ้นมา 1 ฝา ปูด้วยใบโหระพา 7-8 ใบ วางเนื้อหอยลงบนโหระพา ราดด้วยซอสพอมิดเนื้อหอย โรยด้วยมอสซาเรลล่าและพาร์มาซานชีส ส่งเข้าเตาอบประมาณ 15 นาที แค่ชีสเริ่มเกรียมเป็นหย่อมๆก็ใช้ได้ จัดใส่จานโรยหน้าด้วยใบมะกรูดซอยและพริกเส้น รับประทานพร้อมขนมปังกระเทียมก็เข้ากันได้ดี.

สุดเว่อร์ เริ่ดหรู อลังการ... ประมวลภาพห้องน้ำ สุวรรณภูมิ โฉมใหม่ไฉไล...!

สุดเว่อร์ เริ่ดหรู อลังการ... ประมวลภาพห้องน้ำ สุวรรณภูมิ โฉมใหม่ไฉไล...!
เปิดตัวไปแล้วกับห้องน้ำใหม่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่บริษัทเอสซีจีสร้างขึ้นมา โดยตั้งอยู่บริเวณอาคารเทียบเครื่องบินโซน D ภายใต้แนวความคิด 7 สิ่งมหัศจรรย์ของความเป็นไทย ซึ่งตอนนี้เพิ่งสร้างเสร็จไป 2 ห้อง จากทั้งหมด 7 ห้อง ไทยรัฐออนไลน์ประมวลภาพ เริ่ด หรู อลังการราคาหลายสิบล้านมาให้ชมกันขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/2Madames 

Wednesday, March 13, 2013

เซ็กซ์คลายร้อน เติมอุณหภูมิรักให้พุ่งทะลุปรอท!!!

เซ็กซ์คลายร้อน เติมอุณหภูมิรักให้พุ่งทะลุปรอท!!!
อย่าใช้คำว่าอากาศร้อนมีผลกระทบความสัมพันธ์ลึกซึ้งเด็ดขาด เพราะไทยรัฐออนไลน์นำท่วงท่าและเทคนิคฟีเจอริ่งที่รับรองว่าคลายร้อนภายนอก แต่เร่าร้อนอยู่ภายในมาบอก โดยเทคนิคดับหื่นบรรเทาความร้อนนี้ต้องมีน้ำเป็นส่วนช่วยอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งแน่ใจได้เลยว่า แค่ 3 ท่าที่นำมาฝากนี้ เด็ดดวงจนอยากให้ฤดูร้อนปีนี้ยาวนานข้ามทศวรรษเลยทีเดียวฝักบัวน้ำกระเซ็นเริ่มต้นกันเบาๆ ในห้องน้ำภายในบ้านของคุณเอง โดยจัดการเคลียร์พื้นที่ในอ่างอาบน้ำให้สะอาด เปิดน้ำฝักบัวปรับอุณหภูมิน้ำให้พอเหมาะ และเริ่มต้นเล้าโลมทั้งสองฝ่ายให้อารมณ์ปะทุได้ตามสบาย จากนั้นถึงเวลาดีนาทีทองที่ทุกคนรอคอย แต่อย่าเพิ่งถอนใจกับขนาดอ่างอาบน้ำที่มันทั้งแคบและแข็ง เพราะเรามีท่าเหมาะๆ มานำเสนอ โดยให้ฝ่ายชายนั่งในอ่างยืดขาให้เต็มอ่าง และถึงเวลาให้สาวๆ นั่งทับและงอเข่าหนีบขาชายคนรักไว้ ส่วนฝักบัวที่เปิดน้ำอยู่ ให้หญิงสาวผู้เร่าร้อนทั้งหลายถือไว้ในมือคอยสาดน้ำดับร้อนอยู่เป็นระยะๆ และปลดปล่อยฝ่ายชายให้ถึงสวรรค์ไปพร้อมๆ กันสายฝนโปรยปรายถ้าห้องอาบน้ำบ้านใครมีฝักบัวติดผนัง ก็ยิ่งสร้างบรรยากาศเซ็กซ์ท่ามกลางสายฝนได้สนุกยิ่งกว่าเดิม ซึ่งท่าข้างต้นผู้หญิงอาจเป็นฝ่ายดำเนินเกม แต่ครั้งนี้ถึงทีฝ่ายชายต้องลองรุกดูบ้าง โดยเริ่มต้นจากเปิดน้ำที่ฝักบัวติดผนังให้สาดกระเซ็นโปรยปราย จากนั้นให้สาวๆ นอนตะแคงยันข้อศอกอยู่ในอ่าง คอยชะม้ายตาเรียกแฟนหนุ่มให้เตรียมพร้อม และจึงถึงเวลาที่ผู้ชายต้องเดินเข้าไป นั่งคุกเข่า ยกขาหญิงสาวขึ้นให้สุด จากนี้ก็คงไม่ต้องบรรยายท่วงท่าอะไรต่ออีกแล้ว แต่นึกถึงความร้อนจากร่างกายมนุษย์สองคนท่ามกลางสายฝนเย็นๆ ที่ตกสร้างบรรยากาศ แล้วแบบนี้จะพลาดทดลองได้อย่างไรสระว่ายน้ำท้าแสงอาทิตย์ขอย้ำว่าเทคนิคที่เรากำลังจะกล่าวถึงนี้ เหมาะสำหรับคนที่มีสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ภายในบ้านเท่านั้น ซึ่งไม่ควรมีคนเดินพลุกพล่านจนแอบมาเห็นช็อตเด็ดที่คุณและคนรักสร้างสรรค์มาคลายร้อน หลังจากที่ว่ายน้ำเล่นเคียงคู่กันสนุกมากพอแล้ว ผู้หญิงเจ้าเสน่ห์ทั้งหลายจงคลานขึ้นไปบนขอบสระ (ฝั่งตื้น) แล้วนอนคว่ำ แต่ให้ส่วนใต้สะดือทั้งหมดอยู่ในน้ำ ปล่อยให้ชายหนุ่มที่อยู่ในสระน้ำรู้หน้าที่เข้ามาด้านหลังสาวๆ และในขณะที่บรรเลงเพลงรัก ฝ่ายชายควรช้อนขาอ่อนแฟนสาวให้ลอยพอดีกับลำตัวที่พาดอยู่กับขอบสระเพียงแค่ 3 ท่าเซ็กซ์ดับร้อนที่นำมาฝาก ก็น่าจะเพียงพอสำหรับหนุ่มสาวร้อนรักที่อยากระบายความเครียดไปกับสายน้ำไหลเย็นเป็นแน่!!

