เทิดพระเกียรติล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 พระบิดาแห่งการถ่ายภาพไทย
ศาสตราจารย์กิตติคุณศักดา ศิริพันธ์ุ เพื่อ ให้คนไทยรุ่นหลัง ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระปรีชาสามารถ และเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงได้รับพระราชสมัญญาเป็น “พระบิดาแห่งการถ่ายภาพไทย” ศาสตราจารย์กิตติคุณ ศักดา ศิริพันธุ์ ราชบัณฑิต ได้ทุ่มเทเวลานานนับสิบปี ค้นคว้าวิจัยและรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำหนังสือแห่งประวัติศาสตร์ “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งการถ่ายภาพไทย”
ศาสตราจารย์ กิตติคุณ ศักดา ศิริพันธุ์ กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ว่า จากการที่ตนได้ เรียบเรียงหนังสือ “กษัตริย์กับกล้อง” วิวัฒนาการถ่ายภาพในประเทศไทย พ.ศ.2388-2533 ซึ่งตนใช้เวลาวิจัยเป็นเวลา 12 ปี ตอนนั้นได้ค้นคว้าจากเอกสารไมโครฟิล์มจากภาพถ่ายประวัติศาสตร์และภาพจาก หนังสือพิมพ์ ทั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติ หอจดหมายเหตุนานา ชาติ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศและจากนักสะสมภาพทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งพอทำไปแล้วยังคงเหลือภาพถ่ายประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ที่ทรงคุณค่าอีกมากมาย โดยเฉพาะภาพถ่ายในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งในรูปจะมีการ บันทึกว่า ถ่ายเมื่อไหร่ ที่ไหน นับเป็นประวัติศาสตร์ชั้นเยี่ยม จึงทำ ให้ตนสนใจอยากจะทำหนังสือเล่มนี้ เพื่อเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดพระราชกรณียกิจของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 และเพื่อให้คนไทยได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ รวมทั้งให้คนรุ่นหลัง ได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจ และเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าที่คนไทยทุกคนจะมีโอกาสได้ เห็นภาพบางภาพที่ไม่เคยตีพิมพ์ในหนังสือเล่มใดมาก่อน ให้ได้รู้ถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านในการปกปักรักษาบ้านเมืองให้เป็น เอกราช เพื่อพวกเราจะได้เกิดความรัก หวงแหน และภูมิใจในความเป็นไทย
หนังสือ เล่มนี้ได้รับการอนุญาตให้ตีพิมพ์ภาพสำคัญที่เผยแพร่ได้เพียงเล่มเดียว มีอาทิ ภาพจากหนังสือพิมพ์เยอรมันที่ตีพิมพ์ภาพข่าวการเสด็จพระราชดำเนินเยือน ประเทศเยอรมันของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งฉายโดย นายอี.กรูเต ช่างภาพในราชสำนักสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ทางทายาทมอบให้นำมาตีพิมพ์ เป็นต้น หาซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ทุกสาขา และร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปในทุกภูมิภาค
ในวาระครบรอบ 3 ปีโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์วิจัยศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง
ของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ในการช่วยเหลือประชาชนที่ทนทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็ง
โดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2552 โอกาสนี้
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์
อัครราชกุมารี ผู้ทรงก่อตั้ง จึงได้ประทานพระวโรกาสให้คณะผู้บริหาร แพทย์
พยาบาล และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งชาวชมรมผู้ป่วยมะเร็งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
เข้าเฝ้า ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 30 ต.ค.55
ระยะหลังมานี้พบว่าคนส่วนใหญ่ใช้สายตากันมาก
จากการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ หรือแม้แต่ขับรถ
ซึ่งล้วนแล้วแต่ใช้สายตาเพ่งมองเป็นเวลานานๆ รวมถึงรังสียูวีจากแสงแดด
เหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อสายตา อาทิ ทำให้ปวดตา หรือสายตาสั้น เป็นต้น
วันนี้ขอนำเสนออาหารเจส่งท้ายเทศกาลอีกสัก 1 เมนู
เผื่อบางคนที่ยังมีวาระตกค้างต้องทานเจต่อ
หรือปวารณาตัวจะทานต่อไปเป็นครั้งคราวจะได้นำสูตรไปทำทานเองได้บ้าง
เพราะถ้าไม่ใช่เทศกาลคงหาซื้ออาหารเจสำเร็จรูปได้ยากหน่อย
ข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่พบในผู้สูงอายุจำนวนมาก
ปัจจุบันอัตราคนเป็นข้อเข่าเสื่อมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
อันเนื่องมาจากประชากรมีอายุยืนมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมและท่าทางของคนไทย
ที่ไม่ว่าจะเป็นการนั่งกับพื้น นั่งในท่าทางงอเข่าต่างๆ
ส่งผลให้มีแนวโน้มต่อการเป็นข้อเข่าเสื่อมได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่ห้ามไม่ได้ เป็นแล้วไม่หายขาด
แต่สามารถชะลออาการเสื่อมได้ ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้ข้อปฏิบัติ ท่าทาง
พฤติกรรมต่างๆ ที่ถูกต้อง ที่จะช่วยชะลอการเป็นข้อเข่าเสื่อม
เพื่อให้ชีวิตที่ยืนยาวเป็นไปอย่างมีคุณภาพที่สุด