
ตอนที่สองกับการทดสอบขับขี่ยานยนต์ อากาศยาน Lexus LS 460L อภิมหาความนิ่มนวลบนความมีระดับของรถญี่ปุ่น...จะบอกเพียงแค่คำว่า ดี ก็คงจะน้อยเกินไป แต่จะใช้คำว่ายอดเยี่ยมก็ยังไม่ใช่ นี่คือรถทดสอบคันแรกของปี 2556 ที่มีขนาดความยาวถึง 5 เมตร หนัก 2 ตัน และมีราคา 11.7 ล้านบาท LS 460L คือตัวแทนของประวัติศาสตร์ในการสร้างยนตรกรรมหรูตลอดช่วงระยะเวลา 24 ปีของแบรนด์ Lexus มันกลายเป็นรถยนต์ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อความเหนือกว่าในทุกระดับ โมเดลเรือธง LS นั้น เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายนับร้อยรายการ เครื่องยนต์ที่ทรงพลังและระบบขับเคลื่อนที่นิ่มนวลสุดๆ LS 460L มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะทำให้การเคลื่อนที่เดินทางของมนุษย์มีความสะดวก สบายสูงสุด ภายใต้ประสิทธิภาพของตัวรถคือรายละเอียดนับพันจุดที่ถูกปรับเปลี่ยนในการก้าวข้ามทศวรรษบนเรือนร่างของรุ่นไมเนอร์เชนจ์ประจำปี 2013 มันคือที่สุดของยนตรกรรมสายพันธุ์ผู้บริหารจากญี่ปุ่น ที่ผ่านการพิสูจน์ตัวตนมาอย่างโชกโชน ระยะเวลา 5 วันของการขับขี่ทดสอบของผมกับเจ้า LS 460L กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วเรือนร่างที่ยาวเหยียดถึง 5,150 มิลลิเมตร ทำให้ห้องโดยสารของ LS 460L มีพื้นที่ในการวางเท้าเหลือเฟือ ภายในใช้โทนสีดำเพื่อเน้นบรรยากาศแบบเขร่งขรึมเอาจริงเอาจัง ลายไม้สีเข้มของขอบวงพวงมาลัยกับงานไม้ที่ใช้กรุคาดกลางคอนโซลต้องใช้เวลาทำถึง 35 วัน วัสดุที่นำมาใช้มีทั้งอัลลอยสีแชมเปญ ลายไม้สีเข้ม หนังและพลาสติกเกรดสูง มันเป็นรถที่มียางขอบประตูเยอะมากที่สุดเท่าที่ผมเคยทดสอบมา นั่นหมายถึงการกักเก็บป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอกในระดับที่น่าประทับใจ จอแสดงผลที่สั่งงานด้วยเมนูภาษาไทยจะทำให้คนขับรถยิ้มออก จอดังกล่าวมีขนาดใหญ่โตถึง 12.8 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในกลุ่มรถหรูแบบลีมูซีน นอกจากจะใหญ่แล้วมันยังให้ความคมชัดที่ดีเยี่ยมอีกด้วย เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ 4 ระดับ ภายในเบาะยังฝังพัดลมระบายอากาศที่มีท่อเชื่อมต่อกับระบบปรับอากาศ เมื่อคุณต้องจอดรถตากแดดระบบนี้จะช่วยทำให้ก้นของคนนั่งไม่สุกไปเสียก่อนใน วันที่มีอากาศร้อนจัด ส่วนเบาะด้านหลังขนาดใหญ่มีไว้สำหรับเจ้าของรถคนที่ควักเงินซื้อแต่ไม่ยอมขับ มันเป็นตำแหน่งที่น่านั่งมากที่สุดบนรถคันนี้ ทั้งระบบนวดและระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์ที่สามารถควบคุมด้วยตัวเอง สิ่งที่ดูขัดตาอยู่บ้างคือจอกลางที่มีรูปร่างเหลี่ยมๆ ทื่อๆ แทนที่จะฝังอยู่หลังเบาะผู้โดยสารตอนหน้าแบบ BMW Series-7กดปุ่มสวิตช์สตาร์ตเครื่ิองยนต์ 1UZ-FSE แบบ V8 386 แรงม้า ติดขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ ผมปรับปุ่มโหมดการขับไปที่ Comfort Eco Mode เพื่อลองขับใช้งานบนถนนหนทางในกรุงเทพมหานครท่ามกลางสภาพการจราจรที่หนาแน่นสุดๆ ในช่วงวันศุกร์ตอนหัวค่ำ เรือนร่างที่ยาวมากกว่าปกติทำให้ผมต้องระมัดระวังในการเปลี่ยนเส้นทาง ความยาวของตัวรถและขนาดที่ใหญ่รวมถึงราคาค่าตัว ทำให้การทดสอบบนเส้นทางสุขุมวิทที่จะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมอินเตอร์คอนติเนลตันมีความลำบากเล็กๆ จากการที่ต้องระวังมากขึ้นกว่าปกติจากมิติของตัวถังที่เกินหน้าเกินตารถยนต์ทั่วๆ ไป โปรแกรมการขับขี่แบบ Comfort Mode ของ LS 460L ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายจากสัมผัสของคันเร่งไฟฟ้าและระบบส่งกำลังที่ออกแนวนิ่มนวลสูงสุด มันเหมือนกับล่องลอยอยู่บนพรมวิเศษจากการทำหน้าที่ของถุงลมในระบบ Air Suspension เมื่อถนนเรียบมันจะใช้แรงอัดของลมในระบบที่มีความเหมาะสมกับสภาพเส้นทางและปรับการทำงานไปตลอดระยะเวลาของการใช้รถ เมื่อพบกับเส้นทางที่ขรุขระ เซ็นเซอร์จะระบายลมในระบบออกไปอีกจนได้ค่าที่มีความพอดีกับสภาพผิวถนนในห้วงเวลาที่มันแล่นผ่าน แม้จะเคยทดสอบ BMW Series-7 740Li กับ Mercedes Benz S-Class S500 แต่ความรู้สึกที่ได้รับกลับแปลกและแตกต่างไปจากคู่แข่งจากเยอรมนีทั้งสองคันอย่างสิ้นเชิงสภาพรถติดอย่างสาหัสไม่ได้สร้างปัญหาให้กับ LS 460L ห้องโดยสารที่เงียบราวกับอยู่ในสถานที่ปฏิบัติธรรม มอบสัมผัสที่ตัดแยกออกจากโลกภายนอกไปโดยปริยาย มันเงียบจนคุณสงสัยว่าเครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่หรือไม่หากไม่สังเกตวงวัดรอบที่หน้าปัดมาตรวัด เมื่อถอนเท้าออกจากแป้นเบรก รถจะค่อยๆ ไหลออกไปอย่างนิ่มนวลโดยที่ผมไม่ได้กดคันเร่ง แต่หากเมื่อใดที่ผมขับไปติดสัญญาณไฟจราจรอยู่คันหน้าสุดแล้วทางข้างหน้านั้นโล่งไร้รถราและผู้คน การออกตัวด้วยความรวดเร็วบน LS 460L คือความบังเทิงที่ต้องลืมเรื่องอัตราสิ้นเปลืองที่กลายเป็นของควบคู่กัน สำหรับรถเครื่องโตคันใหญ่ยักษ์ เมื่อลงคันเร่งลึก มันจะพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วปานจรวดจากแรงบิดรอบต่ำอันมหาศาล มันออกตัวได้ดีกว่า GT86 ทั้งๆ ที่หนักกว่าถึง 800 กิโลกรัม จากพลังของเครื่องยนต์ V8 เพลากลางที่ส่งแรงบิดจากชุดเกียร์ 8 สปีดไปยังเฟืองท้าย ถูกพัฒนาให้ลดการสั่นสะเทือนจากการหมุนในทุกรอบเครื่องยนต์ รวมถึงจุดยึดของแท่นเครื่องและแท่นเกียร์ที่ใหญ่โตราวกับรถถัง ช่วยทำให้มันนิ่งสนิทแม้รอบเครื่องยนต์จะกวาดไปถึง 7,000 รอบต่อนาที การทำแบบนั้นเป็นอันตรายต่อเงินในกระเป๋าที่จะต้องควักเพิ่มสำหรับค่าเชื้อเพลิงเพื่อแลกกับสมรรถนะอันสุดยอดของการขับขี่ ตัวเลขเฉลี่ย 4.7 กิโลเมตรต่อลิตร สำหรับการขับขี่ในเมืองทำให้ขนบนหัวของผมถึงกับตั้งชันเมื่อมองเห็นตัวเลขในบิลค่าน้ำมัน มันคือรถที่กินจุแบบไม่ยั้งหากคุณเป็นคนชอบขับรถเร็วก็จงเตรียมเงินเอาไว้เยอะๆ สำหรับการเดินทาง แต่คนที่ซื้อรถระดับนี้เรื่องราคาค่าเชื้อเพลิงคงไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอนวันที่สองของการทดสอบทางไกลแบบขับยาวๆ ผมนำเจ้าเรือธงของ Lexus ออกวิ่งไปตามเส้นทางรังสิต-องค์รักษ์ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครนายก รถ LS 460L ราคาเกือบๆ 12 ล้านดูขัดแย้งกับเส้นทางเลี่ยงเมืองที่มุ่งหน้าไปยังน้ำตกสาริกาและวังตะไคร้ ถนนเลี่ยงเมืองยาวสิบกว่ากิโลเมตรมีความเรียบโล่งไร้รถราขวักไขว่แม้จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมขับขึ้นไปบนถนนเล็กๆ ที่วกวนของเขื่อนขุนด่านปราการชล จอดถ่ายภาพแล้วขับไปยังด่านเนินหอมในเขตจังหวัดปราจีนบุรีซึ่งเป็นทางขึ้นสู่วนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทางเขตจังหวัดปราจีนบุรี เส้นทางจากเขื่อนขุนด่านฯ ไปยังทางเข้าวนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ยาวประมาณ 24 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางสองเลนสวนกันที่ค่อนข้างสงบเงียบไม่จอแจเหมือนทางหลัก ระบบนำทางด้วยเมนูภาษาไทยของ Lexus LS 460L แจ้งเพียงแค่ทิศทางที่รถมุ่งหน้าไปโดยบอกแต่เพียงว่ารถกำลังวิ่งอยู่บนทางสุขาภิบาล มันให้รายละเอียดของแผนที่ค่อนข้างครอบคลุม รวมถึงความง่ายของการใช้งานจากเมนูภาษาไทยที่อ่านหรือปรับตั้งได้รวดเร็ว ถนนสุขาภิบาลจากตัวเขื่อนไปยังด่านเนินหอมนอกจากจะแคบแล้วยังลัดเลาะตัดผ่าเข้าไปยังหมู่บ้านเล็กๆ ที่เรียงรายสองข้างทาง จนทำให้ LS 460L ดูขัดแย้งกับภูมิประเทศในแถบนี้อย่างสิ้นเชิง ชาวบ้านร้านตลาดต่างพากันจ้องมองรถคันยาวที่วิ่งฝ่าฝุ่นจากทางลูกรังในบางช่วงจนตัวรถโดนฝุ่นเกาะแดงเถือกไปหมดน้ำหนักที่เบาสบายของพวงมาลัยและระบบบังคับเลี้ยวที่ใช้มอเตอร์แปรผันน้ำหนักไปตามความเร็ว ทำให้การควบคุมตัวรถที่ทั้งใหญ่และยาวมีความสะดวกคล้ายกำลังขับรถเล็กๆ ยังไงยังงั้น โค้งสลับกับทางยาวๆ ทำให้เจ้า LS 460L ต้องใช้ความพลิ้วของระบบรองรับเข้ามาช่วยเสริมการควบคุมที่มอบความรู้สึกมั่นคงและนิ่ง คันเร่งตอบสนองได้ดีเพียงแค่แตะเบาๆ มันก็พุ่งทะยานไปตามกำลังรอบของ เครื่องยนต์ที่เน้นในเรื่องแรงบิดรอบต่ำได้อย่างเฉียบคม ช่วง 200 กิโลเมตรแรกจึงค่อนข้างน่าเบื่ออยู่บ้าง ตัวรถเงียบสนิทหากคุณไม่เปิดระบบเครื่องเสียงที่อยู่ในระดับสุดยอด การบังคับควบคุมตัวรถไม่ใช่ปัญหาแม้จะมีน้ำหนักมากถึงเกือบ 2 ตัน พวงมาลัยสื่อสารกับสภาพผิวทางในแบบสังเคราะห์และขาดสัมผัสที่ดีแบบสปอร์ตไปบ้างเนื่องจากเป็นรถยนต์ของพวกผู้ดีมีตระกูล เบรกอยู่ในระดับที่ดี ช่วงแรกมันจะให้ความรู้สึกหนืดๆ อยู่บ้างเมื่อต้องเบรกที่ย่านความเร็วต่ำแบบขับในเมือง แต่พอลงน้ำหนักของฝ่าเท้าไปยังแป้นเบรกก็พบกับการตอบสนองที่ดีและให้ความมั่นใจสูงแม้จะอัดเข้าสู่หัวโค้งแล้วเบรกลึกๆ ก่อนจะส่งตัวรถทะยานออกไปสู่ปลายโค้ง ระบบส่งกำลังซึ่งใช้เกียร์ 8 อัตราทดลื่นไหลไร้รอยต่อใดๆ ทั้งสิ้น มันลื่นจนดูคล้ายกับรถไฟฟ้าจากอัตราทดที่ขึ้น-ลงไปตามย่านความเร็ว รถทดสอบ LS 460L คันนี้ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และวิ่งมาน้อยมากๆ ถุงลมในระบบ Air Suspension ทำงานได้อย่างไร้ที่ติแม้จะต้องผจญกับทางแย่ๆ ในบางช่วง การขับรถคันโตคนเดียวท่ามกลางสภาพเส้นทางที่เต็มไปด้วยป่าเขาลำเนาไพรแบบนี้ บ่อยครั้งเข้าถึงกับทำให้รู้สึกเหงาได้เหมือนกันหลังจากที่ขับต่อไปเรื่อยๆ ผมเริ่มหลงรักมันขึ้นมาทีละนิด สองวันสำหรับการทดสอบทั้งในเมืองและการขับขี่ทางไกลทำให้ผมพบว่าเจ้า LS 460L เป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้นั่งได้อย่างสบาย วิ่งด้วยความเร็วสูงได้อย่างมั่นคง บนความสมดุลของตัวรถที่สื่อสารกับผู้ขับขี่ได้อย่างหมดจด มันจะส่งถ่ายความรู้สึกทั้งหมดไปยังผู้ขับให้รับรู้ถึงการยึดเกาะ ความนิ่มนวล ความสนุกในบางจังหวะจะโคนและความหรูหรามีระดับได้เป็นอย่างดี เบรกที่เมื่อขับช้าๆ จะให้ความรู้สึกหนืดๆ แต่เมื่อควบมันเร็วขึ้น เบรกจะตอบสนองในแบบที่มันควรจะเป็น มันช่วยชะลอหรือหยุดน้ำหนักขนาดช้างตัวย่อมๆ ได้อย่างมั่นใจ พวงมาลัยมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นในโหมด Sport และยิ่งดีขึ้นไปอีกในโหมด Sport Plus ซึ่งเป็นโหมดสูงสุด ทันทีที่ผมเริ่มใช้ความเร็วและใช้แรงเหวี่ยงในการเข้าโค้งมากกว่าเดิม น้ำหนักของพวงมาลัยที่ถูกควบคุมด้วยเซ็นเซอร์ของระบบ EPS หน่วงมาอย่างพอเหมาะพอเจาะ มันคมและให้ประสิทธิภาพที่ดีในการหักเลี้ยวไปตามเส้นทางขึ้นเขาใหญ่ที่คดเคี้ยวราวกับงูยักษ์ เกียร์ที่เคยเนือยๆในโหมดประหยัดกลับมาขยันขันแข็งอีกครั้งในการปรับอัตราทดให้เข้ากับความเร็วและสภาพของทางแบบขึ้น-ลงเนินเขา ช่วงล่างในโหมดสูงสุดมีการให้ตัวน้อยลงแต่ยังคงระดับของความนุ่มสบายเอาไว้ เหมือนเดิม ระบบรองรับใน LS เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพจากการพัฒนาดูเหมือนกำลังผลักดันตัวรถให้เข้าสู่ขอบเขตที่จำกัดมากยิ่งขึ้น แม้ถนนบนเขาใหญ่จะแคบนิดเดียวเมื่อเทียบกับขนาดของ LS 460L แต่มันผ่านไปได้แบบสบายๆ ไร้กังวลหากคนขับไม่ทำอะไรที่สิ้นคิดหรือบ้าจนเกินไปLS 460L มีปุ่มสำหรับปิดโหมด ESP แต่ผมเปิดมันไว้ตลอดทางเนื่องจากไม่คิดจะขับจนท้ายรถกวาดซ้ายป่ายขวา การปิดมันทั้งระบบทำให้รถที่มีน้ำหนักตัวเยอะคันนี้สามารถขับแบบดริฟท์ได้ด้วยฝีมือของคุณเองแต่ผมไม่แนะนำให้ทำแบบนั้น ต้องขอขอบคุณวิศวกรของ Lexus ที่สร้างรถซึ่งมีการขับขี่ที่ดีมากแบบ LS มันคือรถสำหรับผู้บริหารระดับสูงที่นิยมความแปลกแยกและแตกต่างไปจากกลุ่มชนชั้นสูงอื่นๆ ที่นิยมแบรนด์อย่าง BMW / Jaguar / Audi หรือ Mercedes Benz รถ Lexus มีบางสิ่งบางอย่างที่เทียบเท่าหรือดีกว่า แต่คุณต้องเป็นฝ่ายที่ค้นหาด้วยตัวเองมากกว่าที่จะเชื่อในเนื้อความโฆษณาประชาสัมพันธ์ มันมีเทคโนโลยีที่ก้าวไกลไม่น้อยหน้ารถยนต์จากเยอรมนี การเรียนรู้ในการสร้างรถยนต์ของชนชาวอาทิตย์อุทัยได้ก่อให้เกิดชาติพันธุ์ของยานยนต์ที่ตอบสนองต่อการขับขี่ควบคุมหรือนั่งโดยสารได้อย่างน่าทึ่ง ระบบต่างๆ ของ LS 460L รองรับทุกอารมณ์ของการขับเคลื่อน มันพร้อมที่จะไหลไปอย่างเนิบๆ หรือพุ่งทะยานราวกับลูกธนู โดยมีนวัตกรรมของการขับเคลื่อนในระดับสูงสุดคอยรองรับ แม้จะน่าเศร้าที่มันยังไม่สามารถเจาะตลาดรถหรูในยุโรปได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ในอเมริกาและเอเชียแล้ว มันคือตัวแทนของความสำเร็จที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตัวถังในรุ่นไมเนอร์เชนจ์เสริมความแข็งแกร่งมากกว่าที่เคยมีมา เครื่องยนต์ 1UZ-FSE ถูกอัพเกรดปรับแต่งจนมีเรี่ยวแรงมากขึ้นและมีแรงบิดมากถึง 50.8 กิโลกรัมเมตร ตอบสนองต่อการเร่งความเร็วได้เฉียบคมแม้ตัวจะหนัก แรงบิดรอบต่ำตั้งแต่ 1,250 รอบต่อนาที ไล่เรียงไปจนถึงเกือบๆ 7,000 รอบต่อนาที คุณจะได้ยินเสียงครางและสูดอากาศของเครื่อง V8 ที่ออกแนวทุ้มนุ่มลึกไม่กระโชกโฮกฮากแหลมแสบแก้วหูเหมือนเครื่องยนต์ V8 ของพวกอิตาเลียน พลังของเครื่องยนต์แสดงออกในด้านอัตราเร่ง การไต่ระดับความเร็วหรือการเร่งแซงได้ดีไร้ที่ติ ตัวเลข 0-100 ใน 6.4 วินาที ทำให้ผมรับรู้ได้ว่า LS 460L ไม่ได้เป็นรถที่อืดอาดเลยแม้แต่น้อย แม้โหมดการขับเคลื่อนจะอยู่ในระดับสูงสุดที่ Sport Plus แต่ความนิ่มนวลก็ยังคงอยู่ ที่ชอบมากคือการวิ่งคงความเร็วแบบเดินทางไกลบนไฮเวย์ รถ LS 460L จะมอบความมั่นใจจนคุณใช้ความเร็วบ่อยครั้งเท่าที่ถนนจะอำนวย อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากการใช้งานในเมืองอยู่ที่ 4.7 กิโลเมตรต่อลิตร จากที่ต้องออกตัวแล้วหยุด แล้วออกตัวไปตลอดทาง ลดลงเหลือ 7.4 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อผมลองวิ่งด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนทางยาวๆ ที่ตัดผ่านเขาใหญ่ คุณต้องแน่ใจว่าน้ำมันในถังเชื้อเพลิงเหลือมากพอที่จะพาคุณให้รอดปลอดภัย ด้วยการแวะเติมให้ระดับของเชื้อเพลิงเพียงพออยู่เสมอก่อนวิ่งตัดผ่านปั๊มน้ำมันที่หายากในบางจุด อาจก่อให้เกิดปัญหาหากคุณขับรถเครื่องโตข้ามจากด่านเนินหอมออกไปทางปากช่อง และมีน้ำมันเหลืออยู่ในถังไม่มากนัก ทางขึ้นลงเขาแม้จะไม่ยาวมากแต่ก็ถือว่าเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าทางราบ บางช่วงบางตอนอาจต้องรอโขลงช้างเจ้าถิ่นที่มักออกมาเดินหากินอยู่ใกล้กับถนน ควรหยุดรถให้ไกลจากจุดที่โขลงช้างหากิน กลับรถหรือดับเครื่องยนต์ ห้ามบีบแตร ส่งเสียงดังหรือขับฝ่าเข้าไปแบบทองไม่รู้ร้อน โขลงช้างที่มีลูกเล็กเด็กแดงจะมีตัวแม่เจ้าอารมณ์ที่พร้อมจะปกป้องลูกน้อย มันไม่สนหรอกว่ารถของคุณจะราคากี่ล้าน ทางที่ดีหลบให้เจ้าของบ้านเค้าผ่านไปเถอะ07.30 น. เช้าวันรุ่งขึ้นในสนามกอล์ฟแรนโช ชาญวีร์ บริเวณตะเข็บรอยต่อกับป่าเขาใหญ่ ผมไหลเจ้าเรือธงไปตามทางเดินรถเล็กๆ ในสนามเพื่อเก็บภาพเป็นครั้งสุดท้ายก่อนขับกลับ ตำแหน่งท่ี่น่านั่งที่สุดคือเบาะผู้โดยสารตอนหลังของเจ้า LS 460L มันมีเบาะแบบนวดที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายไปตลอดเส้นทางบนระบบกันสะเทือนที่นุ่มราวกับพรมวิเศษของอาละดิน มันมีเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ที่เหนือกว่าทั้ง Series-7 และ S-Class ให้มิติและความคมชัดของเสียงเพลงที่ร้านรับติดเครื่องเสียงไม่มีวันทำได้แบบนั้น เงิน 11.7 ล้านท่ี่เจ้าของต้องควักกระเป๋าจะตอบแทนกลับมาด้วยการนั่งที่สบายสุดๆ บนรถคันนี้ น่าเสียดายที่เจ้าของรถบางคนไม่เคยได้สัมผัสกับพละกำลังเกือบ 400 แรงม้า และการควบคุมที่อยู่ในระดับเดียวกับเครื่องบินโดยสารส่วนตัว เศรษฐีใหม่บางคนรวมถึงอาแปะ อากง อาม่า ที่ไม่สันทัดภาษาอังกฤษก็ยังสั่งงานปรับโหมดต่างๆ ของเจ้า LS 460L ได้อย่างสะดวกจากเมนูภาษาไทยและโปรแกรมการเข้าใช้งานที่ง่ายดายราวกับของเด็กเล่น ด้วยเงินขนาดนั้นเจ้าของรถจะได้ช่วงล่างแบบ Air Suspension เกียร์ 8 อัตราทดที่ทำงานได้ลื่นไหลราวกับสายน้ำ ห้องโดยสารที่กว้างขวางอย่างกับห้องนั่งเล่น รวมถึงภาพลักษณ์ของผู้ดีมีตระกูลที่เลือกความแตกต่างแทนที่จะเหมือนกับใครบนท้องถนน แบรนด์ Lexus คือยนตรกรรมที่คุณต้องเป็นผู้ค้นหาเอาเองว่ามันมีดีอะไรถึงกล้าที่จะไปเทียบรัศมียานยนต์ของพวกเยอรมัน สำหรับผมแล้ว ตลอดระยะเวลา 5 วันกับรถรุ่นสูงสุด LS 460L เป็นความประทับใจยากที่จะลืมจริงๆ.อาคม รวมสุวรรณE-Mail chang.arcom@thairath.co.thFacebook https://www.facebook.com/chang.arcom
No comments:
Post a Comment