ในหลวงราชินีทรงห่วงเหยื่อบึ้มสีลมรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
คมชัดลึก : ในหลวง-ราชินีทรงห่วงเหยื่อบึ้มสีลม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระเทพฯ มีรับสั่งให้แพทย์ดูแลผู้บาดเจ็บ ขณะที่ผลชันสูตรศพเหยื่อบึ้มสีลมพบระเบิดถูกหัวใจฉีกขาด ลูกทำใจไม่ได้ศพแม่ถูกยื้อ เหยื่อบาดเจ็บยันรถส่งรพ.โดนสกัด-รุมไล่ตี
หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนเอ็ม 79 ยิงใส่ประชาชน 5 ครั้งบริเวณแยกศาลาแดง ถนนสีลม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 80 คน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน ล่าสุดวันที่ 23 เมษายน นายรัตนาวุธ วัชโรทัย ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยผู้บาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้บาดเจ็บ และค่าใช้จ่ายในการทำศพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ในบริเวณเดียวกันก่อนหน้านี้ด้วย
ทั้งนี้ ขอให้ผู้บาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิตในกรณีดังกล่าว ติดต่อขอรับพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ได้ที่กองคลัง สำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปในวันและเวลาราชการ หรือสอบถามที่โทร.0-2224-3260 และ 0-2687-3718-9 เผยยอดบาดเจ็บ78เสียชีวิต1ราย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากเหตุระเบิดที่บริเวณแยกศาลาแดง ถนนสีลม กทม. เมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน มีจำนวนผู้บาดเจ็บ 78 ราย เสียชีวิตที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ 1 ราย ชื่อ น.ส.ธันยนันท์ แถบทอง อายุ 50 ปี มีผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 9 แห่ง รวม 30 ราย ได้แก่ รพ.บีเอ็นเอช 1 ราย รพ.กรุงเทพคริสเตียน 4 ราย รพ.เซนต์หลุยส์ 2 ราย รพ.จุฬาลงกรณ์ 10 ราย รพ.เลิดสิน 9 ราย รพ.ตำรวจ 1 ราย รพ.บำรุงราษฎร์ 1 ราย รพ.พระมงกุฎเกล้า 1 ราย และ รพ.หัวเฉียว 1 ราย ในจำนวนนี้เป็นทหาร 1 นาย ตำรวจ 1 นาย ที่เหลือเป็นพลเรือน มีผู้ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู 2 รายคือที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน 1 ราย และที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ 1 ราย ผู้บาดเจ็บเป็นชาวต่างชาติ 4 ราย ได้แก่ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อเมริกา และออสเตรเลีย
รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า ศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์และสาธารณสุขในภาวะฉุกเฉินระดับชาติ ได้เตรียมความพร้อมเพิ่มเติม โดยเตรียมรถพยาบาลจากจังหวัดใกล้เคียงอีก 2 จังหวัดคือ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร มาเสริมกับทีมในกรุงเทพฯ และจะมีการประเมินสถานการณ์และปรับแผนการให้ความช่วยเหลือให้ทันท่วงที โดยรัฐบาลจะดูแลค่ารักษาทั้งหมด
เผยพระเทพฯรับสั่งดูแลผู้ป่วยทุกราย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวสรุปผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ถนนสีลมที่เข้ารับการรักษาที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ว่า เมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน มีผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล 19 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 8 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 10 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
รายที่เสียชีวิตทางศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ รพ.จุฬาฯ ได้ชันสูตรพลิกศพแล้ว และให้ญาติรับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนผู้บาดเจ็บที่นอนพักรักษาตัวมี 1 ราย คือนางจารุวรรณ ชุนละออง อายุ 43 ปี ที่อาการรุนแรงได้รับบาดเจ็บที่สมองมาก บาดเจ็บไปถึงสมองส่วนใน อาการยังน่าเป็นห่วง แพทย์ผ่าตัดสมองซ้ำครั้งที่ 2 ในวันนี้ คาดว่าน่าจะมาจากสะเก็ดระเบิด
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตวิถีการยิงระเบิดเอ็ม 79 ลงมาจากชั้น 5 อาคาร ภปร.นั้น ศ.นพ.อดิศร กล่าวว่า ตรงบริเวณชั้น 5 ไม่มีระเบียง ดังนั้นการจะตั้งยิงจากบริเวณดังกล่าวจึงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งเมื่อดูวิถีการยิงแล้ว หากยิงจากอาคาร ภปร. วิถีการยิงต้องข้ามสะพานลอยด้านหน้าโรงพยาบาล ตรงแยกพระราม 4 และยังมีอาคารขวางอีก จึงเป็นไปได้ยาก และไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า อาคาร ภปร.บริเวณ ชั้น 6-7 ก็มีรอยถูกยิงเช่นกัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นหินหรือนอต แต่ไม่ใช่กระสุน
ศ.นพ.อดิศร กล่าวด้วยว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชกระแสกำชับให้โรงพยาบาลช่วยดูแลผู้ป่วยทุกรายที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงบุคลากรเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าทาง รพ.จุฬาลงกรณ์ จะดูแลคนไข้ทุกคนไม่ว่าเป็นใครก็ตาม แต่ขอให้แพทย์ได้ทำงานอย่างสงบ ซึ่งเราสามารถดูแลสถานการณ์ได้ ไม่ว่าจะมีผู้บาดเจ็บแค่ไหนก็ตาม และหากมีจำนวนมากเกินก็มีระบบส่งต่อได้ จึงขอช่วยอำนวยความสะดวกด้วย
ผลชันสูตรระเบิดเข้าหัวใจฉีกขาด
ด้าน นพ.ธีรโชติ จองสกุล ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ กล่าวว่า ผลการชันสูตรพลิกศพ น.ส.ธันยนันท์ หลังจากที่แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ จึงทำการชันสูตรพลิกศพร่วมกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน พนักงานอัยการ และพนักงานปกครอง เนื่องจากเป็นการตายผิดธรรมชาติ จากชันสูตรพบว่า เกิดจากหัวใจฉีกขาด มีเลือดออกในถุงเยื่อหุ้มหัวใจ เนื่องจากบาดแผลฉีกขาดทะลุเข้าบริเวณหน้าอก เป็นผลจากเศษโลหะวิ่งทะลุเข้าสู่ร่างกาย จึงเป็นสาเหตุการเสียชีวิต ในส่วนข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่ชัดเจนแพทย์คงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะกระบวนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมจึงต้องระมัดระวัง แต่จะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อสรุปให้แก่พนักงานสอบสวนต่อไป
“สภาพผู้บาดเจ็บรายนี้เมื่อมาถึงโรงพยาบาลอยู่ในสภาพต้องกู้ชีวิต เนื่องจากสัญญาณชีพไม่มี ซึ่งรายนี้เราไม่สามารถกู้ชีวิตได้” นพ.ธีรโชติ กล่าว
ลูกเหยื่อครวญศพถูกยื้อ
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 14.45 น. ครอบครัวและญาติ น.ส.ธันยนันท์เดินทางมารับศพ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดลุ่มเจริญศรัทธา ถนนจันทร์ โดยจะตั้งศพสวดอภิธรรม 7 วัน
น.ส.ภาวิณี เล้าทนันท์ อายุ 29 ปี บุตรสาวของ น.ส.ธันยนันท์ กล่าวว่า มารดามีอาชีพขายอาหารอยู่ย่านสีลม เดินทางมาบริเวณที่มีการชุมนุมครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง เคยเตือนมาตลอดให้ระวังตัว ไม่อยากให้เข้าร่วมชุมนุม แต่ผู้ตายมีอคติกับคนเสื้อแดง ที่เคยขับรถผ่านหน้าร้านขายของแล้วแสดงความก้าวร้าวทำให้ผู้ตายไม่พอใจเป็นอย่างมาก พอมีการชุมนุมที่ศาลาแดง มารดาจึงนำน้ำและดอกไม้ไปมอบเป็นกำลังใจให้แก่ทหาร และยืนสังเกตการณ์ทั่วไป
