Friday, April 23, 2010

แพทย์เผยพระเทพฯทรงห่วงเหยื่อบึ้มสีลม

แพทย์เผยพระเทพฯทรงห่วงเหยื่อบึ้มสีลม



คมชัดลึก :รพ.จุฬาฯแถลงผลชันสูตรพลิกศพ เหยื่อบึ้มสีลม ถูกเศษโลหะทะลุหน้าอก หัวใจฉีกขาด แถมเลือดออกในถุงเยื่อหุ้มหัวใจ พร้อมรอลุ้นผู้บาดเจ็บผ่าตัดสมอง รับอาการน่าห่วง เผยพระเทพฯทรงห่วงปชช.บาดเจ็บ รับสั่งแพทย์ทำงานเต็มที่







ที่อาคารอนันทมหิดล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 เม.ย. ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวสรุปผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ถนนสีลมที่เข้ารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า เมื่อคืนวันที่ 22 เมษายน มีผู้บาดเจ็บเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจำนวน 19 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 8 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 10 และเสียชีวิต 1 ราย โดยในรายที่เสียชีวิตทางศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ โรงพยาบาลจุฬาฯ ได้ทำการชันสูตรพลิกศพแล้ว และให้ญาติรับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป สำหรับในส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวนั้น มี 1 ราย ที่อาการรุนแรงได้รับบาดเจ็บที่สมองมาก โดยบาดเจ็บไปถึงสมองส่วนใน อาการไม่ดีนัก ยังน่าเป็นห่วง ซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองซ้ำครั้งที่ 2 ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากสะเก็ดระเบิด
 “รายนี้ยังไม่มีญาติมาติดต่อ แต่เมื่อคืนนี้ช่วงเวลา 01.00 น. ของวันเกิดเหตุ มีญาติมาติดต่อขอดู แต่เนื่องจากอยู่ในห้องผ่าตัดช่วยเหลืออยู่ จึงยังไม่สามารถที่จะระบุได้” ศ.นพ.อดิศร กล่าว
 ด้าน นพ.ธีรโชติ จองสกุล ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ กล่าวว่า ผลการชันสูตรพลิกศพ น.ส.ธันยนันท์ แถบทอง อายุ 50 ปี ที่เสียชีวิตจากการบาดเจ็บเหตุการณ์ถนนสีลม เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งหลังจากที่มีการนำส่งแพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ จึงได้ทำการชันสูตรพลิกศพช่วงเช้าที่ผ่านมา ร่วมกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน พนักงานอัยการ แลพนักงานปกครอง เนื่องจากเป็นการตายผิดธรรมชาติ ซึ่งจากชันสูตรพบว่า เกิดจากหัวใจฉีกขาด มีเลือดออกในถุงเยื้อหุ้มหัวใจ เนื่องจากบาดแผลฉีกขาดทะลุเข้าบริเวณหน้าอก เป็นผลจากเศษโลหะวิ่งทะลุเข้าสู่ร่างกาย จึงเป็นสาเหตุการเสียชีวิต ทั้งนี้ในส่วนข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่ชัดเจนทางแพทย์คงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะกระบวนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนยุติธรรมจึงต้องระมัดระวัง แต่จะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อสรุปให้กับพนักงานสอบสวนต่อไป
 “สภาพผู้บาดเจ็บรายนี้เมื่อมาถึงโรงพยาบาลอยู่ในสภาพต้องกู้ชีวิต เนื่องจากสัญญาณชีพไม่มี ซึ่งรายนี้เราไม่สามารถกู้ชีวิตได้”
 ต่อข้อซักถามว่า กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตวิถีการยิงระเบิดเอ็ม 79 ลงมาจากชั้น 5 อาคาร ภปร. มีความเป็นไปได้หรือไม่  ศ.นพ.อดิศร กล่าวว่า ตรงบริเวณชั้น 5 ไม่มีระเบียง ดังนั้นการจะตั้งยิงจากตรงบริเวณดังกล่าวจึงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งเมื่อดูวิถีการยิงแล้ว หากยิงจากอาคาร ภปร. วิถีการยิงต้องข้ามสะพานลอยด้านหน้าโรงพยาบาล ตรงแยกพระราม 4 และยังมีอาคารขวางอีก จึงไม่เป็นไปได้ยาก และไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย อีกทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุแล้วว่า วิถีกระสุนน่าจะมาจากฝ่ายความมั่นคง
  ศ.นพ.อดิศร กล่าวทิ้งท้ายว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยอาการของประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ รับสั่งให้บุคลากรทางการแพทย์ ทำงานอย่างเต็มที่ดูแลผู้ป่วยทุกรายที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงบุคลากรเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จะดูแลคนไข้ทุกคนไม่ว่าเป็นใครก็ตาม แต่ขอให้แพทย์ทำงานอย่างสงบ ซึ่งเราสามารถดูแลสถานการณ์ได้ ไม่ว่าจะมีผู้บาดเจ็บแค่ไหนก็ตาม และหากมีจำนวนมากเกินก็มีระบบส่งต่อได้ จึงขอช่วยอำนวยความสะดวก
