โรคกลัวอ้วน : Anorexia Nervosa กลัวเอามากๆ
โรคกลัวอ้วน (Anorexia Nervosa) เป็นภาวะที่บุคคลปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารเพื่อคงน้ำหนักไว้ในระดับปกติ โดยมีทัศนคติที่ผิดต่อรูปร่างและน้ำหนักตัวผิดปกติ คนที่เป็นโรคนี้ จะเป็นคนที่กลัวอ้วน กลัวเอามากๆ...โรคกลัวอ้วน (Anorexia Nervosa) เป็นภาวะที่บุคคลปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารเพื่อคงน้ำหนักไว้ในระดับปกติ โดยมีทัศนคติที่ผิดต่อรูปร่างและน้ำหนักตัวผิดปกติ คนที่เป็นโรคนี้ จะเป็นคนที่กลัวอ้วน กลัวเอามากๆ เห็นน้ำหนักตัวเองเป็นศัตรู ปฏิเสธอาหารอย่างมากจนผ่ายผอม ในสังคมปัจจุบันสนใจน้ำหนักตัว ไม่ต้องการอ้วน ไม่ต้องการหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน คาดว่ามีผู้ป่วยโรคกลัวอ้วนเสียจนผอมเกินไปราวร้อยละ 0.5-1.8 ของประชากร มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นราว 5-10 รายต่อประชากร 1 แสนคน พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหลายเท่า ในผู้ป่วยทั้งหมดจะเป็นผู้ชาย ไม่เกินร้อยละ 5-10 อาการของโรคมักเริ่มตอนวัยรุ่น โดยเฉลี่ยจะเริ่มเป็นเมื่ออายุ 17 ปี มีบ้างที่เป็นตอนเรียนมัธยมต้นหรือตอนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พบมากในประเทศอุตสาหกรรมหรือประเทศที่เจริญแล้ว ประเทศด้อยพัฒนาจะพบน้อยกว่าสาเหตุ1. ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด2. เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยทางพันธุกรรม 3. ผู้ป่วยมักเป็นวัยรุ่นที่เป็น เด็กดี เด็กตัวอย่าง ของครอบครัว มีบุคลิกภาพที่สมบูรณ์แบบ ย้ำคิดย้ำทำ ขาดทักษะในการใช้ชีวิตในสังคม มีความเป็นตัวของตัวเอง มีปัญหาความขัดแย้งในจิตใจเรื่องความเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกไม่มีค่า มักทำตามความคาดหวังของผู้อื่นเพื่อให้ผู้อื่นยอมรับ4. เกิดจากการมองภาพตนเองบิดเบือน มองเห็นสัดส่วนร่างกายอ้วนไป ทั้งๆที่ไม่ได้อ้วน มักปฏิเสธว่าไม่หิว ไม่ป่วย บอกว่าสบายดี มักแยกแยะความหิวไม่ได้5. บางรายพบปัจจัยที่เกี่ยวกับครอบครัว ถูกเลี้ยงดูแบบใกล้ชิดหรือปกป้องมากเกินไป 6. ปัจจัยทางสังคมที่สำคัญ ได้แก่ ค่านิยมยึดติดอยู่กับความผอมบาง ต้องการสวย เชื่อว่าผู้หญิงผอม คือ แฟชั่น คิดว่าคนอ้วนเป็นคนที่ดูแลตนเองไม่ดี หรือคิดว่าคุณค่าวัยรุ่นขึ้นอยู่กับรูปร่างหน้าตาที่น่ารักหรือหุ่นดี 7. การที่วัยรุ่นมีวิกฤติของชีวิต เช่น ความต้องการเป็นตัวของตัวเอง ค่านิยม สัมพันธภาพกับผู้อื่น บางครั้งอาจเกิดความขัดแย้งกับบิดามารดา โดยเฉพาะการมีสัมพันธภาพกับเพื่อนต่างเพศ ปัจจัยเสี่ยงของโรค1. การเลี้ยงดูของพ่อแม่2. ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้3. ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์4. โรคทางอารมณ์ ซึมเศร้า บุคคลิกภาพผิดปกติ ติดสารเสพติด5. นักร้อง นักแสดง นางแบบ นักเต้นบัลเลต์ ยิมนาสติก6. ในผู้ชายพบบ่อยในพวกเกย์และนักวิ่งมาราธอนอาการ1. ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน หรือนักศึกษาสาวที่ขยันเรียน มีความรับผิดชอบสูง ผลการเรียนดี เป็นคนค่อนข้าง สมบูรณ์แบบ บิดามารดามักประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานสูง ผู้ป่วยมักไม่ชอบงานสังคมสังสรรค์นัก2. ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักตัวต่ำกว่ามาตรฐานราว 15% เช่น ควรหนัก 60 กิโลกรัม ก็หนักเพียง 50 กก. หรือควรหนัก 50 กก. ก็เหลือแค่ 42 กก. หรือน้อยกว่า เป็นต้น3. โรคนี้ถือเป็นความผิดปกติทางจิตใจชนิดหนึ่ง โดยมีความเชื่อผิดเกี่ยวกับน้ำหนักและรูปร่างตัวเอง บางคนยังเชื่อว่า น้ำหนักมากเกินไปทั้งๆ ที่ความจริงอยู่ในขั้นผอมแห้ง บางคนเชื่อว่าอวัยวะบางส่วนของตัวอ้วนไป ความคิดเต็มไปด้วยเรื่องเกี่ยวกับอาหาร น้ำหนักตัว และการควบคุมอาหาร ในที่สุดเมื่อสนใจแต่เรื่องพวกนี้ ก็จะไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น ทำให้การเรียน การทำงาน และมนุษยสัมพันธ์แย่ลง4. ผู้ป่วยจะกลัวมากๆ เกี่ยวกับการที่น้ำหนักเพิ่มขึ้น และที่แปลกคือ เมื่อยิ่งผอม น้ำหนักลด กลับยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก ความกลัวน้ำหนักเพิ่มนั้น มากเสียยิ่งกว่ากลัวตายจากการปฏิเสธอาหาร แทนที่จะรู้สึกผ่อนคลายหรือเบาใจ เมื่อน้ำหนักลดลงได้เขากลับกลัวมากขึ้นไปอีก5. จะพบอาการไม่มีประจำเดือนได้บ่อยในผู้ป่วยโรคนี้ สาเหตุเกิดจากความเครียดอย่างรุนแรงจากการอดอาหาร ทำให้ฮอร์โมนของสมองที่ควบคุมการมีประจำเดือนลดลง การอดอาหารยังไปกดการหลั่งของฮอร์โมนเพศ ทำให้ขาดความสนใจทางเพศ การพัฒนาทางเพศจะล่าช้าในผู้ป่วยพวกนี้ สาเหตุอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น ผู้ป่วยมักแยกตัวจากสังคม เพราะขาดความเชื่อมั่น นับถือตัวเองและกลัวว่าเมื่อเข้าสังคมแล้วจะดำเนินชีวิตอย่างที่ทำอยู่ไม่ ได้6. ผู้ป่วยมักมีความประพฤติแบบย้ำคิด-ย้ำทำ ร่วมด้วย ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยพิธีรีตอง ส่วนตัวอาจนับเมล็ดข้าวที่รับประทาน คำนวณพลังงานที่ได้จากอาหาร ชั่งน้ำหนัก วัดสัดส่วนของร่างกาย ผู้ป่วยโรคนี้จะปฏิเสธความเจ็บป่วยของตัวเองไม่ยอมรับว่าป่วย ทำให้รักษาลำบาก คิดว่าความคิดตนเองถูกต้อง ส่วนคนอื่นต่างหากที่เพี้ยนไปอาการเตือนของโรค1. ตั้งใจอดอาหารด้วยตัวเอง และน้ำหนักลดลง2. กลัวการเพิ่มน้ำหนักตัว หลังรับประทานอาหารหรือชั่งน้ำหนักตัว พบการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์3. ปฏิเสธการรับประทานอาหาร4. ปฏิเสธความหิว กลัวอ้วนอย่างที่ควบคุมไม่ได้5. ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ชั่งน้ำหนักตัวบ่อยเกินปกติ6. มีขนอ่อนมากขึ้นตามตัวแขนขา หรือใบหน้า7. ขี้หนาว8. ประจำเดือนไม่มาหรือไม่สม่ำเสมอ9. ผมบางลง10. มีความรู้สึกว่าตัวเองอ้วนทั้งๆ ที่ความเป็นจริงผอมมาก มีความกังวลเรื่องรูปร่างมากเกินปกติพฤติกรรมของผู้ป่วยมีได้ 2 แบบ1. แบบจำกัด (Restricting Type) หมายถึงจะรับประทานอาหารน้อย และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีพลังงานสูง พวกนี้มักจะออกกำลังกายมากและหนัก ในช่วงที่มีอาการ ไม่ได้มีการรับประทานครั้งละมากๆ หรือมีการขับอาหารจากร่างกาย เช่น ทำให้ตนเองอาเจียน หรือใช้ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ หรือยาสวนถ่ายอย่างพร่ำเพรื่อ หรือเป็นประจำ2. แบบกินมาก/ออกมาก (Binge-Eating/Purging Type) หมายถึงเมื่อรับประทานอาหารแล้วใช้วิธีทำให้ตัวเองอาเจียน ใช้ยาถ่าย ยาขับปัสสาวะ หรือสวนอุจจาระ ในช่วงที่มีอาการ จะมีการรับประทานครั้งละมากๆ หรือมีการขับอาหารจากร่างกาย เช่น ทำให้ตนเองอาเจียน หรือใช้ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ หรือยาสวนถ่ายเกณฑ์การวินิจฉัยโรค1. น้ำหนักตัวต่ำกว่าร้อยละ 85 ของน้ำหนักตัวปกติตามอายุและส่วนสูง 2. กลัวอ้วนอย่างมาก กลัวการที่น้ำหนักขึ้น แม้ว่าตนเองจะมีน้ำหนักตัวน้อย3. การรับรู้น้ำหนักตัว หรือรูปร่างของตนผิดปกติ พบปัญหาในการประเมินตนเองขึ้นอยู่กับเรื่องน้ำหนักตัวหรือรูปร่างอย่างมาก หรือปฏิเสธปัญหาน้ำหนักตัวที่ต่ำอยู่ในขณะนั้น4. ภาวะขาดประจำเดือนในหญิงที่เริ่มมีประจำเดือนแล้ว ไม่มีประจำเดือนติดต่อกัน 3 รอบการวินิจฉัยแยกโรค1. โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น มะเร็ง2. โรคเบาหวาน ภาวะไฮเปอร์ไทรอยด์3. โรคระบบทางเดินอาหาร ความผิดปกติของการดูดซึมสารอาหาร 4. โรคเอดส์5. โรคทางจิตเวช เช่น จิตเภท ซึมเศร้าโรคแทรกซ้อน1. โรคแทรกซ้อนส่วนใหญ่เกิดจากผลของการอดอาหาร เป็นความพยายามของร่างกายที่จะอนุรักษ์พลังงานไว้ใช้ในภาวะที่ขาดแคลน 2. ผู้ป่วยที่ใช้วิธีอาเจียน ถ่ายท้อง หรือขับปัสสาวะจะสูญเสียธาตุโปตัสเซียม เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะและกล้ามเนื้อเกร็งได้3. โรคแทรกทางหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยโรคนี้ อาจหัวใจเต้นช้าแค่ 40 ครั้งต่อนาที4. อาเจียนบ่อยๆ ทำให้เคลือบฟันสึกกร่อน และต่อมน้ำลายบวมคล้ายเป็นคางทูม กล้ามเนื้อกระเพาะและลำไส้จะลีบและอ่อนลงจาการที่ใช้งานน้อย ทำให้อาหารคงอยู่ในและท้องผูก5. ผิวหนังจะแห้ง ผมบนศีรษะบางลง มีขนอ่อนตามลำตัวและแขนขามากขึ้น6. อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง กระดูกบางลง กระดูกหักง่าย7. ไตทำงานผิดปกติ อาจเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง8. เม็ดโลหิตและเกร็ดเลือดลดน้อยลงการรักษา1. ประเมินว่าผู้ป่วยมีโรคอื่นร่วมด้วยหรือไม่ และมีโรคแทรกซ้อนอะไรบ้าง 