เปิดตัวอีกแล้ว CHEVROLET SPIN ยนตรกรรมอเนกประสงค์

เปิดตัวอีกแล้ว CHEVROLET SPIN ยนตรกรรมอเนกประสงค์
Chevrolet หวนคืนสู่ตลาด MPV ด้วยการเปิดตัว Spin MINI MPV รุ่นใหม่ล่าสุด หลังเคยบุกเบิกเซกเมนต์นี้เป็นบริษัทแรกในเมืองไทย เบาะ 7 ที่นั่ง รูปลักษณ์แบบร่วมสมัย ทำตลาดประเทศไทยด้วยรุ่น LTZ... Chevrolet เปิดผ้าคลุมรถ Spin ยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดให้สื่อมวลชนไทยได้สัมผัสก่อนหน้าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ Spin ซึ่งเป็นรถซับคอมแพคระดับโลกของ Chevrolet จะออกทำตลาดรถบีเซกเมนต์ในประเทศไทย ครบเครื่องเรื่องความอเนกประสงค์ในแบบรถ MPV7 ที่นั่งออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบาย รองรับการใช้งานหลากหลาย ประหยัดเชื้อเพลิง เน้นสมรรถนะการขับขี่และการควบคุมตามสไตล์ Chevrolet กว่า 10 ปีที่แล้ว Chevrolet เปิดตัวรถ MPV รุ่นแรกในเมืองไทย อย่าง Zafila นับเป็นการบุกเบิกเซกเมนต์ใหม่ให้อุตสาหกรรมยานยนต์ Zafila ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยได้รับรางวัล “รถ MPV ยอดเยี่ยมแห่งปี” ในประเทศไทยสามปีซ้อน ลูกค้าประทับใจใน Zafila อย่างมาก ในปัจจุบันยังคงเห็น Zafila โลดแล่นอยู่บนท้องถนนเมืองไทย ทั้งนี้ Spin รุ่นใหม่ไม่ได้เป็นตัวแทนของ Zafila แต่เดินตามรากฐานความเป็น MPV ที่สร้างสรรค์โดย Chevroletสำหรับรูปลักษณ์ภายนอก ระหว่างสองรุ่นย่อยจะแตกต่างกันเล็กน้อย รุ่น LTZ จะมาพร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติและราวหลังคาเชฟ โรเลต มีความเชื่อมั่นว่าเชฟโรเลต สปิน จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าอย่างมาก ทั้งในด้านราคาจำหน่ายและอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครันการพัฒนาChevrolet Spin ผ่านการทดสอบและประเมินผลสมรรถนะในหลายประเทศในสี่ทวีปทั่วโลก ทีมผู้พัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีส่วนร่วมในการพัฒนา Spin ตั้งแต่เริ่มต้น โดยได้ทดสอบสมรรถนะในด้านความเงียบ แรงสั่นสะเทือน ความกระด้าง ความสะดวกสบาย การขับขี่และการควบคุม รวมถึงสมรรถนะเครื่องยนต์บนท้องถนนทั่วทั้งภูมิภาคนี้ ทีมงานยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาให้ Spin สามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเบาะที่นั่งให้มีความยืดหยุ่น การจัดวางตำแหน่งผู้ขับขี่ (สำหรับเวอร์ชั่นพวงมาลัยซ้ายและพวงมาลัยขวา) ความสะดวกสบายของผู้โดยสาร และการคำนึงถึงเรื่องใช้เชื้อเพลิงสำหรับเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวา ระบบขับเคลื่อนและระบบปรับอากาศของผู้โดยสารตอนหลังได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากลูกค้าทั่วโลก รวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเพิ่มความเข้าใจในความต้องการใช้รถของแต่ละภูมิภาค สิ่งเหล่านี้ทำให้ทีมผู้พัฒนาได้รับข้อมูลอันมีความสำคัญยิ่ง รวมถึงการรับรู้ของลูกค้าและเงื่อนไขเฉพาะของแต่ละประเทศ ก่อนที่จะใส่ไว้ใน Spin ที่ผลิตออกจำหน่ายจริง Spin เป็นรถที่มีความสำคัญที่สุดรุ่นหนึ่งของ Chevrolet ด้วยคุณสมบัติที่รองรับการใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ความยืดหยุ่น ความคล่องตัว ความกว้างขวาง และประหยัด เหมาะสมกับการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง รวมถึงการเดินทางไกล กลุ่มลูกค้าที่ Chevrolet Spin เล็งไวคือผู้เริ่มสร้างครอบครัวและคนรุ่นใหม่ในเมืองไทยที่ต้องการรถ 7 ที่นั่งที่ไม่ใหญ่โตเกินไป Chevrolet เชื่อมั่นว่า Spin จะสามารถตอบสนองผู้ที่มีความต้องการรถยนต์ในเซกเมนต์ MINI MPV ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Spin 1.5 ลิตร LTZ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมเปิดให้ลูกค้าจับจองภายในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ อีกด้วยการออกแบบเส้นสายของ Spin วางกระจังหน้า Dual por เอกลักษณ์เฉพาะของ Chevrolet ให้ภาพลักษณ์ความร่วมสมัย และเน้นย้ำว่ารถ MPV ขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องมีรูปลักษณ์แบบดั้งเดิมเสมอไป ทีมนักออกแบบของ General Motors บราซิล เป็นผู้นำในการดีไซน์ Spin ซึ่งเอาใจใส่ในการออกแบบภายนอกเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ Spin ดูเหมือนเป็นรถ MPV ธรรมดาอีกคันหนึ่งในตลาด เส้น สายที่บึกบึนและชัดเจนทำให้รูปลักษณ์ของ Spin มีความโดดเด่นทันสมัย สัดส่วนตัวถังที่คมคายจากช่วงสันไหล่ด้านข้างตัวรถที่สูงทำให้ตัวรถดูใหญ่กว่าที่เป็น สะท้อนตัวตนความเป็นแบรนด์ Chevrolet ขนานแท้ห้องโดยสาร ห้องโดยสารของ Spin มีรายละเอียดด้านการพัฒนาพื้นที่ รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง พร้อมกับคงความยืดหยุ่นสูงในการใช้งาน การออกแบบภายในมีความอเนกประสงค์ ทันสมัย ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกที่นั่งยังสัมผัสได้ถึงความกว้างเมื่อนั่งอยู่ใน Spin เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว พื้นที่ในห้องโดยสารของ Spin ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงการย้ายเบรกมือเพื่อเปิดพื้นที่สำหรับช่องวางแก้ว ถึงแม้จะมีเนื้อที่อันกว้างขวางแต่ยังคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ โดยเฉพาะการ ใช้งานสวิตช์ต่างๆ ยังคงวางตำแหน่งอยู่ในพื้นที่ที่ให้ความสะดวกในการใช้งาน เบาะที่นั่งที่สามารถพับได้ 23 รูปแบบแชสซีSpin มีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,620 มม. มิติตัวถังยาว 4,360 มม. กว้าง 1,953 มม.และสูง 1,683 มม. รุ่น LTZ มีน้ำหนัก 1,277 กก. มีความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร ระยะห่างฐานล้อระหว่างคู่หน้าและคู่หลัง 1,503 มม.และ 1,509 มม.ตามลำดับ ซึ่งช่วยยกระดับสมรรถนะการขับขี่และเสถียรภาพการทรงตัว ยางขนาด 195/65R15 ส่วนสูงจากพื้นถึงตัวรถ 191 มม. ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคานแข็งกึ่งอิสระคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ช่วงล่างได้รับการปรับแต่งเพื่อให้มีสมรรถนะการขับขี่และการควบคุมที่ดี ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าผ่อนแรงแร็กแอนด์พีเนียนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบเบรกหน้าเป็นแบบจานดิสก์พร้อมระบบระบายความร้อน ส่วนเบรกหลังเป็นแบบดรัมเบรก ขุมพลังขับเคลื่อนและระบบส่งกำลังSpin จะออกจำหน่ายในตลาดประเทศไทยด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ DOHC (Double Overhead Camshafts) 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual-VVT (Dual Variable Valve Timing) หัวฉีดเชื้อเพลิงมัลติพอยท์ (Multi-Point Fuel Injection) ให้พละกำลังสูงสุดที่ 107 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที Spin ใช้ระบบส่งกำลังมาตรฐาน เป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Driver Shift Control ให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดาซึ่งเป็นรุ่นแรกของรถระดับนี้ อัตราทดเกียร์ถูกปรับตั้งให้สอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อสมรรถนะ และความประหยัดน้ำมันรุ่นและอุปกรณ์ Spin จะออกจำหน่ายในตลาดประเทศไทยในรุ่น LTZ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานอย่างระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน (หน้า/หลัง) เครื่องเสียง CD/MP-3 ลำโพงสี่ตัว พร้อมระบบเชื่อมต่อ USB และบลูทูธช่องเสียบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยไฟหน้าส่องสว่าง Follow-Me-Home และระบบกันขโมย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติและราวหลังคา รุ่น LTZ มีระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติและราวหลังคา Spin มีเป้าหมายเจาะกลุ่มคนไทยร่วมสมัย เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถที่มีความสะดวกสบายกว้างขวาง มีขนาดพอเหมาะและมีราคาไม่สูงเกินไป ขณะเดียวกันยังสอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ในเมืองที่ต้องการรถสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อนฝูงหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ Spin มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่แบ่งออกเป็นสองรุ่นย่อย หากพิจารณาถึงราคาจำหน่ายและค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถของคนที่กำลังสร้างครอบครัวและคนรุ่นใหม่ที่อาศัยในเมืองใหญ่ของประเทศไทย การเผยโฉม Spin ในครั้งนี้จัดขึ้นที่ร้านโฟลว์ เฮาส์ (Flow House) ใจกลางกรุงเทพฯ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนและแขกที่มาร่วมงานได้รับชมข้อมูลว่า ทำไม Spin จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างครอบครัว ซึ่งต้องการรถที่รองรับสัมภาระได้ เนื้อที่กว้างขวางและมีการขับขี่ที่ดี ถึงแม้จะมีขนาดที่ไม่ใหญ่โตก็ตาม Spin ขึ้นสายการผลิตในศูนย์การผลิตแห่งใหม่ของ GM อินโดนีเซีย ในเมืองเบกาซี โดยนอกจากทำตลาดในประเทศไทยและอินโดนีเซียแล้ว Spin ยังถูกส่งออกไปจำหน่ายในฟิลิปปินส์อีกด้วย มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Spin จะเติมความสมบูรณ์แบบให้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Chevrolet ในประเทศไทย เติมเต็มช่องว่างระหว่างรถซีดานและรถอเนกประสงค์ SUV หรือรถกระบะได้อย่างดี Spin เป็นรถที่เหมาะสมสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นครอบครัวและคนรุ่นใหม่ที่ต้องการแบ่งปันกิจกรรมในวันพักผ่อนกับเพื่อนฝูง ทีมพัฒนาของ Chevrolet ซึ่งประกอบด้วยวิศวกรทั่วทั้งภูมิภาคนี้ ได้สร้างสรรค์รถซับคอมแพคเอ็มพีวีสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ดังกล่าว โดยเฉพาะรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ด้วยเนื้อที่กว้างขวางสามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์และยืดหยุ่น รถ Spin ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มของ Chevrolet ในระดับโลก โดยได้รับข้อมูลอันเป็นประโยชน์จากทีมวิศวกรของ Chevrolet ทั่วทั้งภูมิภาคนี้ ซึ่งนำมาต่อยอดสู่การพัฒนาตั้งแต่เริ่มโครงการไปจนถึงขั้นตอนการออกแบบและการผลิต การเป็นเจ้าของและได้ขับขี่รถซับคอมแพคเอ็มพีวีไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อเสมอไป Chevrolet ต้องการสร้างรถ MPV ที่มีความสนุกทั้งในการครอบครองและขับขี่ MPV ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ Spin จึงเป็นรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี Chevrolet ทุ่มเทใส่ใจอย่างมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบภายนอกและภายในห้องโดยสาร การเลือกเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน การปรับปรุงสมรรถนะการขับขี่และการควบคุม ความสะดวกสบายและความประณีตในการตกแต่ง.Chevrolet Spin LTZ ราคา 726,000 บาทอาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

‘บ้านสวนสวย รีสอร์ท’พักสมองดื่มด่ำธรรมชาติ ครบทุกความสบาย ใกล้กรุงเทพฯแค่เอื้อม

‘บ้านสวนสวย รีสอร์ท’พักสมองดื่มด่ำธรรมชาติ ครบทุกความสบาย ใกล้กรุงเทพฯแค่เอื้อม
ไอเย็นตลอดทั้งปี สปาท่ามกลางแมกไม้ สระว่ายน้ำเงียบสงบ บ้านพักเป็นส่วนตัว ใกล้กรุงเทพฯ แค่นิดเดียว สถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์ขนาดนี้ ไม่ไป ‘บ้านสวนสวย รีสอร์ท’ สระบุรี คงเสียดายแย่!!!คำขวัญจังหวัดสระบุรี“พระพุทธบาทสูงค่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ฐานผลิตอุตสาหกรรม เกษตรนำล้ำแหล่งเที่ยว หนึ่งเดียวกะหรี่ปั๊บนมดี ประเพณีตักบาตรดอกไม้งาม เหลืองอร่ามทุ่งทานตะวัน ลือลั่นเมืองชุมทาง” คำขวัญนี้บ่งบอกสถานที่ท่องเที่ยวที่จังหวัดสระบุรีภูมิใจนำเสนอ แต่กว่าจะเที่ยวได้ครบคงต้องใช้เวลาหลายวัน ดังนั้นที่พักก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ บ้านสวนสวยรีสอร์ท บ้านพักที่สามารถตอบโจทย์การพักผ่อนครบทุกความต้องการของนักท่องเที่ยวบรรยากาศที่เมืองหลวงไม่มีเดินทางมาพักผ่อนสมองทั้งที บ้านสวนสวยรีสอร์ทย่อมไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะที่นี่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม ทั้งต้นไม้ดอกไม้ประดับประดาสวยงามทุกย่างก้าวของสถานที่ และสิ่งพิเศษที่มัดใจนักท่องเที่ยวได้อยู่หมัดคือ อากาศเย็นฉ่ำตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศให้เปลืองไฟบ้านพักสะดวกสบายเพื่อให้ผู้เข้าพักทุกคนได้รับความเป็นส่วนตัว ทางรีสอร์ทจัดบ้านพักให้เป็นหลังขนาดกะทัดรัด มีหน้าต่างขนาดใหญ่ให้ชมวิว เตียงนอนนุ่มและกว้างขวาง นอกจากนี้ห้องน้ำยังให้อารมณ์เสมือนอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติ  แต่ไม่ต้องกลัวว่าทางรีสอร์ทจะเน้นธรรมชาติเกินไปจนไม่มีอำนวยความสะดวกให้ เพราะภายในห้องพักทุกห้องมีทั้งโทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่นและ wifi บริการ แต่หากใครที่ชอบการผจญภัย นอนกลางดินกินบรรยากาศ ทางบ้านสวนสวยก็มีบริการพื้นที่ตั้งเต็นท์เอาใจขาลุยเช่นกัน กิจกรรมเด็กปลื้มผู้ใหญ่ก็ชอบผ่อนคลายรื่นรมย์กับนวดสปาท่ามกลางแมกไม้ และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แสนสงบ สวนสวยรีสอร์ทยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจในบริเวณใกล้เคียงที่พัก เช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ , น้ำตกมวกเหล็ก , น้ำตกเจ็ดสาวน้อย , กิจกรรมการชมและรีดนมวัว , ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค , เส้นทางชมทุ่งดอกทานตะวัน , เนินพิศวง , การท่องเที่ยวแบบผจญภัย , ขับรถ ATV , ล่องแก่ง และอื่นๆ อีกมาก ติดตามรูปภาพกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.suansuay.com‘บ้านสวนสวยรีสอร์ท’ ไปง่าย ใกล้นิดเดียวบ้านสวนสวยรีสอร์ท จังหวัดสระบุรี ตั้งอยู่ในอำเภอมวกเหล็ก โดยห่างจากตัวอำเภอมวกเหล็กประมาณ 7 กิโลเมตรเท่านั้น หรือถ้าขับจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง คุณก็จะพบกับบรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางหุบเขา ซึ่งการพักผ่อนเช่นนี้เหมาะสำหรับคู่รักที่อยากฮันนีมูนหวานไร้ก้างขวางคอ หรือพักผ่อนพร้อมหน้าครบครอบครัวก็เหมาะสม แต่หากใครต้องการเข้าพักเป็นกลุ่ม จัดสัมมนา ทางรีสอร์ทก็พร้อมเปิดให้บริการทุกรูปแบบการหาเวลาไปพักผ่อนสำหรับคนเมืองอาจหายากหนักหนา แต่หากมีเวลาเพียงไม่กี่วัน จังหวัดสระบุรีอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม และบ้านสวนสวยรีสอร์ทก็เป็นบ้านพักที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของคนชอบธรรมชาติแต่ยังรักความสะดวกสบาย. 

Tuesday, March 12, 2013

แฟชั่นอาหาร เทรนด์เมนูยอดฮิตมาแรงในปี 2013

แฟชั่นอาหาร เทรนด์เมนูยอดฮิตมาแรงในปี 2013
เทรนด์อาหารเหมือนแฟชั่น ต่างกันที่เชฟเป็นคนกำหนดขึ้น โดยเทรนด์อาหารสำคัญๆ มักเริ่มขึ้นในเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะปารีส มิลาน ลอนดอน แล้วก็นิวยอร์ก เพราะถือเป็นจุดศูนย์รวมของโลกทำให้มีวัฒนธรรมหลายหลากผสมผสานกันอยู่ หรือที่เรียกว่าคอสโมโพลิแทน นิสัยของผู้คนในเมืองเหล่านี้จึงมีแฟชั่นในตัวสูง คล้อยตามกระแสต่างๆ ตลอดเวลา มีประสบการณ์ชีวิตมาจากการเดินทางและกล้าที่จะลิ้มลองอะไรใหม่ๆ ถ้าเชฟคนไหนทำอะไรน่าสนใจก็แจ้งเกิดได้ไม่ยาก ตรงกันข้าม ถ้ามีฝีมือแต่ไม่ได้อยู่ในซิตี้เซ็นเตอร์ โอกาสจะเป็นผู้สร้างกระแสหรือได้รับความนิยมก็ยาก แต่ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ละคนอยากแต่งตัวดีๆ ออกไปกินข้าวให้คนได้เห็นได้ชื่นชม ร้านอาหารดีๆ จึงเริ่มขยายไปตามซิตี้เซ็นเตอร์ทั่วโลกมากขึ้น แม้แต่บ้านเราก็มีเช่นกันเทรนด์อาหารโลก 2013 น่าจับตากระแสแรกก็คือ ทาปาส หรือ Small Plate ในภาษาอังกฤษ เทรนด์นี้เกิดขึ้นจากอิทธิพลของสภาพเศรษฐกิจและนิสัยของผู้บริโภคที่ต้องการชิมอาหารหลายๆ อย่าง แต่ไม่ต้องมาก ราคาประหยัดแชร์กับเพื่อนร่วมโต๊ะได้ โดยทาปาสต้นตำรับอาจมีลักษณะเป็นอาหารเสียบไม้ต่างๆ เรียกว่าพินโช่ เขาจะหยิบกินเป็นไม้นับราคาเป็นไม้ คล้ายประเทศไทยกินก๋วยเตี๋ยวแล้วนับเป็นถ้วย นอกจากนี้ยังมีของทอดและกริลล์ เช่น มันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นๆ ทอดแล้วโรยปาปริก้า ราดมายองเนส เป็นต้น หรือนำวัตถุดิบประจำฤดูมาปรุงแบบพลันช่า (Plancha) คล้ายๆ กับเทปันยากิ ทาปาสเป็นอะไรที่เรียบๆ ง่ายๆ เน้น ย่างและทอด แต่ที่สำคัญวัตถุดิบต้องคุณภาพดี ปัจจุบันทาปาสและไวน์บาร์เริ่มเปิดมากขึ้นในหลายประเทศรวมถึงกรุงเทพฯด้วย โดยส่วนตัวถ้าจะเปิดทาปาสในเมืองไทยแต่คงจะดีหากนำเข้าพวกหอยต่างๆ เพราะเชลล์ฟิช (Shellfish) ของสเปนดีที่สุด กินแล้วสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำทะเลชัดเจนเอาพลันช่ากับน้ำมันมะกอกและไวน์ก็อร่อยแล้ว หรือของซีซันนอลอย่างอาร์ติโช้กก็แค่ปอกเปลือกแล้วทอดต่อมาคือ เบอร์เกอร์ คนอเมริกันวางกลยุทธ์ทางการตลาด เปลี่ยนคำนิยามอาหารนี้จากจังก์ฟู้ด (Junk Food) มาเป็นคอมฟอร์ทฟู้ด(Comfort Food) คือ กินง่าย สะดวก ทุกๆ คน ทุกเพศ ทุกวัยกินได้หมด แต่ส่วนผสมทุกอย่างเหมือนเดิม เป็นเบอร์เกอร์แบบเดิมที่เรารู้จักกันนั่นแหละ ซึ่งตอนนี้ในเมืองไทยก็เริ่มมีร้านเบอร์เกอร์เปิดขึ้นบ้างแล้ว Nose to Tail Eating Concept แปลง่ายๆ ก็คือ กินตั้งแต่หัวจรดหางปัจจุบันกลายเป็นเทรนด์อาหารที่คนในโลกอาหารอยากผลักดันเพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องวิกฤตการณ์ขาดแคลนอาหารในปัจจุบัน เทรนด์อาหารนี้ถูกกำหนดขึ้นโดยร้าน St. John Restaurant อยู่แถวๆ ไชน่าทาวน์ในอังกฤษโดยเชฟเฟอร์กูสัน สมัยก่อนเชฟมักจะนิยมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาปรุง ผู้บริโภคก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นวัวหนึ่งตัวจะนำมาทำสเต๊กก็ใช้เนื้อแค่ไม่กี่ส่วน เช่น สันในและสันนอก เพราะนุ่มอร่อยแต่ปัจจุบันมีเครื่องมือหลายๆ อย่าง ทำให้สามารถปรุงเนื้อได้นุ่มอร่อยขึ้นได้ เนื้อหลายๆ ส่วนก็ถูกนำมาปรุงมากขึ้น อาจจะไม่อยากเชื่อว่า อาหารไทย ได้รับการยกย่องให้เป็น เทรนด์อาหาร 1 ใน 3 ของโลก ถึงจะมีคนนิยมทานอาหารไทยมากขึ้น แต่บางคนรู้จักอาหารไทยน้อยนิดเดียว อย่างบางคนในสหรัฐอเมริกาเขารู้จักเราแค่ผัดไทย อย่างคนนิวยอร์กเขาบอกว่าเขากินอาหารมารอบโลกแล้ว เขามีประสบการณ์หลอกเขาไม่ได้ เหมือนตอนที่เราทำเมี่ยงคำให้แล้วเขาบอกว่าจ่ายเงินมากินอาหารไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ทำไมต้องทำเอง แล้วก็ตอนทำยำปลาดุกฟูเขาก็บอกว่าเคยกินที่ประเทศไทยไม่ใช่แบบนี้บอกว่าไม่เห็นมีปลาดุก มีแต่ขนมปัง ฟังแล้วงงทีเดียว เพราะขนมปังที่เขาบอกคือเนื้อปลาดุกฟูล้วนๆ แล้วบอกว่ากินแล้วแห้งติดคอเพราะดันไม่ยอมกินกับน้ำยำ  เหล่านี้คือเทรนด์อาหารที่น่าจับตามองในปี 2013 แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรตั้งสติให้มั่นก่อนเลือกตามเทรนด์ เพราะบางทีเทรนด์ก็ไม่ได้ทำให้เราไปสู่จุดหมายในด้านธุรกิจมันอาจจะเป็นเทรนด์ระยะสั้นหรือระยะยาวก็แล้วแต่ แต่ถ้าเรามีเอกลักษณ์ของเราเองอยู่แล้วก็จงรักษาเอาไว้ อย่าไปหยุดทำ ทำต่อไป เพราะอันนั้นคือลักษณะเด่นของเราควรรักษาเอาไว้บางที่อะไรต่างๆ ที่เราได้ยินเข้ามาหรือรับเข้ามา ก็ไม่จำเป็นว่าเราต้องทำตามหรือต้องตามเทรนด์ไปทุกอย่างยกตัวอย่างเช่น เสื้อผ้า พอเปลี่ยนฤดูเขาก็เปลี่ยนสีบ้าง เนื้อผ้าบ้าง มันก็วนๆอยู่แบบนี้ เพราะสุดท้ายจุดมุ่งหมายหลักก็คือการนุ่งห่มร่างกายให้เหมาะสมตามกาลเทศะ เช่นเดียวกับอาหารซึ่งท้ายที่สุดสิ่งที่ทุกคนต้องการก็คืออะไรที่เป็นเทรดดิชันนัล ออริจินัล ออเทนติก เป็นของแท้ เพราะนี่คือสิ่งที่เรายังทำและบริโภคกันอยู่จริงๆ บนโลกใบนี้  ภาพ/ข้อมูล : นิตยสาร Health & Cuisine

Roll Royce Wraith เผยโฉมแล้วที่เจนีวามอเตอร์โชว์

Roll Royce Wraith เผยโฉมแล้วที่เจนีวามอเตอร์โชว์
Roll Royce Motor Car เปิดผ้าคลุมรถ Roll Royce ที่เร็วที่สุดในโลก รุ่น Wraith ยนตรกรรมคูเป้ขนาดยักษ์ที่พกพาความหรูในระดับตำนาน พลังเครื่องยนต์ V12 624 แรงม้า 0-100 ใน 4.6 วินาที ใหญ่ยักษ์แต่รวดเร็วเหมือนซุปเปอร์คาร์...ดีไซน์ ส่วนท้ายที่สง่างามแสดงถึงความปราดเปรียวของยนตรกรรม Roll Royce ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยกำลังที่ความเร็วเครื่อง 624 แรงม้า /465 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที ด้วยอัตราเร่งที่ 0-96 กิโลเมตร / ชั่วโมง (0-60 ไมล์/ชั่วโมง) ภายใน 4.4 วินาที (อัตราเร่งที่ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือ 0-62 ไมล์/ชั่วโมง ภายใน 4.6 วินาทีการเปิดตัวครั้งแรกของฟังก์ชั่นการทำงาน Satellite Aided Transmission ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ข้อมูลแผนที่ GPS เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าจะมีการเลือกเข้าเกียร์ล่วงหน้าที่ถูกต้องเหมาะสม สำหรับสภาพถนนเบื้องหน้า ระบบเชื่อมต่อคำสั่งด้วยเสียงเพื่อความสะดวกผ่าน “on-boardvalet” การตกแต่งภายในด้วยงานไม้คานาเดล แพเนลลิง ที่ให้ความรู้สึกร่วมสมัยของสุดยอดห้องโดยสารคล้ายการตกแต่งภายในของเรือยอชต์สุดหรูบริษัท Roll Royce Motor Car (โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด) ภูมิใจเสนอการเปิดตัวรถยนต์ Roll Royce รุ่น Wraith ครั้งแรกของโลก ซึ่งเป็นรถยนต์ Roll Royce ที่ทรงพลังและปราดเปรียวที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท นอกจากรถยนต์รุ่นนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงคุณสมบัติหลักของยนตรกรรม Roll Royce ที่เน้นถึงความหรูหรา ประณีต และหัตถศิลป์อันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังคงนำเสนออัตลักษณ์ที่แสดงออกถึงความทรงพลังการออกแบบ และความเหนือชั้นที่แฝงไว้ด้วยความลึกลับ ด้วยการใช้โทนสีดำ “วันนี้ Roll Royce ได้เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมแบบแกรนด์ ทัวร์ริสโม ซึ่งเป็นยนตรกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก มร. ชาล์ส สจ๊วต โรลส์ มร.ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Roll Royce Motor Car กล่าว Wraith เป็นรถยนต์ Roll Royce ที่ทรงพลังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และให้ความรู้สึกของการผจญภัยและความเร็วซึ่งเป็นสิ่งที่บิดาผู้ก่อตั้ง ตราสินค้า (แบรนด์) ของ Roll Royce หลงใหลและชื่นชอบ อย่างไรก็ตาม Wraith ยังคงตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความหรูหรา ความประณีต และคุณภาพ ซึ่งเป็นลักษณะที่ลูกค้าของ Roll Royce ในปัจจุบันให้ความสำคัญไม่แพ้เมื่อหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา”มร.ฮาราล์ดครูเกอร์ คณะกรรมการ BMW Group และประธาน บริษัท Roll Royce กล่าวว่า “BMW Group ขอยืนยันคำมั่นสัญญาในการทุ่มเทต่อธุรกิจของ Roll Royce อีกครั้งสิ่งที่ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในอนาคตคือการลงทุนอย่างต่อเนื่อง การดูแลแบรนด์สินค้าอย่างพิถีพิถัน และการเปิดตัวรถยนต์รุ่นล่าสุดของ Wraith ซึ่งเป็นสุดยอดยนตรกรรมที่เพิ่มความพิเศษให้กับสายผลิตภัณฑ์ของ Roll Royceเมื่อมองด้านข้างจะเห็นดีไซน์ส่วนท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่น Wraith เส้นสายที่ชัดเจนและความโดดเด่นของแผงตกแต่ง และกระจกหลังที่โค้งลาดยาวสะท้อนภาพนักวิ่งระดับโลกที่พร้อมออกตัวจากลู่ วิ่งนอกจากนี้ความปราดเปรียวคล่องตัวยังแสดงออกผ่านกระจังหน้าที่มีช่องลึก ระยะห่างระหว่างล้อหลังและสีภายนอกแบบทู-โทนประตูรถยนต์ เผยให้เห็นสุดยอดการ ตกแต่งภายในที่หรูหรา ด้วยผืนหนังคุณภาพเดียวกับยนตรกรรมรุ่น Phantom และการตกแต่งงานไม้ โดยใช้ไม้คานาเดลแพเนลลิง (Canadel Panelling) ที่ถูกตั้งชื่อตามอ่าวชื่อดังทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ที่ซึ่งเซอร์เฮนรี รอยซ์ และทีมนักออกแบบและวิศวกรของเขา ไปใช้เวลาในช่วงฤดูหนาวการตกแต่งร่วมสมัยชวนสัมผัสนี้อยู่ทั่วห้องโดยสารสำหรับ 4 ท่าน ที่ให้ความรู้สึกสบายด้วยแสงสว่างและความรู้สึกอบอุ่นการตกแต่งภายในด้วยหลังคาแบบ Starlight Headliner ซึ่งเป็นการสั่งทำพิเศษจากบริการบีสโป็กที่ให้บริการกับรถยนต์รุ่นอื่นนอกเหนือจากตระกูลยนตรกรรม Phantom เป็นครั้งแรก ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ด้วยหลอดไฟไฟเบอร์ออปติกขนาดเล็ก จำนวน 1,340 ดวง ที่ถักทอด้วยมือลงบนผ้าบุหลังคามอบบรรยากาศแห่งค่ำคืนที่มีดวงดาราทอแสง ระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนมาพร้อมกับความมีสไตล์ของ Wraith ด้วยขุมพลังที่ขับเคลื่อนอย่างง่ายดายและเหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์ 12 วาล์ว ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มอบกำลังสูงสุด 624 แรงม้า/465 กิโลวัตต์ ให้แก่ผู้ขับขี่ ในขณะที่สามารถเร่งความเร็วที่ 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง (0-60 ไมล์/ชั่วโมง) ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาที เมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่น Ghost ที่มีกำลังสูงสุด 563 แรงม้า/420 กิโลวัตต์ และอัตราเร่งที่ 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง (0-60 ไมล์/ชั่วโมง) ภายใน 4.7 วินาทีรถยนต์รุ่น Wraith มอบแรงบิดสูงสุดที่ 1,500 รอบ/นาที 800 นิวตันเมตร (780 นิวตันเมตรสำหรับรถยนต์ Ghost) ด้วยระยะระหว่างล้อหลังที่กว้าง ฐานล้อที่แคบลงและความสูง หลังคาที่ลาดต่ำลง ทำให้เกิดสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ที่ผู้ขับขี่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของ Roll Royceระบบช่วงล่างของ Wraith ยังได้รับการปรับเปลี่ยนมาเพื่อลดขนาดวงเลี้ยว และเพิ่มการตอบสนองอย่างนุ่มนวลเมื่อเข้าโค้งพวงมาลัยหนักขึ้นเมื่ออยู่ในความเร็วสูง และเบาลงเมื่อความเร็วช้าลง เพื่อชวนให้น่าขับขี่ อย่างไรก็ตาม รถยนต์รุ่น Wraith ไม่ใช่รถยนต์แบบแกรนด์ทัวร์ที่มีรูปลักษณ์ขนาดใหญ่ แต่ได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียวคล่องตัว โดยให้ประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลประดุจลอยล่องไปในอากาศนอกจากนี้ การเปิดตัวครั้งแรกของฟังก์ชั่นการทำงาน Satellite Aided Transmission หรือ SAT เทคโนโลยีที่ช่วยให้รถยนต์ขับเคลื่อนอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นแบรนด์ Roll Royce ฟังก์ชั่นการทำงาน Satellite Aided Transmission ใช้ข้อมูล GPS เพื่อช่วยดูเส้นทางเบื้องหน้าที่ผู้ขับขี่ ไม่สามารถมองเห็นในระยะไกล และเตรียมความพร้อมในการขับขี่ในจังหวะต่อไป โดยวิเคราะห์จากตำแหน่งและรูป แบบการขับขี่ในขณะนั้น โดยระบบจะเลือกเข้าเกียร์ที่เหมาะสมสำหรับสภาพถนนเบื้องหน้า ไม่ว่าจะเป็นมุมแยกมอเตอร์เวย์ หรือวงเวียน Wraith พร้อมที่จะมอบประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนบนทุกสภาพถนนได้อย่างทันที ประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายที่ได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถัน รวมถึงการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น ล้วนนำมิติใหม่แห่งความคล่องตัวมาสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์อันเลื่องชื่อของ Roll Royceกว่าหนึ่งศตวรรษมาแล้วที่รถยนต์ของ Roll Royce นำเสนอเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสาร มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีใครเทียบ เท่าที่เน้นถึง “ความง่ายดาย” โดยรถยนต์ทุกคันของ Roll Royce ออกแบบเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถหันไปตอบโต้กับผู้โดยสารโดยไม่ต้องกังวล ต่อสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยของระบบเครื่องยนต์และระบบ ไฟฟ้าที่นำเสนอผ่านฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ เช่น การจอแสดงมาตรวัดบนกระจกหน้า ไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติ และการเปิดห้องเก็บสัมภาระท้ายรถแบบไม่ต้องใช้กุญแจ การพัฒนาระบบการสื่อสารเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่และระบบคอมพิวเตอร์อีกระดับที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเปรียบเสมือนกับ on-board valet สมัยใหม่ ตัวอย่างเช่น ฟังก์ชั่นการสั่งงานด้วยเสียงที่มาพร้อมกับปุ่มแบบ one-touch ที่ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัย ไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลปลายทางของการเดินทางจาก เมนูนำทางอีกต่อไป และการหาเส้นทาง (route assistance) จะเริ่มการทำงานบนหน้าจอในทันที ผ่านการสั่งการด้วยเสียงตามด้วยคำสั่งเสียง เช่น “นำทางไปยังย่านพิคาดิลี ในกรุงลอนดอน”นอกจากนี้ การพัฒนาเพิ่มเติมด้านการสื่อสารที่มาพร้อมกับการออกแบบอย่างงดงามและการใช้งานของ Spirit of Ecstasy Rotary Controller ซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถนำทางผ่านฟังก์ชั่นบนหน้าจอโดยใช้ทัชแพดที่มีการใช้งานย่อขยายด้วยนิ้วที่คล้ายคลึงกับการใช้งานของโทรศัพท์ประเภทสมาร์ทโฟน ผู้ใช้สามารถเขียนตัวอักษรต่างๆ ลงบนทัชแพดแทนการเลื่อนผ่านชุดตัวอักษรที่ปรากฏ บนหน้าจอในยุโรป ราคาของรถยนต์ Roll Royce รุ่น Wraith อยู่ที่ประมาณ 250,000 ยูโร สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาในตลาดอื่นๆ จะเปิดเผยในภายหลังของปีนี้ รถยนต์รุ่น Wraith ลอตแรก จะพร้อมส่งมอบถึงมือลูกค้าในไตรมาสสุดท้ายของปี พ.ศ.2556.VDOอาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thfacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

ยัสปาล โชว์ ที-เชิ้ต สุดแนวฝีมือ 11 ศิลปินฉลองสาขาใหม่@สยามเซ็นเตอร์...!

ยัสปาล โชว์ ที-เชิ้ต สุดแนวฝีมือ 11 ศิลปินฉลองสาขาใหม่@สยามเซ็นเตอร์...!
“ยัสปาล” โชว์ ที-เชิ้ต คอลเลกชั่นสุดแนวฝีมือ 11 ศิลปินกลุ่ม FOR โปรเจกต์พิเศษ ฉลองสาขาใหม่@สยามเซ็นเตอร์...“ยัสปาล” (JASPAL) แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยระดับอินเตอร์ ที่อยู่คู่กับหนุ่ม-สาวไทย มาถึง 40 ปี เอาใจแฟชั่นนิสต้าหัวใจศิลป์ จัดงาน “ฟอร์ ยัสปาล ลิมิเต็ด อิดิชั่น คอลลาบอเรชั่น ที-เชิ้ต” (FOR JASPAL LIMITED EDITION COLLABORATION T-SHIRT) เปิดตัวที-เชิ้ต คอลเลกชั่นพิเศษ “FOR | JASPAL COLLECTION” สำหรับหนุ่ม-สาว กว่า 30 ลาย ซึ่งออกแบบโดย 11 ศิลปินชื่อดังรุ่นใหม่ ที่กำลังมาแรงจากกลุ่ม “FOR” กลุ่มคนทำงานศิลปะหลากหลายแขนง ทั้งศิลปิน กราฟิก ดีไซเนอร์ นักวาดภาพประกอบ และกราฟิตี้ พร้อมเปิดตัวสัญลักษณ์สุดเก๋ของแคมเปญนี้ ตุ๊กตาหมี PAL ฉลองสาขาสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 สาขาใหม่ล่าสุด โดยงานจัดขึ้น ณ ลาน ATRIUM 2 ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์บรรยายกาศภายในงานคึกคักไปด้วยเหล่าเซเลบริตี้หัวใจศิลป์ อาทิ มูลี่-อัญชิสา วัชรพล, เอ็ม-ศิรประภา จีระพันธุ, แจน-พัทธมน เตชะณรงค์, เนม-ปรา การ ไรวา, ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล ฯลฯ และ ซุป’ตาร์สุดอาร์ต อาทิ พลอย หอวัง, ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงษ์, เจน-เจนสุดา ปานโต, เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ, เพชร-นาระ เอื้อทวีกุล มาร่วมอัพเดทคอลเลกชั่นใหม่จากยัสปาลผ่านแฟชั่นโชว์จากโมเดลระดับอินเตอร์ ที่พร้อมใจกันมาอวดโฉมที-เชิ้ตคอลเลกชั่นพิเศษ 30 ลาย ให้ชมก่อนใครบอสใหญ่ยัสปาล วิเศษ สิงห์สัจจเทศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยัสปาล จำกัด กล่าวถึงความพิเศษของคอลเลกชั่นนี้ว่า ยัสปาล ได้จับมือกับ 11 ศิลปินดัง จากกลุ่ม “FOR” กลุ่มคนทำงานศิลปะหลากหลายแขนง ทั้งศิลปิน กราฟิก ดีไซเนอร์ นักวาดภาพประกอบ และศิลปินกราฟิตี้ อาทิ พฤกษ์พล มุกดาสนิท, นริศรา เพียรวิมังสา, เมธี น้อยจินดา, ธีระวุฒิ พลารชุน, LOGAN BAY, ตวงพร รุ่งเรือง, P7, รักกิจ ควรหาเวช, ตะวัน วัตุยา, ธีรยุทธ พืชเพ็ญ, ยุรี  เกนสาคู ซึ่งล้วนแต่มีผลงานที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยการมารวมตัวกันในชื่อกลุ่ม FOR นำเสนอผลงานศิลปกรรมร่วมสมัย ที่ไม่จำกัดรูปแบบ ขนาด หรือสถานที่ อย่างที่พวกเขาเคยสร้างความประทับใจให้กับคนหัวใจศิลป์มาแล้ว ด้วยผลงานภาพเขียนบนผนังขนาดใหญ่สูงกว่า 3 เมตร และยาวกว่า  30 เมตร ที่หอศิลป์แห่งกรุงเทพมหานคร โดยครั้งนี้ “ยัสปาล” เปิดโอกาสให้ทั้ง 11 คน ได้มาร่วมโชว์ไอเดียสุดเจ๋งครีเอทลวดลายเก๋ๆ ตามสไตล์ถนัดของศิลปินแต่ละคน ลงบนที-เชิ้ต คอลเลกชั่นใหม่ “FOR | JASPAL COLLECTION” สำหรับหนุ่ม-สาว กว่า 30 ลาย โดยมี 11 ลายพิเศษ ที่ได้ดีไซน์ขึ้นโดยใช้โครงสร้างของตุ๊กตาหมี PAL สัญลักษณ์ประจำแคมเปญนี้ขณะที่กราฟิกดีไซเนอร์หนุ่มสุดแนว “พฤกษ์พล มุกดาสนิท” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “MAMAFAKA” (MMFK) หนึ่งในศิลปินกลุ่ม FOR ที่ได้ร่วมโปรเจกต์นี้ เล่าถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบว่า “ผมเลือกออกแบบ 2 ดีไซน์ ที่ไม่เกี่ยวเนื่องกันเลย เหมือนกับตัวผม ที่นอกจากจะเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ ยังเป็นอาร์ทิสต์อีกด้วย โดยดีไซน์แรกผมเลือกใช้คาแรกเตอร์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวผม คือ MR.HELLYEAH! ที่กำลังดีดกีต้าร์ เพื่อสื่อให้เห็นถึงการเฉลิมฉลองให้กับยัสปาล โดยนึกถึงขบวนคาร์นิวัล ที่มีขบวนพาเหรด ร้องรำทำเพลง และเล่นดนตรีอย่างสนุกสนาน ส่วนดีไซน์ที่สอง ผมนึกถึงยัสปาล ก็จะเห็นภาพของผู้หญิงสวย สง่า แต่ครั้งนี้อยากเปลี่ยนให้เกิดสไตล์ใหม่ๆ เลยทดลองใช้กราฟิกแบบไบเกอร์ (BIKER) หรือมิลิทารี่ (MILITARY) เพื่อเปลี่ยนให้สาวๆ ยัสปาล มีความทะมัดทะแมง ในลุคแบบทอมบอยดูบ้างส่วน “นริศรา เพียรวิมังสา” เจ้าของภาพวาดในภาพยนตร์เรื่อง กุมภาพันธ์ และเจ้าของผลงานภาพประกอบในนิตยสารชื่อดังหลายฉบับ ซึ่งร่วมออกแบบคอลเลกชั่นนี้ด้วย เล่าว่า ครั้งแรกที่ได้รับโจทย์ เราก็พยายามคิดว่า ถ้านึกถึงยัสปาลที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 40 ปี จะนึกถึงอะไร สุดท้ายเลยออกมาเป็นโบว์ เพราะคิดว่าเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แทนการเฉลิมฉลองความสำเร็จได้ดีที่สุด เพราะนอกจากโบว์จะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับกล่องของขวัญ เรามักจะเห็นโบว์เป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ประดับอยู่บนเสื้อผ้าเสมอ ส่วนอีกดีไซน์ เป็นภาพลายเส้นรูปหน้าคน 3 ลวดลาย ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแฟชั่นไอคอนยุค 70’S ซึ่งทั้ง 3 ลวดลาย ก็ยังมีโบว์เป็นส่วนประกอบด้วยเช่นกัน  ด้าน แจน-พัทธมน เตชะณรงค์ เซเลบริตี้คนสวยแห่งโบนันซ่า เล่าว่า “แจน เป็นคนชอบครีเอทเสื้อผ้าใหม่ๆ อยู่เสมอ บางทีก็หยิบจับเสื้อผ้าเก่าๆ ที่มีอยู่ในตู้อย่างเสื้อยืด มาตัดเย็บตกแต่งให้ดูใหม่ แจน ว่า เสื้อยืด เป็นอะไรที่คลาสสิกนะคะ เราสามารถเอามาปรับแบบให้ใหม่อยู่เสมอได้ ถือเป็นแฟชั่นที่ไม่มีวันเอ้าท์เลยขณะเดียวกัน มู่ลี่-อัญชิสา วัชรพล เล่าว่า มู่ลี่ ชอบแต่งตัวแบบเรียบๆ แต่ดูดีมีสไตล์ค่ะ และรักการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าเป็นที่สุด โดยเฉพาะเสื้อยืดที่ไม่ได้เป็นแค่เสื้อผ้าแคชชวล แต่สามารถมิกซ์กับกระโปรง หรือกางเกงผ้าหรูๆ หรือประดับมุข, คริสตัล สวยๆ ก็กลายเป็นลุคเก๋ๆ ให้เราใส่ไปงานต่างๆ ได้ แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับงานที่เราจะไปแค่นี้ก็โอเคแล้วปิดท้ายงานกับการเยี่ยมชม “แบรนด์ นิว คอนเซปต์ แฟล็กชิพสโตร์” (BRAND NEW CONCEPT FLAGSHIP STORE) เป็นครั้งแรก ที่บริเวณชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นที่แรกที่เน้นเรื่องการนำเอาเทคโนโลยีด้านดิจิตอลมีเดียมาผสมผสานกับการออกแบบร้าน พร้อมลูกเล่นการตกแต่งร้านที่ทั้งอลังการและตระการตากว่าร้านอื่นๆ อีกด้วยพบกับ ที-เชิ้ต คอลเลกชั่นพิเศษ “FOR | JASPAL COLLECTION” ได้แล้ววันนี้ ที่ร้าน “ยัสปาล ทุกสาขาในประเทศไทย พิเศษสุด!! พบกับ 2 ลายพิเศษของ “MMFK” และ “NARISS” ที่เป็น ABSOLUTE SIAM ได้เฉพาะที่ “แบรนด์ นิว คอนเซปต์ แฟล็กชิพสโตร์” BRAND NEW CONCEPT FLAGSHIP STORE ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ เท่านั้น ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.JASPAL.comWWW.JASPAL.COM

Monday, March 11, 2013

เก๋มีสไตล์! Hardcover the Art Book Shop

เก๋มีสไตล์! Hardcover the Art Book Shop
เทรนด์@โฮม ไทยรัฐออนไลน์สัปดาห์นี้ พาไปพบกับร้านหนังสือเก่ๆ ที่หอศิลปฯ...Hardcover ร้านหนังสือที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนชอบหนังสือศิลปะ ที่นี่ออกแบบและตกแต่งโดย คุณเชน สุวิกะปกรณ์กุล เจ้าของร้าน เน้นบรรยากาศเรียบง่ายโทนสีเทาเข้มเกือบดำ และใช้ไลท์ติ้งที่เหมาะสม ช่วยขับให้หนังสือที่มีรูปเล่มและหน้าปกสวยงามดูโดดเด่นขึ้นราวกับเป็นการจัดวางภาพถ่ายไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน เพราะไม่ได้จัดวางหนังสือแบบแบ่งแยกหมวดหมู่ แต่วางตามความน่าสนใจให้เกี่ยวเนื่องกัน เช่น วางหนังสือที่เกี่ยวกับการออกแบบสถาปัตยกรรมให้อยู่ใกล้กับหนังสือการถ่ายภาพสถาปัตยกรรม ช่วยให้หนังสือทั้งสองเล่มดูน่าสนใจและน่าหยิบขึ้นอ่าน อีกทั้งร้านยังมีบรรยากาศที่เป็นกันเอง จึงจูงใจให้เราอยากซื้อหนังสือเล่มนั้น ๆ กลับไปอ่านต่อที่บ้านได้ไม่ยากภาพวาดลายเส้นบนผนัง ดูเผิน ๆ เหมือนเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับศัพท์แสงและกายวิภาค (Anatomy) ของหนังสือ แต่อีกแง่คือการบอกถึงความละเอียดอ่อนและความผูกพันที่คุณเชนมีต่อหนังสือ เรียกได้ว่าการออกแบบร้านแห่งนี้ล้วนมาจากประสบการณ์ที่ผูกพันกับธุรกิจหนังสือมายาวนานนั่นเองสำหรับคนรักศิลปะ เมื่อมาชมงานที่หอศิลปฯ แล้ว อย่าลืมแวะมาช็อปหนังสือศิลปะสวย ๆ นำไปประดับบ้านและประดับความรู้กันได้เนื้อหาจาก นิตยสาร Room    :    on air new places เรื่อง    :    Nutt  ภาพ    :    ดำรง ลี้ไวโรจน์*รู้ไว้ใช่ว่า*สถานที่ Hardcover the Art Book Shop ชั้น 3 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น. (ยกเว้นวันจันทร์) โทร. 0-2214-3155

IWC THE NEW COLLECTION 2013 นาฬิกาหรูคู่รถ BENZ

IWC THE NEW COLLECTION 2013 นาฬิกาหรูคู่รถ BENZ
Mercedes Benz ร่วมถ่ายทอดความโดดเด่นของนวัตกรรมจักรกลเวลาแบรนด์ IWC ใน The New Ingenieur Collection 2013 พร้อมจัดแสดงยนตรกรรมตราดาวสวมชุดแต่ง AMG...บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,ltd. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดความโดดเด่นทางงานวิศวกรรมของนวัตกรรมกลไก แห่งการเทียบเคียงเวลา ยี่ห้อ IWC ในคอลเลกชั่น The New Ingenieur Collection 2013 จักรกลเวลาจากเยอรมันที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจของมนต์เสน่ห์และความน่าหลงใหลในศิลปะแห่งความเร็วของรถ F1 จากทีม Mercedes AMG PETRONAS Formula 1 เพื่อสร้างสุดยอดนาฬิกาที่เชื่อมโยงโลกแห่งความเร็วสำหรับสุภาพบุรุษ และร่วมจัดแสดงรถยนต์ Mercedes Benz พร้อมชุดแต่งเสริมความเข้มของ AMGมาร์ ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,ltd. แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ในนามของบริษัท Mercedes Benz Thailand Co,ltd. ขอขอบคุณแบรนด์นาฬิกา IWC ของเยอรมนี ที่ได้ให้เกียรติบริษัทฯ เข้าร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรของการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่นล่าสุดประจำปี 2013 หรือ IWC The New Ingenieur Collection 2013 ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนี้ ทาง Mercedes Benz Thailand Co,ltd. ได้นำรถมาร่วมจัดแสดง เพื่อถ่ายทอดความเชื่อมโยงระหว่างรถยนต์สมรรถนะสูงกับนาฬิกาที่มีกลไกเที่ยงตรงและแม่นยำมากที่สุดอีกยี่ห้อหนึ่ง นาฬิกา IWC The New Ingenieur Collection 2013 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการสร้างสรรค์วัสดุที่ใช้สำหรับรถแข่ง Formula 1 ของทีม Mercedes AMG PETRONAS เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ เซรามิก ไทเทเนียม นับเป็นมิติใหม่ของการออกแบบและเลือกใช้วัสดุตกแต่งตัวเรือนของเครื่องบอกเวลาในตระกูล Ingenieurภายในงานซึ่งจัดขึ้นที่โชว์รูม Mercedes Benz สาขาพระราม 4 ยังมียนตรกรรมของแบรนด์ตราดาวที่ร่วมจัดแสดง เช่น M-Class / CLS / CLS Shooting Brake โดยรถยนต์ทั้งสามรุ่นนี้ ได้รับการตกแต่งด้วยชุดแต่งของ AMG สำหรับรถยนต์ Mercedes Benz M-Class AMG เป็นยนตรกรรม SUV ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งได้รับการออกแบบรูปลักษณ์ให้ดูแข็งแกร่งบึกบึนตามสไตล์ ของรถลุยจากเยอรมนี สำหรับ Mercedes Benz CLS ในเจเนอเรชั่นที่สองนี้ เป็นรถยนต์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตูที่มีรูปทรงปราดเปรียวงดงาม ภายในและภายนอกได้รับการออกแบบใหม่หมด พร้อมชุดแต่ง AMG เช่น สปอยเลอร์หน้า-หลัง ล้ออัลลอย ท่อระบายไอเสีย กาบบันได เบาะนั่ง พวงมาลัย และชิ้นงานบางชิ้นที่ใช้ตกแต่งห้องโดยสาร ส่วน CLS Shooting Brake นั้น แหวกแนวด้วยตัวถังสไตล์สเตชั่นแวนกอน 5 ประตูอเนกประสงค์ ที่ลงชุดแต่ง AMG เสริมประสิทธิภาพและความน่าใช้งานIWC Schaffhausen และ Mercedes Benz AMG PETRONAS Formula 1 TEAM มีความมุ่งมั่นที่จะรังสรรค์นวัตกรรมที่เที่ยงตรงแม่นยำมากที่สุด ภายใต้แนวคิด การสร้างสรรค์เพื่อสุภาพบุรุษ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและงานฝีมือขั้นสูงเป็นพื้นฐาน พร้อมขับเคลื่อนจินตนาการด้วยจิตวิญญาณ ที่ต้องการจะเป็นผู้บุกเบิกและผู้ค้นพบ นวัตกรรมใหม่ที่จะสร้างความสำเร็จทางเทคโนโลยี ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละในการคิดค้นและพัฒนางานวิศวกรรม ทั้งรถยนต์และเครื่องมือบอกเวลาที่มีความสมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด.VDOอาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

รับหน้าร้อนกับ ข้าวแช่แม่เล็ก ท่ายาง

รับหน้าร้อนกับ ข้าวแช่แม่เล็ก ท่ายาง
เมื่อคืนนี้เกือบไปแล้วครับพี่น้อง ระหว่างอยู่ที่นาริตะ โตเกียว พายุฝุ่นจากประเทศจีนปกคลุมญี่ปุ่น เดินไปไหนมาไหนมีแต่ฝุ่นเม็ดละเอียดเข้าตา แสบมาก คนญี่ปุ่นบอกว่า เหตุการณ์แบบนี้นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง โลกเหมือนจะประท้วงผู้คนที่ดีแต่จะทำลาย ใช้โลกอย่างสิ้นเปลือง มาวันนี้เขาเริ่มเตือน และจะเอาจริงกับพวกเราแล้ว...ครั้งนี้จะยังไม่แนะนำร้านที่ญี่ปุ่น แต่อยากจะแนะนำร้านข้าวแช่ ที่เป็นอาหารต้อนรับฤดูร้อนที่จะมาเยือน จากอาทิตย์ก่อนที่ไปกินผัดไทยท่ายาง เดินมาอีกนิดร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ แต่ช่วงนี้เขากำลังปิดปรับปรุง เลยย้ายร้านมาตั้งเป็นรถเข็นตรงข้ามร้าน หลังตลาดเทศบาลเมืองท่ายาง ร้านนี้ถามใครก็รู้จักว่า ข้าวแช่แม่เล็ก ทำมานานครับ ตั้งแต่ป้าแกสาวๆ จนวันนี้มีขายในกรุงหลายที่ ถ้ายังไงโทรถามป้าแกได้เลยผมว่าทีเด็ดของร้านนี้อยู่ที่กะปิกรอบและปลายี่สกหวาน ที่จะหากินได้ยากมากขึ้นทุกวัน ส่วนเครื่องอื่นของที่ร้านจะเป็นหมูฝอยและไชโป๊หวานก็เข้าที ไม่หวานมากเกินไป พอดีๆ ส่วนตัวข้าวขัดมาได้ที่มากครับ ส่วนน้ำหอมก็อบมาได้ใจมากๆ กินแล้วชื่นใจ เท่ากับว่ามาหัวหินชะอำ ต้องแวะร้านนี้ ถึงจะเรียกว่ามาถึงที่ครับผมร้านอยู่ที่ 52 หมู่ที่/หมู่บ้าน 1 ตำบล คลองกระแชง อำเภอ เมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี โทรศัพท์ 032-424324Rating : ที่สุดในแผ่นดินLatitude : 13.6442411Longitude :99.9352173เรื่องและภาพโดยธนา ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส)www.facebook.com/baypalace

Friday, March 8, 2013

ท่องเที่ยวใช้ Bric’s Milano หรูหราเทียบชั้นเซเลบฯระดับโลก

ท่องเที่ยวใช้ Bric’s Milano หรูหราเทียบชั้นเซเลบฯระดับโลก
ถ้าอยากเก๋ เท่ ชิค แบบ Pippa Middleton สาวฮอตที่ใช้ก็จับตามอง เวลาออกเดินทางท่องโลก ขอให้ใช้ Bric’s Milano รุ่น “Life” กระเป๋าเดินทางหรูหราระดับเวิลด์คลาส ตามแบบฉบับเซเลบริตี้ระดับโลกหรูหราระดับเวิลด์คลาส ตามแบบฉบับ Pippa Middleton ! กับ Bric’s Milano รุ่น “Life” กระเป๋าเดินทางแบรนด์ดังสัญชาติอิตาลี พร้อมให้คุณสนุกทุกการเดินทางในระดับพรีเมียมก่อนใคร ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ยาวนานถึง 60 ปีBric’s Milano รุ่น “Life” ได้รังสรรค์ความประณีตบรรจงลงบนกระเป๋าเดินทางสุดหรู ด้วยวัสดุออกแบบพิเศษแห่งเดียวและแห่งแรกของโลก โดยผลิตจาก PVC ผสมเส้นใยสังเคราะห์เนื้อละเอียด ซึ่งที่มีคุณสมบัติเฉกเช่นหนังแท้ แต่มีความทนทานกว่า แม้ถูกบีบกดแรงๆ ก็ไม่ทำให้กระเป๋าเสียทรง อีกทั้งยังให้คุณทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วเช็ด ก็สามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกได้ทุกประเภท หรือแม้กระทั่งรอยปากกาได้อย่างหมดจด มาพร้อมกับดีไซน์สุดเทรนดี้ที่ให้คุณถือและลากได้ในใบเดียว มีให้คุณเลือกเดินทางในแบบสี Olive ราคาเพียง 29,500 บาทร่วมสัมผัสกระเป๋าเดินทางระดับเวิลด์คลาส กับ Bric’s Milano รุ่น “Life” ได้แล้ววันนี้ 

น่ารักสดใส สไตล์คุณหนูไฮโซ

น่ารักสดใส สไตล์คุณหนูไฮโซ
เด็กๆก็มีหัวใจนะคะ!! เติมความสดใสน่ารักให้คุณหนูไฮโซทั้งชายและหญิง ครบครันแบบแคชชวลไปจนถึงโอต์กูตูร์ กับแฟชั่นสีสันสดใสจากคอลเลกชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2013 สร้างสรรค์โดย 3 แบรนด์เนมชั้นนำระดับโลก นำขบวนโดย  GUCCI หยิบบรรยากาศสนุกสนานของวันปิดเทอม การพักผ่อนปาร์ตี้ริมทะเล และสวนสนุกที่เต็มไปด้วยลูกโป่งหลากสีสัน  มาดีไซน์เป็นคอลเลกชั่นเสื้อผ้าสุดน่ารักสำหรับเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง  เล่นกับหลากหลายโทนของสีฟ้า สัญลักษณ์ของฤดูร้อน ตั้งแต่สีน้ำเงินเข้ม ไปจนถึงสีฟ้าน้ำทะเล และสีขาว แต่งแต้มสีสันให้ยิ่งสดใสด้วยสีเหลืองของกล้วยหอม, สีเขียวของต้นหญ้า, สีแดงของดอกป๊อปปี้, สีแดงแตงโม และลวดลายพิมพ์ดอกไม้ในโทนสีชมพูพาสเทลสุดอ่อนหวาน ด้าน Baby Dior ต้อนรับซัมเมอร์อย่างโรแมนติก นำแรงบันดาลใจจากเทพนิยายเจ้าชายและเจ้าหญิงตัวน้อยๆ กับคฤหาสน์หลังงาม  มาสร้างสรรค์คอลเลกชั่นล่าสุด คุณหนูดิออร์ทั้งชายและหญิงล้วนแต่โก้หรูงามสง่า และเต็มไปด้วยความสุนทรีย์ในการใช้ชีวิต ภายใต้โครงเสื้อสุดเนี้ยบและการตัดเย็บพิถีพิถัน  ความสุขและความไร้เดียงสาของเด็กน้อยถูกถ่ายทอดให้เห็นผ่านโทนสีสดและอ่อนหวาน ถือเป็นการเดินทางกลับไปยังวัยเด็ก หวนรำลึกถึงวันวานยังหวานอยู่ในความทรงจำของ “มิสเตอร์ดิออร์” เมื่อครั้งไปเยือนเมืองกร็องวิลล์อันเป็นที่รัก ขณะที่ ARMANI JUNIOR นำเสนอคอลเลกชั่นฤดูร้อน 2013 ในแนวสปอร์ตสดใสน่ารักสมกับเป็นฤดูร้อนในความทรงจำของเด็กๆ ภายใต้แนวคิด “ซันนี่ ปาร์ตี้” คึกคักไปด้วยเสื้อโปโล, กางเกงสลิมฟิต, แจ็กเกตยีนส์, แจ็กเกตผ้าลินิน และเสื้อยืดลวดลายน่ารักๆ โดดเด่นน่าครอบครองยังรวมถึงแอคเซสเซอรี่สุดเก๋สำหรับคุณหนูอาร์มานี  มีทั้งรองเท้าแตะตัดเย็บจากหนังสุดคลาสสิก, รองเท้าบัลเลต์หนังแก้วสีสันสดใส, รองเท้าส้นเตารีด, รองเท้าผ้าใบประดับมุก, รองเท้าบูตสไตล์ซาฟารี, เข็มขัดเชือก, หมวกปานามา, กระเป๋าหนังเทียมปั๊มลาย  และกระเป๋าเนิร์สเซอรี่หนังแก้ว กับรองเท้าเด็กแรกเกิดอุแว้ๆ.

โยคะเด็ก กิจกรรมสร้างสรรค์รับปิดเทอมเปลี่ยนลูกลิงให้มีสมาธิ...อ่อนโยน...โตไปไม่โกง

โยคะเด็ก กิจกรรมสร้างสรรค์รับปิดเทอมเปลี่ยนลูกลิงให้มีสมาธิ...อ่อนโยน...โตไปไม่โกง
เด็กดื้อเป็นเด็กที่ฉลาด แต่ถ้าทั้งดื้อทั้งซนเป็นลูกลิง ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ และสมาธิสั้น จนทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ ก็คงสร้างความปวดหัวให้คุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย  แทนที่จะดุลูกบ่อยๆจนเกิดความเครียดและภาวะซึมเศร้า คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ควรหากิจกรรมสร้างสรรค์ดีๆ เพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการทางอารมณ์ และเตรียมความพร้อมด้านร่างกายให้เติบโตอย่างสมวัยท่ามกลางสภาวะเร่งรีบและแข่งขันเรื่องการเรียน “โยคะเด็ก” ถือเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ช่วยสร้างสมาธิ และความสมดุลให้กับเด็กๆ ทำ ให้ความจำดี รู้สึกผ่อน คลาย และมีพัฒนาการที่ดีทั้งด้านร่างกายและอารมณ์ โดยหลักสำคัญของโยคะเด็กคือ การสอนให้รู้จักจังหวะลมหายใจเข้าและออกของตัวเอง ขณะเดียวกันก็รู้จักการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสมดุล ทำให้รู้จักอารมณ์ตัวเอง และสามารถควบคุมอารมณ์ให้นิ่งได้ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ เด็กจะจดจำตำราเรียนได้ดี มีจิตใจเบิกบานแจ่มใส อ่อนโยน และมีสติการเล่นโยคะเด็กจะเริ่มต้นจากการสังเกตลมหายใจ เพื่อชี้ให้เด็กๆเห็น ถึงความแตกต่างของจังหวะการหายใจ สำหรับวิธีหายใจที่ถูกต้องตามหลักของโยคะคือ หายใจเข้าจนท้องพองออก และหายใจออกจนท้องแฟบ การฝึกหายใจช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนาสติและสมาธิ ขณะเดียวกันก็ทำให้ออกซิเจนถูกลำเลียงเข้าไปเลี้ยงร่างกายทุกส่วน ทำให้เด็กๆมีชีวิตชีวา และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ การฝึกโยคะสำหรับเด็กต้องรู้จักประยุกต์ท่าโยคะให้มีความสนุกสนานไม่น่าเบื่อ  จึงสามารถเข้าถึงโลกของเด็กๆ การใช้นิทาน, เกม และเพลง ถือเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งเพื่อดึงดูดความสนใจท่าโยคะเด็กจะไม่สลับซับซ้อนเท่าผู้ใหญ่  เน้นเพียงไม่กี่ท่าพื้นฐาน เช่น “ท่าต้นไม้” ช่วยเรื่องการทรงตัวและเสริมสร้างความคล่องแคล่วของร่างกาย โดยให้เด็กนั่งยองๆ สมมติตัวเองเป็นเมล็ดพืชที่ฝังอยู่ใต้พื้นดิน เมื่อฝนเริ่มตก น้ำฝนจะชะเข้าสู่เมล็ด พระอาทิตย์ส่องแสงทำให้เมล็ดแตกรากอ่อน และในขณะที่ต้นไม้โตขึ้น เด็กๆจะเริ่มยืนขึ้นช้าๆ กระทั่งยืดและเขย่งเท้า พร้อมกับชูมือขึ้นไปรับแสงแดดและกางนิ้วออกเสมือนเป็นใบส่วน “ท่างู” ช่วยเรื่องข้อมือ นิ้วมือ กล้ามเนื้อแขน และกล้ามเนื้อหลัง โดยให้เด็กๆ นอนคว่ำ  เอามือทั้ง 2 ข้างวางคว่ำไว้ใต้ไหล่  พร้อมก้ม หน้าให้ติดกับพื้น จากนั้นค่อยๆยกหน้าอกขึ้นจากพื้น แขนทั้ง 2 ยันพื้นไว้ จนยืดได้สุดแขน “ท่านกกระสาขาเดียว”  ฝึกการทรงตัวบนขาข้างเดียวเป็นการบริหารข้อเข่า ข้อเท้า ข้อศอกและข้อมือพร้อมกัน โดยให้เด็กๆ ยืนตัวตรง ก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหน้าแล้วค่อยๆกางแขนออกทั้ง 2 ข้าง พร้อมโน้มตัวลงไปด้านหน้า เพื่อยกขาข้างใดข้างหนึ่งไปด้านหลัง และทรงตัวยืนอยู่ให้ได้ด้วยขาเพียงข้างเดียว สำหรับ “ท่าเต่า” ช่วยยืดกระดูกข้อต่อสันหลัง ให้เด็กๆนั่งคุกเข่าบนส้นเท้า ประกบมือขึ้นเหนือศีรษะคล้ายการพนมมือ แล้วค่อยๆโน้มตัวลงมาด้านหน้าพร้อมกับวางมือจดพื้น.

