Wednesday, January 30, 2013

ไปเที่ยว-ไปดู-ไปรู้-ไปเล่น


ไปเที่ยว-ไปดู-ไปรู้-ไปเล่น

แม้ว่าตอนนี้เด็กๆ ใกล้สอบขึ้นชั้นประถมเข้าไปทุกที แต่ถ้ามีวันหยุดเมื่อไหร่ แก๊งครอบครัวเพื่อนซี้ที่โรงเรียนอนุบาลของลูกชายจะจัดทริปไปเที่ยวกัน คราวนี้มีเวลาไม่มากพอที่จะค้างคืน แต่การจัด One-Day Trip รอบนี้ เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวสไตล์ทัศนศึกษา “เช้าชีววิทยา เย็นวิทยาศาสตร์” กันเลยทีเดียวบรรดาแม่ๆ ชอบความสวยงาม อ่อนหวานและเป็นธรรมชาติ จึงลงความเห็นว่าอยากไปเที่ยวดูดอกไม้ที่ “ดาษดา แกลเลอรี่” กันดีกว่า เรานัดกันแต่เช้า แล้วเหมารถบัสนั่งรวมกันไปที่จังหวัดปราจีนบุรี ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณชั่วโมงครึ่ง พวกเราไปถึงดาษดา แกลเลอรี่ตอนสายๆ อากาศยังไม่ร้อนมาก เดินข้ามสะพานไม้แล้วก็ตื่นตาตื่นใจกับโรงเรือนขนาดใหญ่โต มีดอกไม้เมืองหนาวพันธุ์ต่างประเทศเต็มไปหมด แต่ละช่วงของที่นี่จะมีการจัดแสดงดอกไม้ไม่ซ้ำกัน อย่างช่วงที่เราไปเป็นโลกใต้ทะเลที่เนรมิตจากดอกไม้นับหมื่นดอก เช่น แมงกะพรุนดอกไม้ และวาฬยักษ์สีหวานสวยงาม ถ้าเป็นเดือนกุมภาพันธ์ก็จะเป็นธีมวันวาเลนไทน์พอดี นอกเหนือจากดอกไม้ ยังมีกิจกรรมสำหรับเด็กๆ อีก อาทิ การเล่นเกม การเดินชมสวนสัตว์ Mini Zoo เด็กๆ จะได้สัมผัสกับสัตว์ที่เป็นมิตรแบบใกล้ชิด สามารถให้อาหารนก ไก่ เป็ด นกยูง และแกะด้วยตัวเอง หลังจากแวะพักกินข้าวกลางวันกันที่นั่นแล้ว พอบ่ายๆ อากาศเริ่มร้อนก็ค่อยเดินทางกลับผมเองเป็นผู้ชาย ก็ดูดอกไม้เพลินๆ ครับ ไม่ได้กรี๊ดกร๊าดเท่ากับแม่ๆ ลูกๆ ที่เดินเล่นถ่ายรูปในมุมสวยๆ กันอย่างสนุกสนาน  เมื่อเราเห็นภรรยาและลูกมีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย แต่ก็ขอแนะนำว่าถ้ามีป้ายบอกชื่อพืชพรรณเพิ่มเติมจะเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น และปรับปรุงการให้บริการของพนักงานในส่วนร้านอาหารอีกสักนิดก็จะดีมากเลยครับ ระหว่างการเดินทางขากลับ เมื่อทราบว่าต้องผ่าน “พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ” ที่อยู่แถวคลอง 5 ปทุมธานี แม้จะเหลือเวลาไม่มากนัก แต่เราก็อยากให้ลูกๆ ได้ความรู้เพิ่มเติมก่อนกลับบ้าน ภรรยาผมในฐานะที่เคยออกแบบโบรชัวร์ของที่นี่ แนะนำว่า ถ้าเวลาเหลือน้อยให้ขึ้นไปที่ชั้น 3 เลย เป็นความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สนุกๆ ที่เด็กๆ จะได้ทดลองด้วยตัวเองพอถึงตึกทรงลูกเต๋า เด็กๆ ไม่รอช้า รีบตรงดิ่งไปที่ชั้น 3 ทุกคนสนุกกับการทดลองต่างๆ อุปกรณ์แต่ละชิ้นสภาพยังสมบูรณ์ ผมขอแนะนำจุดที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ อุโมงค์พลังงาน โดยเฉพาะตรงหัวข้อแผ่นดินไหว ที่จะให้เรายืนดูวิดีโอสักพัก อยู่ๆ พื้นก็สั่นสะเทือนขึ้นมาจริงๆ รับรองว่าเด็กๆ ดูแล้วมีเฮแน่นอนครับ อีกชิ้นที่สนุกไม่แพ้กันก็คือการทดลองเรื่องแรงดันที่ให้เราได้ออกแรงหมุนเพื่อปล่อยจรวดให้พุ่งขึ้นถึงเพดาน และจานกระซิบที่อยู่คนละฝั่งของบันไดเลื่อน เพียงแค่ทดลองพูดเบาๆ คนที่อยู่อีกฝั่งก็จะได้ยินเสียงเรา ขอชื่นชมองค์กรและบุคลากรที่สร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา และขอฝากไปถึงพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ด้วยว่าอย่าเผลอปล่อยให้พิพิธภัณฑ์กลายเป็นแค่ห้องเก็บของที่ไม่ได้ใช้เลยครับ อยากให้เด็กไทยเก่ง ฉลาด มีเหตุผล เราต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้สัมผัสและทดลองกันอีกมากๆ แม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็สามารถกลายเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ได้ไม่ยากเลยครับ น้าเมฆ facebook.com/cloudbookfanpage 

No comments:

Post a Comment

Blog Archive