2. เป้าหมายเบื้องต้นในการรักษาคือ ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากการอดอาหาร ผู้ป่วยและครอบครัว จะได้รับคำแนะนำและอธิบายถึงแผนการรักษา3. นักกำหนดอาหาร นักโภชนาการ นักจิตวิทยา และจิตแพทย์ ล้วนมีความสำคัญในการร่วมทีมรักษา เริ่มแรกต้องค่อยๆ เพิ่มอาหาร เพื่อป้องกันกระเพาะขยายตัว ป้องกันการบวมและหัวใจล้มเหลว4. บางกรณีต้องรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล เช่น ผู้ป่วยที่น้ำหนักลดมากกว่าร้อยละ 30 ของน้ำหนักปกติ ผู้ป่วยที่มีความคิดฆ่าตัวตาย ผู้ป่วยที่ติดยาระบาย หรือยาขับปัสสาวะและกรณีที่รักษาแบบผู้ป่วยนอกแล้วไม่ได้ผล5. การรักษาในโรงพยาบาลจะใช้เวลาประมาณ 10-12 สัปดาห์ จึงจะเพียงพอสำหรับการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ก่อนให้ผู้ป่วยกลับบ้าน ควรลองปล่อยผู้ป่วยกลับบ้านเฉพาะวันหยุดดูก่อน เพื่อปรับตัวสักระยะหนึ่ง เมื่อกลับบ้านได้แล้วยังต้องนัดกลับมาติดตามการรักษาไปอีกเป็นเดือน หรือเป็นปีทีเดียว เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ6. เริ่มการรักษาทางจิตตั้งแต่แรก และติดตามไปเรื่อยๆ จนผู้ป่วยปกติ 7. พฤติกรรมบำบัดมีส่วนในการรักษามาก ทั้งวิธีให้รางวัลและลงโทษ8. ในผู้ป่วยอายุน้อยการใช้วิธีครอบครัวบำบัดจะได้ผลดีมาก ต้องระลึกเสมอว่าโรคนี้มีผลกระทบต่อครอบครัวทั้งหมด การให้คำปรึกษาแก่ครอบครัวเพื่อแก้ปัญหาในสิ่งแวดล้อมของครอบครัว จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นการดูแลและวิธีแก้ไข1. เสริมให้วัยรุ่นมีความเชื่อมั่นในตนเอง 2. เสริมพลังอำนาจในตนเองให้รู้สึกว่าสามารถควบคุมเหตุการณ์ต่างๆได้ 3. เรียนรู้ที่จะเคารพตนเอง เชื่อว่าตนเองเป็นอิสระ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ครอบครัวหรือ สังคมเท่านั้น4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่ 5. ส่งเสริมทักษะในการใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่น ที่มา: ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพhttp://www.bangkokhospital.comhttp://www.bangkokhealth.com
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Tuesday, March 16, 2010
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Blog Archive
-
▼
2010
(436)
-
▼
March
(160)
- ฮอนด้าจัดงานวันฉลองชัยชนะ
- นับถอยหลังมาสด้า2ซีดาน60วันเก๋งเล็กถึงจุดเดือด
- พิมพา จันทพิมพะนักแปลวัย97รับรางวัลนราธิป
- เครื่องเบนซินกับเทคโนโลยีแบบฉีดตรง(จบ)
- เทรนด์ใหม่ยังเจเนอเรชั่นนครสวรรค์รวมตัวทำหน้าที่เจ...
- แฟชั่นคอนเนอร์แว่นเสริมบุคลิก
- มุมมองใหม่ผู้ชายวาววับ
- สวัสดีซีซั่น...สปริงซัมเมอร์ 2010
- ศิลปกรรม...ในวัดพระแก้ววังหน้า
- ไออาร์ซี ดอก ลายไฟ เทรนด์ใหม่เอาใจสิงห์นักบิด
- มุมหนังสือประจำวันที่ 31 ม.ค.
- ในปีที่ผ่านมาคุณประทับใจศิลปินคนไหนมากที่สุด
- ลองของใหม่ประจำวันที่31ม.ค.
- ทานตะวันบานที่เขื่อนป่าสัก
- เบนซ์ทองหล่อซ็อกตลาดรถหรู แจกเมมเบอร์เรียนกอล์ฟมูล...
- ลีลาฝ่ามือสะท้านใจ ยำแหนมข้าวทอด พี่อ้อ ศรีย่าน น้...
- ปารีส โอต์ กูตูร์ สปริง-ซัมเมอร์ 2010 สุดบรรเจิดล้...
- ม.ล.เนื่องเจ้าของตำรับอาหารชาววังสิ้นใจแล้ว
- พบ5โรคเรื้อรังคุกคามคนไทยป่วยเพิ่มนาทีละคน
- The Riviera Cuisine @ Casablanca
- สวย สุขภาพดีได้ง่ายๆ จากภายใน
- ผวาโรคกิแลงแบเร...ผลข้างเคียง วัคซีนหวัด
- โซไซตี้ประจำวันที่ 1 ก.พ.53
- ใครอะไรที่ไหนประจำวันที่ 1 ก.พ.
- หวานได้อีก
- สายเลือดมังกรเผยเคล็ดลับเสริมความเฮง
- นาฬิกาเรือนหรูเพื่อพ่อหลวง
- กึ้ยศุภชัยทายาทโรงแรมโฟร์วิงส์หนุ่มโสดในฝันมัดใจสาว
- คาราวานเส้นทางรัก
- ตัดผมสั้นรับรูปหน้า (3)
- เทคนิคเลือกของเล่น เสริมสร้างจินตนาการแก่ลูกน้อย
- หนุ่มปราด้า เชื่อมั่นคิดอย่างไทย ไม่นิ่งดูดายจะช่ว...
- แนวคิดเลือกรถคู่กาย ของ หนุ่มสาวรุ่นใหม่
- แฮร์แฟชั่นโชว์ประวัติศาสตร์ กลางลำนํ้าเจ้าพระยา
- ตัวอักษรป้อนโลกใหม่
- สานฝัน ปันรักกับเยาวชนชายแดนใต้
- รวมภาพเด็ดๆของพริตตี้ในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ครั้ง...
- น้ำชากลายเป็นเครื่องดื่มมิตรของสตรี ป้องกันมะเร็งร...
- ความดันโลหิตสูง...ฆาตกรเงียบ
- วธ.วอนแดงกลับบ้านสืบสานประเพณีสงกรานต์
- หลวงพ่อเจริญ อุทาโน พระหมอยาแห่งบางแพ จ.ราชบุรี
- PEUGEOT 207 CC
- กินฟาสต์ฟู้ดอันตรายสองเด้ง อ้วน แล้วยังเสียสุขภาพจิต
- นกกับจระเข้มีส่วนเหมือนกัน ตรงกลไก ระบบหายใจ
- Natural IVF/IVM ทางเลือกใหม่ ผู้มีบุตรยาก
- สื่อใหม่ในเน็ตฉายแสง หลังแผ่นดินไหวสำแดงเดชที่เฮติ
- รพ.ขอนแก่นศรีนครินทร์เตรียมหมอช่วยเหลือเฮติ
- อภิสิทธิ์ร้องทั่วโลกใส่ใจสุขภาพเข้าถึงการรักษาผู้หญิง
- เฉิดฉายหรูหราบนพรมแดงเวทีลูกโลกทองคำ
- ใครอะไรที่ไหนประจำวันที่21ม.ค.
- โซไซตี้ประจำวันที่21ม.ค.
- ยิ้มสู้...
- ผวาหวัด09ระบาดรอบสองหมอจนท.รามาติด18คน
- ย้อนอดีต...บ้านร่มเกล้า จากสนามรบ สู่ดงดอกไม้
- บ้านหลังที่สองของคนเมือง
- ดนตรีข้ามสมัยไร้พรมแดน Emporium Music Rendezvous 2010
- IT BAG กระเป๋าสุดฮอตใบล่าสุด ฝีมือสร้างสรรค์ของ เค...
- เปิดกรุเครื่องประดับลูกรัก ของ ซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา
- ดื่มกินธรรมชาติที่ อลาสกา
- เอสเปรสโซแสลงหัวใจ ถ้วยเดียวอาจทำให้ถึงชำรุดทรุดโทรม
- ดื่มแล้วสวย-สาว-ฉลาด เครื่องดื่มแสนดีอย่างนี้มีที่...
- การบรรยายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเปิดตัววีซีดีช...
- สังคมสุดสัปดาห์ประจำวันที่ 20 มี.ค.
- โรงเรียน สถาบันการเรียนรู้ โรงพยาบาลแนวใหม่ 3 โครง...
- ประมูลเครื่องประดับชิ้นสวย
- โซไซตี้ประจำวันที่ 20 มี.ค.53
- 4รางวัลพิเศษมิสไทยแลนด์ฯรอบสื่อมวลชน
- ตามรอยไดโนเสาร์ที่กาฬสินธุ์
- สัญลักษณ์ใหม่ ของความหรูหรา
- สุดยอดกายกรรมระดับโลกจากฝรั่งเศส เลส์ ฟาร์ฟาเดส์
- แอคเซสเซอรี่ รีพอร์ต 2010 คอลเลกชั่นกระเป๋าฮอตๆๆรั...
- ฝรั่งหัวใจไทยปั่นสองล้อถวายในหลวง
- เฮลโหล เฮลซิงกิ
- คลายร้อนไร้ขีดจำกัดมัดใจคนกรุง
- แม่เหล็กดูดเงินแท่งล่าสุด เมืองลอดช่อง
- เปิดคอร์ส เปิดใจคนรักกีฬา บอย วรรณศิริ คงมั่น
- เลือกให้รอด รักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน
- 1 วันกับชีวิตของม็อบแดง
- ศีรษะเถิกมีบุญ ห่างไกลจากโรคมะเร็ง ต่อมลูกหมากได้มาก
- ผู้ชายมีชัยชนะผู้หญิงได้อย่างราบคาบ วัยคะนองยืนยาว...
- เกษรเลิฟคาร์นิวัล
- จอผักกาด
- 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกจากผลสตรอเบอรี่
- ทำ ดีวีดี ออกกำลังกายประกอบเพลงสำหรับแม่ตั้งครรภ์แ...
- ตลาดนัดงานศิลป์ (พฤหัสบดีที่ 18 ก.พ.53)
- โง่เง่างมงายงกเงิน
- แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านงานศิลป์
- มือผู้หญิง วิเศษกว่าชาย มีเซลล์ไวต่อการสัมผัส หนาแ...
- ให้วิชาทีมอังกฤษแก้แพ้ศึกฟุตบอลโลก ยิงลูกโทษเท้าบอด
- นอนฝากแบงก์ได้ ตุนไว้ก่อนหน้าจะต้อง อดหลับขับตานอน
- โรคอัลไซเมอร์กับผู้สูงอายุ
- วธ.จัดวันมาฆบูชา2428ก.พ.แจกหนังสือ5หมื่น
- สธ.แถลงห่วงเด็กไทยหัวใจพิการปีละ8พันคน
- สร้อยเส้นสวยจากฝีพระหัตถ์(ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์)เพื่อผู้...
- ใครอะไรที่ไหนประจำวันที่19ก.พ.
- โซไซตี้ประจำวันที่19 ก.พ.
- 4คำประจำวัน
- ไวแมกซ์แก้คนไข้ล้นรพ.ประหยัดเวลาค่าเดินทาง
- สธ.เล็งแจกคู่มือพ่อแม่มือใหม่อ่านหนังสือเล่มแรกให้...
- F&F เมืองผู้ดีมาไทย
-
▼
March
(160)
No comments:
Post a Comment