 จากรายชื่อผู้บาดเจ็บที่เข้ารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ผู้บาดเจ็บสาหัสที่ต้องผ่าตัดสมองและยังอยู่ในห้องไอซียูชื่อ นางจารุวรรณ ชุนละออง อายุ 43 ปี
 สำหรับก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 14.45 น. ทางครอบครัวและญาติ นางธันยนันท์ แถบทอง ได้เดินทางมารับศพ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดลุ่มเจริญศรัทธา ถนนจัน โดยจะตั้งศพเพื่อสวดอภิธรรม 7 วัน ซึ่งในช่วงเย็นนี้จะมีพิธีรดน้ำศพ  โดยมีนางสาวเมนิศา เล้าทนันท์ อายุ 26 ปี เป็นบุตรสาวคนที่ 2 เป็นผู้ถือรูป และนายพัชระ เล้าทนันท์ อายุ 23 ปี บุตรชายคนที่ 3 เป็นถือกระถางธูป เพื่อนำศพไประกอบพิธีทางศาสนา ขณะที่นายวิชัย เล้าทนันท์ สามีผู้เสียชีวิตไม่ได้เดินทางมารับศพด้วยตนเอง ทั้งนี้นางธันยนันท์ เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2502 ปัจจุบันอายุ 50 ปี
 นางณัฐชา พิพัฒน์สกุล น้องสะใภ้ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายวิชัย เล้าทนันท์ สามีของนางธันยนันท์ ไม่ได้เดินทางมารับศพด้วย แต่เมื่อทราบว่านางธันยนันท์เสียชีวิตจากเหตุระเบิดแยกสีลมก็เป็นลมและต้องส่งเข้าโรงพยาบาล และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้านี้ ทั้งนี้นางธันยนันท์มีลูก 4 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 2 คน โดยคนสุดท้ายชื่อน้องบิ๊ก อายุ 20 ปีเป็นออทิสติกส์ ซึ่งนางธันยนันท์เป็นห่วงมาก และนอนกอดกันทุกวัน
 “ก่อนที่นางธันยนันท์จะออกจากบ้านย่านบางรักเพื่อไปขายอาหารตามสั่งแถวย่านศาลาแดง ได้บอกกับลูกสาวว่า ให้ช่วยดูน้องบิ๊กดีๆ แต่ก็ไม่คิดว่าออกไปแล้วจะไม่ได้กลับมา” นางณัฐชา กล่าว และว่า ตนไม่รู้ว่านางธันยนันท์ไปร่วมชุมนุมหรือไม่ เพราะปกติก็ขายอาหารอยู่ย่านนั้นอยู่แล้ว  
 นางณัฐชา กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายทั้งหมดต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าฝ่ายเสื้อแดงหรือรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลเองก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ที่ไม่ดูแลให้สถานการณ์เรียบร้อย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนไม่เกี่ยวข้องต้องบาดเจ็บและตายไปด้วย
ม.บูรพาแถลงการณ์ประชาคมวอนทุกฝ่ายยุติความรุนแรง
 ที่มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี นายสัมฤทธิ์ ยศสมศักดิ์ อธิการบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้จัดการสัมมนาหาทางออกการแก้ไขปัญหาวิกฤติความรุนแรงในประเทศ โดยมีคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยบูรพาร่วมกับนิสิตของมหาวิทยาลัยบูรพาประมาณ 80 คนมาร่วมเสนอแนวความคิดหาทางออกในการชุมนุมของกลุ่มสีเสื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแดง หรือ เสื้อหลากสี ในการประชุมครั้งนี้ได้เสนอแนวทางไม่ให้ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม
 โดยได้ข้อสรุปคือ ให้ทุกฝ่ายอดทนอดกลั้นแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยไม่ใช้ความรุนแรง รวมทั้งให้รัฐบาล ผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม และสื่อมวลชน หยุดการกระทำที่ไปสู่การยั่วยุ ปลุกระดมประชาชน และเกิดการเผชิญหน้า เกลียดชังซึ่งกันและกัน ให้ทุกฝ่ายหันมาใช้หลักสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรมในการแก้ไขปัญหา หากรัฐมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการในการดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบ
 นอกจากนี้ รัฐต้องดำเนินการภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน สมเหตุสมผลและชี้แจงได้ รวมไปถึงรัฐควรเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายใช้สื่อสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน และควรจะมีการเจรจาต่อรองด้วยสันติ รวมทั้งประการสุดท้ายให้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รอบด้าน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการเข้าถึงทรัพยากรอย่างเป็นธรรม ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวจะส่งไปให้รัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง








ข่าวที่เกี่ยวข้องลูกสาวเหยื่อยิงเอ็ม79ถล่มสีลมร่ำไห้รับศพแม่"ปฐมพงษ์"เชื่อมือยิงเอ็ม79ถล่มสีลมมีมากกว่าหนึ่ง ฟินแลนด์ปิดสถานทูตหนีม็อบแดงไปหมู่บ้านปัญญาดีเอสไอชี้โทษเมธีถึงขั้นประหารชีวิต สมศักดิ์รอนายกฯ-สุเทพติดต่อคุยแก้ไขรธน.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive