Wednesday, April 14, 2010

หน้าปัดรถยนต์ยุคใหม่

หน้าปัดรถยนต์ยุคใหม่

การหมั่นสังเกตอุปกรณ์ที่ใช้วัดซึ่งอยู่ภายใต้กรอบหน้าปัดกลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้รถยนต์ของทุกท่าน เวลาได้เดินทางมาถึงยุคใหม่ของจักรกลที่ใช้ขับเคลื่อน หน้าปัดรถยนต์ในยุคนี้มีความพิเศษเพิ่มมากขึ้น ทั้งรูปแบบ สีสัน และความฉลาดแสนรู้ นำพาไปสู่การขับขี่ที่น่าอภิรมย์...BMW 335i Speed And RPM Meter
หน้าปัดของรถยนต์เป็นอุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่ง ทำหน้าที่แจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ ของแทบทุกระบบที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อนรถยนต์ในขณะที่กำลังใช้งาน ซึ่งมีทั้งค่าความเร็ว การทำงานของรอบเครื่อง ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และปริมาณความร้อนของเครื่องยนต์ สัญลักษณ์แจ้งเตือนความปกพร่องต่างๆ ในรถบางรุ่นยังมีจอ LCD ขนาดจิ๋วอยู่ตรงบริเวณกึ่งกลาง ซึ่งมักติดตั้งไว้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทำหน้าที่คอยเช็คและส่งถ่ายข้อมูลที่จำเป็นต่อการขับขี่ให้กับผู้ขับได้รับรู้ ผู้ใช้รถบางราย นอกจากตกลงปลงใจที่จะเลือกรูปทรงของตัวรถแล้ว หน้าปัดและอุปกรณ์ยังมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์รุ่นนั้นๆ อีกด้วย และหากเปรียบเทียบกันแล้ว หน้าปัดของรถยนต์เป็นอุปกรณ์อีกสิ่งหนึ่งที่เจ้าของรถจะต้องจ้องมองมันไปอีกนาน จนกว่าจะขายหรือใช้จนพังกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว หากหน้าปัดและอุปกรณ์ภายในขาดความสวยงามน่ามอง ถูกออกแบบมาอย่างห่วยๆ สภาพการขับขี่คงจะจำเจ และขาดความสุนทรีย์ไปเยอะเลยทีเดียว Jaguar E-Type Speed And RPM Meter
ในยุคปัจจุบันของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ นอกเหนือไปจากการดีไซน์รูปทรงภายนอกของรถ ที่ต้องมีเส้นสายความโค้งมนของเหลี่ยมมุมต่างๆ ให้ออกมาสมดุลย์ สวยงามน่าขับแล้ว วิศวกร นักออกแบบ และสถาปนิกชื่อดังของโลกยนตรกรรมยังต้องมุ่งเน้นไปที่การออกแบบห้องโดยสาร และการตกแต่งภายในให้ออกมาสวยงามดูดี ภายในของรถยนต์ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี สามารถทำให้การตัดสินใจ หรือมีส่วนสำคัญในการจูงใจลูกค้าที่จะเลือกซื้อรถยนต์ของค่ายนั้นๆ อีกด้วย นานมาแล้วที่หน้าปัดและอุปกรณ์ถูกออกแบบได้อย่างไร้ที่ติ ราวกับงานปฎิมากรรมชั้นเยี่ยม ในยุคเวลาที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ไม่ไช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องรีบเร่ง การสร้างหน้าปัดของรถยนต์บางรุ่นในยุค 1930-1960 มีความงดงามคลาสสิก และทำงานได้อย่างเที่ยงตรง ประดุจนาฬิกาชั้นดีจากสวิตเซอร์แลนด์เลยทีเดียว ความปราณีตดังกล่าว ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อให้เจ้าของรถบังเกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุดในระหว่างขับขี่ใช้งาน Mazda 3 MPS
Mitsubishi NewLancer
Mazda MX5
Mazda RX8
Mercedes Benz E-Class Coupe
แนวทางการออกแบบหน้าปัดของรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น เริ่มเข้าใกล้กับคำว่าสมบูรณ์แบบ ด้วยการใช้รูปแบบของกระบอกทรงกลมสองวง โดยมีบริษัท Mazda เจ้าของสโลแกน Zoom Zoom เป็นผู้ริเริ่ม ที่นำเอาหน้าปัดสไตล์สปอร์ตของรถยุโรปอย่าง Alfa Romeo มาผสมกับแนวทางในแบบตะวันออกของตัวเองได้อย่างกลมกลืน จากนั้นหน้าปัดในลักษณะดังกล่าว เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยสามารถพบเห็นได้ในรถ Honda Jazz/ Honda City/ Mitsubishi NewLancer/ Mazda 3/MX5/RX8/ หน้าปัดเหล่านี้จากที่เคยมีสีเขียว หรือสีขาว ยามเปิดสวิชท์ใช้งานในตอนกลางคืน ก็หันมาใช้โทนสีแดง สีฟ้าหรือสีส้ม เพื่อความร้อนแรง สวยงาม และอ่านค่าได้อย่างชัดเจนในเวลาค่ำคืน ส่วนหน้าปัดแบบเรียบๆ แต่มีสีสันที่โดดเด่นคือหน้าปัดของรถยุโรปจากค่าย Volkswagen Passat/ Golf/ Scirocco/ BMW Series1/3/5/7 Mercedes Benz C-Class/E-Class/S-Class/Slk/E-Coupe/ Alfa Romeo 159/Brera/GT/ AudiA4/A5/A6/A8 /TT ทั้งหมดยังคงบ่งบอกความเป็นตัวตนของรถยนต์ชาติพันธุ์เยอรมันและอิตาเลียนได้เป็นอย่างดี สัญลักษณ์ตัวอักษรที่นิยมใช้ มักจะเป็นแบบตัวเลขสีขาว เข็มวัดรอบและความเร็วสีแดง บนพื้นสีดำหรือเทา โดยมีจอ LCD เล็กๆ ตรงกึ่งกลาง เพื่อแจ้งข้อมูลที่สำคัญของตัวรถ ในระหว่างการใช้งาน พร้อมสัญลักษณ์แจ้งเตือน ทั้งสัญญานเสียงและรูปแบบของสัญลักษณ์ในลักษณะต่างๆMaserati watch
Mercedes Benz IWC watch in CLS-AMG
Rolls Royce Phantom Watch And Speed Meter
Porsche 911/997 GT3 Chronometer In The Cockpit
Bentley Continental GT With Breitling
หน้าปัดและอุปกรณ์ภายในของรถยนต์แบบซุปเปอร์คาร์ ก็มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จากระบบอนาล็อกเข้าสู่ยุคดิจิตอล แต่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ด้วยการใช้เข็มเป็นมาตรวัด ในรถยนต์บางรุ่นอย่าง Porsche 911/997 นอกจากการออกแบบให้หน้าปัดของหน่วยการวัดทั้งห้าวงอยู่ซ้อนกันแล้ว ยังมีนาฬิกาจับเวลาแบบโครโนมิเตอร์แถมมาให้อีกด้วย ส่วนภายใน Cockpit ของรถ Maserati ทุกรุ่น ในอดีตจนถึงยุคปัจจุบัน มีการนำเอานาฬิกาแบบเข็มอนาล็อกหน้าปัดสีขาวหรือสีทอง เข็มสีเงิน มาติดตั้งไว้ในบริเวณคอนโซลกลาง ช่วยเพิ่มเติมความหรูหราน่าใช้ขึ้นมาก การใช้นาฬิกากลไกแบบเข็มวัดในรถยนต์มีมานานกว่า 80 ปีแล้ว โดยบริษัท Rolls Royce /MG และ Bugatti เป็นผู้บุกเบิก และเริ่มนำมาใช้กับรถยนต์ในค่ายของตนเอง ตั้งแต่แรกเริ่มในยุค 1925 กลไกของนาฬิกาติดรถยนต์ในยุคนั้น มีความละเอียดซับซ้อนคล้ายกับนาฬิกาบนข้อมือแต่มีขนาดใหญ่กว่า และมีความคงทนต่อการสั่นสะเทือนมากกว่า ซึ่งทำงานด้วยพลังงานจากแบ็ตเตอร์รี่ติดรถ นาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลก เช่น IWC และ Breitling ร่วมมือกับค่ายผู้ผลิตรถยนต์หรูหราตระกูลสูง บริษัทผลิตนาฬิกาชั้นนำสำหรับนักบินยี่ห้อ IWC ติดตั้งนาฬิกาแบบเข็มระบบอนาล็อกให้กับรถ Mercedes Benz รุ่น CLS-AMG แบรนด์เจ้าแห่งนาฬิกาจับเวลาแบบโครโนมิเตอร์ Breitling เองก็ยังผลิตนาฬิกาทรงย้อนยุคให้กับคอนโซลกลางของรถ Bentley ช่วยเน้นให้ภายในห้องโดยสารมีความสวยงามโดดเด่นและทรงคุณค่าขึ้นมาทันที ถึงแม้จะเป็นแค่นาฬิกาเรือนเล็กๆ ก็ตามNissan GTR Multi Display
Nissan 370z Multi Display
หากย้อนกลับมาดูความไฮเทคของค่ายรถชาติพันธุ์ญี่ปุ่นอย่าง Nissan ยังต้องว่าจ้างให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง Sony ผลิตจอมัลติฟังชั่นที่ใช้ในรถสปอร์ตรุ่น GTR และ 370Z ระบบจอดังกล่าวรวบรวมเอาการแสดงข้อมูลที่สำคัญ โดยแสดงผ่านระบบดิจิตอล ซึ่งสามารถแสดงภาพของเข็มวัดในระบบต่างๆ การปรับตั้งค่า ระบบนำร่องด้วยดาวเทียม ระบบ DVD Display ระบบโทรศัพท์รวมไว้อยู่ภายในจอแอลซีดีขนาด 7 นิ้วความคมชัดสูง ใช้งานได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ไม่รกรุงรังเนื่องจากจอภาพเดียวสามารถส่งถ่ายข้อมูลต่างๆ ของตัวรถได้ทั้งหมดรวมถึงการปรับตั้งค่าของระบบขับเคลื่อนและระบบกันสะเทือน การตรวจสอบระบบการทำงานของเครื่องยนต์ โดยสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้นับสิบรายการPeugeot SR1 Concept Cockpit
Lexus IF XH Hybrid Concept
หน้าปัดและอุปกรณ์ภายในรถยนต์ยุคต่อไปจะมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง โดยจะพบเห็นได้ในรถยนต์ประเภท Concept Car รถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือไฮโดรเจน และรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด ซึ่งนิยมใช้การวัดค่าต่างๆ แล้วแสดงบนจอในระบบดิจิตอล TFT การอ่านค่าใช้ตัวเลขและสัญลักษณ์ขีดสี หรือแสดงเป็นรูปแบบของกราฟฟิกบนจอภาพ LCD TFT และมักจะถูกออกแบบให้มีสีสันที่สวยงามล้ำไปในอนาคต รูปทรงที่ไหลลื่นโค้งมนของคอนโซลในยุคต่อไป จะเข้ามาแทนที่คอนโซลแบบดั้งเดิม พร้อมระบบภาพและเสียงแจ้งเตือนการทำงานของกลไกทางอิเลคโทรนิค ที่เชื่อมต่อกับระบบขับเคลื่อนและปรับตั้งค่าหรือเรียกดูข้อมูลต่างๆ ได้ในรูปแบบของจอ TouchScreen ซึ่งในอนาคตอันใกล้ รูปแบบหน้าปัดและอุปกรณ์ภายในรถยนต์ที่ไฮเทค จะเริ่มเข้ามาแทนที่หน้าปัดและเข็มวัดแบบอนาล็อกคลาสสิกที่เริ่มตกยุค ซึ่งจะค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลาและตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกยนตรกรรมarcom roumsuwanE-Mail chang.arcom@thairath.co.th 

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

1 comment:

Blog Archive