"แม่เป็นเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่อยากออกมาให้กำลังใจทหารเท่านั้นเพราะแม่ไม่เกี่ยวกับเรื่องสีเสื้ออยู่แล้ว ครั้งแรกที่ทราบข่าวจากทางทีวีว่าแม่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงกับช็อก รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้รับรู้ข่าวสารจากทางเจ้าหน้าที่ใดๆ เลย พอทราบจากทีวี จึงตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลต่างๆ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเลย แม่เสียชีวิตตอน 2 ทุ่มกว่า แต่เรามาทราบตอน 4 ทุ่ม รู้สึกเสียใจมาก แม่ต้องการแสดงพลังในสิทธิของเขาเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจในย่านสีลมแย่เอามากๆ หลังจากที่ นปช.มาชุมนุม" น.ส.ภาวิณี กล่าว
น.ส.ภาวิณี กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ประชาชนลำบากมากกว่านี้ และเสียใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง หรือเหตุการณ์ระเบิดต่างๆ ยืนยันว่ามารดาของตนความจริงไม่ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลแต่เสียชีวิตระหว่างอยู่บนรถที่จะนำส่งโรงพยาบาลและพวกเสื้อแดงก็พยายามยื้อแย่งศพ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นอย่างนี้
ด้านนางณัฐชา พิพัฒน์สกุล น้องสะใภ้ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายวิชัย เล้าทนันท์ สามีของนางธันยนันท์ ไม่ได้เดินทางมารับศพด้วย แต่เมื่อทราบว่านางธันยนันท์เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่แยกสีลมก็เป็นลมและต้องส่งเข้าโรงพยาบาล เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้านี้ ผู้ตายมีลูก 4 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 2 คน คนสุดท้ายชื่อน้องบิ๊ก อายุ 20 ปี เป็นออทิสติก ซึ่งผู้ตายเป็นห่วงมาก และนอนกอดกันทุกวัน
“ก่อนที่เขาจะออกจากบ้านย่านบางรักเพื่อไปขายอาหารตามสั่งแถวย่านศาลาแดง ได้บอกกับลูกสาวว่า ให้ช่วยดูน้องบิ๊กดีๆ แต่ก็ไม่คิดว่าออกไปแล้วจะไม่ได้กลับมา” นางณัฐชา กล่าว
นางณัฐชา กล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องทำอะไรสักที ไม่เข้าใจว่าทำไมอ่อนแอแบบนี้ และศพญาติของตนคงไม่ใช่ศพแรกและศพสุดท้าย
"อยากถามรัฐบาลว่า ถ้าเป็นพ่อแม่ญาติพี่น้องคุณ คุณจะปล่อยให้เจ็บ ให้ตายแบบนี้ไหม ส่วนคนเสื้อแดงมีผู้อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าคุณกั้นรถมูลนิธิเพื่อไม่ให้นำคนเจ็บเข้าโรงพยาบาล และยังเอาไม้ทุบรถ ถ้าเกิดเป็นญาติพ่อแม่พี่น้องคุณเจ็บต้องนำส่งโรงพยาบาลฉุกเฉินและถูกกั้นรถ พวกคุณจะรู้สึกยังไง ฝากบอกด้วยว่าจะให้ไหว้ก็ยอม ประเทศชาติไม่เหลืออะไรแล้ว" ญาติผู้เสียชีวิตกล่าว ผู้บาดเจ็บแฉโดนไล่ตีซ้ำ
นายวรเวทย์ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 34 ปี ผู้บาดเจ็บ ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าหลังทะลุปอด รักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ เป็นผู้ที่ถูกนำส่งขึ้นรถฉุกเฉินคันเดียวกับผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเพิ่งขึ้นมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศาลาแดง เพื่อไปรับงานแถว กสท เขตบางรัก แต่พอดีเจอเพื่อนจึงแวะคุยกันนิดหน่ายบริเวณหน้าบันไดธนาคารกรุงศรีอยุธยา คุยกันได้ไม่ถึง 5 นาที ก็มีระเบิดลงมา ลงตรงกลางถนนซึ่งเป็นจังหวะที่กำลังหันไปดู หลังจากนั้นก็มียิงระเบิดซ้ำมาอีก ครั้งนี้ผมเห็นไฟแวบขึ้นมา จากนั้นทุกคนที่อยู่แถวนั้นก็ล้มลงกันหมด และเท่าที่ดูเห็นว่าระเบิดมาจากฝั่งตรงข้ามที่มีการปิดถนน จากนั้นก็มีคนช่วยนำส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้นมีความพยายามสกัดรถไว้และเหมือนจะทำร้ายซ้ำ
“หลายๆ คนก็คงไม่ตาย ผมแค่ไม่เข้าใจเท่านั้นเอง เราทุกคนก็อยากให้ทุกคนมีความสุข เขาอยากเรียกร้องอะไรก็เรียกร้องไปสิ ทุกคนก็ต่างมีจุดยืนของกันละกัน แต่เขาเห็นชีวิตคนเป็นอะไร เราเองก็ไม่อยากให้เพื่อนร่วมโลกตายเหมือนกัน ผมไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่บาดเจ็บกันมาในรถ แต่กลับมีการซ้ำเติมกันอีก” นายวรเวทย์ กล่าว และว่า อยากบอกว่าคนไทยไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ขอให้คิดว่าทุกคนก็เป็นคน เขาบาดเจ็บอะไรมาอย่าไปซ้ำเติมเขา ทุกคนก็มีเอกสิทธิ์ที่จะไปหาหมอ อย่าให้ครอบครัวเขาได้รับความเสียใจจากสิ่งที่เกิดขึ้นเลย
นายสาโรจน์ กุลพฤกษ์ อายุ 55 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ รักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ กล่าวว่า ขณะกำลังอาบน้ำเตรียมออกจากบ้านไปรับลูกสาวตรงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งไปรับเป็นประจำอยู่แล้ว ระหว่างนั้นได้ยินรายงานข่าวว่ามีระเบิดลงหนึ่งลูก พอได้ยินแค่นั้นจึงรีบใส่เสื้อผ้าออกจากบ้านทันที กางเกงในก็ไม่ได้ใส่เพราะห่วงลูกสาว พอไปถึงตรงจุดเกิดเหตุ คนเยอะมาก ไม่รู้ว่าจะหาลูกสาวได้อย่างไร แต่ก็รีบมองหา พอดีเจอลูกยืนอยู่ ก็รีบเข้าไปหาเพื่อพากลับบ้าน จังหวะนั้นมีเสียงดังตูม ทำให้หูอื้อมาก และก็มีเลือดไหลลงมาจากหัว หันไปดูลูกสาว ลูกสาวบอกว่ารู้สึกเจ็บที่ท้อง จากนั้นก็ล้มลง จึงรีบพาลูกสาวมาโรงพยาบาล
นายสาโรจน์ กล่าวว่า หลังจากพาลูกสาวขึ้นรถมาถึงประตูฉุกเฉิน รพ.จุฬาฯ ปรากฏว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางคนคอยเอาไม้ไล่ตี ใส่เสื้อสีแดงทั้งนั้น ทุเรศที่สุด ขนาดคนเจ็บยังจะตีซ้ำอีก คนที่ทำแบบนี้ได้ไม่ว่าใครก็ถือว่าแย่ที่สุด
น.ส.จิราภรณ์ สามสกุล อายุ 20 ปี มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย รักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างทางกลับบ้านที่ถนนสีลม เดินมาคนเดียว ไม่ได้เข้าร่วมชุมนุม เพราะกลับจากเรียนที่มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ พอเดินผ่านหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่เป็นจุดเกิดเหตุ ก็มีเสียงดังบึ้มมาจากด้านหลังจึงหันไปดู เห็นว่าเป็นระเบิด แต่มองไม่เห็นว่ายิงมาจากจุดไหน จึงรีบหันกลับเพื่อเดินต่อ ก็มีระเบิดลูกที่ 2 ลงมาอีก ทำให้ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ ขมับด้านซ้าย หน้าท้องและบริเวณแขน นายบุญญเกียรติ ศรีโพธิ์งาม อายุ 23 ปี ผู้บาดเจ็บที่เข้ารักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดเป็นแผลที่หัวไหล่ขวา ขาและเท้าขวา เล่าว่าช่วงเกิดเหตุการณ์กำลังเดินขึ้นจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ศาลาแดง ได้ยิงเสียงระเบิดดังขึ้น คนที่ขึ้นบันไดเกือบถึงข้างบนก็วิ่งหนีออกไป สักพักได้ยินเสียงตูมอีกครั้ง จึงรีบลงไปหลบที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็มีทหารมารับตัวไปทำแผลบนทางเดินรถไฟลอยฟ้า
นายบุญญเกียรติ กล่าวอีกว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น รู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะพูดคุย แต่ก็อยากให้ทุกฝ่ายหันมาคุยกันเพื่อให้บ้านเมืองสงบ คิดว่าสุดท้ายก็คงต้องหันหน้ามาคุยกันอยู่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง"ปทีป"หนักใจคุมม็อบ2ฝ่ายปัดตอบตร.เกียร์ว่าง แดงยอมเจรจารบ.เงื่อนไข30วันยุบสภาหลากสีนัดชุมนุมเสาร์-อาทิตย์นี้ร้องแดง-แม้วยุติลูกสาวเหยื่อยิงเอ็ม79ถล่มสีลมร่ำไห้รับศพแม่"ปฐมพงษ์"เชื่อมือยิงเอ็ม79ถล่มสีลมมีมากกว่าหนึ่ง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Friday, April 23, 2010
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Blog Archive
-
▼
2010
(436)
-
▼
April
(140)
- 5 ทีมดีไซน์เลือดใหม่ ไอเดียบรรเจิด
- สครับรับสุดสัปดาห์
- INSIDE SLS ENGINE
- รพ.จุฬาฯทยอยย้ายผู้ป่วยในไปรพ.ศิริราช
- แดงไม่บุกร.พ.จุฬาแกนนำเครียดติดลบ
- ชายหญิงคิดสวนทางกันยามเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เคร่งเ...
- นักปราชญ์เตือนระวังภัยมนุษย์ต่างดาว ให้เลี่ยงหนีจะ...
- โบท็อกซ์น็อกอัมพาต รักษาคนไข้อัมพาตแบบสั่นและโรคหง...
- นอนกัดฟัน ระวัง ฟันร้าว อาจทำให้เสียฟันโดยไม่รู้ตัว
- หนุ่มสาวรุ่นใหม่เติมไฟก่อนเปิดเทอม
- งาน เวดดิ้ง แฟร์ สุดโรแมนติกโชว์ชุดเจ้าสาวมูลค่า 5...
- หมอแนะสตรีมีอาการก่อนมีประจำเดือนกินยาแล้วออกกำลัง...
- รวมพลังคนไทยหัวใจเดียวกัน
- ตื่นตากับแอฟริกาที่ปลายเล็บ
- เปิดพื้นที่วัฒนธรรมเทิดไท้องค์ราชันย์
- แพทย์เผยหญิงไทยมีอาการน่าวิกฤติกับอาการก่อนมีประจำ...
- แนะ เรียนก่อนนอน-นอนให้ฝัน จะจดจำได้แม่นยำ
- ข้าวแช่ อาหารไทยหน้าร้อน
- เมินเสื้อเกราะ ‘นักข่าวไทย’ ประจำม็อบห้อยพระคุ้มครอง
- เขียนแผ่นดินด้วยหัวใจเดียวกัน
- TSL ถอยเบนซ์แวนสปอร์ตเฉียบ E-Class Estate โฉมใหม่เ...
- ปิ้งไป..ยิ้มไป กล้วยปิ้งพี่อ๋อยตลาดคลองเตยอร่อยได้...
- เหนื่อยนักก็พักก่อน... คลายเครียดสบายๆสไตล์ ซีอีโอ
- Spa at Home ผ่อนคลายง่ายๆ ด้วยตัวเอง
- BLUE HARBOUR ร้านตัดผมในฝันของสถาปนิกดัง
- เปลือกกุ้งรักษา อัมพาต หมอหวังซ่อมไขสันหลัง เสียหา...
- แรงบันดาลใจจากเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป ถ่ายทอดสู่...
- คาถาสู้โลกร้อน...ชนะโรคร้าย!!
- เอ็ม ศิรประภา จีระพันธุ์ ถักนิตติ้งเติมเต็มหญิงรุ...
- คสช.ไฟเขียวจัดตั้งคกก.พัฒนาระบบการเงินการคลังด้านส...
- แพทย์เผยพระเทพฯทรงห่วงเหยื่อบึ้มสีลม
- ชูคุณค่าแห่งรักด้วยศิลป์ไทย
- โซไซตี้ประจำวันที่ 24 เม.ย.
- ในหลวงราชินีทรงห่วงเหยื่อบึ้มสีลมรับไว้ในพระบรมราช...
- สำนักธรรมวัดโสธรแตกพระครูแห่ย้ายสึกหนีปัญหา
- พักฟรีเลยจ้า...
- วิมานหรูพันล้าน...
- ใครอะไรที่ไหนประจำวันที่ 22 เม.ย.
- โซไซตี้ประจำวันที่ 22 เม.ย.53
- ครูบาอุกแก๊ส จาก...เชียงใหม่ถึงกรุงเทพฯ เกลื่อน!
- ฟังเสียงรุ่นใหม่คิดงัยกับม็อบ??
- ช่วยผู้หญิงถูกตัดเต้า เพราะมะเร็งได้แล้ว ทำให้นมงอ...
- คนแก่ เข่าเสื่อม มักถามหาผ่าตัดเสริมข้อเทียม...สร้...
- ‘สัมผัสสะท้าน’ ต้านความเครียดให้คู่รัก
- ชี้ไทเกอร์ วูดส์ก่อคดีตัวอย่าง มีชู้ทางเทคโนโลยี
- เปิดโลกความหรูหราระดับตำนาน โรงแรมเคมปินสกี้
- รับลมร้อนด้วย ประกายเพชร ไข่มุกเม็ดงาม
- แนะนำหนุ่มสาวออฟฟิศออกกำลังกายง่ายๆ
- เสียงลำโพงแดงกระทบสมเด็จพระสังฆราช
- หลวงพ่อวงศ์ พระนักสร้างถนน...ดับแดนแดง
- สกู๊ป ผู้หญิง กับการบริหาร เงิน
- ตลาดนัดงานศิลป์ (พฤหัสบดีที่15 เม.ย.53)
- สงกรานต์ กลับบ้านเรา
- ตามรอยปราชญ์...ฟื้นเพลงพื้นบ้าน (ภาคกลาง)
- ทวี เกษางาม ถ้ามือโตหัวลีบ ก็เหมือนช่างเขียนงานก๊...
- สงกรานต์ที่ปลายด้ามขวาน ปีติแห่งวิถีไทยอิ่มบุญแบบ...
- ที่หนึ่ง คือ ครอบครัว
- หน้าปัดรถยนต์ยุคใหม่
- 5 โรคร้าย...ทำลายชีวิตวัยเกษียณ
- สธ.ประสานเรือด่วนกู้ชีพกว่า40ลำรปภ.ลำน้ำ
- พิษการเมืองไฮโซมองเหตุคนไทยสุขน้อยลง
- รักสุขภาพ...
- โซไซตี้ประจำวันที่15 มี.ค.
- ใครอะไรที่ไหนประจำวันที่ 15 มี.ค.
- พระว.วชิรเมธีเตือนสติแดงอย่าชุมนุมเพื่อคน
- เปลี่ยนลุค รับร้อน
- ไปโรงเรียนแล้ว!
- พระราชินีสวีเดน ทรงชื่นชมสปิริตคนไทย แม้บ้านเมืองว...
- 120 ปีการันตี ฝีมือ เลี่ยว เลี่ยง เซ้ง สุดยอดของอา...
- สงกรานต์ กลับบ้านเรา
- โซไซตี้ประจำวันที่10 เม.ย.
- รูขุมขนกระชับ
- เตรียมรถไปท่องเที่ยว
- สังคมสุดสัปดาห์ประจำวันที่10เม.ย.
- ไขปัญหาสุขภาพแผนจีน ออกกำลังกายคลายปวดหลัง
- ยกพลยลของเล่นเฟอร์รารี่458อิตาเลีย
- ความสมดุลแห่งประชาธิปไตย
- ตามดูคนดังแต่งบ้านรับลมร้อน
- สงกรานต์ กลับบ้านเรา
- โซไซตี้ประจำวันที่10 เม.ย.
- ปรากฏการณ์ตู้ตั๋วแตกในการบรรยายที่ศูนย์การประชุมแห...
- รูขุมขนกระชับ
- เตรียมรถไปท่องเที่ยว
- สังคมสุดสัปดาห์ประจำวันที่10เม.ย.
- ไขปัญหาสุขภาพแผนจีน ออกกำลังกายคลายปวดหลัง
- ยกพลยลของเล่นเฟอร์รารี่458อิตาเลีย
- ความสมดุลแห่งประชาธิปไตย
- ตามดูคนดังแต่งบ้านรับลมร้อน
- สงกรานต์ กลับบ้านเรา
- โซไซตี้ประจำวันที่10 เม.ย.
- ปรากฏการณ์ตู้ตั๋วแตกในการบรรยายที่ศูนย์การประชุมแห...
- รูขุมขนกระชับ
- เตรียมรถไปท่องเที่ยว
- สังคมสุดสัปดาห์ประจำวันที่10เม.ย.
- ไขปัญหาสุขภาพแผนจีน ออกกำลังกายคลายปวดหลัง
- ยกพลยลของเล่นเฟอร์รารี่458อิตาเลีย
- ความสมดุลแห่งประชาธิปไตย
- ตามดูคนดังแต่งบ้านรับลมร้อน
- สงกรานต์ กลับบ้านเรา
- โซไซตี้ประจำวันที่10 เม.ย.
-
▼
April
(140)
No comments:
Post a Comment