ลองก่อนใคร...ซามูไรในหิมะ ALL NEW HONDA ACCORD 2014

ลองก่อนใคร...ซามูไรในหิมะ ALL NEW HONDA ACCORD 2014
ทดสอบสั้นที่ญี่ปุ่นก่อนการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในวันจันทร์ที่ 11 มีนาคมนี้ นี่คือ New Honda Accord 2014 ยนตรกรรมซีดานสำหรับผู้บริหารเจเนอเรชั่นล่าสุด พร้อมแล้วสำหรับตลาดรถซีดานขนาดกลางในประเทศไทย...14.30 น. เครื่องบิน Airbus A380 ของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 676 ร่อนลงจอดยังสนามบินนาริตะอย่างนุ่มนวล นี่คือการเดินทางมาประเทศญี่ปุ่นของผมและสื่อมวลชนสายยานยนต์ ตามคำเชิญของบริษัท Honda Automobile Thailand co,ltd. เพื่อลงทดสอบยนตรกรรมซีดานขนาดกลาง หรูหรา รุ่นล่าสุด All New Honda Accord 2014 เรือธงของค่าย Honda นับเป็นรถยนต์โมเดล Accord ในเจเนอเรชั่นที่ 9 ซึ่งเข้ามาสานต่อความสำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 37 ปี บนโลกแห่งยานยนต์ รถ Honda Accord นับเป็นจักรกลเดินทางขนาดกลาง ที่เน้นประสิทธิภาพการขับขี่กับความหรูหราของห้องโดยสาร บนรูปแบบและการจัดวางอุปกรณ์รวมถึงการคัดสรรวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายใน จากรุ่นแรกสุดมาจนถึงรุ่นใหม่ล่าสุด รถยนต์เจ้าของสัญลักษณ์รูปตัว H คันนี้ได้รับความไว้วางใจ และความนิยมจากผู้คนมานานถึงเกือบ 40 ปี จนทำให้ยอดขายของรถยนต์ Accord ทั่วโลกสูงยันเพดาน หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินนาริตะ ผมและเพื่อนๆ สื่อมวลชนก็ออกเดินทางโดยรถโค้ช จากสนามบินมุ่งสู่ทิศเหนือของโตเกียว เพื่อเข้าพักที่โรงแรม Twin Ring Motegi ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีสนามทดสอบ ศูนย์พัฒนา และทดสอบรถยนต์ หรือ R And D รวมทั้งสนามแข่งรถและพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของค่าย Honda ที่ผ่านการดำเนินงานโดยบริษัท Honda Motor Japan เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งของโลกยนตรกรรม สำหรับการแข่งขันรถยนต์ การฝึกฝนทักษะของการขับขี่แบบปลอดภัย หรือเรียนรู้การขับและควบคุมรถแข่ง ผ่านทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของ Honda ซึ่งคอยอบรมให้คำแนะนำที่ถูกต้องสำหรับการขับขี่ทั้งแบบปกติและการแข่งขัน สนาม Twin Ring Motegi แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดอิบารากิ เป็นที่ตั้งของเทือกเขายามิโซะ เทือกเขาทากะ และเทือกเขาคุจิ ซึ่งทอดยาวจากเหนือมาใต้ เทือกเขาคุจิ และเทือกเขาทากะ ตั้งอยู่บริเวณปลายด้านใต้ของเขตภูเขาอบุคุมะ แม่น้ำยามาดะ แม่น้ำ ซาโตะ แม่น้ำคุจิ และแม่น้ำนากะ ไหลผ่านบริเวณพื้นที่ราบลุ่มที่เป็นแอ่ง เทือกเขายามิโซะ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัด (1,022 เมตร) กั้นพรมแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือและทอดยาวไปทางใต้กั้นพรมแดนระหว่างจังหวัด อิบารากิกับจังหวัดโตชิกิTwin Ring Motegi วางแผนผังพื้นที่ของสนามเป็นรูปวงรี นับได้ว่าเป็นสนามแข่งรถแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะถูกนำมาใช้เพียงปีละครั้ง สำหรับการแข่งขันรายการใหญ่ สนามแข่งรูปไข่ มีความยาว 1.549 กิโลเมตร เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1998 สนาม Twin Ring Motegi ถูกสร้างขึ้นโดย Honda Motor ภายในพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งมีทั้งที่ราบลุ่มและภูเขาสูงชัน มีสนามแข่งรถถึงสองสนาม สนามแรกออกแบบคล้ายกับสนามแข่งรถในสหรัฐอเมริกา และได้มาตรฐานสำหรับจัดการแข่งขันรถยนต์แบบ Indy Car / Moto GP / Super GT / Formula Nippon / MFJ Super bike / IZOD Indy Car Series สำหรับส่วนของ Road Course นั้น มีความยาวของสนาม 4.8 กิโลเมตร ผังสนามส่วนใหญ่ของ Road Course เป็นการวิ่งตามเข็มนาฬิกามากกว่าทวนเข็มนาฬิกา สนามแห่งนี้ยังเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์กรังด์ปรีซ์ในช่วง 2000-2003 และรถจักรยานยนต์แกรนด์กรังด์ปรีซ์ของประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมานอกจากรูปแบบของสนามแข่งขันแล้ว การพบกันของคน รถและธรรมชาติในการร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ นับเป็นประสบการณ์ที่ดีและน่าจดจำ Twin Ring Motegi ยังมีสนามทดลองขับของเด็กเล็ก เพื่อฝึกฝนการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัย โดยเน้นไปที่การปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ให้ความสำคัญต่อการใช้รถใช้ถนนของคนญี่ปุ่น เพื่อที่จะลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เหลือน้อยที่สุดจากสนามบินนาริตะ ที่มีอุณหภูมิในช่วงเย็นประมาณ 5 องศา รถโค้ชใช้เวลาวิ่ง 2 ชั่วโมงครึ่งก็มาถึงเมือง Hiyama ในตอนพลบค่ำ อุณหภูมิในแถบจังหวัดอิบารากิ ติดภูเขาที่อยู่เหนือโตเกียวขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อีก 100 กิโลเมตร หล่นลงไปอยู่ที่ -1 องศา บริเวณร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่างที่ทางคณะสื่อมวลชนไทยและทีมพีอาร์ของ Honda แวะพักทานอาหารค่ำ น้ำในอ่างหน้าร้านจับตัวแข็งเป็นน้ำแข็งสีขาวขุ่น ลมจากหุบเขาของเมือง Hiyama พัดอย่างรุนแรง และมีความเย็นจัดจนแทบจะยืนไม่ได้เพราะความหนาว คณะสื่อมวลชนไทยรับประทานอาหารค่ำเสร็จก็ออกเดินทางต่ออีกหนึ่งชั่วโมงครึ่ง จนมาถึงยังโรงแรม Twin Ring Motegi เอาเกือบๆ สี่ทุ่ม หลังจากรับกุญแจต่างก็แยกย้ายเข้าห้องพักทันที เนื่องจากวันพรุ่งนี้จะเป็นการขับทดสอบ Honda New Accord 2014 แต่เช้า การเดินทางที่เริ่มต้นตั้งแต่หกโมงเช้าที่สุวรรณภูมิจนมาถึงที่พัก ซึ่งปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม ทำให้รู้สึกล้า อากาศหนาวกับลมที่ทำให้เย็นจัด จนแทบจะแข็ง เหมาะกับการอยู่ในห้องอุ่นๆ มากกว่าจะออกไปเดินเล่น08.30 น. เช้าวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 หลังจากรับประทานอาหารเช้าและร่วมฟังบรรยายสรุปรายละเอียดของตัวรถแล้ว ทีมงานชาวญี่ปุ่นของ Honda Motor ซึ่งมีทั้งนักขับทดสอบและวิศวกรผู้ร่วมพัฒนารถ Accord 2014 ก็นำสื่อมวลชนไทยไปยังสนามทดสอบ โดยมีรถ Honda Accord 2012 รุ่น 2.4 NAVI จอดรออยู่ที่สนามทดสอบ ท่ามกลางท้องฟ้าที่สดใสและอุณหภูมิประมาณ 5 องศาเซลเซียส ผมลงจากรถโค้ชเดินเข้าไปดูทรวดทรงรูปลักษณ์ของ New Accord ใกล้ๆ เพื่อเก็บรายละเอียด สำหรับการขับทดสอบในครั้งนี้ ทาง Honda ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากรถยังไม่ได้มีการเปิดตัวที่ประเทศไทย รถ Accord คันดังกล่าวเพิ่งจะประกอบเสร็จในโรงงานโรจนะ ที่พระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นจึงถูกส่งมาทางเครื่องบินเพื่อให้ทันกับการทดสอบของสื่อมวลชน ในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากกำแพงมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่สูงมาก รถ Honda Accord ที่จะขายในประเทศญี่ปุ่น จึงมีแต่รุ่นเครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Hybrid สำหรับประเทศไทยที่เป็นฐานการประกอบหลักของ New Accord นั้น ยังคงมีเครื่องยนต์ให้เลือกสองรุ่นเหมือนเดิมคือ 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร เป็นเครื่องเบนซินยนต์แถวเรียง 4 สูบ พร้อมหัวฉีด PGM-F1 และระบบวาล์วแปรผัน iVTEC กับเกียร์ CVT S-Range Controlเทคโนโลยี ใหม่ของวงการยนตรกรรมคือ การลดขนาดตัวถัง ลดทอนน้ำหนัก และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้าง New Accord ใช้ตัวถังแบบโมโนค็อก ผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษจากการคิดค้นของวิศวกร Honda มีชื่อเรียกว่า Advanced Compatibility Engineering หรือ ACE ด้วยการเสริมความแข็งแรงในจุดต่างๆ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนของเหล็กที่มีความแข็งแกร่งสูง เป็นโลหะแบบ High Tensile-steel มากถึง 55% ผลที่ได้คือความคงทนต่อการบิดตัว รวมถึงสามารถรับแรงเค้นได้เพิ่มมากขึ้นอีก 34%-42% โครงสร้างแบบ ACE ถูกพัฒนาขึ้น โดยนำมาใช้ในรถ MPV รุ่นล่าสุดโมเดล Odyssey หลังจากนั้นทาง Honda จึงเริ่มนำมาใช้กับรถยนต์ในโมเดลอื่นๆ ของค่าย โครงสร้างดังกล่าวไม่ได้เน้นเพียงแค่ความแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับการขับขี่ในด้านความปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการดูดซับแรงกระแทกและกระจายแรงไปตามโครงสร้างของท่อนหน้าและหลัง ทำให้ห้องโดยสารมีความเสียหายให้น้อยที่สุด จากการทดสอบการชนในขั้นตอนของการพัฒนาNew Accord 2014 ใช้เทคโนโลยี Noise Vabration หรือ NVH เป็นการยกระดับให้ห้องโดยสาร มีความเงียบมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา กระแสลมที่ปะทะเข้ากับตัวถังในระหว่างการวิ่งด้วยความเร็วสูงจะถูกดูดซับ เสียงด้วยวัสดุป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอกที่มีเพิ่มเข้ามาแทบทุกจุด แม้แต่กระจกบังลมทุกบานก็ยังถูกเพิ่มความหนาเพื่อปิดกั้นเสียงรบกวนจากภายนอก ความสูงที่ลดลง 90 มิลลิเมตร นอกจากจะทำให้ระบบแอร์โรไดนามิกส์ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เสียงลมปะทะลดลงอีกด้วย วิศวกรของ Honda ทำการทดสอบรถ New Accord ในอุโมงค์ลม เพื่อออกแบบชิ้นส่วนที่ต้านลมให้มีความลู่ลมมากขึ้น เช่น ใบปัดน้ำฝน เสียงจากการบดไปกับพื้นถนนของยางทั้งสี่เส้น ก็ยังถูกจัดการด้วยฉนวน หรือวัสดุซับเสียงแบบใหม่ สำหรับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการทำงานของเครื่องยนต์ วิศวกรได้ออกแบบชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ หรือชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ในระหว่างการใช้งาน ด้วยการออกแบบให้ชิ้นส่วนดังกล่าวด้วยการลดแรงเสียดทานโดยลดน้ำหนัก ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวเมื่อเบาขึ้น แรงเสียดทานจะลดลง และทำให้การสั่นสะเทือนลดลงตามไปด้วยNew Accord รุ่นที่กำลังเปิดตัวในประเทศไทยมีเครื่องยนต์ให้เลือกสองแบบคือ เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 2.0 ลิตร 158 แรงม้า และเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 185 แรงม้า ระบบ iVTEC เป็นการรวบรวมระบบ VTEC-Variable Valve Timing And Lift Electronic Control ผนวกเข้ากับ VTC หรือ Variable Timing Control ทั้งสองระบบทำหน้าที่ควบคุมระยะการยกตัวกับคาบเวลาของการยกในระบบวาล์วทั้งหมด ทำให้การป้อนไอดีเข้าสู่ห้องเผาไหม้มีความต่อเนื่องราบรื่นและสมดุลสูงสุด สัมพันธ์ไปกับรอบเครื่องยนต์ มันคือระบบที่ควบคุมได้ทั้งระยะเวลาการเปิด-ปิด และระยะยกตัวของวาล์ว ช่วยทำให้อากาศไหลเข้าไปยังท่อร่วมไอดีมีความแม่นยำ ทั้งส่วนผสมและปริมาณที่ต้องการ ระบบดังกล่าวทำงานผ่านสมองกล ECU ซึ่งนำข้อมูลของรอบเครื่องยนต์มาเป็นตัวตัดสินใจในการยก หรือเปิด-ปิด ของวาล์ว รวมถึงยังใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ เป็นข้อมูลเสริม เพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์มี ความสมบูรณ์สูงสุด เช่น ระยะเวลาในการจุดระเบิด/ตำแหน่งของลิ้นปีกผีเสื้อ/อัตราส่วนผสมของไอดีและองศาเพลาลูกเบี้ยว ระบบ VTEC จะสลับการทำงานระหว่างลูกเบี้ยวสองชุด เพื่อให้มีความสอดคล้องกับสภาวะของการใช้งาน ช่วยควบคุมปริมาณแรงดันไอดีที่เข้าสู่กระบอกสูบ ส่วนลิ้นปีกผีเสื้อแบบไฟฟ้า หรือ Drive By Wire มีการลด Pumping Loss ในช่วงที่เครื่องยนต์ทำงานปกติ เพลาลูกเบี้ยวสองชุด ชุดแรกทำงานในองศาที่ต่ำตั้งแต่รอบเดินเบาไปจนถึงรอบเครื่องกลางๆ ส่วนเพลาลูกเบี้ยวอีกหนึ่งชุดสำหรับทำงานในองศาที่สูงขึ้น จะทำงานตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 4,800 รอบต่อนาทีไปจนถึงรอบสูงสุด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร กลายเป็นรุ่นยอดนิยมของคนไทย มันใช้ฝาสูบแบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป DOHC กระบอกสูบคูณช่วงชักที่ 87.0 มิลลิเมตร x 99.1 มิลลิเมตร มีปริมาตรความจุรวม 2,356 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-F1 ให้กำลังสูงสุด 185 แรงม้า ที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 11.1:1 มาตรฐานการปล่อย CO2 อยู่ในระดับ EURO5 ชุดส่งกำลัง หรือเกียร์ของ New Accord วางเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ออกแบบให้มีอัตราทดกว้างกว่าเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดลูกเก่า เน้นความราบเรียบนุ่มนวลในการส่งกำลังเมื่อปรับเปลี่ยนอัตราทด ช่วยสร้างอัตราเร่งขณะช่วงอัตราทดเกียร์ปลายที่ลดลง ทำให้รอบเครื่องลดลงตามไปด้วย ส่งผลไปถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น เกียร์ CVT ใน New Accord ยังมีระบบ S-Range Control มาช่วยให้พวกที่ชอบขับแบบลากรอบมีความสนุกสนานเพิ่มขึ้นเมื่อต้องการเร่ง ความเร็วอย่างต่อเนื่อง ส่วนระบบรองรับของ New Accord ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้กอัพแบบใหม่ที่ปรับปรุงระยะยืดและยุบให้ดีขึ้นกับเหล็กกันโคลงเส้นเขื่อง ด้านหลังใช้แบบมัลติลิ้งค์ ระบบช่วยทรงตัว VSA / TCS / Hill Start Assist ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ชุดกระจายแรงเบรก EBD จานดิสก์เบรกหน้าขนาด 292 มิลลิเมตร จานดิสก์เบรกหลัง 282 มิลลิเมตร เจ้า Accord 2014 มีล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ลวดลายคุ้นตา คล้ายกับล้อของ Civic รุ่น 2.0 โดยมีลายคล้ายๆ กับกลีบใบของเครื่องยนต์เทอร์ไบน์ ซีดานสมรรถนะสูงคันนี้ใช้ยาง 215/55/R17 มิติตัวถัง กว้าง 1,850 มิลลิเมตร ยาว 4,862 มิลลิเมตร สูง 1,466 มิลลิเมตร ระยะห่างฐานล้อ 2,776 มิลลิเมตร ระยะห่างระหว่างล้อหน้า-หลัง 1,595-1,593 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยว 11.61 เมตร ความจุถังเชื้อเพลิง 65 ลิตร และมีน้ำหนักตัว (รุ่น 2.4) 1,523 กิโลกรัมเจ้าหน้าที่และทีมวิศวกรของ Honda ในชุดแจ็กเก็ตสีแดงจัดให้สื่อมวลชนของไทยได้ลงทดสอบครั้งละคน โดยขับขี่กันคนละ 6 รอบสนาม ด้วยความเร็วไม่เกิน 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สนาม Twin Ring ในช่วงสายของวันอังคารที่ 27 แม้จะมีแสงแดดสดใสกับท้องฟ้าที่กระจ่างตา แต่อุณหภูมิกลับไม่ได้สูงขึ้นเลยแม้แต่น้อย ลมเย็นจัดที่พัดมาจากภูเขารอบๆ Twin Ring Motegi กดอุณหภูมิให้อยู่ที่ 5-7 องศาทั้งวัน รถทดสอบคันจริงตัวเป็นๆ คันนี้ดูสวยและเพรียวมากขึ้น โครงสร้างโลหะ Advanced Compatibility Engineering ห่อหุ้มด้วยตัวถังที่ถูกลดขนาดลงให้มีความปราดเปรียวมากกว่ารุ่นที่ผ่านมา ความสูงที่ลดลงอีก 90 มิลลิเมตรกับด้านหน้าและบั้นท้ายที่กระชับขึ้น จึงทำให้ดูเหมือนมันผอมลงจากการออกกำลังกาย เจ้า Accord รุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร คันทดสอบยาว 4862 มิลลิเมตร และมีพื้นที่ภายในกว้างเท่าเดิม ห้องโดยสารที่ถูกคำนึงถึงพื้นที่ของการวางเท้าและพื้นที่เหนือศีรษะ ทำให้วิศวกรและนักออกแบบภายในของ Honda มีงานทำอย่างล้นมือ ตำแหน่งของการนั่งขับอยู่ในระดับที่ดี เบาะไฟฟ้าที่ปรับได้กว้างและครอบคลุมทุกสรีระของมนุษย์ จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาสำหรับคนที่มีรูปร่างเล็ก หรือใหญ่เกินไป มุมมองและทัศนวิสัยรอบคันเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรถ Accord เมื่อกระจกบังลมทุกบานยังไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสง เมื่อเริ่มต้นการขับทดสอบ ผมทำความคุ้นเคยกับตัวรถในรอบแรก โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบรถขับเคลื่อนล้อหลังมากกว่ารถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า อาการต่างๆ ที่ส่งออกมาจากรถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง จะชัดแจ้งมากกว่า แซสซีส์ เครื่องยนต์และเกียร์เป็นส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวตัดสินว่ามันขับได้ดีหรือ ห่วย แต่เมื่อได้ลองขับ New Accord 2.4 ซึ่งเป็นรถขับหน้าเต็มรูปแบบ ทำให้ความรู้สึกของผมเริ่มเปลี่ยนไปคอนโซล กลางมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเมื่อต้องยัดจอมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งทำหน้าที่เป็นจอภาพมอนิเตอร์ของกล้องที่ติดอยู่ใต้กระจกมองข้าง รูปแบบของชุดปรับอากาศและเครื่องเสียง ทำออกมาแบบเรียบๆ แต่ดูดีขึ้นด้วยชิ้นงานพลาสติกที่ทำคล้ายกับอัลลอยเดินเส้น ล้อมกรอบคอนโซลและช่องแอร์ ตำแหน่งของพวงมาลัย คันเกียร์ ปุ่มและสวิชท์ต่างๆ มีน่าตาที่เปลี่ยนไปและวางอยู่ในที่ๆ ใช้งานได้สะดวก สนามทดสอบความยาวต่อรอบ 1.5 กิโลเมตร บนสปีดที่ไม่เกิน 80 กิโลเมตร ทำให้ผมได้สัมผัสกับสมรรถนะของ New Accord 2.4 เพียงแค่ 30% เท่านั้น พวงมาลัยที่ความเร็วต่ำยังคงเบาสบายและสามารถควบคุมหัวรถให้หลบกรวยไพล่อน ได้อย่างไร้ปัญหา New Accord มีโช้กอัพใหม่ ช่วงล่างใหม่ของ New Accord ทำออกมาได้ดี อาการโคลงตัวเมื่อหักพวงมาลัยไปทางซ้ายและขวาสลับกันเร็วๆ ไม่ปรากฏออกมาให้เห็น ที่ยังคงเหมือนเดิมคือความเบาของคันเร่งไฟฟ้า ส่วนระบบส่งกำลัง CVT S-Range Control ไม่ได้สำแดงประสิทธิภาพมากนัก เนื่องจากถูกจำกัดความเร็ว สามรอบสุดท้าย ผมขับมันเร็วขึ้นมาอีกนิดโดยใช้ความเร็วในการเข้าออกโค้งบนสนามทดสอบ Twin Ring มากกว่าเจ้าหน้าที่ Honda กำหนด ที่ชอบมากคือความเงียบของห้องโดยสาร ไดนามิกของตัวรถจากการถ่ายเทน้ำหนักเมื่อขับเข้าโค้งมุมแคบและท่านั่งที่สบายๆ จากการออกแบบ คงต้องอดใจรอช่วงทดสอบทางไกลที่ประเทศไทยในเดือนเมษายน หลังจากการเปิดตัวในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2556เช้าวันรุ่งขึ้น ที่ความสูง 2,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลบนยอดภูเขาไฟเขาชิราเนะ ซึ่งมีหิมะสีขาวปกคลุมไปทั่ว ผมเดินมาหยุดอยู่ตรงจุดสูงสุด ที่นักสกีจะทิ้งตัวลงไปด้านล่าง ความสูงกว่า 800 เมตร จากยอดเขาลงไปยังสันเขาทั้งด้านทิศตะวันออก ทำให้รู้สึกแปลกๆ หิมะและแผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณหุบเขาในแถบจังหวัดอิบารากิ รวมถึงเมืองเล็กๆ ที่อยู่ด้านล่าง ทำให้วิวทิวทัศน์ของที่นี่สวยงามเหนือคำบรรยาย การเดินทางมาขับทดสอบ Honda New Accord จบลงอย่างรวดเร็วและมีความสุข แม้จะได้ลองกันแค่คนละ 6 รอบ แต่สัมผัสที่ได้รับ ทำให้ซึมซับได้ว่ามันเป็นรถยนต์ซีดานขนาดกลางที่ดีคันหนึ่งบนตลาดรถใหม่ของไทย แม้ขนาดของตัวถังจะสั้นลง แต่พื้นที่ของห้องโดยสารกลับมีความกว้างขวางเท่าเดิม กล้องที่ใต้กระจกมองข้างช่วยให้การเปลี่ยนทิศทางมีความปลอดภัย มันจะส่งภาพที่มีความเครื่องยนต์ในรุ่น 2.0 ลิตร มีการพ้ฒนาให้ระบบเผาไหม้ทำงานได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น โช้คอัพที่ปรับระดับของการยืดและยุบใหม่ หมดกับน้ำหนักของช่วงล่างที่เบาขึ้น ยังช่วยทำให้การควบคุมดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ขนาดที่กระชับ ส่งผลให้มันปราดเปรียวมากกว่ารุ่นที่แล้ว ซึ่งยาวและสูงมากกว่า นี่คือตัวแทนของความสำเร็จตลอดช่วงอายุโมเดลที่ยืนยาวมานานกว่า 37 ปี ผมคิดว่าหลังการเปิดตัว New Accord ทั้ง 2.0 และ 2.4 มันน่าจะเป็นรถยนต์ซีดานขนาดกลางอีกรุ่นที่ทำตลาดได้ดีตามรุ่นพี่ทั้ง 8 รุ่นที่่เคยประสบความสำเร็จไปก่อนหน้านี้.(เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้มีการบันทึกภาพตลอดการขับทดสอบ ภาพรถ New Accord บางภาพเป็นรุ่นที่มีขายเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะแตกต่างกับรุ่นที่กำลังจะขายในประเทศไทยเพียงเล็กน้อยบริเวณไฟหน้า)อาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

Blog Archive