Tuesday, January 22, 2013

อดีตเลขาฯอาเซียนกระตุ้นเตือนไทย วาระเร่งด่วนอยู่รอดบนเวทีโลกาภิวัตน์

อดีตเลขาฯอาเซียนกระตุ้นเตือนไทย วาระเร่งด่วนอยู่รอดบนเวทีโลกาภิวัตน์
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณเพื่อยกย่องและสนับสนุนศิษย์เก่า “สิงห์ทอง” จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ได้ทำประโยชน์ให้แก่สังคมในสายงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เจ้าสัว “สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์” ในฐานะนายกสมาคมศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง จึงเป็นโต้โผใหญ่ร่วมกับ ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดี และรักษาการคณบดี คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง จัดงาน “พิธีมอบรางวัลเกียรติคุณศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ดีเด่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง ประจำปี 2555” ที่ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อเร็วๆนี้เจ้าสัวสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ยินดีกับสิงห์ทองรุ่นน้อง สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ.บรรยากาศภายในงานคึกคักไปด้วยรุ่นพี่-รุ่นน้องสิงห์ทอง ที่มาร่วมแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัล ทั้ง 14 คน ได้แก่ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต รมว.กระทรวงศึกษาธิการ, วิทวัส บุญญสถิตย์ สมาชิกวุฒิสภา และเจ้าของธุรกิจน้ำมัน, สันติ พร้อมพัฒน์ รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ, วิทยา เทียนทอง อดีต ส.ส., สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือ ไทยซัมมิท กรุ๊ป, คมสัน เอกชัย ผวจ.ชลบุรี, พรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ, จิตรา พรหมชุติมา ผวจ.ปราจีนบุรี, บัวสอน มีนาพันธ์ นักสังคมสงเคราะห์ผู้พิการทางการได้ยิน, ฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล ที่ปรึกษา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ธรรมศักดิ์ ชนะ รองอธิบดีกรมที่ดิน, พัชระ สารพิมพา ผอ.คลื่นวิทยุ FM 100.5 สำนักข่าวไทย, ประพันธ์ อัศวอารี MD บจม.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก และทวีชัย จริยะเอี่ยมอุดม MD ท็อปไลน์ไดมอนด์ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ และสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ (ขวาสุด) มอบรางวัลศิษย์เก่าสิงห์ทองดีเด่นแก่ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ.นอกจากนี้ในงาน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน มาเป็นองค์ปาฐก กระตุ้นเตือนการรับมือการเมืองและเศรษฐกิจไทยในอาเซียนว่า ในประชาคมอาเซียนยุคโลกาภิวัตน์นี้ สิ่งที่เราภูมิใจในอดีต คือการไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของใคร เป็นเรื่องที่ไม่พอเสียแล้วที่จะแข่งขันกับคนอื่น หรือการปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง เพราะต่อไปนี้ผลประโยชน์ไม่ได้อยู่เพียงในประเทศ เศรษฐกิจต้องเติบโตไปข้างนอก เพราะตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าตลาดไทยเป็น 10 เท่า โอกาสนี้จึงเป็นการเปิดให้ทุกคน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าใครพร้อมมากกว่าใคร ใครมีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าใคร คนนั้นก็จะได้เปรียบ นี่คือปรัชญาการตั้งประชาคมอาเซียน สำหรับประเทศ ไทย เรื่องของการศึกษา การเตรียมคน การพัฒนาคนหรือพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คือ วาระที่เร่งด่วน และวิกฤติอันดับแรกของประเทศเราในขณะนี้ ถ้าจะอยู่รอดบนเวทีโลกาภิวัตน์และเวทีอาเซียน เราต้องไปโตนอกประเทศ แต่เราจะไปไม่ได้เพราะคนของเราไม่พร้อม นี่จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดของประเทศชาติ รวมทั้งเรื่องของภาษาเด็กในสมัยนี้ตื่นเรื่องประชาคมอาเซียน ด้วยความตระหนกมากกว่าตื่นอย่างมีสติ ทุกหน่วยงานมีงบอาเซียนอยู่ทุกหน่วยงาน ปัญหาคือแล้วมีสติอยู่ในนั้นหรือเปล่า มีการตื่นตัวเพื่อเตรียมตัวอยู่หรือเปล่า หรือตื่นแล้ววิ่งหนี ประชาคมอาเซียนจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายและให้โอกาสมาก แต่เราต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะเรื่องคอรัปชันจะเอาอย่างไร ถ้าเขาต้องมาจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชา เขาก็จะต้องขึ้นศาลที่ประเทศเขาตามกฎหมายแอนตี้คอรัปชัน ทั้งยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ก็เหมือนกัน ซึ่งประเทศไทยถูกจัดอันดับในเรื่องการคอรัปชันสูง เรื่องนี้จึงน่าเป็นห่วง นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นโอกาสที่ประเทศ ไทยจะอยู่รอดในอาเซียนแคบลงทุกวัน การปรับทัศนคติก็สั้นลงทุกวัน ดร.สุรินทร์ ให้ข้อคิดในที่สุด.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive