Tuesday, March 26, 2013

อณิชา อรรถสกุลชัย เดินตามฝัน Lovebird จากโลกออนไลน์ สู่โชว์รูมเต็มตัว

อณิชา อรรถสกุลชัย เดินตามฝัน Lovebird จากโลกออนไลน์ สู่โชว์รูมเต็มตัว
จากความชื่นชอบในเรื่องแฟชั่น นำพาให้ แพม-อณิชา อรรถสกุลชัย เดินตามความใฝ่ฝันในการมีแฟชั่นแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งสาวคนนี้ได้พิสูจน์ความสามารถจนเป็นที่ยอมรับจากทางบ้าน และได้รับอนุญาตให้ไปสร้างความฝันในการปลุกปั้นแบรนด์ Lovebird แฟชั่นเรดี้ ทู แวร์ ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ออกมาสู่โชว์รูมอย่างจริงจังแพม-อณิชา สาวรุ่นใหม่ไฟแรงคนนี้เป็นลูกสาวเจ้าของธุรกิจบีทาเก้น ได้เล่าว่า แพมชอบแต่งตัว ชอบแฟชั่นมาตั้งแต่เด็ก เคยขอที่บ้านเรียนด้านแฟชั่น แต่เมื่อก่อนคุณพ่อคุณแม่ไม่อนุญาต เพราะท่านอาจจะยังไม่เข้าใจและการเป็นดีไซเนอร์ยังไม่เป็นที่ยอมรับเหมือนในปัจจุบัน พอเรียนจบปริญญาตรีคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งแพมเรียนเอกด้านภาษาฝรั่งเศส จบมาได้เกียรตินิยมอันดับ 2 ก็ไปเรียนต่อปริญญาโทเลยในสาขาการสื่อสารชั้นสูง ที่ The University of Sydney ประเทศออสเตรเลีย และเรียนต่อปริญญาโทใบที่ 2 ในสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ The University of New South Wales ออสเตรเลียเช่นกันหลังจากที่เรียนจบ แพม บอกว่า ได้ทำงานที่ห่างไกลความฝันที่อยากเป็นดีไซเนอร์ คือ ได้ทำงานเป็น AE หรือ Account Executive บริษัทเอเจนซี่โฆษณา BBDO Bangkok ทำงานอยู่ได้ 2 ปี ก็ลาออกมาตามหาความฝันโดยไปเรียนต่อหลักสูตรแฟชั่นดีไซน์ ที่ Raffles Institute Bangkok ก่อน 1 ปี ก่อนที่จะไปเรียนต่อหลักสูตรระยะสั้นด้านแฟชั่นที่ Central Saint Martins ประเทศอังกฤษแพมรู้ตัวมาตลอดว่า ชอบแฟชั่น แต่ตอนเด็กอาจไม่แน่ใจว่าชอบถึงขนาดมาเป็นดีไซเนอร์หรือเปล่า   เลยไม่ได้เรียนด้านการออกแบบมาตั้งแต่ต้น แล้วคุณพ่อก็อยากให้แพมเป็นอาจารย์ เพราะรู้นิสัยดีว่าแพมเป็นคนไม่ชอบการแข่งขัน ออกแนวรักสงบ จึงเลือกเรียนภาษาและการสื่อสาร แพมเคยมาเป็นอาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะไปทำงานที่เอเจนซี่ ซึ่งตอนทำงานที่เอเจนซี่ก็สนุกและท้าทายมาก ได้ประสบการณ์เยอะ แต่ในใจก็อยากที่จะทำงานเกี่ยวกับแฟชั่นเสื้อผ้ามากกว่า จึงตัดสินใจไปเรียนต่อด้านแฟชั่นให้เป็นเรื่องเป็นราว แล้วได้มาลองทำแบรนด์ของตัวเอง เลิฟเบิร์ด เป็นการทดสอบตัวเอง”เส้นทางการทำงานที่รักของสาวคนนี้ แพม เล่าว่า เราเริ่มต้นจากทีมงาน 2-3 คน คอนเซปต์และรูปแบบทั้งหมดมาจากตัวเองที่ชื่นชอบและมองว่า ผู้หญิงจะดูสวยที่สุด เมื่อเวลามีความรัก จึงใช้คำว่า “เลิฟเบิร์ด” มาสะท้อนความเป็นแฟมินีน สไตล์เสื้อผ้าจึงเน้นสไตล์หวานซ่อนเปรี้ยว สวมใส่แล้วเผยรูปทรงของผู้หญิง ซึ่งทำเสื้อผ้าครั้งแรกทำขายผ่านเว็บไซต์ www.shopatlovebird.com เราขายผ่านเว็บไซต์มา 2 ปี แต่ปรากฏว่าลูกค้าบุกมาที่ออฟฟิศบ้าง โทร.มาบ้าง เลยคิดว่าลูกค้าอยากจะติดต่อเราโดยตรง อยากลองของจริง ไม่คิดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีขนาดนี้ เลยทำให้ต้องเปิดโชว์รูม“การที่เราได้ก้าวมาถึงจุดนี้ จากโลกออนไลน์มาสู่โชว์รูมเต็มรูปแบบ ทั้งหมดอาจจะเป็นเพราะทุกคนสัมผัสได้ถึงความตั้งใจและความรักในการทำงาน ผ่านผลงานที่มีคุณภาพของเรา เลยทำให้เราประสบความสำเร็จในเวลาอันสั้น”..... เพราะฝีมือและความตั้งใจของเธอที่ปรากฏผ่านผลงานเป็นบทพิสูจน์นั่นเอง.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive