Sunday, December 23, 2012

HOME STUDIO บ้าน งาน และความลงตัว

HOME STUDIO บ้าน งาน และความลงตัว
“หลายครั้ง... สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขได้มากที่สุด ก็มาจากการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและได้อยู่ในสภาพแวดล้อมตามแบบที่ตัวเองชอบและต้องการ แล้วแต่เราจะเลือกแบบไหน แต่หากทั้งสองมาอยู่ด้วยกันได้ การใช้ชีวิตในแต่ละวันคงจะทำให้เรามีความสุขแบบหาจากที่ไหนไม่ได้เลย”Trend@home วันนี้เรามีนัดกันที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่านเหม่งจ๋าย ซึ่งเปิดเป็นโฮมออฟฟิศขนาดเล็กบนพื้นใช้สอย 200 ตารางเมตร ใช้ชื่อว่า “STUDIO JEW” ของ คุณจิ๋ว-วรพจน์ ศรีธิมากุล ไดเร็คเตอร์เจ้าของบริษัทผู้ทำงานเกี่ยวกับศิลปะ ก่อนเข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายในโฮมออฟฟิศหลังนี้ เราได้เดินสำรวจรอบ ๆ ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 4 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร มองภายนอกที่นี่อาจดูเหมือนบ้านหลังอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กัน แต่สิ่งที่แตกต่างและโดดเด่นคือลายเพ้นท์บริเวณหน้าประตูทางเข้า และการออกแบบประตูให้มีลักษณะเฉียงเพื่อช่วยในเรื่องฮวงจุ้ย รวมถึงมีบ่อน้ำเชื่อมไปยังสวนข้างบ้านดูร่มรื่นคุณจิ๋วเล่าจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนทาวน์เฮาส์หลังนี้ให้กลายเป็นที่ทำงานและบ้านพักให้ฟังว่า “ทำบ้านหลังนี้เพราะอยากขยายออฟฟิศให้กว้างขึ้น จึงพยายามมองหาบ้านสักหลังที่มี 4 ชั้น ไว้ทำออฟฟิศชั้นล่าง ส่วนชั้นบนสุดก็ทำเป็นบ้านพักส่วนตัว ซึ่งโครงการนี้ก็ออกแบบได้ตรงตามความต้องการมาก ๆ แถมยังมีชั้นดาดฟ้าด้วย โดยเราได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่เพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น การย้ายประตูทางเข้าหน้าบ้าน ทุบผนัง และกั้นห้อง โดยมี คุณลิ-วรกิตติ์ ศรีธิมากุล สถาปนิก ซึ่งเป็นน้องชายของผมมาช่วยดูแลเรื่องการตกแต่งภายในและส่วนต่าง ๆ ของบ้านหลังนี้”ชั้น 1 ออกแบบให้เป็นมุมรับประทานอาหาร มีโต๊ะรับประทานอาหารและมุมเคาน์เตอร์เล็ก ๆ สามารถทำอาหารได้ มีห้องสตูดิโอแยกออกมาไว้ใช้ทำงาน บริเวณชั้น 2 เป็นสตูดิโอเปิดโล่งทั้งชั้น สำหรับทำงานเพ้นท์ต่าง ๆ โดยออกแบบให้มีห้องเก็บของเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย สามารถเปิดทะลุไปยังบันไดหนีไฟซึ่งช่วยระบายอากาศภายในห้องได้ ชั้น 3 เป็นส่วนออฟฟิศ แบ่งเป็น 2 โซน คือ ส่วนของงานเอกสารและงานกราฟิกต่าง ๆ มีโต๊ะทำงานประมาณ 4 – 5 ตัว และมีโต๊ะกลางไว้นั่งประชุมงาน  มีการกั้นห้องเล็ก ๆ ไว้เป็นห้องทำงานส่วนตัวของคุณจิ๋วเอง เผื่อถ้าต้องนั่งทำงานดึก ๆ ก็สามารถเปิดเครื่องปรับอากาศแค่ตัวเดียวได้ในห้องนี้ ถัดขึ้นมาบนชั้น 4 ออกแบบให้เป็นส่วนพักอาศัย มีการแบ่งส่วนต่าง ๆ อย่างชัดเจนทั้งมุมเคาน์เตอร์ครัว มุมนั่งเล่น และห้องนอน คุณจิ๋วเล่าว่า “ตอนแรกชั้นนี้มีห้องน้ำ 2 ห้อง โดยได้ทุบห้องที่อยู่ติดระเบียงออกเพื่อขยายเป็นมุมนั่งเล่นและมุมรับประทานอาหารเล็ก ๆ แล้วทำประตูบานเลื่อนให้เข้าออกได้ ช่วยให้ห้องดูกว้างและมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น” ด้วยความชอบสะสมแผ่นเสียงของคุณจิ๋ว มุมนั่งเล่นนี้จึงถือเป็นมุมโปรดของเขาไปโดยปริยาย คุณจิ๋วมักจะใช้เวลานั่งฟังเพลงบนชุดโซฟาขนาดใหญ่รูปตัวแอล (L) นี้เป็นประจำ เพราะสามารถนั่งหรือนอนเอกเขนกได้สบาย ส่วนห้องนอนก็ตกแต่งแบบเรียบง่าย เน้นเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินที่ทำจากไม้เป็นหลักทั้งโต๊ะและตู้เสื้อผ้า หลังผนังหัวเตียงอีกด้านมีห้องแต่งตัว  เชื่อมไปยังห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยโมเสกสีดำทั้งห้อง เข้ากับเจ้าของบ้านที่มีบุคลิกเท่ ๆ และมีสไตล์ นอกจากนี้ ชั้นบนสุดยังมีดาดฟ้า ซึ่งคุณจิ๋วปรับให้เป็นมุมนั่งเล่นชิล ๆ สามารถมาสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ได้ รอบ ๆ ปลูกต้นไม้กั้นไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวและช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้าน ใกล้กันมีส่วนซักล้างเล็ก ๆ  ที่ทำผนังกั้นสัดส่วนอย่างเรียบร้อย เติมลูกเล่นเล็ก ๆ ให้ผนังส่วนนี้ด้วยการเพ้นท์ลายต้นไม้สวย ๆ และมีประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดได้ หลังจากได้เยี่ยมเยียนโฮมออฟฟิศหลังนี้ สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ คือ ทุกคนในบ้านล้วนแต่รักในงานศิลปะ สังเกตได้จากทุกมุมและทุกชั้นของบ้านจะมีงานศิลปะสวย ๆ ประดับอยู่ ทั้งงานเพ้นท์และประติมากรรมต่าง ๆ ซึ่งเราเชื่อว่านี่คงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลาย ๆ คน ที่อยากใช้ชีวิตกับอะไรก็ตามที่ตนเองรักและชอบในทุกๆ วัน เช่นเดียวกับภาพบรรยากาศของบ้านหลังนี้...Designer’s Talk “การออกแบบโฮมออฟฟิศนี้มีโจทย์ไม่กี่อย่างเพราะพี่ชายมีภาพอยู่ในใจแล้ว ว่าอยากให้แต่ละชั้นมีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง การทำงานจึงค่อนข้างง่าย รวมถึงมีการพูดคุยกันเกือบทุกวัน ทำให้รู้ว่าพี่ชายอยากได้งานลักษณะไหน การรีโนเวตทาวน์เฮาส์หลังนี้เริ่มต้นจากทำส่วนออฟฟิศชั้น 2 และ 3 ก่อน เพราะต้องการย้ายเข้ามาอยู่เร็วที่สุด ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก มีเพียงทำบานเลื่อนและตกแต่งบางส่วนเพียงเล็กน้อย ใช้พื้นเดิมที่เป็นพื้นปูนเปลือยและกั้นผนังในแต่ละชั้น  “จากนั้นก็ขยับงานไปสู่ห้องพักชั้น 4 จนเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤษภาคม รูปแบบโดยรวมของบ้านเป็นสไตล์โมเดิร์นเรียบ ๆ มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้บิลท์อินสีวอลนัทที่เข้ากับพื้นไม้และผนังสีเทา ซึ่งช่วยให้การจัดวางภาพวาดสีสันสดใสบนผนังดูโดดเด่นขึ้น ข้อดีของโครงการนี้คือเขามีการจัดวางสเปซค่อนข้างดี เวลาตกแต่งภายในจึงค่อนข้างง่ายและไม่ค่อยมีปัญหา” Tip : เคล็ดลับการทำความสะอาดพื้นไม้- รอยขีดข่วนบนพื้นไม้ ขัดรอยขีดข่วนด้วยกระดาษทรายเนื้อละเอียด ระวังอย่ากินเนื้อที่เกินจำเป็น จากนั้นผสมยาขัดรองเท้าสีน้ำตาลเข้ากับขี้ผึ้งขัดพื้นเพียงเล็กน้อย  แล้วนำไปทาบริเวณที่เป็นรอย  จากนั้นถูให้เนื้อน้ำยากลืนเข้ากับเนื้อไม้
-หยดเทียนไข วางก้อนน้ำแข็งทาบบนหยดเทียนไขเพื่อให้แข็งตัว ใช้สันมีดค่อย ๆ แซะคราบน้ำตาเทียนออกไป จากนั้นทาน้ำยาขัดเงาชนิดน้ำเล็กน้อย แล้วใช้ผ้านุ่มเช็ดให้สะอาด
- คราบไขมัน ให้รีบเช็ดคราบออกด้วยกระดาษเช็ดมือหรือผ้า เสร็จแล้วผสมน้ำอุ่นเข้ากับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วนที่เท่ากัน นำผ้าสะอาดมาชุบน้ำที่ผสมไว้ บิดหมาด ๆ แล้วเช็ดให้ทั่วจนกว่าคราบไขมันจะจางไปขอบคุณ Room ฉบับเดือนตุลาคม คอลัมน์ Room to roomwww.roommag.com

No comments:

Post a Comment

Blog Archive