
มหากาพย์ฉาว! เหนือเมฆ 2 เอฟเฟกต์ หมอชื่อดัง วิทยากร พิธีกรรายการชูรักชูรสทางช่อง 3 รับโพสต์ข้อความไม่ร่วมสังฆกรรมกับวิกพระราม 4 จริง ย้ำผู้บริหารช่องไร้ความเป็นสื่อมวลชนเสื่อมความน่าเชื่อถือตั้งแต่ TGT เตี๊ยม นักเล่าข่าวโกง และเหนือเมฆ 2 โดนแบน ... กลายเป็นเหนือเมฆ 2 ถูกแบนเอฟเฟกต์ละครถูกสั่งจบ แต่ความจริงไม่จบอีกระลอกแล้ว ล่าสุด นพ.กัมปนาท วิทยากรชื่อดังรายการชูรักชูรสที่ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศลาออกจากการเป็นวิทยากร พร้อมย้ำไม่ร่วมสังฆกรรมกับช่อง 3 เนื่องจากทนกับการไร้ศักดิ์ศรีของความเป็นสื่อมวลชนไม่ได้ ล่าสุด นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ชื่อดังออกมากล่าวยอมรับผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า ข้อความประกาศลาออกตนเองเป็นคนโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวอย่างที่เป็นข่าวจริงๆ เนื่องจากทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของผู้บริหารช่อง 3 ที่ไร้ศักดิ์ศรีความเป็นสื่อมวลชน “หมอเขียนนี้เอง เพิ่งตัดสินใจเมื่อคืนได้ว่าต้องทำอะไรสักอย่างก็ลงมือเขียนเลย คือมันสะสมมาเรื่อยๆ ก่อนหน้าก็มีไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ที่เตี๊ยมกัน ต่อมาเรื่องของนักเล่าข่าว ซึ่งเรื่องนี้จะผิดหรือถูกไม่สำคัญ สิ่งซึ่งสำคัญก็คือเขาควรจะหยุดไปก่อน เพราะมีการกล่าวหาและมีหลักฐานชัดเจน อย่างราชการเขาจะสั่งให้หยุดไว้ก่อน แต่นี่ทางผู้บริหารไม่ได้ทำอะไร กลับมาถึงเรื่องละคร หมอก็ดูว่าในเฟซบุ๊กมีคนโพสต์ เรื่องเหนือเมฆ 2 กันมากมาย ตอนนั้นเราก็อุตส่าห์ไปทำเรื่องตลกๆ ให้ แต่พอฟัง กสทช.เขาพูดเมื่อคืนนี้อ้างนู้น-นี้เรารับไม่ได้ เราเป็นปัญญาชนนะ มีความรู้วิเคราะห์เองได้ แถไปแถมาแบบนี้ไม่พูดเลยดีกว่าไหม เพราะทำให้คนยิ่งหมั่นไส้ หมอไม่ได้เกลียดทีมงานนะ แต่ไม่ชอบนโยบายของผู้บริหาร หลายคนเขาอาจจะมองว่าหมอเป็นหมอ หมอก็พูดได้สิ หมอไม่ได้มาทำอาชีพสื่อมวลชน หมอก็เข้าใจว่าทุกคนคิดแบบนั้น แต่ว่ามองกลับกันเกิดวันหนึ่งโรงพยาบาลไล่ไม่ให้หมอไปตรวจ หมอก็ต้องไปจะอยู่ให้เขาด่าหรอ แต่หมอมีศักดิ์ศรีมากพอ อย่างคนที่รู้จักหมอดี เขาก็จะรู้ว่าหมอเป็นอย่างไร อย่างเรื่องสิทธิคนไข้เนี่ยนะ ใครล่วงละเมิดตายเป็นตาย หมอไม่ยอมอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็เหมือนกัน” หมอชื่อดัง บอกอีกว่า อย่างกรณีละครเรื่องเหนือเมฆ 2 ตนเองได้คุยกับแพทย์ ซึ่งก็ได้แชร์กันแล้วว่า ละครเรื่องนี้มีประโยชน์มากสามารถนำมาสอนลูกๆ ถึงเรื่องคุณงามความดีคืออะไรได้ แล้วเด็กๆ ก็กำลังติดเพราะมันเป็นละครที่ทำให้เขาเข้าใจเรื่องคุณธรรมจริยธรรมได้ดี แตอยู่ดีๆ ก็มาสั่งแบนไป แล้วอ้างว่าเป็นเรื่องความมั่นคง อันนี้มันทำร้ายจิตใจคนไทยเกินไป“อย่างผลการวิจัยล่าสุด หมอดูในฐานะเป็นจิตแพทย์ปัจจุบันคนไทยมีคุณธรรมต่ำมาก พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า โกงได้ไม่เป็นไร แต่เรารับไม่ได้ทำไมไม่ต่อสู้ เราก็สู้ซิ เราเป็นประชาชนคนไทยทำไมจะไม่สู้ล่ะ แต่เราก็สู้ได้แค่นี้แหละ คือจริง ๆ ต้องรวมพลัง เหมือนข่าวข่มขืนผู้หญิงที่อินเดียเขาสู้ตายมากเลย เข้าประท้วงความถูกต้องกัน ช่วยกัน แต่หมอไม่ได้อยากเห็นการประท้วงนะ แต่กำลังหมายถึงคนอินเดียจำนวนมากยังยึดมั่นในความถูกต้องอยู่แล้วก็สู้กับฝ่ายภาครัฐด้วยเรื่องกฎหมาย ด้วยเรื่องการยุติธรรม นี่คือสิ่งที่ดีถึงแม้จะมีภาพเลวๆ ออกมาก็เถอะ แต่คนจำนวนมากยังสู้ไง แต่คนไทยสู้แบบขยักๆ ยังไม่เต็มที่ ถ้าคนยังไม่เข้าใจก็จะเข้าใจว่าหมอเป็นพวกปลุกระดมไง จริงแล้วไม่ใช่”นพ.กัมปนาทบอกว่า เขาทำรายการชูรักชูรสมานานไม่ต่ำกว่า 10 ปีแล้ว “แต่ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ มาถึงนักเล่าข่าวจนกระทั่งเรื่องนี้ เราก็จะบ่นให้ทีมงานฟังตลอด ทำไมต้องจัดเรตติ้งรายการ เป็นพวก น.13 คือรายการเราเป็นพวกรายการให้ความรู้นะ แล้วไม่ใช่รายการลามกไง อันนี้เราก็พูดไม่ได้เพราะเขาต้องไปลิงก์กับช่อง แล้วหมอก็เชื่อว่าอาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เป็นคนมีอุดมการณ์อยู่แล้วนะ อาจารย์ไม่ใช่คนที่ทุนนิยมนะ อาจารย์ก็ต้องทำงานไงก็เข้าใจ ก็ทนๆๆมาเรื่อย ๆ จริงๆ ชูรักชูรสอาจจะไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก เป็นรายการที่ออกอากาศแค่ช่วงสั้น ๆ แต่หมอในฐานะที่เอามือไปแตะกับช่อง 3 คือไม่เอาแล้วไงเมื่อถามย้ำว่าต่อไปนี้จะไม่สังฆกรรมใดๆ กับช่อง 3 ตลอดไปแล้วใช่ไหม นายแพทย์ผู้มากความสามารถบอกว่า ไม่เอาอย่างเด็ดขาด “จริงๆ แล้วช่อง 3 นี่หมอมีเพื่อนเยอะนะ คือเราก็ไม่ว่าคนพวกนั้น เพราะเขาต้องทำมาหากินไง แต่ว่าผู้บริหารทั้งหลายเนี่ยคือ อย่างเหนือเมฆ 2 ล่าสุดเขาก็พูดไม่จริงบอกว่าจะออนแอร์เหมือนเดิม แต่อยู่ดี ๆ ก็ตัดไปกลายเป็นละครที่ไม่มีตอนจบ เรื่องภายในแค่นี้คุณคิดว่าคนไทยคิดไม่ได้ว่ามีเรื่องของการเมืองสั่งมา แต่ที่เจ็บใจมากที่สุดเลยคือมีอาจารย์ที่ กสทช. ออกมาพูดทำนองปกป้องช่อง 3 อ้างเรื่องกฎหมาย ม. 37 เป็นเหตุผลที่เรารับไม่ได้ แบบนี้เขาเรียกว่าพวกวัวสันหลังหวะ ร้อนตัว เดือดร้อนไปหมดอะไรแบบนี้” สุดท้าย นายแพทย์กัมปนาทย้ำไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าวด้วยว่าหน้าด้านมาก เราเป็นประชาชนคนหนึ่งคงจะไม่มีสิทธิไปพูดอะไร เพราะว่าเรื่องทุนนิยมมันเป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้ว แล้วเราก็เห็นง่าย ๆ ว่าเขาทำเพื่อประโยชน์ของเขาอยู่แล้ว เขาไม่กล้าปลดนักเล่าข่าวคนที่ด่างพร้อยตอนนี้มันกำลังจะมีการสร้างค่านิยมที่เกิดขึ้นใหม่คือ ทำชั่วไปก่อน แล้วค่อยมาขอโทษทีหลัง” หรือ ทำชั่วไปก่อนแล้วค่อยมาหน้าด้าน ถ้าสังคมคิดแบบนี้สังคมมันต้องพังแน่ๆ ไม่มีหิริโอตตัปปะไง มันไม่ควรเริ่มทำไง อันนี้มันทำไปแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันมันเป็นค่านิยมที่ผิดแล้วละ แล้วหมอก็ห่วงเรื่องอนาคตของลูกหลานเรื่องเยาวชนนะ พวกผู้ใหญ่ที่เติบโตกันไปแล้ว มันเกินเยียวยาแล้ว แต่เด็กๆ เราก็ต้องช่วยกัน แล้วเยาวชนไทยอาชีพที่ชอบเป็นมากที่สุดคือนักการเมือง เพราะเป็นคนที่ทำผิดแล้วไม่กล้ารับโทษ คือคิดแบบนี้แล้วไม่แย่เหรอ แล้วมันเป็นแบบนี้ยุวอาชญากร มันเยอะขึ้นเรื่อยๆ จะบอกในฐานะจิตแพทย์นะว่าเราก็ไม่ไหวแล้ว รับมือไม่ไหวกับคนพวกนี้ไง” เมื่อถามว่าตอนนี้อยู่ในยุคแบ่งขั้วไม่กลัวผลกระทบต่างๆ บ้างไหม วิทยากรชื่อดัง กล่าวว่า ยังไม่มีใครมาขู่ หรือมาทำอะไร ถ้าเขาจะมาขู่จะมาทำอะไรล่ะ แต่เราก็เตรียมตัวรับมือเอาไว้แล้วล่ะ ให้มันรู้ไปว่าจะมาคุกคามกัน แต่อยากให้รู้ว่าคนอย่างหมอถ้าดับเครื่องชนอะไรก็ระวังตัวไว้ด้วยก็ดีแต่หมอไม่ระรานใครก่อนแน่นอนสำหรับรายละเอียดจากเฟซบุ๊ก Kampanart Tansithabudhkun, M.D.ของ นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล ไทยรัฐออนไลน์ประมวลมาให้ชมกันด้วย ผม นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล วิทยากรรายการชูรักชูรส ซึ่งออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 มายาวนานเป็นสิบปี บัดนี้ถึงเวลาที่ผมขอประกาศตัวเองต่อสาธารณชนว่า ผมขอยกเลิกการเป็นวิทยากรของรายการชูรักชูรสตลอดไป ตราบใดที่รายการยังออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 อยู่ ด้วยความเคารพในตัว อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และทีมงานทุกท่านที่มีความตั้งใจในการผลิตรายการที่ดีเพื่อสังคมมาตลอดระยะ เวลาที่ยาวนาน ซึ่งผมชื่นชมในอุดมการณ์ที่ดีและกล้าหาญของ อ.เจิมศักดิ์ มาตลอดเวลาที่รู้จักท่าน แต่เนื่องจากรายการชูรักชูรสยังคงต้องอาศัยช่อง 3 ในการออกอากาศอยู่ ซึ่งเป็นสถานีที่ผมไม่สามารถยอมรับได้ ณ ปัจจุบัน ในความคิดเห็นของผม ไทยทีวีสีช่อง 3 มีผู้บริหารที่ไร้ศักดิ์ศรีของความเป็นสื่อมวลชนอย่างสิ้นเชิงแล้ว ดังที่เห็นในตัวอย่างที่ไม่ดีเกิดขึ้นมากมาย แต่ทางสถานีก็มีข้ออ้างทุกประการเพียงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ในฐานะที่ผมเป็นจิตแพทย์ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ทางด้าน จิตเวชศาสตร์ เพื่อให้พวกเราดำรงตนเพื่อคุณงามความดีของบ้านเมืองเรา ดังนั้น ผมจึงถือว่า ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 อีกต่อไป เนื่องจากผมได้แสดงความไม่พอใจทางสถานีผ่านสื่อสังคมออนไลน์บ่อยครั้ง ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดข้อครหานินทาว่า “ด่าแต่เขา แต่อิเหนาก็ยังมีรายการมาออกช่องดังกล่าวอยู่” และผมก็มิใช่คนตอแหลและหน้าด้านเหมือนใครบางคนในสังคมและในสถานีดังกล่าว อีกอย่างหน้าที่ผมก็คือจิตแพทย์ที่ออกตรวจคนไข้ในโรงพยาบาล การทำงานออกสื่อถือเป็นการตอบแทนสังคม เพื่อความสุขใจของตนเองและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่น่าสงสารอีกมาย ที่รอการบำบัดรักษาเยียวยาจิตใจอยู่ มิใช่การทำงานเพื่อรายได้จากการออกสื่อ เหมือนดาราหรือนักข่าวอีกหลายๆ คนที่หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ด้วยการทนยอมๆ ไป ซึ่งขัดต่ออุดมการณ์ของตัวผมเองในการที่อยากจะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่มี ศักดิ์ศรีในวิชาชีพ ในที่สุดนี้ ขออภัยที่จะต้องทยอยลบภาพทั้งหมดรวมถึงคลิปวิดีทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 ออกทั้งหมดนะครับ แต่ยังมีคลิปดีๆ ที่ออกอากาศในสถานีอื่นๆ อีกมากมายที่ผมได้ลงไว้ใน youtube เพื่อประโยชน์ต่อสังคมอยู่ครับ
No comments:
Post a Comment