Tuesday, April 20, 2010

คนแก่ เข่าเสื่อม มักถามหาผ่าตัดเสริมข้อเทียม...สร้างสุขวัยชรา

คนแก่ เข่าเสื่อม มักถามหาผ่าตัดเสริมข้อเทียม...สร้างสุขวัยชรา

ถึงแม้จะเห็นว่าคุณปู่คุณย่าคุณ ตาคุณยายของเรา มีอายุยืนยาวก็ตาม แต่ความแข็งแรงทนทานของกระดูกนั้นก็ต้องเสื่อมสภาพไปตามอายุที่มากขึ้นด้วย ซึ่งลูกๆ หลานๆ อาจไม่ทราบว่า ญาติผู้ใหญ่บางท่านต้องทนเจ็บปวดกับอาการ ข้อเข่าเสื่อม จนทำให้เดินเหินไม่สะดวกส่งผลให้ชีวิตบั้นปลายไม่มีความสุขเท่าที่ควร ดังนั้นหากอยากเห็นญาติผู้ใหญ่ที่เรารักมีสุขภาพแข็งแรง และมีรอยยิ้มที่สดใสควรหันมาใส่ใจท่านซักนิดเป็นที่ทราบกันดีว่า โรคข้อเข่าเสื่อมมักเกิดกับคนแก่ แต่ปัจจุบันผู้ที่เป็นโรคนี้กลับมีอายุน้อยลงประมาณ 40-50 ปีก็เริ่มเป็นกันแล้ว นพ.สมบัติ โรจน์วิโรจน์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ศูนย์กระดูกและข้อกรุงเทพโรงพยาบาลกรุงเทพให้ความรู้ว่าข้อเข่าสามารถยืน เหยียดงอ และเดินได้ มีหน้าที่รับน้ำหนัก และทรงตัว จากการสำรวจพบว่าปัญหาข้อเข่าเสื่อมมักเกิดกับผู้สูงอายุที่มีอายุประมาณ 60-70 ปี เพราะใช้ข้อเข่ามานาน และมักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่าเพราะลักษณะของโครงสร้างและฮอร์โมนที่แตกต่างกันนอกจากนี้ยังมีปัจจัย อื่นอีก เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก เล่นกีฬาหนักๆ เจ็บแล้วยังฝืนทนเล่นหรือผู้ที่อยู่ในท่าทางการใช้งานของข้อเข่ามาก เช่น นั่งท่าเดียวนานๆ การคุกเข่านานๆ หรือการนั่งยองๆ นานๆโดยอาการที่พบ คือ เรื่องความเจ็บปวดของข้อ และข้อบวม หรืออาการข้อขัด เช่น ตื่นนอนเช้ามารู้สึกขยับข้อได้ลำบากหรือบางคนนั่งนานๆ เวลาลุกขึ้นยืนหรือเดินไปแล้วรู้สึกฝืดแต่พอเดินไปซักประมาณ 4-5 ก้าวจึงจะเป็นปกติดีขึ้น หรือรูปร่างขาโก่ง ขาเหยียดได้ไม่สุด หรือคนที่เล่นกีฬาหนักๆ รวมทั้งคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะอาจจะเป็นตัวส่งเสริมให้ข้อเข่าเสื่อมได้ง่าย หรือการสวมใส่รองเท้าส้นสูงอาจจะไม่เป็นโดยตรงแต่ในอนาคตอาจจะเป็นส่วนหนึ่งได้ ซึ่งถ้ามีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาด้วยวิธีต่างๆ เช่นกินยา หรือบำบัดอาการทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การมีคุณภาพชีวิตถดถอยลงเพราะไม่สามารถใช้เข่าได้ตามปกติ ทำให้รู้สึกว่าอยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากทำกิจกรรมใดๆ อาทิ การออกไปเที่ยว และการออกกำลังกาย ส่งผลให้คุณภาพชีวิตแย่ลงไปเรื่อยๆ เราจึงมองว่าการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมให้คนไข้จะช่วยกระตุ้นให้มีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดไม่ใช่วิธีการแรกที่จะใช้กับคนไข้ แต่จะต้องเป็นผู้ป่วยที่รักษามานานแล้ว เช่น ผู้ที่กินยา กายภาพบำบัดฉีดยา มาหมดแล้วแต่ยังไม่หายจึงต้องพิจารณาให้ผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดทำให้เกิดการแก้ไขรูปร่างที่ผิดปกติได้ และการขยับพับข้อได้ใกล้เคียงกับปกติได้ทำให้ข้อมั่นคง และแข็งแรง กลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้การผ่าตัดรักษาอาการข้อเข่าเสื่อมแล้วใส่ข้อเข่าเทียมจะมีบาดแผลผ่าตัดอยู่ตรงด้านหน้าลูกสะบ้า โดยวิธีการผ่าจะตัดส่วนกระดูก หรือข้อที่เสียออกรวมทั้งลูกสะบ้าด้วยในบางรายที่เป็นสึกมาก ส่วนสิ่งที่เราใส่เข้าไปแทนนั้นคือข้อเทียมโดยข้อเทียม คือข้อเข่าที่ทำขึ้นมาจากโลหะและพลาสติก ทำเลียนแบบข้อเข่าเพื่อใช้ในการผ่าตัดใส่แทนข้อเข่าปกติ ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นชิ้นหลักๆ อยู่ 3 ชิ้น คือชิ้นที่เป็นตัวผิวสัมผัสกระดูกต้นขาส่วนปลาย ชิ้นที่เป็นตัวรับน้ำหนักที่อยู่ตรงกระดูกหน้าแข้งส่วนต้น และชิ้นที่อยู่ตรงกลางเป็นตัวผิวสัมผัสที่เป็นพลาสติกที่มีทั้งส่วนที่เป็น โลหะ และพลาสติก ซึ่งโลหะเป็นโลหะผสมที่ดีเกิดปฏิกิริยาต่อร่างกายน้อย ส่วนตัวแผ่นพลาสติกที่เป็นตัวสัมผัสก็เป็นพลาสติกอัดแน่นมีคุณภาพดี ทนทานสึกหรอน้อยสำหรับลูกสะบ้าที่อยู่ด้านหน้าผิวจะเปลี่ยนหรือไม่ขึ้นกับว่าเสียมากหรือน้อย ซึ่งถ้าเปลี่ยนก็จะใช้เป็นตัวพลาสติกฉะนั้นลูกสะบ้าอาจไม่ใช่ตัวที่สำคัญที่ สุดอย่างที่เราเข้าใจกันแต่ตัวที่สำคัญที่สุดคือตัวผิวสัมผัสกับตัวโลหะที่ เคลือบอยู่ตรงปลายกระดูก เพราะเป็นตัวที่เราแก้มุมขาที่โก่ง และเป็นตัวที่แข็งแรงในการยืนเดิน โดยแพทย์จะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง หลังผ่าตัดจะทำการกายภาพบำบัดโดยเร็วสำหรับวิธีการออกกำลังกายทั่วไปของผู้ที่เป็นข้อเข่าเสื่อม คือ ลดแรงกระแทกที่เข่าบางคนชอบวิ่งขึ้น-ลงเนิน หรือกระโดด ถ้าเราเลี่ยงได้ก็จะดี หรือบางคนที่เริ่มสูงวัยอาจจะใช้วิธีเดินเร็ว ว่ายน้ำ และถีบจักรยาน ส่วนวิธีการบริหารกล้ามเนื้อรอบ ๆ เข่า เช่น นั่งแล้วเหยียดขาให้ตรงแล้วเกร็งกล้ามเนื้อหน้าขา นับ 1-10 แล้วหย่อนลงทำประมาณ 30 ครั้งต่อรอบหรือวันละ 100 ครั้งซึ่งเป็นวิธีที่เราอาจจะทำที่บ้านหรือที่ทำงานก็ได้ หรือใครที่สงสัยว่าเป็นจะข้อเข่าเสื่อมอาจจะยังไม่ต้องทำอะไรมากเพียงแค่ ประคบด้วยน้ำร้อน และบริหารกล้ามเนื้อ ถ้าอาการหายก็แปลว่าเป็นแค่เส้นตึง จากนั้นลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดูหรือบางรายเริ่มอักเสบมีอาการบวมแดง ต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการเอ็กซเรย์ อาจจะต้องเริ่มรักษาด้วยการรับประทานยา หรือทานอาหารเสริมหรือดื่มนมที่มีส่วนผสมแคลเซียมก็มีประโยชน์ช่วยบำรุง กระดูกแต่ต้องเลือกที่ไขมันต่ำนพ.สมบัติยังแนะนำผู้ป่วยหรือผู้ที่มีญาติป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมให้เข้าร่วม โครงการข้อเข่าเข้มแข็ง 2553 เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมกันมากโดยดูจากจำนวนคิวผู้ที่รอ ผ่าตัดในโรงพยาบาลของรัฐบาลแล้วต้องรอนานถึง 6 เดือน ทางศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลกรุงเทพ จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ รักษาภาวะข้อเข่าเสื่อมด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจำนวน100 ข้อ เพื่อคนไทยและลดภาระการผ่าตัดในโรงพยาบาลของรัฐที่มีผู้ป่วยมากและผู้ ป่วยอดทนรอการผ่าตัดเป็นเวลานานรวมทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยด้วย ราคาที่เหมาะสมหากใครที่มีอาการข้อเข่าเสื่อม หรือมีญาติผู้ใหญ่ที่กำลังทนทุกข์กับอาการเจ็บปวดข้อเข่าจนชีวิตไม่เป็นสุข สามารถเข้าร่วมโครงการเพื่อรับการรักษาได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2553 สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.1719ที่มา : ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ
 www.bangkokhospital.com www.bangkokhealth.com


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive